“หม่อมฉันก็จะตามติดพระองค์ไปทุกฝีก้าวเพคะ จะคอยก่อกวนไม่ให้ได้ทำราชกิจกันเลยละเพคะ”
ในที่สุดใบหน้าตึงๆ ของเจ้าชายเซรีมก็เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หัวใจผ่อนคลายคล้ายกับภูเขาที่แบกเอาไว้ถูกยกหายออกไป
“โอเค ฉันให้อภัยเธอได้ พอใจหรือยัง”
“ยังเพคะ”
“เอ๊ะ เธอนี่ไม่รู้จักพอจริงๆ เลยนะ” เขาดันตัวของมะลิออกห่าง และเดินไปนั่งไขว้ห่างบนเตียง “ยังต้องการอะไรก็พูดมา ฉันจะรีบแต่งตัวเพื่อเดินทางกลับซาเรีย”
“พระองค์จะต้องรับหม่อมฉันเป็นพระสนมอีกครั้งเพคะ” หล่อนเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของพ่อหนุ่มทะเลทรายสุดหล่อ
ดวงตาคมกริบสีทองเข้มข้นจ้องมาที่หล่อน “แล้วถ้าฉันไม่ทำตามความต้องการของเธอล่ะ”
มะลิคุกเข่าลงตรงตรงของเจ้าชายทะเลทรายและแทรกตัวเข้าไปอยู่ในระหว่างต้นขาทรงพลัง
“เธอจะทำอะไร จัสมิน”
“หม่อมฉันก็จะแบล็กเมลพระองค์อีกยังไงล่ะเพคะ”
หล่อนยิ้มและสอดนิ้วเรียวเข้าไปในขอบผ้าขนหนูที่เซรีมพันเอาไว้รอบสะโพกทีละนิด
“เธอจะข่มขู่ฉันอีกหรือ”
น้ำเสียงของเจ้าชายเซรีมเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดใจและตื่นเต้น
“ไม่เพคะ… หม่อมฉันมีวิธีที่ดีกว่านั้น”
ศีรษะทุยสวยของมะลิส่ายไปมาน้อยๆ และกระชากแรงๆ ผ้าขนหนูก็หลุดออกไปจากเรือนกายทรงพลังของเจ้าชายหนุ่ม สิ่งที่หล่อนต้องการแข็งชันอยู่ตรงหน้า
เจ้าชายเซรีมครางออกมาแผ่วเบา และเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย ไม่ปัดป้องเมื่อมือนุ่มกอบกุมลงบนแก่นชายแข็งชันของตนเอง
“อย่างเช่นอะไรบ้างล่ะ จัสมิน… อืมมมม”
“หม่อมฉันกำลังจะสาธิตให้พระองค์ดูเดี๋ยวนี้แหละเพคะ”
“อืมมมม โอ้ว… จัสมิน… อืมมมม”
เสียงคำรามของเจ้าชายเซรีมดังกระเส่าขึ้นทุกขณะ เมื่อไม่ใช่แค่มือนุ่มเท่านั้นที่กำลังคุกคามความเป็นชาย แต่ปากและลิ้นของเจ้าหล่อนก็กำลังหยอกเย้ากับท่อนเนื้อของเขาด้วยเช่นกัน
“โอ้ว…”
เขาเงยหน้าสูง กัดฟันแน่น ครางระรัว เด้งสะโพกขึ้นหา พร้อมกับกดศีรษะของมะลิแรงๆ ให้หล่อนกลืนกินความแข็งชันเข้าไปให้ได้มากที่สุด
“โอ้ว… จัสมิน… อืมมมม เธอทำอะไรฉัน…. อืมมมม”
เจ้าชายหนุ่มครวญครางหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน ไม่น่าเชื่อว่าแม่ดอกมะลิของเขาจะใช้ปากได้เก่งแบบนี้ เขาครางไม่หยุด และก็คงจะระเบิดในปากของหล่อนในอีกไม่ช้า
“โอ้ว… ไม่ไหวแล้ว…”
เมื่อเห็นเซรีมเกร็งไปทั้งตัว มะลิก็ยิ่งเพิ่มจังหวะฝ่ามือและปากของตัวเองให้ถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น หล่อนต้องการให้เขามีความสุขที่สุด เหมือนกับที่เขาเสียสละทุกอย่างเพื่อหล่อน
“จัสมิน… หยุดเถอะ ฉันจะระเบิดแล้ว โอ้ว…”
เขากระชากหล่อนออก จับเปลื้องผ้า และยกร่างของหล่อนให้ขึ้นไปนั่งทับอยู่บนตักแกร่งทันที
“ขยับ ทูนหัว… ได้โปรดขยับ… อืมมมม”
มะลิทำตามคำสั่งของเจ้าชายทะเลทรายอย่างว่านอนสอนง่าย สะโพกอวบส่ายพลิ้ว บั้นท้ายงอนกดคลึงลงกับความแข็งชันแนบแน่น การเคลื่อนไหวดุดัน หนักหน่วง เสียงครางคำรามด้วยความเสียวกระสันดังกึกก้อง
“โอ้ว… จัสมิน… ทำไมเธอโยกเก่งแบบนี้ โอ้ว… อืมมมมม”
ใบหน้าหล่อจัดบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสัน แต่ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่เสียวซ่านทรมาน หล่อนเองก็รู้สึกกระสันซ่านไปทั้งโพรงสาวไม่ต่างกัน หล่อนเร่งจังหวะเคลื่อนไหว มือใหญ่รวบเอวคอดเอาไว้ ช่วยหล่อนยกตัวขึ้นและกดกระแทกลงบนความแข็งชันซ้ำไปซ้ำมา
“อ๊า… อา… อา…”
สองร่างที่สอดประสานเข้าหากันอย่างเหมาะเจาะเมามัน ก่อนที่พายุสวาทคลุ้มคลั่งจะพัดเข้าใส่ เสียงกรีดร้องด้วยความเสียวกระสันของมะลิดังกังวานขึ้น เล็บคมกริบทั้งจิกทั้งข่วนลงบนแผ่นอกแน่นหนั่นสุดแรงจนเป็นรอยข่วน
“โอ้ว… รัดแน่นเหลือเกิน จัสมิน… โอ้ว… ฉันไม่ไหวแล้ว…”
มะลิสุขสมนำหน้าไปเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น เจ้าชายเซรีมก็แตกระเบิดตามไปติดๆ
สองร่างสั่นเทิ้มกอดรัดกันอย่างแนบแน่น ก่อนที่จะพากันล้มตัวลงนอนบนเตียง อ้อมแขนทรงพลังตวัดรัดรอบร่างอวบเอาไว้อย่างแน่นหนา
“ฉันชอบวิธีแบล็กเมลนี้ของเธอจัง”
หญิงสาวหน้าแดงก่ำ ไล้มือไปมากับแผงอกกว้างที่มีเส้นขนหยิกขอดแผ่วเบา
“งั้นหม่อมฉันจะแบล็กเมลพระองค์แบบนี้ไปตลอดชีวิตนะเพคะ”
“แน่ใจหรือว่าจะอยู่กับฉันน่ะ”
“แน่ใจเพคะ” หล่อนช้อนตามองสบประสานกับดวงตาสีทองระยิบระยับของเจ้าชายทะเลทราย หัวใจสาวเบ่งบานราวกับดอกกุหลาบยามเช้า
“เธอทำแบบนี้เพราะว่านี่คือวิธีเดียวที่จะได้อยู่กับฮัสซันที่ซาเรียใช่ไหม จัสมิน” น้ำเสียงของเจ้าชายเซรีมเคร่งขรึมขึ้น
“ไม่ใช่เพคะ”
“แล้วเธอทำแบบนี้ทำไม ยอมอยู่กับผู้ชายเถื่อนถ่อยอย่างฉันทำไมกัน”
หล่อนมองหน้าเขา มองลึกเข้าไปในดวงตาสีทอง ก่อนจะตัดสินใจสารภาพออกมา
“หม่อมฉันไม่ใช่คนดีที่จะเสียสละตัวเองเพื่อใครขนาดนั้นหรอกเพคะ และที่หม่อมฉันตัดสินใจจะอยู่ที่ซาเรียก็ไม่ใช่เพราะฮัสซัน”
“แล้วเพราะอะไร…”
“เพราะ…”
น้ำตาของหล่อนคลอเบ้า
“เพราะหม่อมฉัน… อาจเอื้อมรักเจ้าชายทะเลทรายรูปงามที่ทรงพระนามว่าเจ้าชายเซรีมยังไงล่ะเพคะ”
หล่อนรับรู้ได้ถึงเรือนกายกำยำที่เกร็งเครียดขึ้น “หม่อมฉันตกหลุมรักผู้ชายดวงตาสีทองตั้งแต่แรกเห็น แม้ว่าเขาคนนั้นจะปากร้าย และกล่าวหาหม่อมฉันเสียๆ หายๆ ก็ตาม”
“จัสมิน…”
“ยิ่งได้อยู่ในอ้อมแขนของเขา หม่อมฉันก็ยิ่งลุ่มหลงในตัวของเขา เพคะ และก็หึงหวงผู้หญิงทุกคนที่เขาชิดใกล้”
“นี่เธอ… รักฉันจริงๆ หรือ มันไม่น่าเชื่อนะจัสมิน”
“ก็เหมือนกับที่พระองค์… ทรงรักหม่อมฉันยังไงล่ะเพคะ มันก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนั่นแหละ”
โหนกแก้มของเจ้าชายเซรีมเข้มขึ้น “ฉันยังไม่ได้บอกเธอเลยเกี่ยวกับความรู้สึกของฉัน แล้วเธอมาเดาสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไงกัน แม่ดอกมะลิแสนงาม หือ…”
หล่อนยิ้มให้เขาทั้งน้ำ ยกมือขึ้นไล้นิ้วกับริมฝีปากหยักสวยอย่างแสนรัก
“ถ้าพระองค์ไม่ทรงรักหม่อมฉัน พระองค์ก็คงไม่เสียสละเพื่อหม่อมฉันขนาดนั้นหรอกเพคะ”
“ฉันไม่ได้เสียสละอะไรเพื่อเธอสักหน่อย”
“ฟีรัสเล่าให้หม่อมฉันฟังหมดแล้วเพคะ ว่าพระองค์ทรงเสียสละอะไรเพื่อผู้หญิงไร้ค่าอย่างหม่อมฉันบ้าง”
“เธอไม่ได้ไร้ค่า จัสมิน…” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของหญิงสาว “เพราะเธอมีค่าสำหรับฉันเสมอ…”
“พูดว่ารักหม่อมฉันสักครั้งสิเพคะ…”
“ไหนเธอบอกว่ารู้ใจฉันแล้วไงล่ะ” เจ้าชายเซรีมหน้าแดงด้วยความขัดเขิน
“ถึงรู้อยู่เต็มอกแล้ว แต่หม่อมฉันเป็นสตรีนะเพคะ ยังไงก็ต้องอยากได้ยินคำว่ารักจากปากของสามีบ้าง อุ๊ย…” หล่อนอุทานเมื่อเขาพลิกตัวขึ้นทาบทับเอาไว้
“ฉันรักเธอ…” เขาจูบปิดปากอิ่มที่คลี่ยิ้มหวาน “ฉันรักเธอ… รักเธอจนสุดหัวใจ จัสมิน…”
หญิงสาวหัวเราะทั้งน้ำตา มันเป็นเสียงหัวเราะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสมหวัง
“ตั้งแต่เมื่อไหร่เพคะ…”
“ก็น่าจะ… ตั้งแต่วันแรกที่สบตากับเธอนั่นแหละ”
“ไม่เชื่อหรอกเพคะ วันนั้นพระองค์ทรงดูถูกหม่อมฉันยังกับอะไรดี แถมยังกล่าวหาว่าหม่อมฉันเป็นเมียเก็บของนายท่านอีก”
“แล้วทำไมเธอไม่ปฏิเสธฉันล่ะ”
“ก็หม่อมฉันคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรนี่เพคะ ปฏิเสธไปพระองค์ก็ใช่ว่าจะทรงเชื่อ”
“ก็เลยปล่อยให้ฉันเข้าใจผิดอยู่แบบนั้นสินะ”
“เพคะ อุ๊ยยยย… อื้อ… อย่าเพิ่งสิเพคะ…”
หล่อนเบี่ยงหน้าหนีเมื่อเจ้าชายหนุ่มบดขยี้ปากลงมาหาแรงๆ อย่างต้องการลงทัณฑ์
“รู้ไหมว่าเธอทำให้ฉันหึงหวงเธอกับเสด็จน้าคาริสอยู่ตั้งนานเลยทีเดียว”
“โอ้… นี่พระองค์… หึงหม่อมฉันกับนายท่านด้วยเหรอเพคะ นายท่านตายไปตั้งนานแล้วนะเพคะ”
หล่อนเบิกตาโต อุทานอย่างเหลือเชื่อ
“ไม่ต้องมาทำพูดดีเลย ฉันจะลงโทษเธอเจ็ดวันเจ็ดคืน ไม่ให้ออกจากห้องเลยทีเดียว แม่จัสมินคนงาม”
แทนที่หญิงสาวจะกลัวกลับหัวเราะคิกคักขบขัน “พระองค์ทรงแข็งแรงขนาดนั้นเลยเหรอเพคะ”
“นี่เธอดูถูกฉันอย่างนั้นหรือ” คนตัวโตคำรามรดหน้างาม กัดฟันกรอดอย่างมันเขี้ยว
“ถ้าไม่อยากให้หม่อมฉันดูถูก พระองค์ก็พิสูจน์ให้เห็นสิเพคะ” หล่อนมือขึ้นไล้แผ่นอกกว้าง นิ้วเรียวสอดเข้าไปในกลุ่มเส้นขน สะกิดหัวนมเล็กของเขาทั้งสองข้างแรงๆ “ว่าพระองค์สามารถร่วมรักกับหม่อมฉันได้เจ็ดวันเจ็ดคืนต่อเนื่องจริงๆ”
“แม่ผู้หญิงจอมยั่ว” เขากัดฟันกรอด กระชากมือเล็กไปตรึงเอาไว้เหนือศีรษะ จากนั้นก็ก้มลงดูดอมยอดถันแรงๆ ดูดจนเม็ดเต่งแทบกระเด็นหวือเข้ามาในลำคอแกร่ง
“อ๊ะ… อ๊า…”
“เธอตายคาเตียงแน่… ทูนหัว… อืมมมม”
แล้วเซ็กซ์ร้อนฉ่าที่มีผู้ควบคุมเป็นเจ้าชายทะเลทรายก็ระเบิดขึ้น ท่ามกลางความร้อนระอุของไฟสวาท ลาวาแห่งความสุขก็ล้นทะลักไหลออกมาชุ่มฉ่ำ
สองร่างกอดรัดกันแน่นแนบ กลิ่นไอแห่งความสุขอบอวลฟุ้งกระจาย คำกระซิบรักหวานฉ่ำดังเสนาะหู กึกก้องกังวานอยู่ในห้วงเสน่หาชั่วนิรันดร์
MANGA DISCUSSION