ชีคเถื่อนปล้นพรหมจรรย์ ชุด ทัณฑ์ทราย - ตอนที่ 25
ร่างสาวส่ายเลื้อยดิ้นพล่าน ยิ่งเซรีมดูดดึงยอดอกหนักหน่วงเท่าไหร่ หล่อนก็ยิ่งคลุ้มคลั่ง เขาดูดข้างนี้จนอิ่มเอมก็สลับย้ายฝั่งไปดูดอมอีกข้างด้วยลีลาร้อนฉ่าเช่นเดียวกัน จนเจ้าของเต้านมถึงกับกรีดร้องไม่หยุดกับความเสียวรัญจวนที่กำลังได้รับ
“อ๊า… เจ้าชายเพคะ… อ๊า…” หล่อนสูดปากแรงๆ ราวกับกำลังกินอาหารเผ็ดร้อนไม่มีผิด
“อืมมม…”
เซรีมคำรามเสียงแหบพร่าด้วยความพึงพอใจ เมื่อแม่สาวใต้ร่างแอ่นหยัดกายอวบขึ้นหาสัมผัสของเขาอย่างร่านร้อน ร่านร้อนจนเขาแทบสะกดกลั้นความปรารถนาสุดท้ายเอาไว้ไม่อยู่
มะลิเป็นผู้หญิงไปทั้งเนื้อทั้งตัว แม้จะไม่ได้เต็มใจรับหล่อนมาเป็นพระสนม แต่ในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาถึงตอนนี้แล้ว เขาก็จะไม่หักห้ามใจตัวเองเอาไว้อีก เพราะแท้จริงแล้ว เขามีความต้องการในตัวของหล่อนอย่างรุนแรง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหล่อนที่เมืองไทย และอีกไม่กี่นาที เขาก็จะได้ทำอย่างที่เฝ้าฝันมาเนิ่นนาน
เซรีมกัดฟันแน่นเพื่อข่มความปรารถนาแรงกล้าเอาไว้ ความจริงเขาต้องการจะข้ามลัดขั้นตอนไปยังจุดไคลแม็กซ์สำคัญเลย อยากจะแยกเรียวขาอวบออกจากกัน และจากนั้นก็กระซวกเข้าไปหา ทำให้หล่อนร้อนฉ่าและแตกระเบิด
โอ้ พระเจ้า… ทำไมเขาถึงต้องการมะลิรุนแรงแบบนี้นะ
เจ้าชายหนุ่มคลายยอดทรวงออกจากปาก มันเปียกชุ่มทั้งสองข้าง และจ้องดวงใบหน้าแดงก่ำเพราะแรงสวาทของมะลิ
“ฉันแทบจะรอต่อไปไม่ไหวแล้ว จัสมิน… เธอหวานไปทั้งตัว…”
แล้วเขาก็ก้มลงมาจูบขยี้ปากหล่อนอีกครั้ง แทรกลิ้นสากเข้ามาคุกคามภายในช่องปากสาวอย่างเชื่องช้า ความหวานฉ่ำที่ได้รับทำให้หล่อนมึนเมาและตอบสนองร้อนแรง เขาครางกระหึ่มลำคอ และขยำเต้านมแรงๆ
“อ๊ะ… อ๊า…”
ใบหน้าแดงก่ำของมะลิแหงนสูง ศีรษะทุยสวยส่ายสะบัดไปมากับที่นอนจนเส้นผมนุ่มยาวสลายพันกันยุ่งเหยิง กายสาวบิดเร่าๆ ด้วยความเสียวซ่านทรมาน และเมื่อจุมพิตดูดดื่มคลายลง คนตัวโตก็เลื่อนหน้าจูบต่ำลงมาอีกครั้ง ผ่านลำคอ เนินอก ยอดถัน และก็มาหยุดโลมเลียผิวเนียนนุ่มที่หน้าท้องแบนเรียบไร้ไขมันของมะลิ แต่นั่นไม่ใช่ที่สุดท้ายที่เซรีมจะจูบ
“อ๊ะ… อย่าเพคะ…”
แม้จะเคยถูกเซรีมโลมเลียมาแล้ว แต่ยางอายก็ยังมีหลงเหลืออยู่ หล่อนพยายามห้ามปราม แต่เจ้าชายหนุ่มไม่รับฟัง เขารูดกางเกงชั้นในตัวน้อยที่เป้าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำสวาทออกไปจากกายสาว จากนั้นก็ก้มลงจูบเนินฉ่ำหนักๆ
“อ๊ะ… อย่า… เจ้าชาย… อย่าเพคะ…”
หล่อนทั้งเสียวซ่านทั้งอับอายจนไม่อาจจะบรรยายออกมาได้ว่าความรู้สึกใดมีมากกว่ากัน รู้เพียงว่าน้ำหวานของหล่อนมันไหลรินออกมาประสานความร่านร้อนไม่หยุด
“อื้อ… อย่า… อ๊า…”
แม้จะพยายามทัดทานเขายังไง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็สัมผัสความเป็นหญิงของหล่อนจนได้
“อืมมมม… สวยมาก…”
เขาครางออกมาด้วยความพึงพอใจ และก็ผลักมือเล็กที่พยายามจะดันใบหน้าของเขาออกให้ไปพ้นทาง
“รู้ไหมว่าตั้งแต่วันนั้น… ที่ฉันใช้ลิ้นกับเธอตรงนี้…” เขาครางเสียงแหบกระเส่าและเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย “ฉันก็เฝ้าฝันจะเลียเธอทุกวินาที แม้แต่ตอนนั่งประชุมอยู่กับเหล่าอำมาตย์ ฉันก็ไม่อาจจะหยุดคิดถึงรสชาติของเธอได้”
“อย่า… ทำอีกเลย… เพคะ…”
“ทำไมล่ะ ในเมื่อเธอก็ชอบลิ้นของฉัน”
เขาคำรามออกมาอย่างทะนงโอหัง และรู้ทันความคิดความอ่านของหล่อน
“ไม่ต้องอายหรอก… ตอนนี้เธอคือภรรยาของฉัน เรื่องเซ็กซ์มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้นระหว่างเรา… อืมมมม…” เจ้าชายหนุ่มพูดจบก็วางมือใหญ่ร้อนผ่าวลงบนเนินอูมแห่งสตรีเพศ หล่อนสะดุ้งโหยงตกใจ
“อย่า… เพคะ… อื้อ…”
เขาส่ายหน้าบอกให้รู้ว่าไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความต้องการหื่นกระหายของเขาได้อีกแล้ว และมือใหญ่ก็คลึงเนินสาวหนักหน่วง ก่อนจะไสนิ้วแกร่งเข้าไปหยอกล้อกับความเปียกลื่นของหล่อน
“อ๊า… อา… เจ้าชาย… อ๊า…”
หล่อนสะดุ้งโหยงไปทั้งตัว ไม่เหลือสติอันใดอีก ยิ่งยามที่นิ้วยาวไสลึกเข้าไปสัมผัสกับเกสรรักและบี้บดหนักๆ น้ำสวาทก็ยิ่งทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก เนื้อตัวร้อนฉ่าราวกับจับไข้สูง
“อ๊า… อ๊า…”
เจ้าชายเซรีมจับจ้องมองกลีบสาวที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตด้วยความลุ่มหลง สีสันของมันสวยงามชวนให้ลิ้มลอง และเขาก็รู้ดีว่ารสชาติที่จะได้รับจากกลีบสาวสีชมพูระเรื่อนี้มันหวานฉ่ำแค่ไหน
“ลิ้นของฉันจะทำให้เธอคลั่ง…”
น้ำเสียงของเขาแปร่งพร่าและกระเส่าเร่าร้อน ไม่ช้า เขาก็ก้มหน้าลงมาหา ซุกไซ้ปลายจมูกและปากกับร่องสาวหอมกรุ่น ก่อนที่จะใช้ลิ้นสากตวัดไล้เลีย
“อ๊า… อา… เจ้าชายเพคะ… อา…”
วินาทีแรกที่ถูกลิ้นสากสัมผัสกับความเป็นหญิง ความกระสันเสียวก็วิ่งเข้าใส่ราวกับลูกธนูไฟ สะโพกอวบเปลือยยกร่อนสูงจนแนบชิดกับใบหน้าหล่อจัด ลิ้นสว่านล้วงลึกและส่ายละเลงด้วยความหิวกระหาย รสชาติหอมหวานของเนินสาวทำให้ไม่อาจจะหยุดโลมเลียได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เซรีมเต็มไปด้วยความลุ่มหลงร้อนแรง
“อืมมมม หวาน… หวานติดลิ้นเลย… จัสมิน… อืมมม”
เขาครวญครางและกลืนกินหยาดน้ำหวานที่ลิ้นสากและนิ้วยาวปลุกเร้าให้มันทะลักออกมาอย่างไม่รู้จักอิ่ม ดื่มกินอย่างตะกละตะกลาม โลมเลียจนสาวน้อยสั่นสะท้าน แต่ก็ยังไม่คิดจะหยุดคุกคาม เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาละเลงลิ้นต่อไป ทั้งเลียทั้งดูด ก่อนจะค่อยๆ ดันนิ้วยาวเข้าไปภายในหลืบลึก
“อืมมมม แน่นมาก… โอ้ว…”
เจ้าชายหนุ่มกัดฟันแน่น เมื่อนิ้วยาวสัมผัสกับความคับแน่นจนน่าตื่นตกใจ ความเป็นชายของเขาแข็งชันสุดขีด และมันก็ร่ำร้องอยากจะกระแทกเข้าใส่ร่างของมะลิโดยเร็วที่สุด
“ฉัน… ฉันคงทนต่อไปได้ไม่นาน… อืมมม… เธอรัดนิ้วฉันแรงมาก จัสมิน…” เขาครางหน้าตาบิดเบี้ยว “นี่ถ้าฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นเมียน้าคาริสมาก่อน ฉันคงคิดว่าเธอเป็นสาวพรหมจรรย์… อืมมม โอ้ว… รัดแน่นเหลือเกิน…”
เซรีมอดรนทนไม่ไหวแล้ว เขาตัดสินใจดันนิ้วยาวเข้าไปอีกครั้งและอีกครั้งจนแทบหมดความยาว เจ้าหล่อนอุทานตกใจกับความอึดอัดที่เกิดขึ้น แต่พอเขาก้มหน้าลงไปโลมเลียอีกครั้ง เจ้าหล่อนก็เด้งสะโพกขึ้นหาแทน
“อ๊า… อา… เจ้าชาย… หม่อมฉันร้อน… อา… ได้โปรด… อ๊า…”
มะลิยกร่อนสะโพกขึ้นสูง ปากและลิ้นพลิ้วของเจ้าชายเซรีมกำลังทำให้กายสาวลุกเป็นไฟ และร่างกายลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ความเสียดเสียวที่ชวนลุ่มหลงทำให้หล่อนใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดเหมือนเมื่อวันนั้น วันที่ถูกเซรีมเลียอีกครั้งแล้ว
“อ๊า… อา… อื้อ… ไม่ไหวแล้ว… เจ้าชายเพคะ… อา…”
เขาไม่สนใจความคลุ้มคลั่งราวกับคนบ้าของหล่อนเลย เพราะลิ้นสากยังคงตวัดเลียไล้ นิ้วหัวแม่มือยังคงเขี่ยคลึงเกสรสวาทที่บวมเป่งอยู่แล้วไม่ยอมหยุด ในขณะที่นิ้วยาวที่บุกรุกเข้าไปภายในร่องแคบก็เคลื่อนไหวอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อา… อา… อ๊า…”
นี่หล่อนเป็นอะไรไปนะ ทำไมรู้สึกว่ามีกองไฟกำลังลุกโชนอยู่ในกลีบสาว หญิงสาวครวญคราง บิดกายเร่าๆ จนเกร็งไปทั้งตัว ความเสียวกระสันแล่นพล่านไปทั้งตัว หล่อนเหมือนกับกำลังจะขาดใจตายคาลิ้นของเจ้าชายทะเลทรายอย่างเซรีม
“อ๊า… อา… อื้อ… ไม่ไหวแล้ว… เจ้าชายเพคะ… ได้โปรด…”
“ปล่อยมันออกมา… จัสมิน…” เขาครางกับกลีบสาวของหล่อน และยังไม่หยุดคุกคาม “ฉันอยากลิ้มรสชาติของเธออีกครั้ง ปล่อยมันออกมาใส่ปากของฉัน… อืมมมม”
เจ้าชายหนุ่มสอดมือใต้ข้อพับ เลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมาขยำเต้านมอวบใหญ่ ในขณะที่ปาก ลิ้น และนิ้วมือก็ยังคงคุกคามกลีบสาวอย่างต่อเนื่อง
“หลั่งน้ำของเธอออกมา เพื่อฉัน… จัสมิน… ฉันรอดื่มกินเธออยู่ อืมมมม ปล่อยออกมา…”
เขาพูดไป โลมเลียไป และนิ้วยาวก็ยังคงเคลื่อนไหวรัวระทึกในช่องสวาทคับแน่น กายสาวลอยสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ถูกลิ้นสากตวัดละเลงเลีย
“อา… ไม่ไหวแล้ว… อ๊า… อ๊า…”