เมื่อซึงซีได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกังแล้วก็มีความเซอร์ไพรส์เช่นกัน แต่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เธอเคยได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับจ้าวเสี่ยวกัง กลับรู้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ทุกการตัดสินใจของเขาล้วนแล้วมีแผนอยู่ในใจของตัวเอง
ถ้าหากเป็นหญิงสาวชนบททั่วไปจะต้องถูกเงินค่าแรงสองร้อยหยวนของจ้าวเสี่ยวกังทำให้หวั่นไหวแน่นอน ท้ายที่สุดแล้วหนึ่งเดือนเท่ากับเงินหกพันหยวน แต่ว่าซึงซีกลับไม่ใช่หญิงสาวธรรมดา ในฐานะที่เป็นเด็กผู้หญิงที่โตในเมืองคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่มีสภาพครอบครัวที่เหนือกว่าครอบครัวอื่น เงินหกพันหยวนนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่เพื่อต้องการพิสูจน์ตัวเอง เป็นเพราะการจัดเตรียมของแม่ของเธอเลยทำให้เธอเลือกเส้นทางนี้เท่านั้น
"อิอิ…..เงินสองร้อยหยวนมันไม่น้อยเลยก็จริง แต่ว่าฉันขอปฏิเสธเงินสองร้อยหยวนนี้ ฉันต้องการให้คุณเปลี่ยนการขอบคุณเป็นรูปแบบอื่นเป็นยังไง?"
เมื่อเวลาที่จ้าวเสี่ยวกังได้ยินคำพูดนี้ก็อึ้งไปชั่วขณะเช่นกัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าซึงซีจะปฏิเสธ ต้องรู้ว่าสองร้อยหยวนสำหรับหญิงสาวที่ทำงานอยู่ข้างนอก ไม่แน่อาจจะได้ค่าแรงน้อยกว่านี้ด้วยซ้ำ
"คุณพูดมา เพียงแค่ฉันสามารถทำได้"
"สบายใจได้เลย คุณทำได้อย่างแน่นอน ฉันคิดว่าเห็นสนใกล้จะเก็บเกี่ยวหมดแล้ว คุณจะมีแผนสำหรับขั้นตอนต่อไปเสมอ คุณเพียงแค่บอกกับฉันว่าแผนขั้นต่อไปของคุณคือะไรก็พอแล้ว"
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังได้ยินคำพูดนี้ มองไปที่ซึงซีอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก คราวนี้เขาไม่ได้มองไปที่ซึงซีข้างนอก ไม่มีความหมกมุ่น เพียงแค่มองไปที่ดวงตาคู่นั้นที่มีความสดใสของซึงซี เขาต้องการมองให้ชัดเจนว่าซึงซีเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่ ถึงสามารถมีการตัดสินใจแบบนี้ออกมา ถามคำถามแบบนี้ออกมา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ซึงซีได้เห็นใบหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ของจ้าวเสี่ยวกังด้วยท่าทางจริงจังที่หาได้ยากในวันธรรมดา ทันใดนั้น ใบหน้าที่มุ่งมั่นของจ้าวเสี่ยวกังและรูปลักษณ์ที่จริงจังแสดงอารมณ์ที่แตกต่างอย่างไม่คาดคิดปรากฏขึ้น อารมณ์แบบนี้ซึงซีเคยเห็นจากตัวของพ่อตัวเอง แม้ว่าจ้าวเสี่ยวกังยังคงอ่อนแออย่างมาก แต่ว่าเธอกลับสามารถสัมผัสได้
"สาวสวยซึง คำถามของคุณมันเกินราคาที่ฉันให้ไว้ นอกจากนี้มันยังเกี่ยวข้องกับเส้นทางความเป็นความตายในอนาคตของฉัน คุณรู้สึกว่าฉันจะบอกคุณงั้นเหรอ?"
"ฮ่าๆๆๆ……จะบอกหรือไม่บอกฉันจะรู้ได้ยังไง? แต่ว่าฉันรู้ว่าฉันสามารถถามจนได้เรื่องแน่นอน มีโอกาสที่จะได้ยินคุณตอบคำถาม ถ้าฉันไม่ถาม เกรงว่าแม้แต่โอกาสก็ไม่มีแล้ว"
ซึงซีตอบกลับด้วยความจริงจังอย่างมาก จ้าวเสี่ยวกังคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะมองออกขนาดนี้
"ได้ ฉันสามารถบอกคุณก็ได้ แต่ว่าคุณจำเป็นต้องสัญญากับฉันเรื่องหนึ่ง ถ้าคุณสามารถทำได้ ในอนาคตฉันสามารถบอกคุณได้อีกหลายอย่าง เป็นยังไง?"
"อ้อ แบบนี้เหรอ? คุณพูดออกมาก่อนว่าให้ฉันสัญญาเรื่องอะไรกับคุณ ถ้าหากฉันทำไม่ได้ หรือไม่ก็ฉันไม่ยินดีที่จะทำ ฉันก็ไม่สามารถสัญญาได้"
เมื่อเวลาที่ซึงซีได้ยินคำพูดนี้ ทันใดนั้นก็คิดได้ทันที ถ้าหากให้ผู้หญิงอย่างฉันแต่งงานกับคุณ นั่นเป็นธุรกิจที่ขาดทุนไม่ใช่หรือ ธุรกิจแบบนี้เธอไม่อยากทำหรอกนะ
"แหะแหะ สบายใจได้เลย เรื่องที่ฉันให้คุณสัญญากับฉันมันง่ายอย่างมาก นั่นคือให้คุณเป็นผู้จัดการการเงินของฉัน หรือเป็นตำแหน่งเดียวกับมือซ้ายขวาของฉัน เป็นยังไง?"
ทันทีที่จ้าวเสี่ยวกังเปิดปากพูด ซึงซีอดไม่ได้ที่จะตะลึง ต่อจากนั้นหัวเราะออกมา
สำหรับจ้าวเสี่ยวกังแล้วภายในใจของเธอยังคงชื่นชมอยู่บ้าง แต่เธอเกิดมาพร้อมกับความรู้สึกเหนือกว่า อันที่จริงแล้วยังคงมีการดูถูกจ้าวเสี่ยวกังบ้างเล็กน้อย
ถ้าหากไม่ใช่ว่ายืนอยู่จุดเดียวกับจ้าวเสี่ยวกัง เธอจะไม่มีวันชื่นชมเด็กยากจนเช่นนี้ในหมู่บ้านบนภูเขาแน่นอน
ตอนนี้จ้าวเสี่ยวกังจู่ๆเปิดปากพูดคำถามแบบนี้ออกมา ความรู้สึกแรกของเธอคือจ้าวเสี่ยวกังเป็นคนตลก เพียงแต่เมื่อมองเห็นท่าทางที่จริงจังของจ้าวเสี่ยวกังแล้ว เธอยังคงต้องมีความสุขภาพนิดหน่อย
"ทำไหม ตลกมากเลยเหรอ?"
จ้าวเสี่ยวกังขมวดคิ้วและมองไปที่ซึงซีที่กำลังยิ้มและตัวสั่นเล็กน้อย แม้ว่าซึงซีจะหัวเราะ แต่รูปลักษณ์ที่สั่นเทาบนหน้าอกของเธอช่างน่าดึงดูดจริงๆ แต่ว่าในครั้งนี้จ้าวเสี่ยวกังกลับไม่ได้ถูกดึงดูดเลย
"อืม นิดหน่อย คุณรู้หรือเปล่าอะไรคือผู้จัดการ? นอกจากนี้คุณแค่รับซื้อเห็ดสนตัวคุณคนเดียวก็สามารถจัดการทั้งหมดได้ ข้างหลังยังต้องการให้คนอื่นมาช่วยเหลืออีกเหรอ? ข้ออ้างของคุณทำให้ฉันมีความสงสัยอย่างมากว่าคุณมีความคิดบางอย่างกับผู้หญิงอย่างฉัน"
"สำหรับสาวสวยแล้วผู้ชายไม่มีความคิดถือว่าไม่ใช่ผู้ชายเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่มีบางคนที่สามารถดูแลความตั้งใจเดิมของตัวเองได้ และบางคนไม่สามารถดูแลได้เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฉันสามารถดูแลได้ นอกจากนี้คำขอร้องของฉันไม่ใช่ว่าให้คุณมาช่วยฉันทำทันที รอให้ฉันทำสำเร็จขั้นที่สอง และหลังจากขั้นทีสามแล้ว คุณค่อยมาช่วยฉัน เป็นยังไง?"
เดิมทีซึงซีคิดว่าจ้าวเสี่ยวกังมีความคิดที่แปลกประหลาด หรือว่ามีมุมมองที่แคบเล็กน้อย เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการเก็บเกี่ยวเห็ดสน หลังจากนั้นมีความรู้สึกของการเริ่มฝันกลางวันเท่านั้น แต่ว่าเมื่อได้ยินจ้าวเสี่ยวกังบอกว่าขั้นที่สอง และขั้นที่สาม ภายในใจของเธออดไม่ได้ที่จะมีความสงสัยขึ้นมา
"อ้อ อย่างนั้นคุณพูดขั้นที่สองและขั้นที่สามของคุณออกมาก่อน ถึงเวลานั้นฉันค่อยตัดสินใจว่าจะช่วยคุณดีไหม เป็นยังไง?"
"ก็ได้ แต่ว่าอยู่ต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง?"
จ้าวเสี่ยวกังไม่ต้องการพูดแผนของตัวเองต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ การรับซื้อเห็ดสนเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น เบื้องหลังของความร่ำรวยถาวรต่างหากถึงจะเส้นทางของความร่ำรวย ที่สำคัญเขาไม่เพียงแต่ต้องการร่ำรวยเพียงแค่คนเดียว เขาต้องการที่จะเติมเต็มความฝัน และความฝันของพี่ชายตัวเอง
"ได้ วันนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดค่ำแล้ว รอให้มีเวลาเมื่อไหร่พวกเราค่อยมาคุยกันอีกที สำหรับเงินที่คุณพูดสองร้อยหยวนช่างมันถือนะ เพียงแค่อย่าลืมไปรับสินค้าที่หมู่บ้านตระกูลซึงก็พอแล้ว ถึงเวลานั้นฉันจะทำบัญชีให้คุณให้เรียบร้อย ที่สำคัญอย่าลืมนำเงินมาด้วย ฉันไม่มีเงินมากพอที่จะช่วยจ่ายให้คุณหรอกนะ"
เมื่อได้ยินซึงซีตอบตกลง จ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่จะมีความสุข
นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีอย่างมาก สำหรับซึงซีเขาไม่ค่อยรู้เรื่องมากนัก แต่ว่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำงานอย่างจริงจังแล้ว โดยเฉพาะเพียงแค่ปากกาด้ามเดียวก็สามารถทดแทนการทำงานของพ่อแม่ตัวเองได้แล้ว สามารถทำผลการคำนวณอย่างละเอียดได้อย่างแม่นยำแม้ไม่มีเครื่องคิดเลข นี่เป็นเพียงความคิดที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมาจากเขาเท่านั้น
ในตอนแรกซึงซีไม่ได้ตอบตกลงทันที สำหรับเขาแล้วมันก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วหลังจากนี้ทางเดินยังอีกยาวไกล เกี่ยวกับเรื่องของด้านการเงินแล้วเขาจำเป็นต้องหาคนที่นิสัยดีคนหนึ่ง
แม้ว่าล้วนแล้วบอกว่าตัวหนังสือสามารถสะท้อนบุคลิกภาพบางส่วนได้ ตัวอักษรล่างที่เขียนโดยซึงซีนั้นเรียบร้อยจริงๆ แต่ว่าสำหรับตัวหนังสือสะท้อนบุคลิกการภาพจริงหรือไม่นั้น จ้าวเสี่ยวกังไม่กล้ารับรอง
"ได้ ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น พูดแล้วไม่คืนคำ พรุ่งนี้ฉันก็จะส่งคนไปรับสินค้า พวกคุณไม่จำเป็นต้องแบกตะกร้าเห็ดสนให้เหนื่อยอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลานั้นถ้าฉันเดินไปทางก้าวที่สองแล้ว คุณก็จะเข้าใจเอง"
มองไปที่รอยยิ้มที่มั่นใจบนใบหน้าของจ้าวเสี่ยวกัง ซึงซีอดไม่ได้ที่จะตะลึง รอยยิ้มแบบนี้เธอเห็นมามากแล้ว แต่ว่าภายใต้แสงแดดที่เผยให้เห็นถึงความมั่นใจนั้นมีไม่มากเท่าไหร่
ท่าทางที่จ้าวเสี่ยวกังยิ้มออกมา ทำให้ซึงซีจดจำได้อย่างลึกซึ้ง
"ได้เลย ฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอขั้นที่สองของคุณ ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนของคุณ ฉันยินดีเป็นผู้จัดการการเงินให้คุณ แต่ว่าก่อนอื่นคุณจำเป็นต้องเข้าใจก่อนว่าผู้จัดการการเงินคืออะไร"
หลังจากพูดจบ ซึงซีนำพาผู้หญิงกลุ่มนั้นเดินกลับไปทางกลับบ้านอย่างเร่งรีบ
MANGA DISCUSSION