มะลิเดินหน้าตาบูดบึ้งมุ่งหน้ากลับไปยังกระโจมของฮัสซัน ระหว่างทางก็นึกโมโหฮุสนามากมาย
“ไหนว่าเจ้านายปวดหัวจะตาย แต่ไปถึงก็ไม่เห็นมีใครเลย เล่นบ้าอะไรกันก็ไม่รู้”
หล่อนเต็มไปด้วยความหงุดหงิด และกำลังจะเลี้ยวไปยังกระโจมของฮัสซัน เสียงม้าก็ร้องดังขึ้นเสียก่อน มันเป็นเสียงม้าตัวโปรดของเจ้าชายเซรีมนั่นเอง
หล่อนหันไปมองตามเสียงม้า และระบายยิ้มออกมาอย่างลืมตัว เมื่อเห็นเรือนร่างสูงใหญ่กระโดดลงมาจากม้าหนุ่ม ซึ่งเขาก็มองมายังหล่อนพอดิบพอดี
ใบหน้าของหล่อนเห่อร้อน และรีบก้าวเท้าจ้ำหนี แต่ไม่ช้าแขนเรียวก็ถูกคว้าเอาไว้ และกระชากเข้าไปกอดรัดแน่น พร้อมๆ กับจูบที่บดขยี้ลงมาหาอย่างไม่อับอายสายตาของทหารและนางกำนัลที่อยู่ในบริเวณนี้
เจ้าชายทะเลทรายจูบจนพอใจก็ถอนปากออก และกระซิบชิดปากอิ่มเห่อบวม
“รู้ไหมว่าฉันคิดถึงเธอทั้งวันเชียว”
เซรีมโน้มหน้าลงมาจูบอีกครั้งอย่างอดใจไม่ไหว
“พรุ่งนี้ไปด้วยกันเลย เข้าใจไหม”
“หม่อมฉัน… อยากอยู่เล่นกับฮัสซันนี่เพคะ”
“ฮัสซันมีพี่เลี้ยง มีนางกำนัล และก็องครักษ์มากมาย แต่ฉันสิเดียวดาย”
หล่อนหน้าแดงก่ำกับคำพูดกระเง้ากระงอดของเจ้าชายเซรีม ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เขาออดอ้อนแบบนี้
“พระองค์ก็มีนางกำนัล มีองครักษ์นะเพคะ มากด้วย ไม่เดียวดายแน่ๆ เพคะ”
“แต่ฉันอยากมีเธอนี่ อยากจะไปขี่ม้ากับเธอสองคน”
น้ำเสียงของเขากระเส่าจนหล่อนร้อนผ่าวไปทั้งตัว แต่ก็จำต้องดิ้นขลุกขลักดันตัวออกห่าง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าฮัสซันรออยู่
“หม่อมฉันต้องไปหาฮัสซันแล้วเพคะ ฮัสซันรอกินข้าวกับหม่อมฉันอยู่”
“งั้นฉันไปด้วย”
“ไม่ได้นะเพคะ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็… พระองค์ต้องทรงสรงน้ำก่อน แล้วค่อยเสวยเพคะ”
คนตัวโตส่ายหน้าไปมา
“วันนี้ฉันจะกินข้าวกับเธอและฮัสซันก่อน แล้วค่อยไปอาบน้ำ… กับเธอ”
เขาจงใจเน้นคำสุดท้ายหนักๆ ทำให้หล่อนแก้มแดงระเรื่อขึ้นมาในทันที
“แล้วทำไม… พระองค์ไม่สรงน้ำคนเดียวล่ะเพคะ”
“ก็เพราะฉัน ไม่ได้แค่จะอาบน้ำอย่างเดียวน่ะสิ”
หล่อนต้องเสหลบสายตาคมกริบพัลวัน ทั้งใบหน้าและกายสาวร้อนผะผ่าวจนน่าอับอาย
เจ้าชายเซรีมหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจ มองมะลิด้วยความเอ็นดู ยิ่งนับวัน เขาก็ยิ่งรู้สึกขาดแม่ดอกไม้แสนหวานดอกนี้ไม่ได้เสียแล้ว
“ไปกินข้าวกันเถอะ ก่อนที่ฉันจะกินเธอแทนข้าว”
ข้อมือของหล่อนถูกกุมเอาไว้ และเขาก็ลากหล่อนให้เดินเคียงคู่ตรงไปยังกระโจมพักของฮัสซัน
มะลิอดไม่ได้ที่จะช้อนตาขึ้นมองผู้ชายข้างตัว มองเขาด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุขล้น
ทหารยามที่ยืนเฝ้าอยู่หน้ากระโจมโค้งคำนับให้เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เจ้าชายเซรีมก้าวเดินนำเข้าไปภายในกระโจมหลังใหญ่ โดยมีหล่อนก้าวติดตามเข้าไป
“ฮัสซัน!”
น้ำเสียงของเจ้าชายเซรีมเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ ก่อนที่ร่างทรงพลังจะทรุดฮวบลง หล่อนรีบมองตาม ก่อนจะหน้าซีดเผือด ช็อกตาค้าง เมื่อเห็นร่างไร้สติของฮัสซันนอนแน่นิ่งอยู่ใกล้ๆ กับสำรับอาหารค่ำ
“ฮัสซัน… ทำไมเป็นแบบนี้”
หล่อนถลาเข้าไปเขย่าร่างของเด็กน้อย ร้องไห้ออกมาด้วยความช็อกสุดขีด ซึ่งเจ้าชายเซรีมก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่แตกต่างไปจากหล่อนเลย หล่อนเห็นใบหน้าของเขาซีดเผือด ก่อนจะตะโกนลั่น
“ใครอยู่ข้างนอก ไปเรียกหมอมาที เร็วเข้า”
“เจ้าชายเพคะ… ฮัสซันเป็นอะไรไปเพคะ…”
หล่อนร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด แทบไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันคือความจริง รอยยิ้มไร้เดียงสาของฮัสซันก่อนที่หล่อนจะออกไปนอกกระโจมยังติดตา ใครกัน… ใครกันมันทำกับหลานชายของหล่อนแบบนี้ มะลิร้องไห้คร่ำครวญ
เจ้าชายเซรีมไม่ได้ร้องไห้ แต่หล่อนก็รู้ดีว่าเขากำลังตกใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแค่ไหน เขาอุ้มร่างไม่ไหวติงของฮัสซันไปวางบนที่นอน
“เจ้าชายเพคะ… ฮัสซัน… จะไม่เป็นไรใช่ไหมเพคะ…”
“ฮัสซันยังหายใจอยู่ แต่ชีพจรต่ำมาก” เขากัดฟันตอบ ก่อนจะตะโกนออกไปนอกกระโจมอีก “หมอมาหรือยัง”
“มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงที่ติดตามมาด้วยวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในกระโจม
“เจ้าต้องช่วยชีวิตเจ้าชายฮัสซันให้ได้ เข้าใจไหมหมอหลวง”
“กระหม่อมจะพยายามอย่างสุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ”
“เร็วเข้า รีบไปรักษาฮัสซันเร็วเข้าสิ”
เจ้าชายเซรีมคำรามด้วยความวิตกกังวล เขาเดินกลับไปกลับมาตลอดเวลาที่หมอหลวงกำลังให้ความช่วยเหลือฮัสซัน ในขณะที่หล่อนร้องไห้จนแทบจะขาดใจ
“เป็นยังไงบ้าง หมอหลวง เจ้าชายฮัสซันเป็นยังไงบ้าง”
สีหน้าหมอหลวงไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อรายงานออกมา “กระหม่อมถวายโอสถแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“งั้นก็แสดงว่าเจ้าชายฮัสซันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมหมอหลวง”
“คือว่า… กระหม่อมก็ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์พ่ะย่ะค่ะ”
เจ้าชายเซรีมกัดฟันแน่น “ทำไมเจ้าพูดแบบนั้น มีอะไรที่เจ้ายังไม่ได้บอกเราใช่ไหม”
หมอหลวงก้มหน้าหลบสายตาดุดันของเจ้าชายเซรีม ก่อนจะตอบออกมาเสียงสั่นเทา
“เจ้าชายฮัสซันถูกวางยาพิษชนิดร้ายแรงมาก ซึ่งกระหม่อมก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นพิษชนิดใดพ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมได้ถวายพระโอสถต้านพิษไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“แล้วเจ้าชายฮัสซันจะรอดไหม” ในที่สุดเจ้าชายเซรีมก็เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล
“กระหม่อมก็ไม่อาจจะตอบได้พ่ะย่ะค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าพระวรกายของเจ้าชายฮัสซันจะตอบสนองกับยาต้านพิษมากแค่ไหน แต่ทางที่ดีที่สุด เราต้องรีบนำเจ้าชายฮัสซันส่งโรงพยาบาลหลวงพ่ะย่ะค่ะ”
คำตอบของหมอหลวงทำให้เจ้าชายเซรีมถึงกับเซไปข้างหลัง เขาเดินเข้าไปหยุดใกล้ๆ กับร่างเล็กที่ไม่ไหวติงของเด็กน้อย และยกมือขึ้นแตะแก้มใสแผ่วเบา ดวงตาคมกริบแดงก่ำ
“เจ้าไปบอกองครักษ์ให้เรียก ฮ.มาเดี๋ยวนี้ เราต้องการพาเจ้าชายฮัสซันไปโรงพยาบาลหลวงให้เร็วที่สุด”
“พ่ะย่ะค่ะเจ้าชายเซรีม”
หมอหลวงรีบวิ่งออกไปทำตามคำสั่ง ในขณะที่เจ้าชายเซรีมทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ร่างของฮัสซัน
“ฮัสซัน… เราขอโทษ… ที่เราดูแลเจ้าไม่ดี”
มะลิเดินโซซัดโซเซเข้าไปกอดหลานชาย ร้องไห้คร่ำครวญปิ่มจะขาดใจ
“ได้โปรด… ช่วยฮัสซันด้วยนะเพคะ”
“เขาจะไม่เป็นอะไร ฮัสซันจะต้องไม่ตาย”
หล่อนร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด รู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกควักดวงใจออกไปจากอก
“ฮัสซัน… ใครทำหนู… ใครทำหนู… ฮัสซัน”
มะลิคร่ำครวญไม่หยุด ในขณะที่เจ้าชายทะเลทรายขบฟันแน่นด้วยความคลั่งแค้น
“ฉันจะต้องหาตัวไอ้คนใจหยาบช้ามาลงโทษให้ได้ มันจะต้องถูกตัดหัวเสียบประจาน!”
เขาจะต้องสอบสวนเรื่องนี้แน่นอน แต่ต้องหลังจากพาเจ้าชายฮัสซันไปส่งยังโรงพยาบาลหลวงเรียบร้อย
เสียงเฮลิคอปเตอร์ดังกระหึ่มเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ทำให้เจ้าชายเซรีมรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะพาฮัสซันเดินทาง
“ฉันจะพาฮัสซันขึ้น ฮ.ไปยังโรงพยาบาลหลวง ส่วนเธอกลับรถพร้อมกับนางกำนัลและองครักษ์เข้าใจไหม”
“หม่อมฉัน… ไปด้วยไม่ได้เหรอเพคะ หม่อมฉันเป็นห่วงฮัสซัน” หล่อนวิงวอน แต่เขาส่ายหน้า
“เธอช่วยอะไรไม่ได้หรอก ทำตามที่ฉันบอกนั่นแหละ”
แล้วเจ้าชายเซรีมก็ช้อนร่างของฮัสซันขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เดินออกไปจากกระโจม หล่อนวิ่งตามไปก็เห็นว่าเขาอุ้มฮัสซันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปพร้อมกับหมอหลวงแล้ว
หล่อนยืนมองเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินขึ้นสู่ท้องฟ้าทั้งน้ำตา หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ฮัสซัน… หนูต้องไม่เป็นอะไรนะ”
“พระสนมเพคะ เกิดอะไรขึ้นเพคะ” ชมพูนุชที่เพิ่งช่วยแม่ครัวทำอาหารเสร็จรีบวิ่งเข้ามาหามะลิ
มะลิหันใบหน้าที่นองไปด้วยคราบน้ำตามองนางกำนัลประจำตัวของตนเอง
“ฮัสซันถูกวางยา”
“เจ้าชายฮัสซันถูกวางยา?!” ชมพูนุชอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด
“ใช่ ฉันนึกไม่ออกเลยว่าใครกันที่มันใจเหี้ยม ทำได้แม้กระทั่งเด็กไร้เดียงสาอย่างฮัสซัน”
ชมพูนุชรีบเข้ามาประคองร่างอ่อนเปลี้ยของมะลิ “แต่มันเป็นไปได้ยากนะเพคะที่จะมียาพิษในอาหาร ในเมื่ออาหารทุกจานก่อนจะยกออกมาจากครัวจะต้องมีการตรวจสอบสารพิษก่อนทุกจาน”
“ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ตอนนี้ฮัสซันเป็นตายเท่ากัน และยังไม่ได้สติเลย ฉันกลัว… กลัวว่าฉันจะสูญเสียฮัสซันไป ฉันรักเขา ฉันรักฮัสซัน”
มะลิแทบจะเป็นลมจนชมพูนุชที่ประคองเอาไว้แทบพยุงตัวไม่ไหว จึงจะพาเจ้านายกลับไปยังกระโจมพัก
“หม่อมฉันพาพระสนมกลับไปที่กระโจมนะเพคะ”
“ไม่…”
“แต่พระสนมทรงพระพักตร์ซีดมากเลยนะเพคะ”
“ฉันอยากกลับเข้าไปในกระโจมของฮัสซันอีกครั้ง ฉันอยากจะไปหาหลักฐาน เผื่อคนร้ายมันจะทิ้งเอาไว้บ้าง”
ณ เวลานี้ มะลิยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนร้ายถึงต้องวางยาพิษฮัสซัน
“เพคะ”
MANGA DISCUSSION