"โอ๊ย ร่างกายของนายยังมีบาดแผล รีบปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ ปล่อยฉันลง"
ซ่งยวี่ชิงรู้สึกเขินอายจนใช้กำปั้นของเธอทุบลงบนไหล่กว้างของจ้าวเสี่ยวกังอย่างเบามือ เธอรู้สึกชอบความรู้สึกแบบนี้มาก แต่เธอรู้ดี ความรู้สึกแบบนี้อีกไม่นานคงจะต้องหายไปจากชีวิตของเธอแล้ว
จ้าวเสี่ยวกังมองดูท่าทางที่เขินอายจนดูน่ารักของซ่งยวี่ชิง ตอนที่วางซ่งยวี่ชิงลง เขาอดไม่ได้ที่จะจูบลงริมฝีปากที่อวบอิ่มและแดงของซ่งยวี่ชิง
ในตอนที่จ้าวเสี่ยวกังขยับตัวออก เขามองเห็นลิ้นที่อ่อนนุ่มและมีกลิ่นหอมของซ่งยวี่ชิงกำลังจะยื่นออกมา แต่เธอก็หดมันกลับเข้าไปอย่างรวดเร็วด้วยความเขินอาย
ซ่งยวี่ชิงก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจ้าวเสี่ยวกังจะเพียงแค่ประทับริมฝีปากลงไป เดิมทีเธอคิดว่าจ้าวเสี่ยวกังจะจูบเธออย่างเร่าร้อน แต่ที่ไหนได้เพียงแค่จูบริมฝีปากของเธอเท่านั้น
ซึ่งมันทำให้ซ่งยวี่ชิงรู้สึกอายและเขินมาก เธอแทบอยากจะหารูที่ไหนสักแห่งแล้วมุดลงดินลงไปเลย
จ้าวเสี่ยวกังก็ย่อมสังเกตเห็นท่าทางที่เขินอายของซ่งยวี่ชิงได้อย่างชัดเจน มองดูท่าทางของซ่งยวี่ชิงที่รู้สึกเขินอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น จ้าวเสี่ยวกังเสยคางที่ขาวเรียวของเธอขึ้นมาอย่างเบามือโดยตรง มองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง แล้วหลับตาลงอย่างใจเย็น หลังจากนั้นเริ่มทำการจูบเธออีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การจูบอย่างผิวเผิน แต่เป็นการจูบที่เร่าร้อนมาก
ซ่งยวี่ชิงมองดูท่าทางที่ลึกซึ้งของจ้าวเสี่ยวกัง มองดูขนตาที่คมเข้มและตาปิดสนิทของจ้าวเสี่ยวกัง เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความอบอุ่นจนอดไม่ได้ที่จะหลับตาลง ค่อยๆอ้าปากขึ้นแล้วปล่อยให้ลิ้นของจ้าวเสี่ยวกังตวาดไปทั่ว
กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากร่างกาย ความอบอุ่นของลิ้นที่สัมผัสกัน ชั่วขณะทำให้ทั้งสองคนกอดกันแน่นจนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน จ้าวเสี่ยวกังถอนตัวออกมาจากซ่งยวี่ชิงด้วยความอาลัยอาวรณ์ ซ่งยวี่ชิงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แข็งเหมือนเหล็กกล้าของจ้าวเสี่ยวกัง เธอก้มหน้าลงแอบมองด้วยความเขินอายเล็กน้อย
จ้าวเสี่ยวกังเริ่มหอบหายใจหนักมากขึ้น เขาจับมือของซ่งยวี่ชิงขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่พุ่งพล่านแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ "พี่สะใภ้ ผมอยาก………"
พูดยังไม่ทันจบ โทรศัพท์ของจ้าวเสี่ยวกังดังขึ้นอย่างกะทันหัน
ทันทีที่ได้ยินเสียงของโทรศัพท์ จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกโมโหขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่าถ้าตอนนี้เขาเอ่ยปากขอกับซ่งยวี่ชิง เธอไม่มีทางปฏิเสธตัวเองอย่างแน่นอน
ซ่งยวี่ชิงก็มองจ้าวเสี่ยวกังด้วยความคาดหวังและรอฟังคำพูดที่เหลือเช่นกัน ความผูกพันที่ลึกซึ้งมากขนาดนี้ย่อมทำให้เธอรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร
แต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันของจ้าวเสี่ยวกังทำให้เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่ามาลองคิดดู ตอนนี้บนร่างกายของจ้าวเสี่ยวกังยังมีบาดแผล ซ่งยวี่ชิงก็ปล่อยวางมันไปได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามตอนนี้จ้าวเสี่ยวกังยังมีอาการบาดเจ็บ ถ้าหากเธอและจ้าวเสี่ยวกังมีอะไรกันขึ้นมาจริง จะต้องสร้างผลกระทบที่ร้ายแรงต่อร่างกายของจ้าวเสี่ยวกังอย่างแน่นอน และนี่ก็เป็นสิ่งที่เธอไม่หวังว่าจะได้เห็นเช่นกัน
จ้าวเสี่ยวกังหยิบโทรศัพท์ออกมา มองดูเบอร์ที่โทรเข้ามาก็รู้ได้ในทันทีว่าหวังฟาฟาน่าจะกลับมาแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่โทรมาอย่างแน่นอน
"ฮัลโหล พี่กัง ผมกลับมาถึงหน้าหมู่บ้านแล้ว หลังจากที่ขนไก่พื้นเมืองลงหมดแล้วผมจะไปหาพี่เดี๋ยวนี้เลย"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหวังฟาฟา จ้าวเสี่ยวกังเกิดความรู้สึกที่อยากจะกระทืบเขาให้ตายขึ้นมาทันที เพิ่งจะมาถึงหน้าหมู่บ้านก็โทรหาเขาแบบนี้คงจะไม่มีใครทำอีกแล้ว แค่โทรศัพท์สายเดียวมันทำลายแผนการที่เขาคอยเฝ้ารอมานานมาก
"อืม ไม่ต้องรีบ ระวังด้วยก็พอ"
หลังจากที่พูดจบ จ้าวเสี่ยวกังกดวางสายไปโดยตรง หลังจากนั้นมองซ่งยวี่ชิงด้วยความอ่อนโยน
"พี่สะใภ้ ผมจะใช้เวลาระหว่างนี้สอนคุณใช้โทรศัพท์ก็แล้วกัน อีกเดียวผมต้องไปขนเห็ดสนกับหวังฟาฟา"
"เสี่ยวกัง นายไปทำงานของนายเถอะ ยังมีเวลาอีกเยอะ หรือไม่คืนพรุ่งนี้นายมาสอนฉันก็ได้"
หลังจากที่พูดจบ สีหน้าของซ่งยวี่ชิงเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนกับลูกแอปเปิ้ลทันที
แต่คำพูดของเธอมันกลับทำให้จ้าวเสี่ยวกังเข้าใจไปอีกแบบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังบอกเป็นนัย ให้เขามาทำความรู้จักกันอย่างลึกซึ้งในคืนพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้นก็เป็นเรื่องที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดไม่ใช่เหรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จ้าวเสี่ยวกังยิ้มแล้วพูดขึ้นทันที "แหะแหะ พี่สะใภ้ เอาแบบนั้นก็ได้ คุณกินข้าวไปก่อนเลย ผมจะกลับไปขนเห็ดสนแล้ว ไว้พรุ่งนี้ผมจะมาบอกกับคุณว่าผมจะให้คุณช่วยทำอะไร"
"อืม ระหว่างทางก็ระวังดี แผลบนตัวของนายยังไม่หายดี ไม่ต้องทำให้ตัวเองเหนื่อยมากเกินไป พี่สะใภ้…….พี่สะใภ้……..เป็นคนเลี้ยงง่าย"
หลังจากที่พูดจบ ซ่งยวี่ชิงรู้สึกเขินอายจนรีบก้มหน้าลง มองดูท่าทางเขินอายที่น่ารักของซ่งยวี่ชิง จ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่จะจบลงบนหัวของเธอ หลังจากนั้นยิ้มแล้วพูด "พี่สะใภ้ ถึงแม้คุณจะพูดแบบนี้ แต่ผมจะพยายามทำสุดความสามารถของผมเพื่อให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแน่นอน การรักใครคนหนึ่งก็ควรจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับอีกฝ่าย ถึงแม้ทั้งๆที่รู้ว่ามันยากมาก แต่ใครใช้ให้ผมรักล่ะ? ในเมื่อรักแล้ว ถึงจะเป็นเรื่องที่ยากมากแค่ไหนมันก็คือความสุขของการได้รัก เพราะผมรู้ว่าข้างหลังของผมยังมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรัก และเธอก็รักผม"
หลังจากที่พูดจบ จ้าวเสี่ยวกังหันหลังแล้วเดินจากไปทันที
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกัง ซ่งยวี่ชิงมองดูแผ่นของจ้าวเสี่ยวกังที่เดินจากไปด้วยอาการที่เหม่อลอยเล็กหน่อย
คำพูดแบบนี้ที่ดังเข้ามาในหูของซ่งยวี่ชิง มันทำให้เธอรู้สึกสบายใจยิ่งกว่าคำสาบานของจ้าวเสี่ยวกัง ในขณะเดียวกันเธอก็รู้ว่าจ้าวเสี่ยวกังรักเธอด้วยความจริงใจ
มองดูบานประตูที่ปิดลงอย่างเชื่องช้า ซ่งยวี่ชิงพูดขึ้นด้วยความเหม่อลอย "เสี่ยวกัง ในเมื่อนายรักฉันมากขนาดนี้ แล้วฉันจะทำให้นายผิดหวังได้ยังไง"
หลังจากที่พูดจบ ซ่งยวี่ชิงเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วหยิบจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาอ่านอีกครั้ง เพราะด้านบนจดหมายมีช่องทางการติดต่อ รวมไปถึงเบอร์โทรศัพท์ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่คำพูดของจ้าวเสี่ยวกังทำให้เธอรู้สึกว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
หลังจากที่จ้าวเสี่ยวกังกลับมาถึงบ้าน เขาพบว่าสามสาวยังไม่ได้กลับบ้าน แต่กำลังช่วบแม่ของตัวเองห่อเกี๊ยวอย่างมีความสุข
ทุกคนต่างบอกว่าผู้หญิงสามคนอยู่ด้วยกันมีแค่ในละคร ผู้หญิงทั้งสี่ล้อมรอบโต๊ะอยู่ภายในสวนหน้าบ้าน
โดยเฉพาะแม่ของจ้าวเสี่ยวกัง หลังจากที่โดนทั้งสามสาวพูดชม ถึงกับพูดอะไรไม่ออกทันที
ซุนหรานหรานและหลี่กุ้ยเฟินบ้านเพื่อนบ้านกัน ไปมาหาสู่กันเป็นเรื่องปกติ มีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันอยู่แล้ว เวลาพูดอะไรก็ไม่มีความลังเลหรือประหม่า
ถึงแม่เรื่องบางเรื่องเธอจะรู้นานแล้ว แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะสังสัยว่ามันเป็นพรที่ได้มาตั้งแต่เกิดหรือการพัฒนาการของจ้าวเสี่ยวกังกันแน่
"คุณป้า ในหมู่บ้านของเราลือกันว่าด้านนั้นของเสี่ยวกังร้ายกาจมาก มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? เป็นแบบนั้นตั้งแต่เด็กเลยเหรอ?"
หลังจากที่ยินหลี่กุ้ยเฟินรู้สึกอึ้งก่อน หลังจากมองหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของซุนหรานหราน เธอยิ้มแล้วพูด "ทำไม? ถ้าป้าบอกเธอไปแล้ว เธอจะช่วยแนะนำลูกสะใภ้ให้เหรอ?"
"ฮิฮิ……..ถ้าป้ายอมบอกฉัน ฉันรับรองว่าจะช่วยแนะนำสาวให้กับเสี่ยวกังแน่นอน ที่สำคัญเป็นสาวที่สวยที่สุดในหมู่บ้านของเราด้วย เป็นยังไง?"
"ป้าจริงจังกับคำพูดของเธอนะ เธออย่าหลอกป้าล่ะ"
หลี่ชุ่ยฮวาเห็นมีเรื่องสนุกแบบนี้ เธอก็ยิ้มแล้วพูดเช่นกัน "ป้าก็พูดมาเถอะ หรานหรานแนะนำให้ไม่ได้ ฉันจะเป็นคนแนะนำให้เอง รับรองว่าป้าจะต้องพอใจแน่นอน"
เมื่อมีหลี่ชุ่ยฮวามีร่วมด้วยอีกคน ทำให้หลี่กุ้ยเฟินรุ้สึกอารมณ์ดีมาก
"ได้ได้ได้ ป้าจะบอกให้ ที่คนในหมู่บ้านลือเป็นเรื่องจริง ตอนที่เสี่ยวกังเกิดมาไม่เหมือนกับต้าเป่า เวลาคลอดลูกเด็กคนอื่นเขาออกมาเป็นนอนหงาย แต่เสี่ยวกังกลับออกมาในท่าคลาน ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่คลอดออกมา ตรงนั้นก็ดูใหญ่กว่าของเด็กคนอื่นไปมากเเล้ว………."
MANGA DISCUSSION