องค์รัชทายาทจามีลมาเยี่ยมน้องชายในคุกหลวง ก่อนจะไล่ทหารยามออกไปทุกคน
“พี่มีเรื่องสำคัญจะมาบอกเจ้า เซรีม”
“เสด็จพี่มีเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ฟีรัสให้พี่มาแจ้งเจ้าว่า เขาเห็นฮุสนาลอบออกไปจากวัง พอตามไปก็พบว่าฮุสนานัดพบกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งฟีรัสสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นคนเร่ร่อนกลางทะเลทราย”
“เสด็จพี่คิดว่าผู้ชายคนนี้น่าสงสัยใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่ แต่เราจะมั่นใจไม่ได้จนกว่าจะได้ตัวผู้ชายคนนี้มาสอบสวน”
“งั้นหม่อมฉันจะไปลากคอมันมาเองพ่ะย่ะค่ะ” เจ้าชายเซรีมผุดลุกขึ้นยืน
“ให้พี่จัดการให้ดีกว่าเซรีม หากเจ้าลักลอบออกไปจากห้องขัง เสด็จพ่อจะทรงกริ้วเอานะ”
“หม่อมฉันจะรีบไปรีบกลับพ่ะย่ะค่ะ เพราะเรื่องนี้หม่อมฉันต้องจะสอบสวนมันด้วยตัวเอง” เซรีมมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้จะต้องมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ลอบวางยาพิษฮัสซันอย่างแน่นอน ลางสังหรณ์ของเขามันบอกเช่นนั้น
“งั้นก็ตามใจเจ้า แต่อย่าให้ตัวเองเดือดร้อนล่ะ”
“ขอบพระทัยเสด็จพี่พ่ะย่ะค่ะ”
เจ้าชายเซรีมนั่งคุยกับพี่ชายอยู่อีกพักใหญ่ ผู้เป็นพี่ชายก็กลับออกไป และเขาก็เฝ้ารอจนถึงเวลาค่ำ จึงลักลอบออกไปจากห้องขังด้วยความช่วยเหลือจากพี่ชาย
“เจ้าให้คนสะกดรอยตามมันอยู่ใช่ไหม ฟีรัส”
เมื่อออกมานอกกำแพงวังแล้ว เจ้าชายเซรีมก็รีบตรงมาหาองครักษ์ของตนเองทันที
“พ่ะย่ะค่ะเจ้าชายเซรีม”
“ดี งั้นเราไปลากคอมันด้วยกัน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
สองร่างในชุดดำทะมึนกระโดดขึ้นไปบนหลังมา และควบขี่มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายด้วยความเร็วสูง
“พวกเจ้าเป็นใคร มาจับข้าเอาไว้ทำไม!”
ซัลมา พี่ชายของฮุสนาดิ้นรนเมื่อถูกชายฉกรรจ์ในชุดดำสองคนเอามีดมาจ่อที่คอหอย
“ไปกับพวกเรา แล้วเจ้าจะปลอดภัย”
“ไม่… ปล่อยข้านะ”
ซัลมาไม่ยอม ดิ้นจนถุงทองที่ได้รับมาจากฮุสนาร่วงลงกับพื้นทราย เจ้าชายเซรีมคว้าเอากำเอาไว้
“เอาของข้าคืนมานะ เอาทองของข้าคืนมา” ถุงทองนี้ เขาได้มากจากการไปแบล็กเมลนัสรินเรื่องยาพิษ
“เจ้าจะได้มากกว่านี้ ถ้าเจ้าไปกับพวกเรา”
“ไม่… ข้าไม่ไป! โอ๊ย…”
ซัลมาร้องได้แค่นั้นก็สลบ เพราะถูกเจ้าชายเซรีมเอาสันมือฟาดที่ท้ายทอยเต็มแรง
“เจ้าเอามันขึ้นม้า และขี่ตามเรามา”
“พ่ะย่ะค่ะ เจ้าชายเซรีม”
แล้วม้าสองตัวก็กระโจนมุ่งหน้ากลับไปยังพระราชวังซาเรียอีกครั้งด้วยความเร็วเช่นเดิม
บ้านพักนอกวังขององค์รัชทายาทจามีลถูกเปิดในยามดึก และองค์รัชทายาทก็เสด็จมาเช่นกัน
“นี่หรือคือผู้ชายคนนั้น เซรีม”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพี่” เจ้าชายเซรีมตอบรับ ขณะยื่นถุงทองคำที่หล่นมาจากกระเป๋าของซัลมาให้กับพี่ชายดู “ถุงทองนี้มาจากตระกูลของอำมาตย์ฮานีฟพ่ะย่ะค่ะ”
“งั้นก็แสดงว่าหมอนี่จะต้องเป็นคนของท่านอำมาตย์ฮานีฟ”
“ไม่ใช่นะ ข้าไม่ใช่คนของท่านอำมาตย์ฮานีฟอะไรนั่น ข้าไม่รู้จักเขาเลย” ซัลมาปฏิเสธ
“แล้วเข้าได้ถุงทองนี้มาได้ยังไง คนของข้าเห็นว่าเจ้าลักลอบพบกับฮุสนา คนสนิทของคุณหนูนัสริน” องค์รัชทายาทเค้นถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“คือข้า…”
“ตอบมาตามความจริง ไม่อย่างนั้น เจ้าจบชีวิตที่นี่แน่”
ฟีรัสชักดาบข่มขู่ตามคำพูดของเจ้าชายเซรีม ซึ่งนั่นก็ทำให้ซัลมากลัวจนตัวสั่น
“ข้า…”
“พูดความจริงมาเดี๋ยวนี้!”
เจ้าชายเซรีมข่มขู่เกรี้ยวกราด
“ได้… ข้า… ข้าพูดแล้ว…” แล้วทุกความจริงก็พรั่งพรูออกมาจากปากของซัลมาจนหมด
รุ่งเช้าวันต่อมา ฮุสนาก็วิ่งกระหืดกระหอบมาเคาะประตูเรียกเจ้านายของตัวเอง
“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูเกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”
นัสรินที่เพิ่งตื่นนอนกระชากประตูเปิด ก่อนจะด่าฮุสนาอย่างโมโหเป็นที่สุด
“แกไม่เห็นหรือไงว่าฉันนอนอยู่”
ฮุสนาหน้าซีดตัวสั่นเทา “น้าของฉันส่งข่าวมาบอกว่าพี่ซัลมาถูกใครก็ไม่รู้จับตัวไปเจ้าค่ะ”
“พี่ชายแกถูกจับตัวไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันน่ะ หลีกไป ฉันจะกลับไปนอน” นัสรินแสดงความใจแคบออกมาอย่างไม่ปิดบัง ฮุสนาได้แต่ร้องไห้
“แต่… น้าบอกว่าคุณที่จับตัวพี่ซัลมาไปน่าจะเป็นคนในวังเจ้าค่ะ”
คราวนี้นัสรินชะงักกึก หันขวับมามองฮุสนา “แกว่าอะไรนะ คนที่จับตัวพี่ชายแกมาคือคนในวังเหรอ”
“ใช่เจ้าค่ะ”
“แล้วมันเป็นใคร มันจับตัวพี่ชายแกมาทำไม”
ฮุสนาส่ายหน้าไปมาร้องไห้หนักขึ้นอีก “ฉันคิดว่า… ต้องเป็นเรื่องยาพิษนั่นแน่เลยเจ้าค่ะ”
“หุบปากนะ นังฮุสนา! อย่าเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก”
ฮุสนาร้องไห้ตัวสั่น ในขณะที่นัสรินเดินกลับไปกลับมาด้วยความวิตกกังวล
“งั้นฉันจะต้องปิดปากพี่แกเสียแล้ว”
“คุณหนู… อย่านะเจ้าคะ” ฮุสนารู้ความหมายของนัสรินดี
“แกรีบไปสืบมานะว่าใครเป็นคนจับตัวพี่ชายแกไป เร็วเข้า”
“เจ้าค่ะ… คุณหนู” ฮุสนาเป็นแค่บ่าวจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น
นัสรินกัดฟันแน่น เดินกลับไปกลับมาในห้องนอนของตัวเอง และในที่สุดก็ตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
“ในเมื่อพวกแกคือหลักฐาน ฉันก็จะต้องทำลายให้หมด ไม่ให้เหลือซาก!”
ฮุสนาวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากเรือนของอำมาตย์ฮานีฟ และระหว่างทางก็ถูกบุรุษชุดดำกระโจนมาขวางหน้าเอาไว้
“คุณ… เป็นใครน่ะ”
“ไปกับฉัน”
“ไม่…”
ฮุสนาพยายามจะวิ่งหนี
“งั้นก็ขอโทษด้วยนะ”
ชายชุดดำฟาดฝ่ามือลงบนท้ายทอยของฮุสนาไม่แรงนัก แต่ผลที่ได้ก็คือหล่อนหมดสติไปในทันที
ฮุสนาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และก็ต้องตกใจจนหน้าซีดเผือด เมื่อตรงหน้าคือเจ้าชายเซรีม และองค์รัชทายาทจามีล
“ถวาย… บังคมเพคะองค์รัชทายาท ถวายบังคมเพคะ เจ้าชายเซรีม”
“เจ้ามีอะไรจะสารภาพกับเราไหม ฮุสนา”
“หม่อมฉัน…” ฮุสนาก้มหน้าหลบสายตาขององค์รัชทายาทจามีลและเจ้าชายเซรีมด้วยความหวาดกลัว
“ถ้าเจ้าบอกความจริง โทษของเจ้าจะไม่ใช่ประหารชีวิต แต่ถ้าเจ้าไม่พูด เจ้าไม่มีทางรอดจากความตายแน่ ฮุสนา!” เจ้าชายเซรีมเค้นเสียงเลือดเย็น
“หม่อมฉัน… ไม่รู้… ไม่เห็นอะไรเลยเพคะ”
“แต่พี่ชายของเจ้าสารภาพหมดแล้วนะ ฮุสนา” องค์รัชทายาทจามีลเอ่ยขึ้น
“พี่ซัลมา…?”
“ใช่” เซรีมเค้นเสียงออกมา ก่อนจะสั่งฟีรัส “ไปลากตัวมันออกมา ฟีรัส”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ไม่ช้าร่างของซัลมาก็ถูกผลักให้มาล้มกลิ้งอยู่ข้างๆ ร่างของน้องสาว
“พี่ซัลมา…”
“ฮุสนาบอกความจริงไปเถอะ เราจะได้ไม่ตาย พี่ไม่อยากตาย”
“แต่ว่า… คุณหนูจะเดือดร้อน”
“ก็ช่างนางสิ นางใจร้าย หรือว่าเจ้าอยากให้พี่ตาย ฮุสนา!”
ฮุสนาร้องไห้ด้วยความสับสน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจสารภาพความจริงออกมาทุกอย่าง
เจ้าชายเซรีมฟังแล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เพราะมันคือสิ่งที่เขารอคอยมานาน
“จัสมิน… เจ้าจะพ้นผิดแล้วนะ…”
“งั้นเจ้าสองคนจะต้องไปเป็นพยานต่อหน้าองค์สุลต่าน ตกลงไหม”
“ตกลงพ่ะย่ะค่ะ”
“ตกลงเพคะ”
องค์รัชทายาทจามีลสบตากับน้องชาย และระบายยิ้มออกมา “พี่ดีใจกับเจ้าด้วยนะ เซรีม”
“ขอบพระทัยเสด็จพี่มากพ่ะย่ะค่ะ หากไม่ได้ความช่วยเหลือของเสด็จพี่ หม่อมฉันก็คงไม่มีวันนี้”
“ก็เจ้าเป็นน้องชายที่พี่รักนี่ เซรีม”
สองพี่สองมองหน้ากัน โลกทั้งใบของเจ้าชายเซรีมที่เคยมืดมน ตอนนี้สว่างไหวราวกับมีพระอาทิตย์สองดวง
“จามีล… เจ้าแน่ใจหรือว่าสิ่งที่เจ้าบอกพ่อมันคือเรื่องจริง”
องค์สุลต่านเอ่ยถามบุตรชายคนโตด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด เพราะจากที่ฟังมันไม่น่าจะเป็นไปได้
“เสด็จพ่อลองถามเซรีมดูก็ได้พ่ะย่ะค่ะ นั่นไงมาพอดีเลยพ่ะย่ะค่ะ”
องค์สุลต่านมองเจ้าชายเซรีมที่ถูกทหารนำตัวเข้ามาภายในท้องพระโรงด้วยสายตาที่เหนื่อยหน่าย
“เจ้าก็รู้นี่ว่าน้องชายของเจ้ามันหลงผู้หญิงคนนั้นจนโงหัวไม่ขึ้น คำพูดของน้องชายเจ้าไม่มีน้ำหนักหรอก จามีล”
“แต่ครั้งนี้หม่อมฉันมีพยานสองคนพ่ะย่ะค่ะ” เจ้าชายเซรีมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“งั้นก็ไปพาตัวสองคนนั้นมา”
MANGA DISCUSSION