"ปู่หนิว คุณอยากให้ผมไปท้าฝีมือกับใคร? หรือไม่ลองบอกผมดูก่อนไหม?"
มองดูดวงตาที่เป็นประกายของจ้าวเสี่ยวกัง หนิวเกิงซึงพ่นลมออกจากจมูกดังฮึ่ม "อย่างนายมันยังเร็วเกินไป คิดจะไปท้าฝีมืออย่างน้อยก็ต้องรออีกสิบปี ตอนนี้ยังอยู่ห่างชั้นกันอีกเยอะ"
"หา! ต้องรอนานขนาดนั้นเลยเหรอ? งั้นผมว่าผมตั้งใจเรียนไปก่อนดีกว่า"
หลังจากที่จ้าวเสี่ยวกังพูดจบ เขาเริ่มเปิดตำราหวงตี้เน่ยจงขึ้นมาอ่านทันที เขาไม่อยากจะถกเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว จะมีใครพูดได้บ้างหลังจากนี้อีกสิบปีจะเป็นยังไง? ยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายของเขาน่าจะสำเร็จภายในสิบปีนี้แน่นอน สำหรับคำพูดของหนิวเกิงซึง เขารู้สึกว่าหนิวเกิงซึงพยายามสร้างแรงกระตุ้นให้กับเขามากกว่า
หนิวเกิงซึงเห็นจ้าวเสี่ยวกังเปิดหนังสือขึ้นมาอ่านเองโดยไม่ต้องสั่ง เขาจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ ด้วยพื้นฐานของจ้าวเสี่ยวกัง เขาคิดว่าในเวลาสิบปีก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่เหมือนกับหลานสาวของเขาที่มองไม่เห็นความหวังเลยสักนิด
ยกเหล้าที่จ้าวโหย่วเทียนซ่อนไว้เป็นอย่างดีขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก หนิวเกิงซึงรู้สึกสบายใจขึ้นมามากทันที เพียงแต่ว่าเขายังรู้สึกคิดถึงเหล้าโหเอ๋อที่จ้าวโหยว่เทียนหมัก นั่นถึงจะเป็นของที่เรียกว่าชั้นเลิศของจริง
หลายปีที่ผ่านมาเขาเคยดื่มเพียงแค่ครั้งเดียว แต่หลังจากครั้งนั้นดูเหมือนจ้าวโหย่วเทียนจะไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องของการหมักเหล้าอีกเลย เขาแค่หมักเหล้าเป็นบางครั้งบางคราว และรสชาติก็ไม่ได้ดีเหมือนตอนที่เขาเพิ่งจะมาหมู่บ้านบางจื่อครั้งแรก
ยิ่งไปกว่านั้นจ้าวโหย่วเทียนก็ไม่ได้สนใจไปศึกษาผลไม้ป่าที่อยู่ในป่าลึกอีกเลย
หลังจากที่สังเกตเห็นหนิวเกิงซึงกินข้าวเรียบร้อยแล้ว จ้าวเสี่ยวกังรีบวิ่งเข้าไปเก็บโต๊ะทันที ในเมื่อตัดสินใจที่จะเรียนรู้กับหนิวเกิงซึง เขาไม่อยากทิ้งความประทับใจที่ดูไม่ดีไว้ให้กับหนิวเกิงซึง ถึงแม้เรื่องของภาพลักษณ์มันจะตราบตรึงอยู่ในใจตั้งนานแล้ว แต่อะไรที่แก้ไขได้ก็ต้องแก้ไขสักหน่อย
"พอแล้ว พอแล้ว นี่ก็สายแล้ว นายรีบกลับไปศึกษาตำราที่ฉันให้ในต่อเถอะ ส่วนหนังสือเล่มนี้ หลังจากที่นายจำสมุนไพรที่อยู่ในตำราหมดแล้วฉันจะให้นายเอง"
จ้าวเสี่ยวกังเก็บถ้วยชามไปด้วยพร้อมกับยิ้มแล้วพูดไปด้วย "แหะแหะ ปู่หนิว เมื่อกี้คุณบอกผมว่าจะสอนเรื่องความรู้ด้านประสาทสัมผัส ยังไงคืนนี้คุณก็น่าจะให้ผมได้เปิดหูเปิดตาสักหน่อย"
"ฮึ่ม จุดที่โดนก้อนหินกระแทกใส่เมื่อกี้ก็คือความรู้ด้านประสาท นายยังไม่รู้จักพออีกเหรอ รีบไสหัวกลับไปได้แล้ว"
มองดูท่าทางของหนิวเกิงซึงที่เริ่มจะหัวเสีย จ้าวเสี่ยวกังรีบวางถ้วยชามลงแล้ววิ่งออกไปทันที
ตอนที่วิ่งไปถึงหน้าประตู จ้าวเสี่ยวกังยังไม่ลืมที่จะหันกลับมามองหนิวเกิงซึงแล้วพูด "ปู่หนิว พรุ่งนี้พวกเรามาต่อกันอีกนะ"
หลังจากที่พูดจบ จ้าวเสี่ยวกังวิ่งกลับบ้านของตัวเองโดยตรง
มองดูแผ่นหลังที่เดินจากไปของจ้าวเสี่ยวกัง บนใบหน้าของหนิวเกิงซึงปรากฏให้เห็นรอยยิ้มทันที และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มไออย่างรุนแรง
เขาถึงขั้นไอออกมาเป็นเลือด มองดูเลือดสีดำที่อยู่บนพื้น สีหน้าของหนิวเกิงซึงดูน่าเกลียดขึ้นมาทันที
"บ้าจริง ไอ้พิษนี่มันร้ายกาจชะมัด เมื่อหลายปีก่อนประมาทเกินไป ถ้าหากในตอนนั้นฉันฉลาดเหมือนไอ้คนเด็กนี่บางทีก็คงจะไม่เป็นแบบนี้"
"ฮึ่ม สิบปี ขอเวลาอีกแค่สิบปี ฉันจะให้เด็กคนนี้ไปหาแก ถึงเวลานั้นจะได้ร่วมสนุกกับแกสักหน่อย ดูซิว่าตกลงพิษของฉันร้ายกาจหรือว่าพิษของแกร้ายกาจกว่ากัน" หลังจากที่พูดจบ หนิวเกิงซึงยกไหเหล้าขึ้นมาดื่มอีกครั้ง และทันใดนั้นเขารู้สึกสบายตัวขึ้นมาก
"เห้อ สวรรค์ลิขิต ถ้าหากไม่ได้มีเหล้าของจ้าวหวู่หมิง ไม่แน่ฉันอาจจะตายไปตั้งนานแล้ว เหอเหอ…….หนึ่งชีวิตแลกกับการสืบทอด จ้าวหวู่หมิงนายนี่มันฉลาดใช้ได้"
ยิ่งพูดหนิวเกิงซึงก็ยิ่งยกเหล้าขึ้นมาดื่มเร็วขึ้น
หลังจากที่จ้าวเสี่ยวกังกลับมาถึงบ้านเขายังไม่นอนทันที เพราะก่อนหน้านี้เขาอ่านเจอความรู้ทางด้านการฝังเข็มและการนวดในตำราหวงตี้เน่ยจง ยิ่งไปกว่านั้นมีความเป็นไปได้มากที่มันจะมีประโยชน์ต่ออาการบาดเจ็บของเขา
ถึงแม้ว่าตอนนี้บาดแผลของเขาเริ่มจะเป็นสะเก็ดแล้ว แต่ว่ายังมีแผลขนาดใหญ่อีกหลายแห่งที่ถูกเย็บในโรงพยาบาลยังไม่สมานกันดี เขาอดไม่ได้ที่อยากจะลองดูสักหน่อย
เขารีบเดินไปล้างเท้าให้สะอาดที่ลานบ้าน หลังจากนั้นปีนขึ้นที่นอนของตัวเอง แล้วทำการค้นหาจุดชีพจรที่อยู่ใต้เท้าแล้วลงมือนวดทันที
หลังจากที่นวดไปได้สักพักครั้ง จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกสบายไปหมดทั้งตัวทันที ความรู้สึกแบบนี้มันทำให้เขาเคลิ้มจนเกือบจะเผลอหลับ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดจ้าวเสี่ยวกัวก็เผลอหลับ สิ่งที่จ้าวเสี่ยวกังไม่รู้คือเขาบังเอิญไปกดโดนจุดชีพจรตรงจุดพอดี ทำให้ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิต ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีมากขึ้น และถึงขั้นยังช่วยกระตุ้นศักยภาพทางร่างกายของเขาส่วนหนึ่งอย่างเงียบๆด้วย ถึงแม้ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในตอนที่เขากำลังนอนหลับ แต่มันก็ยังเป็นประโยชน์ต่อตัวของจ้าวเสี่ยวกังเป็นอย่างมาก
รุ่งเช้าของวันที่สอง จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกว่าเขาได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวในห้อง กลิ่นแบบนี้มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขยะแขยงจนอยากอ้วก
ทันทีที่เขาเดินออกมาจากบ้านสังเกตเห็นจ้าวโหย่วเทียนทันที จ้าวโหย่วเทียนก็ได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวลอยมาเช่นกัน เขาขมวดคิ้วแล้วมองไปทางจ้าวเสี่ยวกังทันที
"ไอ้ตัวเหม็น เมื่อคืนนายเยี่ยวใส่ที่นอนหรือว่าไปทำอะไรมาอีก? ทำไมถึงเหม็นขนาดนี้?"
จ้าวเสี่ยวกังยกมือขึ้นมาเกาคอของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นมีคราบที่เหนียวลื่นเหมือนกับน้ำมันปรากฏขึ้นบนคอของจ้าวเสี่ยวกัง ส่วนใต้คราบเป็นผิวที่ขาวซีดของเขา ทันทีที่สังเกตเห็นภาพนี้จ้าวโหย่วเทียนถึงกับตกตะลึง แต่ว่าจ้าวเสี่ยวกังกลับไม่รู้อะไรเลยสักนิด "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อคืนผมไปดื่มซุปปลาที่บ้านของปู่หนิว แล้วก็มีสมุนไพรที่เขาใส่เพิ่มเข้าไป หลังจากที่ผ่านไปคืนเดียวก็เป็นแบบนี้แล้ว"
"พ่อ พ่อว่าผมถูกผิดใช่หรือเปล่า? บางทีอาจจะเป็นเพราะยาสมุนไพรของปู่หนิวไม่ดี ก็เลยทำให้ตัวผมเหม็นแบบนี้?"
หลังจากที่จ้าวโหย่วเทียนได้ยินคำพูดประโยคนี้ เขารู้สึกโกรธจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
"ไอ้ตัวเหม็น ได้กำไรขนาดนี้แล้วยังจะบอกว่าขาดทุน รีบไปอาบน้ำที่ริมน้ำเดี๋ยวนี้เลย ที่บ้านล้างไม่สะอาดแน่นอน"
หลังจากที่พูดจบ จ้าวโหย่วเทียนพูดพึมพำกับตัวเอง "เป็นเด็กที่ทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้เลย ทำให้ฉันต้องเสียเหล้าดีอีกหนึ่งไหแล้ว"
จ้าวโหย่วเทียนไม่รู้ว่าทำไมพ่อของตัวเองถึงพูดแบบนี้ แต่ความรู้สึกที่เหนียวบนร่างกายของเขาทำให้รู้สึกอึดอัดมาก สิ่งแรกที่เขาคิดได้คือน่าจะเป็นเพราะแผลของเขากลายเป็นหนอง
เขารีบวิ่งไปที่แม่น้ำสายที่อยู่บนภูเขาทันทีโดยไม่สนใจที่จะรับซื้อเห็ดสน
เมื่อเห็นจ้าวเสี่ยวกังไปแล้ว จ้าวโหย่วเทียนจึงเดินเข้าไปในบ้าน หลังจากนั้นปิดประตู แล้วมุดเข้าไปใต้เตียง
ใต้เตียงของเขามีฝาเปิดปิดที่ทำจากคอนกรีต หลายปีมานี้นอกจากภรรยาของเขาแล้วก็ไม่มีใครรู้อีกเลย จ้าวโหย่วเทียนออกแรงยกฝาที่ทำจากคอนกรีตจนเปิดออก หลังจากนั้นเขามุดลงไปด้านในพร้อมกับไฟฉาย
ใต้ฝาเป็นห้องใต้ดินที่จ้าวโหย่วเทียนขุดไว้เมื่อนานมาแล้วเพื่อเป็นที่เก็บเหล้า ยิ่งไปกว่านั้นจุดศูนย์กลางของห้องเก็บเหล้าอยู่ที่ใต้ต้นไม้หน้าบ้านต้นนั้น เขาทำแบบนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาจากคนอื่น และในขณะเดียวกันก็เพื่อทำให้ประสิทธิภาพในการเก็บเหล้าได้ดียิ่งขึ้น
ภายในห้องเก็บเหล้าเต็มไปด้วยไหเยอะแยะมากมาย จ้าวโหยวเทียนเดินไปจนถึงตำแหน่งของรากต้นไม้ ตรงนั้นมีเชือดสีแดงโผ่ลออกมาจากกำแพงดิน หลังจากที่แกะเชือกสีแดงออก จ้าวโหย่วเทียนเริ่มลงมือขุดทันที ไม่นานเขาก็ขูดเจอไหเหล้าที่มีรูปของหัวลิงแกะสลักอยู่ด้านบน
เมื่อเห็นว่าขี้ผึ้งที่ปิดผนึกอยู่ด้านบนไม่ได้รับความเสียหาย จ้าวโหย่วเทียนถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกปวดใจมาก แต่เมื่อนึกถึงภาพที่อยู่บนร่างกายของจ้าวเสี่ยวกัง เขารู้สึกว่ามันคุ้มค่า
หลังจากนั้นจึงออกมาพร้อมกับเหล้าไหนั้น
MANGA DISCUSSION