เมื่อถูกจ้าวเสี่ยวกังถามแบบนี้ชายหนุ่มอึ้งเหลืองอึ้งไปชั่วขณะ
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเสี่ยวกังถูกคนมากมายตำหนิขนาดนี้ยังกล้าเปิดปากพูดหักล้างอีก ยิ่งคิดไม่ถึงเลยคือทุกคำถามของจ้าวเสี่ยวกังล้วนแล้วทำให้เขาตอบไม่ได้
"พี่ชายท่านี้ คุณตอบกลับมาหน่อยสิ? สัญญากู้ล่ะ? พวกเราชื่ออะไรงั้นเหรอ? คุณอย่าบอกกับฉันนะว่าคุณแม้แต่ชื่อของพวกเราก็ไม่รู้จักยังกล้าให้พวกเรายืมเงินห้าพันหยวนโดยตรง คำพูดแบบนี้พูดออกไปแล้วเกรงว่าแม้แต่คนโง่ก็ไม่มีทางเชื่อ"
ทันทีที่จ้าวเสี่ยวกังพูดออกมา คนที่อยู่รอบๆล้วนแล้วอ้าปากค้าง
ความหมายในคำพูดของจ้าวเสี่ยวกังชัดเจนอยู่แล้ว ในเวลานี้ถ้าหากยังเชื่ออีกก็เป็นคนโง่แล้ว
คิดให้รอบคอบเกี่ยวกับคำถามของจ้าวเสี่ยวกัง คนที่อยู่รอบๆรู้แล้วว่าเมื่อกี้เข้าใจผิดไปแล้ว
ชายหนุ่มผมเหลืองไม่สามารถตอบคำถามของจ้าวเสี่ยวกังได้ชั่วขณะ ความอับอายกลายเป็นความโกรธโดยตรง
"พี่น้องเอ๋ย ในเมื่อเด็กคนนี้ไม่ยอมรับว่ากู้เงิน ทุบตีให้เต็มที่เลย ทุบตีจนยอมรับแล้วค่อยหยุด"
"ฮ่าๆๆ ทำไหม? พูดเหตุผลสู้ไม่ได้ก็จะใช้กลอุบายแล้วงั้นเหรอ?"
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังชิงลงมือก่อน ดึงขวานออกจากเอวโดยตรงแล้วฟันไปทางชายหนุ่มผมเหลือง
ชายหนุ่มผมสีเหลืองคิดไม่ถึงเลยว่าที่เอวของจ้าวเสี่ยวกังจะมีขวานอยู่เล่มหนึ่ง ในก่อนหน้านี้เขาคิดมาโดยตลอดว่าเป็นไม้หรืออะไรสักอย่าง เผชิญหน้ากับการฟันของจ้าวเสี่ยวกังเขาอยากจะหลบอย่างมาก แต่ว่ารอบๆเต็มไปด้วยผู้คน หนีก็หนีไม่พ้นแล้ว โดนฟันหนึ่งทีโดยตรง
ซู……
เลือดสดไหลไปตามแขนของชายหนุ่มผมเหลืองในทันที เดิมทีชายหนุ่มเหล่านั้นเตรียมจะบุกเข้าไปโจมตีจ้าวเสี่ยวกัง ทันทีที่เห็นการฟันนั้นทำให้ตกตะลึงอยู่กับที่
ชายหนุ่มที่มีรอยสักงูเห่าที่ดุร้ายอยู่ที่คอ จ้องมองจ้าวเสี่ยวกังอย่างดุร้าย กำกริชที่อยู่ในมือของเขาเอาไว้แน่นและไม่มีท่าทีว่าจะถอย
จ้าวเสี่ยวกังก็สังเกตเห็นอีกฝ่ายเช่นกัน หันกลับมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายโดยตรง
"ทำไหม? แกต้องการลองกับฉันงั้นเหรอ?"
ช่วงเวลาที่พูดคำพูดนี้ ชายหนุ่มที่มีรอยสักงูเห่าที่ดุร้ายที่คอมีการโจมตีเข้าไปโดยตรง ในเวลาเดียวกันตะโกนพูดกับคนที่ล้อมรอบอยู่ :"จับตัวผู้หญิง"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทันใดนั้นภายในใจของจ้าวเสี่ยวกังสั่นสะท้าน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีความคิดที่เข้ากันได้ดีขนาดนี้ในภายใต้สถานการณ์แบบนี้
ถ้าหากหวังลี่ถูกจับ เขาจะต้องถูกมัดมือมัดเท้าอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นเขาฟันมีดหนึ่งทีตรงไปที่ชายหนุ่มโดยตรง เพื่อบีบให้อีกฝ่ายถอย ในเวลาเดียวกันก็วิ่งตรงไปทางหวังลี่โดยตรง
อีกสองคนที่เหลือเห็นดวงตาสีแดงเลือดของจ้าวเสี่ยวกังพุ่งเข้าหาพวกเขา และพวกเขาอดไม่ได้ที่จะหันหัวและวิ่งหนีไป
เมื่อหวังลี่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่มีรอยสักงูเห่าที่คอก็รู้ใดนั้นทัว่าเรื่องมันชักไม่ดีแล้ว ต้องการวิ่งหนีทันที แต่ว่าเธอจะสามารถหลบพ้นผู้ชายตัวใหญ่สองคนได้อย่างไร
"แก…..แก…..อย่าเข้ามานะ ถ้าหากเข้ามาพวกเขาจะฆ่า……ฆ่าเธอ"
จ้าวเสี่ยวกังมองดูสองคนนั้นด้วยความโกรธ เขารู้ว่าเข้าแผนของชายหนุ่มที่มีรอยสักงูเห่าที่คอคนนั้นแล้ว แต่ว่าในสถานการณ์แบบนี้เขากลับไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี
ชายหนุ่มที่รอยสักงูห่าที่คอค่อยๆเดินไปอยู่ต่อหน้าหวังลี่ หลังจากนั้นมองจ้าวเสี่ยวกังด้วยความเย็นชา และพูด :"ตอนนี้แกจะคืนเงินให้กับพวกเราได้หรือยัง? ไม่อย่างนั้นผู้หญิงของแกพวกเราจะเอาไปชำระหนี้"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จ้าวเสี่ยวกังโกรธจนเกือบจะระเบิดแล้ว
ในเวลานี้ชายหนุ่มคนนี้ยังคงไม่ลืมที่จะถ่วงเวลาต่อไป ประเด็นสำคัญคือเขายังคงต้องการเล่นละครต่อไป
"ได้ แกปล่อยคนไป เงินฉันจะให้แก"
"จ้าวเสี่ยวกัง นายบ้าหรือเปล่า พวกเราไม่ติดหนี้พวกเขาเลยด้วยซ้ำ"
หลังจากพูดจบ หวังลี่รู้สึกมีความเย็นอยู่ที่คอ ชายหนุ่มที่มีรอยสักงูเห่าอยู่ที่คอใช้กริชเล่มนั้นที่อยู่ในมือจี้ไปที่คอของหวังลี่โดยตรง ทำให้เธอไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป
คนรอบข้างบางส่วนเมื่อเห็นฉากนี้ ตกใจกลัวจนหลับตาโดยตรง
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังเห็นฉากนี้ก็รู้สึกตัวเย็นเช่นกัน ถ้าหากหวังลี่เกิดอะไรขึ้นจริงๆ เกรงว่าเขาจะต้องเจ็บปวดไปทั้งชีวิตอย่างแน่นอน
"พวกนายสองคนพยุงลูกพี่ใหญ่ไปโรงพยาบาลก่อน ที่นี่ปล่อยให้ฉันจัดการเอง"
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม ชายหนุ่มสองคนที่อยู่ข้างหวังลี่รีบวิ่งไปช่วยชายหนุ่มผมเหลืองและเตรียมไปโรงพยาบาลเพื่อพันผ้าพันแผล
ชายหนุ่มผมเหลืองกุมบาดแผลเอาไว้ ตะโกนพูดกับชายหนุ่มที่มีรอยสักงูเห่าที่คอและพูด :"หลี่เอ้อ นายห้ามปล่อยเด็กคนนี้ไปเด็ดขาดเลยนะ ช่วยฉันฟันหนึ่งทีแล้วค่อยปล่อยไป"
เมื่อหลี่เอ้อได้ยินคำพูดนี้ ขมวดคิ้ว ชื่อเต็มของเขามีชื่อว่าหลี่เอ้อเหอ รู้สึกขยะแขยงมากเมื่อมีคนเรียกเขาว่าหลี่เอ้อ ถ้าหากไม่ใช่ว่าหวงเหมาเคยช่วยเขา เขาคงออกจากหวงเหมาไปนานแล้ว
"เข้าใจแล้ว คุณดูแลตัวเองให้ดี เงินฉันจะต้องเอาไปให้คุณแน่นอน"
หลังจากพูดจบ หลี่เอ้อเหอยกแว่นสายตาของตัวเองขึ้นมาเบาๆเล็กน้อย จากนั้นมองไปทางจ้าวเสี่ยวกังโดยไร้สีหน้า
"ในเมื่อลูกพี่ใหญ่สั่งมาแล้ว แกจะฟันด้วยตัวเองหรือว่าจะให้ฉันฟันแทนลูกพี่ของฉัน?"
"ฉันขอทำด้วยตัวเองดีกว่า เพียงแค่แกปล่อยคนไป ฉันฟันมากกว่าหนึ่งครั้งแล้วมันจะเป็นอะไรไป"
ระหว่างที่จ้าวเสี่ยวกังพูดไปด้วย พร้อมกับเดินไปทางขวานที่ตัวเองโยนไปด้านข้าง
เมื่อเวลาที่จ้าวเสี่ยวกังเตรียมจะก้มลง หลี่เอ้อเหอกลับเปิดปากพูด
"ตอนที่นายฟันจะต้องออกแรงหน่อยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะแทงไปที่ตัวของเธอหนึ่งที แกก็น่าจะรู้นะว่าถ้าหากบนตัวของผู้หญิงมีแผลเป็น สำหรับผู้หญิงแล้วมันจะรู้สึกยังไง"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ภายในใจของจ้าวเสี่ยวกังเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ว่ากลับทำอะไรไม่ได้
"ฉันเข้าใจแล้ว แกไม่ต้องสอนฉัน"
หลังจากจ้าวเสี่ยวกังพูดจบ หยิบขวานขึ้นมาแล้วฟันไปที่แขนของตัวเองโดยตรง
ติ้งตัง…..
ช่วงเวลาที่ขวานกำลังจะลงสู่แขน มีดบินเล่มหนึ่งแทงมายังบนด้ามของขวานโดยตรง การโจมตีที่รุนแรงอย่างมากทำให้ขวานที่อยู่ในมือของจ้าวเสี่ยวกังบินออกไปโดยตรง
ฉากกะทันหันนี้ทำให้จ้าวเสี่ยวกังประหลาดใจ หลี่เอ้อเหอก็ตะลึงอย่างมากเช่นกัน รีบหาอย่างรวดเร็วว่าใครเป็นคนปามีดบินนี้ออกมา ในเวลาเดียวกัน กริชในมือของเขาก็ถูกวางลงบนคอของหวังลี่อย่างรวดเร็ว
ถ้าเขาเผชิญหน้ากับจ้าวเสี่ยวกังเขาจะไม่กลัวเลย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมีดบินที่ไม่รู้จักนี้ ทำให้รู้สึกกลัวเล็กน้อย เพราะตัวเขาเองไม่แน่ใจว่ามีดบินเล่มนี้จะปามาฆ่าเขาโดยตรงหรือเปล่า
"น้องชาย สิ่งที่ควรให้อภัยก็ให้อภัยคนอื่นสะ ทำไหมถึงต้องบีบบังคับคนอื่นขนาดนี้"
เมื่อได้ยินที่มาของเสียง บนใบหน้าของจ้าวเสี่ยวกังมีความเซอร์ไพร์
และสีหน้าของหลี่เอ้อเหอเปลี่ยนอย่างกะทันหัน กริชที่อยู่ในมือก็ค่อยๆคลายออกเช่นกัน เขารู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้พวกเขาทั้งสี่คนไม่สามารถอยู่ในเมืองนี้ได้อีกต่อไป แม้กระทั่งในชีวิตนี้ไม่สามารถกลับมาได้อีก
ติ้งตัง…..
กริชที่อยู่ในมือของหลี่เอ้อเหอล่นลงพื้นโดยตรง เขากลับไม่มีการวิ่งหนีแต่เป็นการเลือกที่จะยืนอยู่กับที่โดยตรงและรอเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า
แน่นอนจ้าวเสี่ยวกังเห็นว่าเจิ้งจื่อหรุเพียงแค่ประโยคง่ายๆแต่กลับสามารถทำให้อีกฝ่ายยอมแพ้และเลิกต่อต้านโดยตรง ภายในใจอดไม่ได้ที่จะประเมินเจิ้งจื่อหรุสูงมากยิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกัน เขาก็แอบแปลกใจกับความแข็งแกร่งของเจิ้งจื่อหรุ ที่สามารถทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัว แม้กระทั่งไม่มีความกล้าที่จะต่อต้าน
"เสี่ยวกัง คนเหล่านี้นายจัดการเองแล้วกัน หลังจากจัดการเสร็จแล้วตามฉันไปดื่มเหล้าด้วยกัน"
ทันทีที่เจิ้งจื่อหรุเปิดปากพูดทำให้หลี่เอ้อเหอตะลึง เขายากที่จะจินตนาการอย่างมากคนหนึ่งสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง แต่อีกคนกลับสวมกางเกงยีนขาดๆและรองเท้าขาดๆ ทำไหมถึงมีความสัมพันธ์ที่สนิทกันขนาดนี้
จ้าวเสี่ยวกังเดินไปข้างหน้า คว้าตัวหวังลี่ หลังจากนั้นจ้องมองหลี่เอ้อเหอที่ตกใจกลัวจนอึ้งเล็กน้อย พูดอย่างอ่อนโยน :"แกกลัวมากเลยใช่ไหม เพียงแต่สิ่งที่ฉันอยากบอกกับแกก็คือ ถ้าหากหวังลี่เกิดอะไรขึ้นตอนที่อยู่ในมือแก ฉันขอใช้ชีวิตของฉันเป็นประกัน แกและรวมถึงครอบครัวของแกจะประสบกับการแก้แค้นที่ไม่รู้จบของฉัน เว้นเสียแต่ฉันตาย"
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังหยิบขวานและมีดบินขนาดเล็กเล่มนั้นขึ้นโดยตรง พาหวังลี่เดินไปทางเจิ้งจื่อหรุโดยตรง
MANGA DISCUSSION