หลังจากที่ได้ยินเสียงครางที่ร้องอย่างมีความสุขของซุนหรานหราน จ้าวเสี่ยวกังที่ยืนอยู่หน้าประตูก็เริ่มมีปฏิกิริยาบ้างแล้ว ส่วนหลิวต้าจ้วงก็เอาแต่มุ่งมั่นที่จะทำเรื่องของตัวเองต่อไปโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง
ซุนหรานหรานคิดไม่ถึงว่าหลิวต้าจ้วงจะทำแบบนี้ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงเล็กน้อย "ที่รัก มันสกปรก"
"แหะแหะ ใครใช้ให้ผมรักคุณ ที่รัก คุณต้องจำเรื่องที่คุณตอบลงผมในวันนี้เอาไว้ ห้ามเสียใจทีหลังนะ"
ในขณะที่หลิวต้าจ้วงกำลังพูด ในแววตาของเขาเผยให้เห็นความตื่นเต้นที่ไม่มีวันสิ้นสุด เขาคิดไม่ถึงว่าซุนหรานหรานจะตอบตกลง เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยคุยกับซุนหรานหรานหลายครั้งแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนเวลาที่พูดถึงเรื่องนี้ ก็เอาแต่พิจารณาเรื่องที่จะยืมเชื้อของใครมาดี
แต่หลังจากที่เขาเริ่มไปมาหาสู่กับจ้าวเสี่ยวกัง เขาพบว่าบนตัวของจ้าวเสี่ยวกังมีข้อดีมากมาย โดยเฉพาะเขาสามารถมั่นใจได้ว่าจ้าวเสี่ยวกังเป็นคนที่เชื่อถือได้ ขอเพียงแค่เป็นเรื่องที่ตอบตกลงไว้แล้วเขาจะไม่มีทางพูดออกไปอย่างแน่นอน นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่เขารู้สึกไว้ใจจ้าวเสี่ยวกัง
ซุนหรานหรานมองดูท่าทางที่มีความสุขของหลิวต้าจ้วง เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ ความรู้สึกสบายตัวก่อนหน้านี้ก็หายไปด้วย
"ใช่ฉันตอบตกลงแล้ว แต่ก็ใช่ว่าเสี่ยวกังเขาจะเห็นด้วย เรื่องนี้ฉันคงไปคุยกับเสี่ยวกังไม่ได้หรอก"
หลังจากที่พูดจบ ซุนหรานหรานลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้าแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน
ส่วนหลิวต้าจ้วงก็เดินตามเข้าไปในบ้านพร้อมกับรอยยิ้ม
จ้าวเสี่ยวกังที่ยืนอยู่หน้าประตูกับรู้สึกอึ้งเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่าตอนที่หลิวต้าจ้วงกำลังทำอะไรแบบนั้นกับซุนหรานหรานยังจะคิดถึงเรื่องยืมเชื้อจากคนอื่นอีก รออยู่ด้านนอกประมาณสิบกว่านาที จ้าวเสี่ยวกังสังเกตเห็นหลี่กุ้ยเฟินกลับมาถึงบ้านแล้ว เขาจึงรีบเคาะประตูบ้านของหลิวต้าจ้วงทันที
"พี่ต้าจ้วง พี่สาว พวกคุณอยู่บ้านหรือเปล่า?"
ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาอยู่บ้าน แต่เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องที่จะทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วน จ้าวเสี่ยวกังจึงตัดสินใจเคาะประตูก่อนน่าจะดีกว่า
หลังจากที่ได้ยินเสียงของจ้าวเสี่ยวกัง ซุนหรานหรานและหลิวต้าจ้วงที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วถึงกับรู้สึกอึ้ง แต่หลังจากนั้นหลิวต้าจ้วงก็รีบวิ่งไปเปิดประตูให้กับจ้าวเสี่ยวกังด้วยรอยยิ้มทันที
"พี่ต้าจ้วง ผมมาเอาเกี๊ยวน้ำมาให้พวกพี่ แม่ของผมเพิ่งจะทำเมื่อกี้เอง อร่อยมากเลยด้วย"
"เสี่ยวกัง ต้องรบกวนนายมากแล้ว รีบเข้ามาในบ้านก่อนเดี๋ยวฉันจะชงชาให้"
หลิวต้าจ้วงพูดพร้อมกับดึงแขนของจ้าวเสี่ยวกังเดินเข้าไปในลานหน้าบ้าน
ซุนหรานหรานก็ได้ยินบทสนทนาของหลิวต้าจ้วงและจ้าวเสี่ยวกังเช่นกัน มองดูจ้าวเสี่ยวกังที่ถือเกี๊ยวน้ำไว้หน้าเป้ากางเกงของเขา ซุนหรานหรานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึ่ง และไม่นานเธอก็สังเกตเห็นตรงนั้นของจ้าวเสี่ยวกังเกิดปฏิกิริยา ถึงแม้จะไม่ชัดเจน แต่แค่นั้นมันก็เพียงพอที่จะยืนยันอย่างชัดเจนแล้ว
"แหมแหมแหม……..เสี่ยวกัง ป้าก็ไม่ได้ห่อเยอะอะไรขนาดนั้น นายทำแบบนี้ทำให้ฉันและต้าจ้วงไม่รู้ควรจะพูดอะไรดีแล้ว"
ซุนหรานหรานสวมเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ ส่วนด้านล่างยังคงเป็นกางเกงผ้าฝ้ายที่สั้นมาก ส่วนเท้าของเธอใส่รองเท้าแตะธรรมดาทั่วไป
ทันทีที่เดินออกมา ซุนหรานหรานเดินเข้าไปรับเกี๊ยวน้ำไปวางไว้ในบ้านทันที
ส่วนหลิวต้าจ้วงให้จ้าวเสี่ยวกังนั่งอยู่ในลานหน้าบ้าน ภายในบ้านร้อนมากเกินไป ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้นั่งอยู่ในลานหน้าบ้านจะรู้สึกเย็นกว่าในบ้าน
หลิวต้าจ้วงไปยกโต๊ะและเก้าอี้ออกมา ส่วนจ้าวเสี่ยวกังก็นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเชื่อฟัง
ไม่นานซุนหรานหรานก็เดินออกมาพร้อมกับถ้วยเปล่า
"เสี่ยวกัง แผลบนตัวนายเป็นยังไงบ้างแล้ว?"
ในขณะที่กำลังพูด ซุนหรานหรานแอบจ้องไปที่เป้ากางเกงของจ้าวเสี่ยวกังไม่หยุด ถึงแม้เมื่อกี้หลิวต้าจ้วงจะทำให้เธอรู้สึกสบายตัว แต่มันก็ยังขาดความรู้สึกของจุดสุดยอด เพราะตอนที่อยู่กับจ้าวเสี่ยวกังมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จ้าวเสี่ยวกังถึงขั้นสามารถทำให้เธอเกิดความรู้สึกที่เหมือนกับตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ วิธีการทำก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ยิ่งได้เจอกับจ้าวเสี่ยวกัง จิตใจที่สงบนิ่งลงไปแล้วของซุนหรานหรานเริ่มเกิดความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงขึ้นมาอีกครั้งทันที
มองดูสายตาที่ที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนแต่แฝงไปด้วยความเป็นหว่งของซุนหรานหราน จ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึ้ง หลังจากนั้นเขาหัวเราะแล้วพูด "พี่หรานหราน เกือบจะหายดีหมดแล้ว ก็คงต้องรออีกอีกประมาณสองสามวัน ยังไงครั้งนี้ถือว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ใช่น้อย"
หลังจากที่ได้ยินจ้าวเสี่ยวกังบอกว่าอีกสองสามวันก็จะหาย ภายในใจของซุนหรานหรานรู้สึกโล่งอกและในขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่สามารถทำให้วิญญาณของเธอล่องลอยได้ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายธรรมดาทั่วไปจะมอบให้กับเธอได้ ยิ่งไปกว่านั้นความรู้สึกแบบนั้นมันเหมือนกับมีมนต์สะกด ทำให้รู้สึกจะหลงใหลอดไม่ได้ที่จะไปคิดถึงมัน
"เออเออเออ……..งั้นก็ดีแล้ว รอให้นายหายดีแล้ว ฉันจะทำของอร่อยๆให้หน่อยกิน รับรองว่าให้นายกินจนพอใจแน่นอน"
จ้าวเสี่ยวกังมองดูซุนหรานหรานที่กำลังพูดตั้งใจเชิดหน้าอกให้สูงขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึ้ง แต่หลังจากนั้นเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าของอร่อยที่ซุนหรานหรานพูดถึงมันคืออะไร
มองดูท่าทางที่เย้ายวนและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของซุนหรานหราน จ้าวเสี่ยวกังแทบอยากจะโดดขึ้นไปขี่ลงบนตัวของอีกฝ่ายทันที ถ้าหากไม่ได้เห็นว่าบนร่างกายยังมีบาดแผลและหลิวต้าจ้วง อย่างน้อยเขาก็ต้องทำให้มือของตัวเองได้รับความสุข
"แหะแหะ ผมจำคำพูดของพี่เอาไว้แล้วนะ ถึงเวลานั้นผมจะทำให้พี่รู้ว่าเรื่องบางเรื่องไม่ควรให้คำสัญญาส่งเดช"
หลังจากที่พูดจบ หลิวต้าจ้วงได้เดินออกมาพร้อมกับกาน้ำชาพอดี
ซุนหรานหรานสังเกตเห็นหลิวต้าจ้วงเดินออกมา เธอเหลือบเป้ากางเกงของจ้าวเสี่ยวกังที่กำลังจะตื่นจากการหลับใหลก่อน หลังจากนั้นเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างยิ้มแย้ม
มองดูซุนหรานหรานที่ตั้งใจส่ายสะโพก โดยเฉพาะกางเกงรัดรูปผ้าฝ้ายที่ถูกดึงให้สูงขึ้นของซุนหรานหราน เวลาที่เธอเดินส่ายสะโพกทำให้มองเห็นส่วนโค้งว้าวของเธอได้อย่างชัดเจน
"เสี่ยวกัง ดื่มชาก่อน อีกเดียวฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษากับนายหน่อย"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ภายในใจของจ้าวเสี่ยวกังก็คิดเอาไว้แล้ว เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าหลิวต้าจ้วงจะใจร้อนขนาดนี้
"พี่ต้าจ้วง ถ้าเป็นเรื่องที่ดีอะไรผมก็ตอบตกลงได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้ผมต้องลำบากใจผมไม่แน่ว่าจะตอบตกลงนะ คุณก็รู้ ตอนนี้ผมอยากจะหาเงินเพื่อแต่งงาน เรื่องที่สามารถทำกำไรได้ผมตอบตกลงทุกอย่าง แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำกำไรได้ก็ไม่ต้องมาหาผม"
"แหะแหะ นายน่าจะรู้อะไรบ้างแล้วใช่หรือเปล่า?"
หลิวต้าจ้วงพูดพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทันใดนั้นจ้าวเสี่ยวกังรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกระโดดเข้าไปในกับดักของอีกฝ่าย
"พี่ต้าจ้วง พี่ไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว มีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะ อีกเดี๋ยวผมยังต้องเอาเกี๊ยวน้ำไปส่งให้กับพี่ชุ่ยฮวา ไม่อย่างนั้นแม่ของผมคงจะบ่นผมตายแน่"
"แหะแหะ ได้ยินมาว่าวันนี้มีเถ้าแก่หลายคนมหานาย นายกำลังเตรียมตัวจะทำอย่างอื่นใช่หรือเปล่า?"
เดิมทีจ้าวเสี่ยวกังคิดว่าหลิวต้าจ้วงจะพูดเรื่องของซุนหรานหรานกับเขา แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องนี้ ภายในใจของเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งอก
"อืม เห็นสนไม่ได้เป็นการซื้อขายระยะยาว หลังจากที่ผ่านช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็ไม่มีเห็ดสนให้เก็บอีกแล้ว จะให้ผมทำไร่ทำนาอย่างเดียวก็ไม่ได้มั้ง? ทำไร่ทำนาก็ต้องรอให้ถึงปีถัดไปถึงจะมีผลผลิต แบบนี้มันนานเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นผมก็เคยพูดเรื่องที่เกี่ยวกับพี่ชายของผมแล้ว ไม่มีเงิน พวกเราก็ไม่สามารถไปสู้กับคนอื่นได้"
คำพูดที่จริงจังของจ้าวเสี่ยวกังทำให้หลิวต้าจ้วงรู้สึกอึ้ง เรื่องที่อยากจะพูดก่อนหน้านี้ก็ทำให้เขาต้องกลืนมันกลับเข้าไปอีกครั้ง
"เสี่ยวกัง ฉันก็อยากจะทำเหมือนกับนาย นายว่าได้หรือเปล่า? ต้องการแรงงานฉันก็มีแรง ขอเพียงแค่เป็นเรื่องในไร่ในนาฉันทำได้ทุกอย่าง ส่วนเรื่องอื่นฉันสามารถเรียนรู้จักนายทีหลัง ว่ายังไง?"
MANGA DISCUSSION