"เออเออเออ……..ได้ได้ได้ ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยตอบตกลงนายแล้วไม่ใช่เหรอ?"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ มองดูรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของซ่งยวี่ชิง บนใบหน้าของจ้าวเสี่ยวกังเต็มไปด้วยความดีใจทันที
"พี่สะใภ้ ถ้างั้นก็เท่ากับว่าถ้าผมอยากจะขอแต่งงานกับคุณตอนนี้เลย แสดงว่าคุณก็จะตอบตกลงใช่หรือเปล่า?"
จ้าวเสี่ยวกังรอคำตอบจากซ่งยวี่ชิงด้วยความคาดหวังและประหม่าเล็กน้อย
ซ่งยวี่ชิงก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจ้าวเสี่ยวกังจะรีบร้อนแบบนี้ แต่ว่าเธอรู้สึกได้ถึงความรักของจ้าวเสี่ยวกัง และสัมผัสได้ถึงความจริงใจที่จ้าวเสี่ยวกังอยากจะแต่งงานกับเธอ
"อืม ขอแค่พ่อกับแม่ยอมรับ ฉันไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองยังไง เพียงแต่ในต้องทำใจยอมรับคำนินทาลับหลังของพวกชาวบ้านเอาไว้ก่อน"
"แหะแหะ ไม่ต้องห่วง ขอแค่พี่สะใภ้ตอบตกลง ถึงแม้จะเป็นเซียนเทวดาที่ไหนก็ไม่สามารถขวางไม่ให้พวกเราอยู่ด้วยกันได้หรอก"
หลังจากที่พูดจบ จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกตื่นเต้นจนทนไม่ไหวเข้าไปหอมแก้มของซ่งยวี่ชิง
ซ่งยวี่ชิงที่โดนจ้าวเสี่ยวกังหอมแก้มถึงกับตกตะลึง หลังจากนั้นใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
"นายก็รู้อยู่แล้วว่าฉันคิดยังไง ต่อไปไม่ต้องถามเรื่องพวกนี้อีกแล้ว ถ้าหากตอนนี้ในมีความคิดแบบนั้น ฉัน………ก็ให้นายได้"
หลังจากที่โดนจ้าวเสี่ยวกังหอมแก้ม ซ่งยวี่ชิงก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงพูดแบบนี้ออกไป
จ้าวเสี่ยวกังได้ยินคำพูดประโยคนี้ ร่างกายของเขาถึงกับสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้นทันที
เขาย่อมเข้าใจความหมายของซ่งยวี่ชิงคืออะไร นั่นเป็นถึงเรื่องที่เขาใฝ่ฝันมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้โดนคนอื่นมาขัดจังหวะครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ตอนนี้ไม่มีใครที่จะสามารถมาขัดจังหวะได้อีกแล้ว โอกาสแบบนี้เขาจะยอมปล่อยให้มันผ่านไปได้ยังไง
ถึงแม้ว่าหนิวเกิงซึงจะมาบอกกับเขาด้วยตัวเองว่าแบบนี้มันจะทำร้ายร่างกายของเขาเอง เขารู้สึกว่าขอเพียงแค่ได้อยู่กับพี่สะใภ้ ถึงแม้ต้องทำร้ายร่างกายตัวเองมันก็คุ้มค่า
"พี่สะใภ้ คุณแน่ใจนะว่าไม่ได้โกหก?"
จ้าวเสี่ยวกังรีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าของซ่งยวี่ชิง เขารู้สึกตื่นเต้นจนน้ำเสียงเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย
"อืม ฉันไม่ได้โกหกนาย"
ซ่งยวี่ชิงพยักหน้าแล้วมองดูนิ้วมือที่กำลังสั่นเทาเพราะความตื่นเต้นของจ้าวเสี่ยวกัง ภายในใจของเธอก็รู้สึกประหม่าไม่น้อยเช่นกัน เธอรู้ดีว่าไอ้นั่นของจ้าวเสี่ยวกังมันใหญ่แค่ไหน เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสามารถทนรับไหวหรือเปล่า หลังจากที่จ้าวต้าเป่าจากไป เธอก็ไม่เคยทำอะไรกับผู้ชายคนอื่นมาก่อนเลย
จ้าวเสี่ยวกังได้ยินคำยืนยันของซ่งยวี่ชิง เขารีบอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเตรียมตัวเดินเข้าไปในบ้านโดยตรงทันที
เพียงแต่ทันทีที่อุ้มซ่งยวี่ชิงขึ้นมา เขาต้องขมวดคิ้วทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของการฉีกขาดถูกส่งตรงมาจากหน้าอกและแผ่นหลัง
ซ่งยวี่ชิงก็ยอมสังเกตเห็นจ้าวเสี่ยวกังที่ขมวดคิ้วเพราะความเจ็บปวด เธอถามออกมาด้วยความเป็นห่วง "เสี่ยวกัง นายเป็นอะไร?"
"แหะแหะ ไม่มีอะไร พี่สะใภ้ ยังไงวันนี้ผมก็จะไม่พลาดโอกาสนี้เด็ดขาด"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ซ่งยวี่ชิงรู้สึกเขินอายจนเอาหัวของเธอไปพิงกับหน้าอกของจ้าวเสี่ยวกัง และทันใดนั้นกลิ่นฉุนของสมุนไพรลอยมาเตะจมูกของเธอทันที
ซ่งยวี่ชิงรีบเงยหน้าขึ้นมองจ้าวเสี่ยวกังแล้วถามด้วยความเป็นห่วง "เสี่ยวกัง นายกำลังโกหกฉันอยู่ใช่หรือเปล่า? ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้"
หลังจากที่พูดจบ ซ่งยวี่ชิงเริ่มดิ้นหวังจะลงมาให้ได้
จ้าวเสี่ยวกังยังไม่เข้าใจว่าทำไมซ่งยวี่ชิงถึงจะลงอย่างกะทันหันแบบนี้ แต่เขาก็ยอมปล่อยซ่งยวี่ชิงลงแต่โดยดี เขารู้ดีว่าเรื่องบางเรื่องไม่ควรฝืนมากเกินไป ของที่ได้มาเพราะการฝืนไม่ตรงตามที่เขาต้องการ
"พี่สะใภ้ คุณเป็นอะไรเหรอ?"
"เสี่ยวกัง ถอดเสื้อของนายออก"
คำพูดของซ่งยวี่ชิงถึงกับทำให้จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกอึ้ง หลังจากนั้นบนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดีใจทันที เขาคิดไม่ถึงว่าซ่งยวี่ชิงคิดจะมีอะไรกับเขาที่สวนหน้าบ้าน………
แต่ทันทีที่เขาเตรียมถอดเสื้อออกกลับหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน เพราะเขานึกถึงบาดแผลที่อยู่บนร่างกายและรวมไปถึงผ้าพันแผลที่พันอยู่รอบตัว
"แหะแหะ พี่สะใภ้ ผมว่าช่างเถอะ หรือไม่พวกเราเข้าไปในบ้านเป็นยังไง?"
มองดูท่าทางของจ้าวเสี่ยวกัง ซ่งยวี่ชิงรู้ได้ในทันทีว่าจ้าวเสี่ยวกังต้องได้รับบาดเจ็บอีกแล้วอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กลัวแบบนี้
"นายเอามือออก ฉันขอดูหน่อย"
หลังจากที่พูดจบ ซ่งยวี่ชิงเลิกเสื้อยืดของจ้าวเสี่ยวกังขึ้นโดยตรง และบังเอิญสังเกตเห็นผ้าพันแผลที่พันอยู่บนตัวของจ้าวเสี่ยวกังทันที ยิ่งไปกว่านั้นบนหน้าอกของเขาเริ่มปรากฏให้เห็นคราบเลือดที่ยังไม่แห้ง
ทันทีที่เห็นภาพนี้ ซ่งยวี่ชิงก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นเพราะเมื่อกี้จ้าวเสี่ยวกังออกแรงอุ้มเธอขึ้นมาจึงทำให้บาดแผลบนร่างกายฉีกขาด ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ขมวดคิ้วทำสีหน้าที่เจ็บปวดแบบนั้นออกมา
"เสี่ยวกัง นายไปได้แผลพวกนี้มายังไง? ทำไมถึงไม่บอกฉัน? ทำไมถึงไม่พักผ่อนอยู่ที่บ้าน"
ในขณะที่ซ่งยวี่ชิงกำลังพูด เริ่มมีน้ำตานองที่เบ้าตาของเธอเต็มไปหมด เธอคิดไม่ถึงว่าจ้าวเสี่ยวกังที่ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้แต่ก็ยังจะเอาเห็ดสนมาให้เธอและยังคงจะดูแลเธอ และในขณะเดียวกันคำพูดของเธอทำให้จ้าวเสี่ยวกังอุ้มเธอขึ้นมาโดยยอมเสี่ยงกับบาดแผลที่อาจเกิดการฉีกขาดได้
"แหะแหะ พี่สะใภ้ ก็แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อยไม่มีอะไรหรอก อีกไม่กี่วันผมก็จะหายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นปู่หนิวเคยบอกแล้ว บาดแผลแค่นี้หายเร็วมาก มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก"
เดิมทีซ่งยวี่ชิงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง เมื่อเห็นผ้าพันแผลที่เปื้อนเลือดบนหน้าอกของจ้าวเสี่ยวกัง ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอกำลังคิดอยู่ในใจคือความเป็นห่วง
"ใครเป็นคนทำให้นายได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้? ใช่หวังป้าเทียนหรือเปล่า?"
คนแรกที่ซ่งยวี่ชิงคิดถึงคือหวังป้าเทียน ทันทีที่ตัดสินใจจะอยู่กับจ้าวเสี่ยวกัง เธอรู้ได้ในทันทีว่าถ้าหากหวังป้าเทียนรู้เรื่องนี้ อีกฝ่ายจะต้องไม่ยอมปล่อยจ้าวเสี่ยวกังไปอย่างแน่นอน
"พี่สะใภ้ คุณกำลังคิดอะไรของคุณอยู่? ไม่ใช่ แผลพวกนี้ผมได้มาเพราะไปมีเรื่องชกต่อยกับพวกคนในเมือง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหวังป้าเทียนสักหน่อย"
"จริงเหรอ?"
จ้าวเสี่ยวกังมองดูซ่งยวี่ชิงที่น้ำตาคลอเบ้าตา เขายื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้กับซ่งยวี่ชิงอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วพูดด้วยความปวดใจ "พี่สะใภ้ ผมจะไปโกหกพี่ได้ยังไง เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหวังป้าเทียนเลย ผมไม่ไปหาเรื่องเขาก็ถือว่าบุญแล้ว แผลพวกนี้เป็นเพราะตอนที่ผมไปซื้อโทรศัพท์ในเมือง………"
หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของจ้าวเสี่ยวกัง ซ่งยวี่ชิงถึงรู้สึกโล่งอก แน่นอนว่าจ้าวเสี่ยวกังไม่ได้เล่าเรื่องที่เขาเกือบเอาชีวิตของตัวเองไปทิ้ง เขาเพียงแค่เล่าเกี่ยวกับปัญหาที่มีเรื่องชกต่อยนิดหน่อย
"ต่อไปก็อย่าไปวู่วามขนาดนั้น เลิกยุ่งเรื่องของชาวบ้านให้มันน้อยลงหน่อย ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดเกิดอะไรขึ้นกับนาย ฉันรู้สึกว่าฉันก็ไม่อยากอยู่ต่อไปอีกแล้ว"
ตอนที่พูดคำพูดประโยคนี้ สีหน้าของซ่งยวี่ชิงจริงจังมากโดยไม่มีท่าทีที่จะล้อเล่นแม้แต่นิดเดียว
จ้าวเสี่ยวกังก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าซ่งยวี่ชิงจะพูดแบบนี้ออกมา เขาดึงซ่งยวี่ชิงมาไว้ในอ้อมกอดแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "พี่สะใภ้วางใจเถอะ โลกใบนี้นอกจากพี่สะใภ้ที่สั่งให้ผมไปตายได้ คนอื่นเอาชีวิตของผมไปไม่ได้หรอก ผมจะอยู่กับพี่สะใภ้ไปทั้งชีวิต"
สัมผัสได้ถึงมือของจ้าวเสี่ยวกังที่กอดตัวเองเอาไว้แน่น ซ่งยวี่ชิงก็เริ่มเอามือของเธอขึ้นไปคล้องบนเอวของจ้าวเสี่ยวกังอย่างเชื่องช้าเช่นกัน
"พอได้แล้ว เลิกพูดเรื่องที่มันไม่เป็นมงคลได้แล้ว ฉันรู้ความตั้งใจของนายและรู้จักนิสัยของนาย ต่อไปก็อย่าทำตัวหุนหันแบบนั้นก็พอ นายต้องจำเอาไว้ ฉันยัง……..ยัง………รอให้นายมาขอฉันแต่งงานอยู่นะ"
หลังจากที่พูดจบ ซ่งยวี่ชิงรีบเอาใบหน้าของเธอซบลงบนหน้าอกของจ้าวเสี่ยวกังด้วยความเขินอาย
หลังจากที่จ้าวเสี่ยวกังได้ยินคำพูดประโยคนี้ เขารู้สึกดีใจจนยกตัวของซ่งยวี่ชิงขึ้นมันหมุนรอบตัว ถึงแม้จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ส่งมาจากบาดแผล แต่เขาก็ยังรู้สึกดีใจมาก
MANGA DISCUSSION