เจ้าชายหนุ่มผู้มีหน้าตาหล่อเหลาน่าจับปล้ำแสยะยิ้มหยัน ก่อนจะโน้มกายทรงพลังต่ำลงมาหา กลิ่นไอจากเรือนกายของเขาทำหล่อนสั่นเทิ้ม เสน่ห์ทางเพศของเซรีมมีผลต่อระบบการหายใจของหล่อนเหลือเกิน
“งั้น… หม่อมฉัน… จะลงไปนอนกับพื้นเพคะ”
เขาหัวเราะร่วน ก่อนจะเท้าสะเอวมองหน้าหล่อน “ฉันว่าเธอติดละครหลังข่าวไทยมากไปหน่อยมั้ง”
“พระองค์ทรงหมายว่าความอะไรเพคะ”
“ก็ในละครบ้านเธอน่ะ ถ้าพระเอกกับนางเอกแต่งงานกันโดยไม่เต็มใจ นางเอกหรือไม่ก็พระเอกจะลงไปนอนที่พื้นยังไงล่ะ และทั้งคู่ก็จะไม่แตะต้องกัน” เขาหยุดพูด และเหยียดยิ้มใส่หน้าหล่อน “แต่ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก มันน่าสมเพชมาก”
คำพูดของเขาทำให้หล่อนขวัญกระเจิง
“พระองค์… หมายถึงอะไรเพคะ”
ดวงตาคมกริบจ้องมองสบประสานมา “ฉันจะเข้าหอกับเธอ เราจะมีอะไรกันบนเตียงนั่น…”
คนฟังใจสั่น เนื้อตัวสาวเบ่งบานขานรับคำพูดวาบหวามของเขาอย่างน่าอับอาย
“อย่าทรง… ลดพระองค์มาเกลือกกลั้วกับผู้หญิงชั้นต่ำอย่างหม่อมฉันเลยเพคะ”
“หึ ฉันถูกแบล็กเมลให้แต่งงานกับเธอโดยที่ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะอุทธรณ์ ดังนั้น ผลตอบแทนที่ฉันจะได้รับจากการเข้าพิธีงี่เง่านั้นจะต้องคุ้มค่า” เขาหยุดพูดเล็กน้อย และตวัดตามองหล่อนอย่างเหยียดหยาม “แม้ฉันพอจะเดาได้ว่าผลตอบแทนที่จะได้รับจากเธอ มันจะไม่น่าพิสมัยนักก็ตาม”
หล่อนหน้าร้อนฉ่าด้วยความอับอายและแสนประหม่า
“เราก็แค่… แต่งงานกับเฉยๆ ปลอมๆ ไม่ต้องแตะต้องกันจริงๆ คือหม่อมฉันหมายถึง… หม่อมฉันแค่ต้องการความมั่นคงในซาเรียเท่านั้นเพคะ พอหม่อมฉันได้สัญชาติของซาเรียแล้ว หม่อมฉันสาบานเลยว่าจะรีบคืออิสรภาพให้กับพระองค์ทันทีเลยเพคะ…”
“อีกหนึ่งปีเชียวนะกว่าเธอจะได้สัญชาติซาเรีย จากผลพวงที่เธอเป็นพระสนมของฉัน หึ… แล้วคิดว่าฉันจะเก็บมือเก็บไม้จากร่างกายอวบอัดของเธอได้หรือ”
“แต่ว่า… พระองค์ทรงเกลียดหม่อมฉัน…”
“ใช่ แต่ความเกลียดมันแยกออกจากเซ็กซ์ได้โดยสิ้นเชิง ดังนั้น เธอไม่ต้องเป็นกังวล เพราะถึงแม้ฉันจะเกลียดขี้หน้าผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างเธอแค่ไหน ฉันก็สามารถมอบความสุขทางเพศให้กับเธอได้”
คนฟังเบิกตากว้างอย่างตื่นตกใจ ทุกพยางค์จากปากของเซรีมทำให้หล่อนยิ่งร้อนฉ่า ที่กึ่งกลางลำตัวอึดอัดและเสมือนมีหยาดน้ำอะไรบางอย่างไหลคลอออกมา
“เราจะมีเซ็กซ์เร่าร้อนกันทุกคืน”
“ไม่เพคะ… หม่อมฉันไม่ได้ต้องการ… อย่างนั้นสักหน่อย…”
หล่อนโต้แย้งหน้าตาแดงก่ำ แต่เหมือนเขาไม่ได้ยิน เพราะเขายังคงพูดในสิ่งที่ต้องการออกมาไม่หยุด
“ตอนกลางวันมักจะยุ่งกับกิจของบ้านเมืองเสมอ แต่ในเวลากลางคืน ฉันสาบานเลยว่าจะทำให้เธอสนุกอย่างสุดเหวี่ยงใต้ร่างกายของฉัน หรือบางครั้งอาจจะบนร่างกายของฉัน”
“นี่… พระองค์ทรง… ตรัสบ้าอะไรเพคะ…”
“ฉันก็พูดความจริงที่มันจะต้องเกิดขึ้นสำหรับเราสองคนยังไงล่ะจัสมิน”
เขาประกาศออกมาอย่างทะนงโอหัง ในขณะที่หล่อนอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
“แต่… หม่อมฉันไม่ได้ต้องการมีเซ็กซ์กับพระองค์นะเพคะ”
หล่อนตะโกนใส่หน้าเขาเสียงสั่นเทา และภาวนาให้เขายอมรับในความต้องการของตัวเอง แต่เขากลับหัวเราะร่วน ราวกับสิ่งที่หล่อนพูดออกไปมันไร้ความหมาย
“ถ้าเราสองคนไม่ได้คลุกวงในกันมาก่อน ฉันก็คงจะเชื่อคำพูดของเธอหรอกนะ จัสมิน” เขายิ้มเยาะ “แต่หลังจากที่เราทั้งจูบ ทั้งดูด ทั้งเลียกันมาพอสมควรแล้ว ฉันคิดว่าเธอกำลังโกหกตัวเอง”
“หม่อมฉัน… ไม่ได้โกหกเพคะ”
“เธอต้องการฉัน มากพอกับที่ฉันต้องการเธออยู่ในขณะนี้นั่นแหละ”
น้ำลายในลำคอของหล่อนเหนียวเป็นยางกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะละล่ำละลักถามออกไป
“พระองค์… ต้องการ… หม่อมฉันเหรอเพคะ”
“ในเมื่อฉันค้นพบแล้วว่าผู้หญิงที่ตัวเองขยะแขยงร้อนฉ่าราวกับไฟป่า แล้วมีเหตุผลสมควรอันใดล่ะที่จะทำให้ฉันไม่เสพสุขกับร่างกายของเธอ”
“พระองค์ทรงเห็นแก่ตัว…”
หล่อนใช้คำราชาศัพท์ผิดพลาดอีกแล้ว และเจ้าชายรูปงามตรงหน้าก็ไม่ได้แก้ไขอะไรให้ คงเป็นเพราะเบื่อหน่ายในความโง่เขลาเบาปัญญาของหล่อนแล้วนั่นแหละ
“ฉันก็แค่ต้องการผลตอบแทน จากการแต่งงานโดยไม่เต็มใจของตัวเองเท่านั้นเอง และเธอ… ก็หยุดพล่ามได้แล้ว เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมีแสดงท่าทางตื่นกลัวราวกับสาวพรหมจรรย์ต่อหน้าฉัน ในเมื่อฉันรู้เห็นธาตุแท้ของเธอเป็นอย่างดี”
เขาสบประมาทหล่อนอย่างเจ็บแสบ และมันก็ยิ่งตอกย้ำให้หล่อนอับอายเหลือเกิน
มะลิในชุดฟูฟ่องที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงพยายามที่จะเขยิบหนี เมื่อเห็นว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังจะเปลื้องเสื้อผ้า
“หม่อมฉัน… อยากต่อรองกับพระองค์อีกครั้งเพคะ”
นิ้วยาวที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเชื่องช้าของผู้ชายที่ยืนเด่นสง่าอยู่ข้างเตียงชะงักเล็กน้อย
“ยังไง”
“หม่อมฉัน… จะเอาหูไปนาเอาตาไร่ เรื่องของพระองค์กับแม่นาง นัสริน หากพระองค์เลิกคิดที่จะแตะต้องหม่อมฉัน”
แทนที่เขาจะตกลง กลับหัวเราะเสียงดังลั่น และนิ้วยาวก็ขยับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวอีกครั้งจนครบทุกเม็ด สาบเสื้อแยกกว้างออกจากกัน ลอนกล้ามท้องสีแทนสวยกระแทกตาของหล่อนจนแทบบอด มันสวยงาม น่าลูบไล้ด้วยปลายนิ้วยิ่งนัก หล่อนคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเจ้าชายเซรีมจะต้องมีรูปร่างที่งดงามแบบนี้ แต่เขา… ไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อนสมควรจะมีความสัมพันธ์ด้วย แม้ว่าตัวเองจะกระสันอยากนอนกับเขามากมายสักเท่าไหร่ก็ตาม
เขาอันตราย ดุกระด้าง และป่าเถื่อน…
“หากฉันจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คน เธอก็ไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆ ทั้งนั้น เพราะเธอเป็นแค่สนม”
เมื่อเขาไม่มีทีท่าว่าจะรับฟังเลย หล่อนจึงจำต้องบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกไป
“หม่อมฉัน… กลัวเพคะ”
“หึ… กลัว?”
“ใช่เพคะ หม่อมฉันกลัว…” น้ำเสียงของหล่อนสั่นเทาน่าเวทนา “กลัวที่จะต้องร่วมรักกับเจ้าชายทะเลทรายเพคะ”
“ฉันอาจจะหนุ่มกว่าเสด็จน้าคาริส แต่ฉันไม่ใช่ผู้ชายซาดิสต์ ดังนั้นเธอไม่ต้องกลัวหรอก มันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ”
หล่อนเห็นเขาขบกรามแน่น และน้ำเสียงตอนท้ายประโยคของเขาก็กระด้างยิ่งขึ้นจนน่าแปลกใจ
“แต่ว่า…”
“เลิกพล่ามได้แล้ว ฉันต้องการมีเซ็กซ์กับเธอเดี๋ยวนี้”
เจ้าชายรูปงามคำรามออกมาอย่างสิ้นสุดความอดทน เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกสลัดออกจากกาย หน้าอกที่เต็มไปด้วยเส้นขนสีเข้มหยิกขอด ซิกซ์แพ็กเป็นลอนสวยงามสมบูรณ์แบบกระแทกตาของหล่อนแบบเน้นๆ จะๆ อีกครั้ง
หล่อนแทบหยุดหายใจกับสิ่งที่ได้เห็น น้ำลายไหลย้อยออกมาคลอที่มุมปากอย่างน่าอับอาย เต้านมที่อยู่ใต้บราเซียร์เบ่งบานและหนักอึ้ง ส่วนยอดถันก็ชูชันราวกับรอคอยอะไรบางอย่าง
“อย่า… ทรงข่มขืนหม่อมฉันนะเพคะ”
“แต่ฉันคิดว่าเซ็กซ์ร้อนฉ่าที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างเรา มันคือการสมยอมมากกว่านะ จัสมิน”
น้ำเสียงของเจ้าชายเซรีมเริ่มแหบกระเส่า และพริบตาเดียว เขาก็สลัดอาภรณ์ที่เหลือออกไปจากตัว เรือนร่างที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลอนงามตลอดทั้งตัวทำให้หัวใจของหล่อนแทบหยุดเต้น มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าและกรีดร้องด้วยความตกใจ
“ทรง… ใส่เสื้อผ้าเถอะเพคะ”
เซรีมหัวเราะเยาะ “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องแสดงละคร ฉันรู้เช่นเห็นชาติเธอแล้วทุกอย่าง ดังนั้นไม่ต้องมาทำตัวเป็นหญิงพรหมจรรย์ มันน่าสมเพช”
หล่อนไม่ได้เสแสร้ง แต่หล่อนไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้าต่อหน้าแบบนี้มาก่อนต่างหาก เคยเห็นก็แค่ร่างเปลือยเปล่าของฮัสซัน แต่นั่นก็คือเด็กชายที่หล่อนเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย และที่สำคัญ ร่างกายของเซรีมก็ต่างไปจากฮัสซันมากเหลือเกิน โดยเฉพาะตรงนั้น…
“หม่อมฉัน… ขอไปอาบน้ำก่อนเพคะ”
หล่อนหันหน้าหนี และจะกระโจนลงจากเตียง แต่ชุดที่ใส่อยู่ก็รุ่มร่ามเหลือเกิน มันทำให้หล่อนเคลื่อนไหวเชื่องช้า และในที่สุดก็ถูกเขากระชากเอาไว้จนได้
ร่างอวบอัดถูกกระชากไปปะทะแผ่นอกกว้างเปลือยเปล่าของเซรีมที่ตอนนี้ขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว
“ปละ… ปล่อยหม่อมฉันเถอะเพคะ…”
“หึ… เธอไม่คิดถึงลิ้นของฉันแล้วหรือ” เสียงแหบกระเส่าที่กระซิบอยู่ข้างหูทำให้หล่อนร้อนฉ่าราวกับมีกองไฟอยู่ในช่องท้อง
MANGA DISCUSSION