แก้มนวลของมะลิแดงระเรื่อ แต่ก็รีบปั้นหน้ากลบเกลื่อน “ก็ช่างสิ มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย”
“เกี่ยวสิคะ เพราะคุณมะลิเป็นผู้หญิงของเจ้าชายเซรีม”
คำว่าผู้หญิงของเจ้าชายเซรีม ทำให้หล่อนสะท้อนในอก เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดเลยสักนิด
“ฉันก็คงอยู่ที่นี่ไม่นานหรอก ก็เหมือนกับผู้หญิงของเจ้าชายคนอื่นๆ ที่ผ่านมานั่นแหละ”
“เจ้าชายเซรีมไม่เคยมีผู้หญิงมาก่อนนะคะ”
มะลิหันขวับมามองคนพูด ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างไม่เชื่อ ก็มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อเท่าที่สัมผัสมา เจ้าชายเซรีมเป็นบุรุษไปทั้งเลือดทั้งเนื้อ แต่เขาก็ต้องเป็นผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศสูงลิบลิ่วแน่นอน
“ฉันไม่เชื่อหรอก”
“จริงๆ นะคะ ฉันไม่ได้โกหกเลย”
“งั้นก็ต้องมีแบบไม่เปิดเผยน่ะ”
“อันนั้นฉันก็ไม่ทราบหรอกค่ะ แต่ถ้าพาเข้ามาในวังแล้วเปิดเผยเหมือนคุณมะลิ ยังไม่มีมาก่อนค่ะ”
ไม่รู้ทำไมหัวใจของหล่อนถึงได้เบิกบานแบบนี้ ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่ล้นอกว่าเขาพาหล่อนมาที่นี่เพราะอะไร
“แล้ว… เจ้าชายไม่มีผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้เลยเหรอ เอ่อ… ที่ฉันถามนี่ก็เพราะแค่อยากรู้เอาไว้ประดับหัวเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรไปไกลหรอกนะ”
ชมพูนุชมองหน้าหวานของมะลิด้วยความขบขัน เพราะพอจะมองออกว่ามะลิกำลังรู้สึกยังไง
“เจ้าชายทรงไม่ค่อยเปิดเผยความรู้สึกน่ะค่ะคุณมะลิ แต่เท่าที่พอทราบมา ก็เห็นมีแต่ลูกสาวของอำมาตย์ฮานีฟนั่นแหละที่เจ้าชายทรงตรัสด้วยบ่อยๆ”
มะลิเกลียดตัวเองนักที่ปล่อยให้หัวใจลุกเป็นไฟเพราะความหึงหวงแบบนี้ ทั้งๆ ที่หล่อนก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเจ้าชายเซรีมรูปงามเลยสักนิด
“อย่างนั้นเหรอ ก็เหมาะสมกันดีนะ”
หล่อนเค้นเสียงไม่พอใจออกมา ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องสนทนาอีกครั้ง จนชมพูนุชแทบตามไม่ทัน
“แล้วชมพูนุชสวยขนาดนี้ มีคนรักหรือยังล่ะ”
แก้มนวลของชมพูนุชมีสีระเรื่อขึ้นมาทันตาเห็น และดวงตาแม่นางกำนัลคนสวยก็ระยิบระยับน่ามองเป็นที่สุด เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนไม่มีผิด
“ทำหน้าแบบนี้ แสดงว่ามีใช่ไหมล่ะ”
“ก็… มีค่ะ แต่ฉันแอบรักอยู่ข้างเดียว”
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันนะ แล้วเขารู้หรือเปล่าว่าชมพูนุชแอบชอบน่ะ”
ศีรษะทุยสวยของนางกำนัลคนงามส่ายไปมา สีหน้ามีความวิตกกังวลไม่น้อย
“ไม่ทราบหรอกค่ะ แล้วเขาคนนั้นก็มีนางในดวงใจอยู่แล้วด้วย”
“อ้าว แบบนี้ชมพูนุชก็…”
“ใช่ค่ะ ฉันไม่มีทางสมหวังหรอกค่ะ”
มะลิอดสงสารคู่สนทนาไม่ได้ จึงรีบปลอบใจ “แล้วทำไมไม่ลองบอกความในใจให้กับเขารู้ล่ะ เผื่อบางที อะไรๆ จะดีขึ้นก็ได้นะ”
มะลิหวังว่าชมพูนุชจะยิ้มออกมาได้เหมือนเดิม แต่สีหน้ากลับยิ่งสิ้นหวัง
“มะลิไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะบอกความในใจกับผู้ชายคนนั้นได้หรอกค่ะ”
“ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ” มะลิชักอยากรู้แล้วสิว่าเขาคนนั้นเป็นใคร
“ก็เพราะว่า…”
ชมพูนุชยังพูดไม่ทันจบ ก็มีขบวนขององค์รัชทายาทเสด็จผ่านมาทางนี้พอดี สองสาวรีบหลบเข้าข้างทาง และแสดงความเคารพเมื่อขบวนเสด็จขององค์รัชทายาทจามีลผ่านหน้าไป
“พี่ชายของเจ้าชายเซรีมทรงหล่อมากเลยนะ เธอว่าไหมชมพูนุช”
“ต้องใช้คำว่า ทรงพระศิริโฉมงดงาม ค่ะ ฉันสอนคุณไปแล้วนี่คะ อย่าลืมนะ เดี๋ยวเจ้าชายเซรีมจะลงโทษฉัน”
“โอเค ฉันขอโทษ”
มะลิเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะพูดขึ้น
“ฉันหวังว่าผู้ชายคนนั้นคงไม่ใช่องค์รัชทายาทจามีลหรอกนะ”
มะลิอมยิ้มเพราะตั้งใจแซวเล่นๆ แต่สีหน้าของนางกำนัลข้างกายกลับเต็มไปด้วยพิรุธมากมาย
“อย่าบอกนะว่า…”
“เอ่อ… คุณมะลิจะไปหาเจ้าชายฮัสซันใช่ไหมคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ ใกล้จะถึงแล้ว”
ยิ่งนางกำนัลหน้าตาสวยตัดบทด้วยท่าทางร้อนรนเช่นนี้ หล่อนก็ยิ่งมั่นใจว่า ชมพูนุชต้องแอบหลงรักองค์รัชทายาทจามีลพี่ชายของเจ้าชายเซรีมอย่างแน่นอน
“โอเค งั้นเราเดินต่อกันเถอะ”
“น้ามะลิ…”
ฮัสซันที่กำลังวิ่งเล่นอยู่กับเหล่าทหารองครักษ์หันมาเห็นหล่อนเข้าก็รีบวิ่งเข้ามาสวมกอดทันที
หล่อนย่อตัวลง และโอบกอดร่างเล็กของเจ้าชายน้อยด้วยความรักความเอ็นดู
“สนุกไหมจ๊ะ ฮัสซัน”
“สนุกมากเลยครับน้ามะลิ ที่นี่มีแต่เรื่องสนุกๆ ทั้งนั้นเลย”
มะลิยิ้มบางๆ
“แล้วฮัสซันชอบที่นี่ไหมจ๊ะ”
เด็กน้อยพยักหน้ารับโดยไม่ต้องคิดเลย “ชอบครับ ผมชอบที่นี่มากเลยครับ”
หล่อนยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เพราะทั้งดีใจและทั้งเสียใจในเวลาเดียวกัน
“แล้วถ้าฮัสซันต้องอยู่ที่นี่ไปตลอด ฮัสซันโอเคไหมจ๊ะ”
เด็กน้อยเอียงคอมองหน้าหล่อน ก่อนจะฉีกยิ้มแป้นออกมามากมาย
“ผมอยู่ที่นี่ได้ครับ แต่ต้องมีน้ามะลิอยู่ด้วย”
น้ำตาที่คลอเบ้าของมะลิไหลรินออกมาตามแก้มนวล แต่หญิงสาวก็รีบป้ายทิ้งทันที และฉีกยิ้มทั้งน้ำตา
“น้าคง… อยู่ที่นี่กับฮัสซันได้แค่ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นแหละจ๊ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะครับ หรือว่าเจ้าชายไม่ให้น้ามะลิอยู่ ผมจะไปขอร้องเจ้าชายเองครับ”
หล่อนส่ายหน้าไปมา มองเด็กชายที่ตัวเองเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะด้วยความอาลัย
“น้าต้องกลับไปเมืองไทย ต้องกลับไปทำงานยังไงล่ะจ๊ะฮัสซัน”
“แต่ผมไม่ยอม ผมอยากให้น้ามะลิอยู่ด้วย”
เด็กน้อยซบหน้าลงกับบ่าของหล่อน และร้องไห้โยเย จนหล่อนต้องปลอบใจ
“ฮัสซันไม่ร้องไห้นะจ๊ะ ผู้ชายต้องเข้มแข็ง”
“แต่ผมรักน้ามะลิ ผมไม่อยากอยู่ห่างจากน้ามะลิ”
หัวใจของมะลิกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด “น้าก็รักฮัสซันมากนะ น้าสัญญาว่าน้าจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้ได้อยู่ที่นี่ต่อไปให้นานที่สุด โอเคไหมจ๊ะ”
“เย้… โอเคครับ”
เจ้าชายตัวน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ก่อนจะอุทานขึ้นเมื่อหันไปเห็นเจ้าชายเซรีมเดินเข้ามาหยุดใกล้ๆ
“เจ้าชายมาครับน้ามะลิ”
มะลิปล่อยร่างเล็กของฮัสซัน ก่อนจะลุกขึ้นยืนและถวายความเคารพเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ แต่เขาทำเหมือนมองไม่เห็นหล่อน เพราะเดินผ่านหน้าไปหาฮัสซัน
หล่อนรู้สึกราวกับตัวเองเป็นเศษขยะที่ปลิวติดรองเท้าของเซรีมมาไม่มีผิด น้ำตาแห่งความน้อยใจเอ่อล้นขอบตา แต่ก็ต้องพยายามที่จะสะกดกลั้นมันเอาไว้
“สวัสดีครับฮัสซัน วิ่งเล่นสนุกไหมครับ”
“สนุกครับเจ้าชาย”
“แล้วชอบที่นี่ไหมครับ”
“ชอบมากครับ”
เจ้าชายเซรีมระบายยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดังกังวานยิ่งขึ้น
“งั้นฮัสซันก็อยากอยู่ที่ราชวังแห่งนี้ถูกต้องไหมครับ”
เด็กน้อยผงกศีรษะตอบรับ
“ใช่ครับ”
“ดีมากคนเก่ง” เซรีมยกมือขึ้นลูบศีรษะของเจ้าชายฮัสซันด้วยความเอ็นดู จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง โดยที่มือใหญ่กุมมือเล็กของเด็กน้อยเอาไว้ด้วย
“เราไปนั่งตกปลาที่ทะเลสาบกันไหมครับฮัสซัน”
ฮัสซันหันมามองที่หล่อน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ให้น้ามะลิไปด้วยได้ไหมครับ”
หล่อนไม่ได้หรอกครับฮัสซัน เพราะเราต้องการความเป็นส่วนตัว แบบผู้ชายๆ น่ะ”
“อ๋อ”
เด็กยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก ยิ่งเมื่อถูกสายตาคมกริบเย็นชาของเจ้าชายเซรีมมองจ้องมองด้วย ก็ยิ่งสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
“เห็นจะ
น้อยผงกศีรษะตอบรับอย่างเข้าใจ
“งั้นตกลงครับเจ้าชาย”
“งั้นเราไปกันเถอะ”
สองหนุ่มเลือดสีน้ำเงินต่างวัยกำลังจะเดินจากไป แต่เสียงหวานที่ผ่านการปั้นแต่งมาอย่างดีของสตรีนางหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน หล่อนเห็นเจ้าชายเซรีมยิ้มกว้างทันทีเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้น
“ขอหม่อมฉันตามเสด็จไปด้วยได้ไหมเพคะเจ้าชาย”
“ได้สิ นัสริน”
ผู้หญิงหน้าตาสวยงามเดินผ่านร่างของหล่อนไป แล้วทั้งหมดก็เดินตรงไปยังทะเลสาบจำลอง
มะลิมองตามไปด้วยความมึนงงและน้อยใจ ก่อนจะตัดพ้อออกมา
“ไหนบอกว่าต้องการความเป็นส่วนตัวแบบผู้ชายยังไงล่ะ เจ้าชายบ้า”
“ผู้หญิงคนนี้แหละค่ะ นัสริน ลูกสาวของอำมาตย์ผู้ใหญ่ฮานีฟ คนที่ฉันบอกว่าสนิทสนมกับเจ้าชายเซรีมน่ะค่ะ”
ผู้หญิงคนนี้นี่เอง…
มะลิรู้สึกโหวงเหวงในอกเป็นที่สุด หล่อนไม่ควรจะรู้สึกหึงหวงแบบนี้ แต่ก็ห้ามหัวใจไม่ได้
“งั้นเรากลับกันเถอะ ฉันปวดหัว”
“ค่ะ คุณมะลิ”
มะลิหมุนตัวหันหลังเดินจากไปทั้งน้ำตา ความน้อยใจแล่นพล่านไปทั้งร่าง เพลงคนไม่จำเป็นของเก็ตสึโนว่าดังลั่นขึ้นในหัวอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แล้วหล่อนก็อินกับเนื้อเพลงจนน่าปวดใจ
MANGA DISCUSSION