ชีคเถื่อนปล้นพรหมจรรย์ ชุด ทัณฑ์ทราย - ตอนที่ 19
เขาครางเสียงแหบกระเส่า ขณะใช้มือที่วางอยู่ลูบไล้สำรวจเนื้อตัวอวบอัด และก็ได้พบว่ามะลิมีส่วนเว้าส่วนโค้งแสนวิเศษยิ่งนัก เขาครางกระหึ่มลำคอ ดูดเลียยอดถันซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ลดใบหน้าหล่อเหลาต่ำลงมายังหน้าท้องขาวเนียน และที่สำคัญ มันแบนเรียบไร้ไขมันส่วนเกิน
โหนกนูนความเป็นหญิงของหล่อนซ่อนอยู่ในกางเกงชั้นในลูกไม้สีขาว ซึ่งมันอยู่ไม่ห่างจากปากของเขานัก เซรีมแลบลิ้นเลียไปทั่วหน้าท้องเนียนนุ่ม และก็พบว่าผิวสาวของมะลิเนียนละเอียดราวกับหยาดน้ำนม
เขาครางด้วยความลุ่มหลงและหิวกระหาย ขณะจับสองเรียวขาอวบให้แยกกว้างออก และสอดนิ้วแกร่งเข้าไปในขอบกางเกงชั้นในลูกไม้ที่เป้ากางเกงเปียกชุ่ม
“อ๊ะ… อย่าเพคะ… อย่า…”
เมื่อจะถูกสัมผัสกับของสงวน ทำให้มะลิได้สติอีกครั้ง หล่อนพยายามหุบขาเข้าหากัน แต่เจ้าชายเซรีมเอาตัวเข้าไปขวางเอาไว้ทั้งตัวเลยทีเดียว และตอนนี้ใบหน้าหล่อก็อยู่ในระดับเดียวกันกับเนินฉ่ำ
“อย่า… อย่าแตะต้องหม่อมฉัน…”
น้ำเสียงต่อต้านอ่อนแรงของหล่อนไม่สามารถหยุดยั้งความหื่นกระหายของเจ้าชายเถื่อนได้เลย เพราะวินาทีต่อมา กางเกงชั้นในซึ่งเป็นอาภรณ์เพียงตัวเดียวที่ติดอยู่บนกายก็ถูกกระชากออกไป
ตอนนี้ร่างสาวของหล่อนไม่มีส่วนใดเป็นความลับสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว เขาเห็นหล่อนทั้งตัว และ… กำลังจะสัมผัสมัน
“อย่า… จับนะเพคะ อย่า… อ๊ะ… อ๊า…”
เขาไม่ฟังหล่อนเลย ไม่สนใจความอับอายของหล่อนแม้แต่น้อย เพราะในที่สุด กลีบสาวก็ถูกนิ้วแกร่งแยกแย้มออกจากกัน หยาดน้ำสวาทที่เกิดขึ้นเพราะถูกปลุกเร้าไหลซึมออกมา นิ้วยาวไสหยอกเย้ากับความชุ่มฉ่ำภายใน และก็สร้างความเสียวชนิดที่ไม่เคยพานพบมาก่อนให้กับหล่อน
“อ๊า… อ๊า… อา…”
นี่หล่อนกำลังเป็นอะไรไป ทำไม… ทำไมรู้สึกร้อนฉ่าแบบนี้ ความรู้สึกเสียวซ่านมันรุนแรงกว่าตอนที่ถูกเขาดูดนมเสียอีก แค่เขา… เอานิ้วมาเขี่ย ใช่… แค่เอานิ้วยาวมาเขี่ยที่ของสงวนของหล่อน
“อ๊า…”
เซรีมมองน้ำหวานที่ไหลออกมาจากกลีบสาวสีชมพูระเรื่อ ซึ่งมันเป็นสีเดียวกับปากและหัวนมของเจ้าหล่อนด้วยความหิวกระหาย ปวดร้าวไปทั้งเรือนกายจนแทบจะระเบิด
เขาต้องการ… การลงลิ้นกับหล่อน ต้องการใช้ลิ้นตวัดดื่มกินหยาดน้ำหวานพวกนี้เข้ามาในลำคอ ต้องการลิ้มรสชาติของหล่อน อยากรู้ว่าจะหวานสักแค่ไหน
แม้จะทะนงว่าตัวเองคือเจ้าชายทะเลทรายผู้สูงศักดิ์และจะไม่ก้มศีรษะลงไปที่หว่างขาของสตรีนางไหนเด็ดขาด โดยเฉพาะแม่ผู้หญิงที่เป็นเมียเก็บของน้าชายอย่างมะลิ แต่ความสวยของกลีบนาง และตัณหาราคะที่ไม่อาจจะควบคุมได้ มันทำให้สติของเจ้าชายเซรีมขาดสะบั้น และเขาก็ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อนในชีวิตที่หว่างขาของมะลิ
“อ๊ายยยย… อา…”
เขาเลีย… ใช่ เขาลงลิ้นกับกลีบสาวแสนสวยที่มันสวยราวกับไม่เคยถูกความแข็งชันใดๆ แผ้วพานมาก่อน รสชาติตรงนั้นของมะลิหวานราวกับน้ำผึ้ง หวานพอๆ กับกลีบปากของหล่อนเลยทีเดียว ชายหนุ่มเต็มไปด้วยความลุ่มหลง และการใช้ลิ้นครั้งแรกของเขาก็เริ่มต้นตะกละตะกลามในทันที เขาเลียทุกซอกทุกมุมของกลีบสาว นิ้วยาวก็บี้คลึงเกสรสวาทอ่อนไหวจนมะลิกรีดร้องโหยหวนด้วยความเสียวกระสัน
“อ๊า… อา… เจ้าชาย… อ๊า…”
ทั้งนิ้วและลิ้นของเจ้าชายหนุ่มปลุกปั่นให้หยาดสวาททะลักออกมาจากกายสาวมากล้น แถมลีลาการตวัดโลมเลียของเขาก็ยังแสนวิเศษ มันทำให้หล่อนต้องเด้งร่อนเนินฉ่ำขึ้นหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าเขาจะโลมเลียซอกมุมไหนก็ตาม
มะลิอยากผลักไสเขาออกไป อยากผลักไสผู้ชายหน้าหล่อๆ คนนี้ออกไปจากกึ่งกลางลำตัวนัก แต่กลับทำอย่างที่สมองสั่งไม่ได้ เมื่อความเสียวซ่านร้อนแรงมันทิ่มแทงไม่หยุด ทุกครั้งที่ลิ้นสากตวัดโลมเลีย ทุกจังหวะที่นิ้วยาวบี้บดลงมาบนเกสรรัก สะโพกอวบก็ร่อนไหว ตามติดปากและนิ้วยาวราวกับมันคือสิ่งเดียวที่จะทำให้ชีวิตอยู่รอด
“อ๊า… อา… เจ้าชายเพคะ… อา… หม่อมฉันร้อน…”
สะโพกอวบเปลือยเปล่าสั่นระริกด้วยความเสียวทรมาน กายสาวร้อนฉ่าและเผยอร่อนตามติดลิ้นสากด้วยความลุ่มหลง และตอนนี้นิ้วยาวก็ไม่ได้แค่บี้คลึงเกสรรักอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังสอดลึกเข้ามาในโพรงสาวอีกด้วย
“อื้อ… อ๊า… อา…”
หล่อนอึดอัดกับสิ่งแปลกปลอมที่ยัดเยียดเข้ามา แต่เพราะลิ้นสากที่ยังตวัดเลียอย่างต่อเนื่อง ทำให้หล่อนไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทัดทานเขา
เซรีมสอดมือรองใต้บั้นท้ายอวบอัดตรึงให้หยุดส่าย และจัดการลงลิ้นให้หนักยิ่งขึ้น เขาทั้งปาดทั้งเลียทั้งดูด นิ้วยาวก็เคลื่อนไหวในความเป็นหญิงถี่ระรัว
“อ๊า… อา… อ๊า… อื้อ…”
หล่อนดิ้นพล่านตัวสั่นระริก เสียวกระสันจนแทบจะขาดใจกับการใช้ปากของเจ้าชายรูปงาม ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะใช้ปากกับตรงนั้นของหล่อน แต่เขาก็ทำ และทำได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด หล่อนกำลังรู้สึกเหมือนจะตาย ตายเพราะร่างกายแตกระเบิด
“อื้อ… อ๊า… ไม่ไหวแล้ว… เจ้าชายเพคะ… หม่อมฉัน… อ๊า…”
ความรู้สึกแปลกใหม่กัดกินไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย ความเสียวรัญจวนทิ่มแทงที่ซอกขาไม่หยุด ร่างของหล่อนลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินลำใหญ่ ก้อนเมฆมากมายลอยเข้ามาอยู่ใกล้ๆ และทันทีที่ลิ้นสากตวัดเลียอีกครั้ง ดอกไม้ไฟจำนวนนับล้านก็แตกระเบิดอยู่ในความรู้สึก
ร่างอวบอัดชุ่มเหงื่อโก่งเกร็งแนบชิดอยู่กับใบหน้าหล่อจัดของเจ้าชายทะเลทราย หยาดน้ำสวาทไหลทะลักออกมาใส่ปากของเขามากล้น
“อ๊ายยยย… อา…”
เสียงครางสยิวที่เต็มไปด้วยความเสียวซ่านรุนแรงของมะลิ ทำให้เจ้าชายหนุ่มที่ถูกราคะแผดเผาจนแข็งชันราวกับแท่งศิลาสติกระเจิง ความรู้สึกยามที่นิ้วถูกกลีบสาวรัดรึงเอาไว้ยามที่เจ้าหล่อนสุขสมผลักไสทุกความผิดชอบชั่วดีออกไปจากสมอง เขาเงยหน้าที่เปื้อนคราบน้ำหวานของมะลิขึ้น และลนลานปลดตะขอกางเกง รวมถึงรูดซิปลงจนสุด เขาหันไปมองที่ประตูตำหนัก และรีบผละออกห่างจากร่างอวบอัดของมะลิราวกับเจ้าหล่อนคือถ่านร้อน
เขาเก็บความเป็นชายเข้าไปในกางเกงอย่างรวดเร็ว และก็เหวี่ยงเสื้อผ้ากลับคืนมาให้หล่อน
“เข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำให้เรียบร้อย ฉันจะออกไปรับหน้าเสด็จแม่เอง”
มะลิเพิ่งตื่นจากความเสียวกระสันผุดลุกขึ้นนั่ง หน้าตายังเต็มไปด้วยความมึนงง
“เร็วสิ หรือว่าอยากให้เสด็จแม่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้”
“เพ… เพคะ”
เจ้าหล่อนก้าวลงจากเตียง และเดินโซซัดโซเซหายเข้าไปในห้องน้ำ
เจ้าชายเซรีมมองตามไปจนประตูห้องน้ำปิด ก่อนจะสบถด่าทอตัวเองด้วยความหงุดหงิด
“ไอ้บ้าเซรีม… นี่แกทำอะไรลงไป!”
มือใหญ่ยกขึ้นเสยเส้นผมแรงๆ ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูออกไป เพื่อเผชิญหน้ากับมารดาของตัวเอง
“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่”
“อ้าว เซรีม มาอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ”
องค์สุลตาน่าฮานย่าเอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ลูกกำลังจะกลับพอดีเลยพ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่”
คนเป็นแม่ระบายยิ้มก่อนจะขยับเข้าไปหยุดใกล้ๆ ลูกชายเมื่อเห็นความผิดปกติเข้า
“ทำไมวันนี้ผมยุ่งนักล่ะเซรีม แล้วนั่น… หน้าไปเปื้อนคราบอะไรมา”
“เอ่อ… ไม่มีอะไรพ่ะย่ะค่ะ”
มือใหญ่ของเจ้าชายเซรีมยกขึ้นลูบใบหน้า ร่างกายยังคงปั่นป่วนเพราะรู้ดีว่าคราบอะไรที่มารดาเอ่ยถึง กรามแกร่งขบกันแน่น เมื่อความเป็นชายกำลังคลุ้มคลั่งอยู่ในเป้ากางเกง
“ว่าแต่… เสด็จแม่มาที่ตำหนักนี้ มีธุระกับจัสมินหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“นางชื่อมะลิ หรือจัสมินกันแน่ แม่ชักงงแล้วนะเนี่ย”
“มะลิ พ่ะย่ะค่ะ แต่ลูกเรียกนางว่าจัสมิน หมายความเดียวกัน แต่เรียกง่ายกว่าพ่ะย่ะค่ะ”
“งั้นแม่จะเรียกตามที่เซรีมเรียกก็แล้วกันนะ”
เจ้าชายหนุ่มฝืนยิ้มบางๆ ออกมา
“เสด็จแม่ยังไม่ตอบลูกเลยนะพ่ะย่ะค่ะว่าเสด็จแม่มาตำหนักนี้ด้วยเหตุผลอะไร”
“ก็แม่ได้ข่าวว่าลูกจะรับนางเป็นพระสนมน่ะ แม่ก็เลยอยากจะมาดูหน้านางหน่อย ว่าแต่ลูกแน่ใจแล้วเหรอเซรีมว่าจะรับนางจัสมินคนนี้มาเป็นพระสนมน่ะ”
เขารู้ดีว่าหากบอกมารดาออกไปว่าไม่ต้องการมะลิ เสด็จแม่ของเขาก็จะจัดการมะลิให้ออกไปจากที่นี่โดยที่เขาไม่ต้องออกแรงอะไรเลย แต่รสชาติของหล่อนยังหวานติดปลายลิ้นอยู่เลย มันหวานมาก หวานจนเขาแทบอยากจะกระโจนกลับเข้าไปในห้อง และจับหล่อนโลมเลียอีกครั้งให้หายคลั่ง
“แน่ใจพ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่”
“ลูกไม่ได้ถูกบังคับใช่ไหม เซรีม”
ศีรษะที่เส้นผมยังคงยุ่งเหยิงอยู่ของเจ้าชายเซรีมส่ายไปมาเล็กน้อย ก่อนจะยืนยัน
“ไม่มีใครบังคับลูกพ่ะย่ะค่ะ ลูกต้องการนาง”
“โอเค แม่ได้ยินอย่างนี้ก็สบายใจ งั้นแม่ขอเข้าไปดูหน้านางหน่อยนะ ตั้งแต่นางมาอยู่ที่ซาเรีย แม่ยังไม่มีโอกาสได้เห็นนางใกล้ๆ สักที”
“เอ่อ… ตอนนี้นางน่าจะอาบน้ำอยู่พ่ะย่ะค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้ลูกจะให้นางไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่ที่ตำหนักนะพ่ะย่ะค่ะ”
“เอาอย่างนั้นเหรอเซรีม”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อลูกชายยืนยัน ฮานย่าก็ผงกศีรษะรับน้อยๆ ก่อนจะชวนลูกชายไปดื่มชาที่ศาลากลางสวน
“งั้นเซรีมไปดื่มชาที่สวนกับแม่นะ”
“พ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่”
ชายหนุ่มเดินเคียงข้างไปกับมารดาของตัวเอง ออกจากตำหนักของมะลิ แต่ให้ตายเถอะ ในหัวของเขา ร่างกายของเขา และจิตวิญญาณของเขายังไม่อาจจะสลัดเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ให้ออกไปจากหัวได้เลยแม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม