ชีคเถื่อนปล้นพรหมจรรย์ ชุด ทัณฑ์ทราย - ตอนที่ 34
นี่หล่อนควรจะดีใจใช่ไหมที่สามารถทำให้เจ้าชายเซรีมติดใจในรสสวาทของตนเองได้น่ะ หล่อนค่อนขอดตัวเองอยู่ภายในอกอย่างแสนสมเพช
“หม่อมฉัน… ไม่เคยต้องการจะขึ้นพระแท่นกับพระองค์เพคะ”
หล่อนถดถอยหนี แต่ได้เพียงเล็กน้อยก็ถูกมือใหญ่รวบเอวคอด และกระชากเข้าไปกอดรัด
“ปล่อยหม่อมฉันนะเพคะ”
“เธอต้องการฉัน”
เจ้าชายรูปงามระบายยิ้มพึงพอใจ
“ดังนั้นอย่าขัดใจตัวเองเลยดีกว่า ปล่อยตัวตามสบาย และเริงร่าไปกับสัมผัสของฉัน จัสมิน…”
ใช่ หล่อนลุ่มหลงเสน่หาจากเขา แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่กำลังโมโหหึงเขากับแม่นัสรินใจร้าย
“ไม่เพคะ หม่อมฉันไม่ได้ต้องการพระองค์ ปล่อยนะเพคะ แล้วไปหาแม่นัสรินนู่น ไปปลอบใจกันให้พอเลย”
เขาไม่สนใจการดิ้นรนของหล่อนเลย ยังรัดแน่น แถมยังก้มหน้าลงมาจูบแก้มนวลฟอดใหญ่
“ฉันปลอบใจนัสรินไปแล้ว แต่ตอนนี้ถึงเวลาทำโทษผู้หญิงขี้หึงอย่างเธอบ้าง”
“หม่อมฉันไม่ใช่ผู้หญิงขี้หึงนะเพคะ แล้วก็ไม่เคยหึงพระองค์ด้วย ปล่อยเพคะ อ๊ะ…”
ร่างของหล่อนถูกจับโยนขึ้นไปบนเตียง และเขาก็ตามมาฉีกเสื้อผ้าจนขาดวิ่นติดมือ จากนั้นก็สลัดเสื้อผ้าออกจากตัวเช่นกัน ก่อนจะกระโจนขึ้นมาทาบทับเอาไว้ทั้งตัว
“อ๊ะ… อย่า… อื้อ”
เขาทั้งบีบทั้งขยำกายสาว ทุกสัมผัสดุดัน เร่าร้อน และเต็มไปด้วยความหิวกระหาย
“ในระยะเวลาอันสั้นนี้ เธอจะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ฉันทำแบบนี้ด้วย อืมมมม นมใหญ่ดีจัง… อืมมม”
“อื้อ… อย่า… อ๊ะ… อา…”
เพราะความหึงหวงระคนน้อยใจทำให้มะลิพยายามผลักไสคนตัวโตสุดฤทธิ์ แต่ความเสียวที่ถูกตวัดเลียยอดถันที่เขากำลังกระทำอยู่มันทรงอานุภาพเหลือเกิน มันทำให้กายสาวหลั่งรินน้ำหวานออกมามากล้นจนชุ่มฉ่ำ
“อ๊า… อา…”
“เห็นไหมว่าเธอต้องการฉัน… มากแค่ไหน… อืมมมม ฉันชอบดูดนมเธอที่สุด… อืมมมม”
จากที่แค่โลมเลียยอดถันเท่านั้น ตอนนี้ถูกเขาดูดอมเข้าไปในอุ้งปากร้อนผ่าว ทั้งลิ้นและฟันคมโรมรันเม็ดเต่งอย่างเร่าร้อน หิวกระหาย ฝ่ามือใหญ่ก็ไม่หยุดบีบเฟ้นเรือนร่างสาวแม้แต่วินาทีเดียว
“อา… อ๊า…”
หล่อนดิ้นพล่านเมื่อความเสียวกระสันระเบิดตูมในหว่างขา หยาดน้ำสวาทไหลทะลักออกมาไม่หยุด และยิ่งยามถูกนิ้วยาวสอดไล้เข้าไปเขี่ยคลึง หล่อนก็ยิ่งแสนรัญจวน
“ได้โปรด… เจ้าชายเพคะ… อา… อ๊า… ได้โปรด…”
แล้วหลังจากที่เขาดูดเลียจนทั่วกายสาวแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ซอกหลืบเร้นลับ ความเป็นชายแข็งชันที่ขนาดของมันใหญ่โตยิ่งกว่าท่อนแขนของหล่อนก็สอดแทรกเข้ามา จ้วงแทงเข้าใส่สุดแรง หนักหน่วง ก่อนจะบดคลึง
“อืมมมม โอ้ว…”
ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียวซ่านทรมาน ซึ่งหล่อนเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
“อ๊า… อา…”
หล่อนยกหยัดเนินสวาทขึ้นหาความเป็นชายแข็งชันที่ปักเสียบลงมาต่อเนื่องด้วยความกระตือรือร้น คนตัวโตครางกระหึ่มด้วยความถูกอกถูกใจ
“โอ้ว… วิเศษมาก… จัสมิน… เธอร่อนได้เยี่ยมเหลือเกิน โอ้ว… อืมมมม โอ้ว…”
เจ้าชายหนุ่มครางกระหึ่มห้องครั้งแล้วครั้งเล่า หน้าตายิ่งบิดยิ่งเบี้ยวเมื่อจ้วงโจนเข้าใส่ร่องสาวรัวระทึกยิ่งขึ้น ทำไมมะลิถึงได้คับแน่นแบบนี้นะ ทำไมเจ้าหล่อนถึงได้… ฟิตสุดๆ แบบนี้ เขาแทบจะแตกระเบิดอยู่รอมร่อ
“โอ้ว… ไม่ไหวแล้ว… จัสมิน… โอ้ว…”
แล้วแบบนี้ เขาจะเบื่อหน่ายแม่พระสนมแสนหวานคนนี้ได้เมื่อไหร่กัน หรือว่าจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเลยนะ?
มะลิตื่นขึ้นมาอีกครั้งในยามพระอาทิตย์ลาขอบฟ้าไปแล้ว ภายนอกตำหนักที่มองออกไปจากทางหน้าตามืดสลัว บอกให้รู้ว่าตอนนี้เลยเวลาอาหารค่ำมานานแล้ว
หล่อนกำลังจะผุดลุกขึ้นนั่ง แต่เอวก็ถูกมืออบอุ่นของใครบางคนรวบเอาไว้แน่น
“ปล่อยนะเพคะ”
“หยุดพูดคำนี้สักทีได้ไหม เธอก็รู้นี่ว่าถึงยังไงฉันก็ไม่ปล่อยเธออยู่ดี”
คนตัวโตที่ร่างกายเปลือยเปล่าไม่ต่างจากหล่อนพลิกกายขึ้นทาบทับเอาไว้ ก่อนจะฉกปากลงมาบดจูบหนักหน่วง หล่อนถูกจูบจนปากบวมเจ่อ
“มะรืนนี้ ฉันจะพาเธอไปค้างในทะเลทราย”
หล่อนคงตื่นเต้นอยู่หรอก หากไม่รู้เรื่องนี้มาจากนัสรินเสียก่อน
“เพคะ” หล่อนกระแทกเสียงตอบ จนเขาอดหรี่ตามองด้วยความแปลกใจไม่ได้
“ไม่ตื่นเต้นเลยหรือ”
“ทำไมหม่อมฉันจะต้องตื่นเต้นด้วยล่ะเพคะ ในเมื่อหม่อมฉันรู้เรื่องนี้แล้ว”
“เธอรู้แล้ว” เจ้าชายหนุ่มทวนคำอย่างพิศวง “รู้มาจากไหนกัน ขนาดฉันยังเพิ่งรู้เลย”
หล่อนแค่นยิ้มมองคนทำหน้ามึนงงอย่างหมั่นไส้ “ก็รู้มาจากนางในดวงใจของพระองค์ยังไงล่ะเพคะ”
“นัสรินหรือ”
“ถ้าไม่ใช่นางจะเป็นใครอีกล่ะเพคะ” หล่อนกระแทกเสียงตอบอย่างแง่งอน ก่อนจะพูดต่อ “และพระองค์ก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอกเพคะ เพราะหม่อมฉันเองก็ไม่คิดจะอยู่ในตำแหน่งนี้นานนักหรอก ถ้าได้สัญชาติซาเรียเมื่อไหร่ หม่อมฉันจะรีบไปให้พ้นหูพ้นตาของพระองค์ให้เร็วที่สุดเพคะ”
“เดี๋ยวนี้เจ้ายังเรียนคำราชาศัพท์กับชมพูนุชอยู่อีกหรือเปล่า ทำไมพูดผิดพูดถูกนักล่ะ”
หล่อนเม้มปากกับความไม่สนใจของเขา
“หม่อมฉันไม่จำเป็นต้องเรียนหรอกเพคะ เพราะหม่อมฉันจะไปจากที่นี่ในไม่ช้า”
เจ้าชายหนุ่มถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “เมื่อไหร่เธอจะเลิกเถียงฉันบ้างนะ จัสมิน”
“ก็จนกว่าหม่อมฉันจะไปจากที่นี่ยังไงล่ะเพคะ” หล่อนกระแทกเสียงตอบเขาอย่างน้อยใจ ก่อนจะดิ้นรนผลักไสคนตัวโตอีกครั้ง “ปล่อยหม่อมฉันเพคะ”
“เธอนี่ ดื้อจนน่าปวดหัว”
“ก็อย่ามายุ่งกับหม่อมฉันสิเพคะ ไปอยู่กับนางในดวงใจของพระองค์นู่น ปล่อยสิเพคะ อ๊ะ… อื้อ… อา…”
ไม่ใช่แค่ไม่ปล่อย แต่เขากับก้มหน้าลงดูดอมยอดถันของหล่อนและกัดแรงๆ ราวกับต้องการลงทัณฑ์
“อื้อ… อย่า.. เพคะ… อ๊า…”
เขาเลียไม่หยุด ทั้งดูดทั้งเลีย จนคนต่อต้านครวญครางออกมาอย่างลืมตัว มือเล็กยกขึ้นกดศีรษะทุยของเจ้าชายรูปงามเอาไว้ และยกร่อนกายสาวขึ้นเบียดกระแซะ
“ได้โปรด… เพคะ… ได้โปรด…”
เจ้าชายเซรีมคายยอดถันออกจากปาก แต่นิ้วยังไม่หยุดขยี้บี้คลึงเม็ดเต่ง
“เมื่อไหร่ที่เธอดื้อ ฉันจะลงโทษเธอแบบนี้ จำเอาไว้นะจัสมิน”
“อ๊ะ… อื้อ… ได้โปรด… เข้ามาเพคะ… เจ้าชายเซรีม… เข้ามาเพคะ… อา… อ๊า…”
ยางอายบนใบหน้า และความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจางหายไปจนหมดสิ้น ตอนนี้เหลือแค่ความต้องการมากมายที่มีต่อเจ้าชายทะเลทรายรูปงามคนนี้เท่านั้น
“อา… อ๊า… เจ้าชายเพคะ… อย่าหยุด… อย่าทรงหยุด… อ๊า…”
สองเรียวขาตวัดรัดรอบเรือนกายทรงพลัง และดึงรั้งให้คนที่กำลังกระแทกกระทั้นความแข็งชันเข้ามาหาอย่างเต็มอกเต็มใจ และร่อนกายเริงร่ารับเพลิงสวาทสุดร้อนแรงของเซรีมตลอดเวลา
“โอ้ว… อืมมมม ร้อนแรงเหลือเกิน… จัสมินคนสวย… อืมมม”
และแล้วก็ถึงวันที่หล่อนต้องเดินทางออกไปค้างอ้างแรมกับเจ้าชายเซรีมก็มาถึง ลึกๆ แล้วหล่อนรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้สัมผัสกับเม็ดทรายอย่างแท้จริง แต่กระนั้นก็อดที่จะหม่นหมองไม่ได้เมื่อนัสรินขอติดตามมาด้วย ความจริงพวกเขาน่าจะไปกันแค่สองคน จะให้หล่อนไปเป็นก้างขวางคอทำไมกัน มะลิเต็มไปด้วยความหึงหวง แต่ก็พยายามจะซ่อนเอาไว้
“น้ามะลิครับ…”
“ฮัสซัน”
หล่อนย่อตัวลงกอดร่างของฮัสซันเอาไว้ เมื่อเด็กน้อยโถมตัวเข้ามาหา
“ผมพร้อมที่จะไปท่องทะเลทรายแล้วครับ”
“ดีมากคนเก่ง” หล่อนตอบและยกมือขึ้นแตะแก้มยุ้ยของฮัสซันอย่างแสนเอ็นดู
เจ้าชายเซรีมที่ยืนอยู่ไม่ไกลหันมาเห็นฮัสซันในชุดทะมัดทะแมงก็อดที่จะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจไม่ได้
“ฮัสซันจะไปไหนหรือครับ”
ฮัสซันยิ้มกว้าง และเดินเข้าไปหาเจ้าชายเซรีม “น้ามะลิชวนผมไปเที่ยวในทะเลทรายครับเจ้าชาย”
ดวงตาคมกริบที่เต็มไปด้วยการตำหนิของเจ้าชายเซรีมตวัดมองมายังหล่อนทันที
“ทำไมถึงไปชวนฮัสซันล่ะจัสมิน ทะเลทรายอันตรายสำหรับเด็ก เธอไม่รู้หรือไง”
มะลิอึ้งไปสักพักก็เอ่ยออกมา
“หม่อมฉัน… ไม่ทราบว่าทะเลทรายจะอันตรายกับฮัสซันนี่เพคะ เพราะหม่อมฉันก็เห็นผู้หญิงรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นตั้งหลายคนได้รับอนุญาตให้ไปท่องเที่ยวในทะเลทรายนี่เพคะ”
“แต่ฮัสซันยังเล็ก และไม่คุ้นชินกับที่นี่ ก็เหมือนๆ กับเธอนั่นแหละ”
เจ้าชายเซรีมเดินมาหยุดตรงหน้า และตำหนิเสียงดังมากยิ่งขึ้น
“เธอนี่ดื้อรั้นและชอบทำให้ฉันปวดหัวเหลือเกินนะ”
โอเค หล่อนผิดที่ชวนฮัสซันไปเที่ยวในทะเลทรายด้วย แต่เขาก็ไม่ควรจะมาตำหนิหล่อนต่อหน้านัสรินแบบนี้ ดูสิ นัสรินกำลังยิ้มเยาะหล่อนไม่หยุดปากเลย
“งั้นหม่อมฉันจะบอกฮัสซันว่าไม่ต้องไปเพคะ”
“เธอก็รู้ว่าฮัสซันคงไม่ยอมหรอก จริงไหม”
น้ำเสียงของเขากระด้าง และสายตาก็ยังคงเต็มไปด้วยการตำหนิ หล่อนน้ำตาซึม