“เธอยิ้มปากแทบฉีกให้กับพี่ชายของฉัน”
“แค่ยิ้มเหรอเพคะ”
“ใช่”
หล่อนยกมือขึ้นกุมขมับ มองเจ้าชายเซรีมด้วยความปวดหัวเป็นที่สุด
“งั้นหม่อมฉันก็คงอ่อยผู้ชายทั้งโลกนั่นแหละเพคะ เพราะหม่อมฉันยิ้มให้กับทุกคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย”
“ยกเว้นฉัน”
เขาโต้กลับสุ้มเสียงดุดัน และก็ทำให้หล่อนชะงักกึกไป ดวงตาสองดวงสบประสานกันอีกครั้ง และก็เป็นเจ้าชายทะเลทรายที่ละสายตามองไปที่อื่นแทน
“เอาเป็นว่าห้ามทำกิริยาแบบนั้นต่อหน้าพี่ชายของฉันอีก”
“เพคะ”
หล่อนขี้เกียจโต้เถียงกับคนไม่มีเหตุผลจึงกระแทกเสียงตอบรับออกไป
“ดีมาก เพราะแค่ทุกคนที่นี่รู้ว่าเธอเคยเป็นเมียเก็บของน้าคาริส ฉันก็อับอายจนแทบจะเอาหน้าไปมุดผืนทรายแล้ว”
หล่อนอยากจะเถียงกลับไปนัก แต่ก็ดี ให้เข้าใจผิดแบบนี้ไปนานๆ เขาจะได้ทุกข์ใจเล่นๆ
“แล้วไงเพคะ”
“ไม่แล้วยังไงหรอก แค่เธอไม่ก่อเรื่องอื้อฉาวอีกก็พอ”
“เรื่องอื้อฉาว? อะไรเหรอเพคะ”
เซรีมมองผู้หญิงที่เอ่ยถามกลับมาด้วยสายตากลมโตใสซื่อด้วยความหงุดหงิดระคนโมโห
“ต้องให้บอกจริงๆ หรือ”
“เพคะ ก็หม่อมฉันไม่ทราบนี่นา”
“อย่าอ่อยผู้ชายที่นี่ แม้แต่ทหารวังก็ตาม”
แล้วเขาก็หมุนตัวเดินตรงไปที่ประตูห้อง ในขณะที่หล่อนยืนอ้าปากค้างเติ่ง
เขาหยุดเดินและหมุนตัวกลับมามองหล่อนอีกครั้ง “อ้อ ฉันลืมบอกไป ที่นี่คือที่พักของเธอ”
และคราวนี้ผู้ชายตัวสูงใหญ่ก็เดินออกไปจากห้องกว้างจริงๆ ทิ้งให้หล่อนยืนเซ่อ พูดไม่ออก สมองหยุดทำงานอยู่ตามลำพัง กว่าจะได้สติก็ตอนเสียงปิดประตูดังขึ้นนั่นแหละ
“คนบ้า… นี่คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าฉันน่ะร้อนฉ่าพอๆ กับก้อนน้ำแข็งในตู้เย็นเลยละ”
หล่อนพูดประชดกระฟัดกระเฟียดออกมา ขณะหมุนตัวมองไปรอบๆ รอบ
พระเจ้า… นี่หล่อนหลุดเข้ามาในโลกของนิยายอาหรับหรือไงนะ ดูสิ ไม่ว่าจะตู้เตียง หรือแม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ก็ถอดแบบเหมือนเปี๊ยบมาจากหนังสือนิยายไม่มีผิด
มะลิเดินเข้าไปหยุดที่เตียงนอนแสนสวย มือเล็กยื่นไปสัมผัสกับเตียง ก่อนจะกดเบาๆ
“โห นุ่มจัง”
หล่อนอมยิ้มอย่างมีความสุข และสมองไม่รักดีก็ทรยศขึ้นมาในบัดดล มันผุดภาพร่วมรักเร่าร้อนของหล่อนกับเจ้าชายทะเลทรายอย่างเซรีมขึ้นมาซะอย่างนั้น
ภาพที่เห็นในหัวก็คือหล่อนกำลังนั่งคร่อมอยู่บนร่างเปลือยสีแทนสวยของเซรีม มือใหญ่จับอยู่ที่เอวคอด และค่อยๆ กดร่างของหล่อนให้กลืนกินสิ่งที่แข็งที่สุดของบุรุษทีละนิด
เสียงร้องครางของหล่อนดังลั่นไม่แพ้เสียงครางกระหึ่มของเขาเลยแม้แต่น้อย และหลังจากที่หล่อนกลืนกินท่อนเนื้อยาวใหญ่จนหมดทั้งลำ บั้นท้ายอวบอัดก็เคลื่อนไหว
โอ้… พระเจ้า นี่หล่อนคิดบ้าอะไรเนี่ย!
มะลิรีบสะบัดศีรษะแรงๆ จนภาพพวกนั้นกระเด็นหลุดไปจากหัว หล่อนหอบหายใจระรัวด้วยความตื่นตกใจ และก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะคิดลามกแบบนั้นได้
เอาจริงๆ นะ หล่อนเริ่มต้นคิดลามกแบบนี้มาตั้งแต่เห็นหน้าเจ้าชายเซรีมครั้งแรกนั่นแหละ
“ไอ้เจ้าชายบ้า…”
หล่อนรู้สึกร้อนฉ่าไปทั้งตัว ช่องท้องปั่นป่วนสับสน และตรงนั้นก็มีน้ำเปียกลื่นไหลซึมออกมา เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายขึ้นบนหน้าผาก และหล่อนจะดำดิ่งอยู่กับตัณหาราคะมืดดำนั้นอีกนานเลยทีเดียว หากไม่ได้ยินเสียงทหารหน้าประตูตะโกนขึ้นว่ามีคนมาหา
ประตูเปิดกว้างออก พร้อมกับร่างอรชรของนางกำนัลหน้าตาสวยหวานคนหนึ่งเดินเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อชมพูนุช ได้รับคำสั่งจากเจ้าชายเซรีมให้มาเป็นนางกำนัลประจำตัวของคุณจัสมินค่ะ”
“เอ่อ… สวัสดีจ้ะชมพูนุช”
มะลิกล่าวทักทายกลับไป และก็อดจ้องหน้านางกำนัลที่มองยังไงก็น่าจะเป็นคนเชื้อชาติเดียวกับตัวเองด้วยความสงสัยไม่ได้
“เธอเป็นคนไทยใช่ไหม”
นางกำนัลตรงหน้าฉีกยิ้มกว้าง ทำให้เห็นลักยิ้มที่สองมุมปากอย่างชัดเจน ชมพูนุชสวยจริงๆ
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นลูกติดแม่มาค่ะ”
มะลิพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะคิดขึ้นได้
“อ้อ ฉันหรือบอกไป ฉันชื่อมะลินะ ไม่ใช่จัสมิน”
“เจ้าชายเซรีมสั่งให้เรียกคุณว่าจัสมินค่ะ”
คำตอบของนางกำนัลคนสวยตรงหน้าทำให้มะลิอดที่จะคิดเคืองไปถึงเจ้าชายทะเลทรายจอมเผด็จการไม่ได้ เขาอยากจะทำอะไรก็ทำ สั่งเอาสั่งเอา และที่สำคัญ หล่อนไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย
“โอเคจ้ะ จะเรียกฉันว่าอะไรก็ได้ จะมะลิหรือจัสมินก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ”
นางกำนัลยิ้มกว้าง เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของหล่อน และพิศมองนานพอสมควร
“คุณจัสมินสวยมากเลยค่ะ”
“เอ่อ… ขอบใจนะ แต่ฉันว่าเธอสวยกว่าฉันอีก”
หล่อนคิดว่านางกำนัลแค่ปากหวาน เพราะปกติก็ไม่เห็นมีใครที่ไหนเอ่ยชมหล่อนแบบนี้มาก่อน
“เจ้าชายเซรีมตาถึงจริงๆ เลยค่ะ”
นี่หล่อนอยากจะบอกความจริงออกไปเหลือเกินว่าเจ้าชายของชมพูนุชไม่ได้พิศวาสอะไรในตัวของหล่อนเลย แค่ไม่มีทางปฏิเสธการติดตามของหล่อนเท่านั้นเอง แต่ก็พูดความจริงออกไปไม่ได้ นอกจากยิ้มเจื่อนๆ ออกไปเพียงเท่านั้น
“แล้ว… เจ้าชายให้ชมพูนุชมาหาฉันทำไมเหรอ”
“เจ้าชายให้ฉันมาสอนคำราชาศัพท์ให้คุณจัสมินค่ะ”
มะลิถอนใจออกมายาวเหยียด
“ก็ได้จ้ะ แต่ขอฉันออกไปหาฮัสซันก่อนได้ไหม คือฉันกลัวฮัสซันจะร้องไห้เพราะแปลกที่น่ะ”
“เจ้าชายสั่งว่าให้คุณจัสมินท่องคำราชาศัพท์ให้ครบห้าคำก่อน แล้วถึงจะอนุญาตให้ไปพบเจ้าชายฮัสซันค่ะ”
“แต่ว่าฉัน…”
“คำสั่งของเจ้าชาย ใครก็ฝ่าฝืนไม่ได้ค่ะ”
มะลิถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ และก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกนอกจากทำตามคำสั่งของเจ้าชายบ้าอำนาจอย่างเซรีม
“โอเค งั้นก็สอนเลย ฉันอยากไปหาฮัสซันใจจะขาดแล้ว”
หลังจากท่องคำราชาทรัพย์ได้ครบตามความต้องการของเจ้าชายบ้าเลือดอย่างเซรีมแล้ว หล่อนก็รีบคะยั้นคะยอให้ชมพูนุชพาไปพบฮัสซันทันที
หล่อนเดินตามหลังของชมพูนุชไปตามทางเดินที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม ต้นไม้นานาพันธุ์ถูกตัดแต่งเป็นรูปทรงต่างๆ สวยงามและน่ามองมาก หากมีใครสักคนบอกว่าราชวังแห่งนี้คือสรวงสวรรค์ หล่อนก็คงไม่เถียง
“ชมพูนุชอยู่ที่นี่มานานแล้วเหรอ”
แม่นางกำนัลรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นหยุดเดิน และหันกลับมายิ้มหวานให้กับหล่อน ลักยิ้มข้างมุมปากช่างน่ารักและน่ามองยิ่งนัก หล่อนเคยใฝ่ฝันว่าอยากมีลักยิ้มแบบนี้บ้างเมื่อตอนเป็นเด็กนักเรียน
“ก็ตั้งแต่สามขวบเลยค่ะ”
“แล้วตอนนี้เท่าไหร่แล้วล่ะ”
“สิบเก้าค่ะ”
มะลิพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “แล้วชมพูนุชเกิดที่นี่หรือว่าที่เมืองไทยล่ะ”
นางกำนัลคนสวยระบายยิ้มหวาน ก่อนจะขยับปากอิ่มสีแดงระเรื่อเป็นจังหวะ
“ฉันเกิดที่นี่ค่ะ แม่ของฉันท้องไม่มีพ่อ ก็เลยตามญาติมาอยู่ที่ซาเรีย และแม่ก็ได้พบรักใหม่กับองครักษ์ในวังค่ะ”
“แล้วชมพูนุชมีพี่น้องไหม”
“ฉันมีพี่ชายคนหนึ่งค่ะ เป็นองครักษ์หน้าตำหนักของเจ้าชายเซรีมค่ะ”
“ดีจังเลยนะ ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว”
“แล้วคุณมะลิไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวเหรอคะ”
สีหน้าของมะลิเศร้าหมองลง แต่หญิงสาวก็ฝืนยิ้มออกมา “ฉันมีแค่ป้าคนเดียวจ้ะที่เลี้ยงดูฉันมา”
“แล้วพ่อแม่ของคุณมะลิล่ะคะ” ชมพูนุชถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามวิสัยซุกซนของตนเอง
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ถามป้าทีไร ป้าก็ไม่เคยบอกสักที”
มะลิถอนใจออกมาเบาๆ
“เราเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่าเนอะ”
“ค่ะ”
แล้วมะลิก็ก้าวเท้าเดินไปข้างๆ กับนางกำนัลชมพูนุช มุ่งหน้าเข้าไปยังสวนสวยที่ภายในมีทั้งน้ำตกจำลอง และทะเลสาบจำลอง เสียงร้องของปักษาดังเซ็งแซ่กังวาน
หล่อนหมุนตัวหันมองไปรอบๆ ตัวราวกับต้องมนต์สะกด ยังมีที่ไหนในโลกที่สวยงามแบบนี้อีกไหมนะ สรุปคือไม่น่ามี ราชวังของซาเรียคือที่สุดแล้วละ
กลีบปากอิ่มของมะลิเผยอค้างเติ่งอยู่นาน จนชมพูนุชต้องสะกิดแขนเบาๆ
“คุณมะลิเป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ”
“ปละ เปล่าหรอก แค่รู้สึกว่าที่นี่สวยเหลือเกิน จนฉันคิดว่าฉันตายแล้วขึ้นมาบนสวรรค์อย่างนั้นแหละ”
ชมพูนุชยิ้มหวาน “ที่นี่เป็นสถานที่โปรดปรานของเจ้าชายเซรีมด้วยนะคะ”
MANGA DISCUSSION