ระหว่างทางในที่สุดจ้าวเสี่ยวกังก็รู้แล้วว่าทำไหมหลิวต้าโถวถึงกล้ารับปากพูดว่ามีเห็ดสนเท่าไหร่เขาก็สามารถรับไว้ได้หมด
เพราะว่าเพียงแค่ร้านอาหารเผิงไหลร้านเดียวในเมืองคนก็แน่นไปหมดแล้ว ห้องส่วนตัวที่เจ้าเสี่ยวกังผ่านทุกห้องล้วนแล้วมีแขกอยู่ นอกจากนี้มีหลายห้องที่เปิดประตูเอาทำให้เขาสามารถมองเห็นไก่ผัดเห็ดสนได้ทันที เห็ดสนทอด ซุปไก่เห็ดสนและยังมีเมนูเห็ดสนหลากหลายรูปแบบ
ในไม่ช้า หลิวต้าโถวพาเขามาถึงที่หน้าประตูสำนักงานขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางชั้นสามแล้วเคาะประตู
"เข้ามา" เสียงผู้หญิงที่น่าเกรงขามดังออกมาจากห้องสำนักงานแต่กลับฟังแล้วไพ่เราะอย่างมาก
เมื่อได้ยินเสียงนี้จ้าวเสี่ยวกังก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงราชินีที่แสดงอยู่ในทีวี ในครั้งแรกที่ได้ยินบรรยากาศที่น่าเกรงขามนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกอยากคุกเข่าลงมา
หลิวต้าโถวขยิบตาให้กับจ้าวเสี่ยวกังหนึ่งทีจากนั้นค่อยผลักประตูเพื่อพาจ้าวเสี่ยวกังเข้าไป
ทันทีที่ประตูเปิด จ้าวเสี่ยวกังได้กลิ่นของกลิ่นลาเวนเดอร์ที่หอมอย่างมากส่งออกมาจากภายในห้องสำนักงาน แม้ว่ากลิ่นจะเบาบางอย่างมาก แต่มันทำให้คนรู้สึกน่าหลงใหลมาก
พื้นของภายในห้องสำนักงานขาวสว่างสดใส จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่จะเหยียบมัน พื้นสามารถสะท้อนร่างของตัวเองได้
ผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าโต๊ะสำนักงานที่ใหญ่อย่างมากหนึ่งตัว ผู้หญิงที่สวมชุดยูนิฟอร์มของบริษัทสีดำทั้งตัว บนหูสวมต่างหูที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก ต่างหูสีฟ้าอ่อนช่วยดึงออร่าที่แตกต่างของผู้หญิงคนนี้ออกไป ความสามารถโดยไม่สูญเสียความฟุ่มเฟือย
"ประธานหยวน น้องชายคนนี้ต้องการเป็นตัวแทนเรื่องของการรับซื้อเห็ดสน"
หยวนเซียงหลิงเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินหลิวต้าโถวพูดแบบนี้ มองดูจ้าวเสี่ยวกังที่ยืนอยู่ข้างหลิวต้าโถวหนึ่งที อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
เพราะว่าจ้าวเสี่ยวกังนั้นยังเด็กอย่างมาก เด็กจนมากเกินไปแล้ว คนแก่มักบอกว่าปากไม่มีหนวดจะไม่แข็งแรง อันที่จริงก็หมายความว่าคนหนุ่มสาวยังไม่บรรลุนิติภาวะจะไม่มั่นคง จัดการเรื่องจะมีความห่าม กลุ่มอายุแบบนี้ดีที่สุดควรจะระวังสักหน่อย
เมื่อเห็นหยวนเซียงหลิงขมวดคิ้ว จ้าวเสี่ยวกังรู้ได้ทันทีว่าเรื่องต่างๆมันอาจจะไม่ง่ายนัก
"นายต้องการเป็นตัวแทน? ในหนึ่งวันนายสามารถซื้อให้ฉันได้เท่าไหร่?"
แม้ว่าจะรู้ว่าจ้าวเสี่ยวกังอายุยังน้อยแน่นอน นอกจากนี้เรื่องของการทำงานเธอก็ไม่ไว้ใจแน่นอน แต่ท้ายที่สุดแล้วหลิวต้าโถวเป็นคนแนะนำมา เธอคงไม่สามารถปฏิเสธได้ในคำพูดเดียว ถ้าหากเป็นแบบนั้นจะทำร้ายจิตใจของพนักงานของตัวเอง เรื่องแบบนี้เธอไม่มีทางทำอย่างแน่นอน สิ่งที่เธอต้องทำคือบีบให้จ้าวเสี่ยวกังถอยออกไปเอง
"ถ้าหากไม่ใช่สภาพอากาศพิเศษ ด้วยการสนับสนุนทางการเงิน ฉันสามารถซื้อได้อย่างน้อยสองร้อยกิโล นอกจากนี้ล้วนแล้วเป็นน้ำหนักที่หลังจากล้างสะอาดเสร็จแล้ว"
คำพูดของจ้าวเสี่ยวกังมีความมั่นใจอย่างมาก ด้วยตัวของเขาเองวันหนึ่งสามารถเก็บได้ประมาณสามสิบกิโล ถ้าหากบวกกับซ่งยวี่ชิงและพ่อแม่ และยังมีซุนหรานหราน วันละสองร้อยกิโลก็ไม่ใช่ปัญหา
ในเวลานี้หลิวต้าโถวยืนมาข้างหน้าอีกครั้ง เขารู้ตั้งแต่วินาทีที่หยวนเซียงหลิงขมวดคิ้ว ว่าเมื่อกี้เจ้านายของตัวเองคิดอะไรอยู่
"ประธานหยวน พวกนักเลงในเมื่อวานก็คือถูกน้องชายคนนี้ทุบตีจนหนีไป"
หลังจากพูดจบสิ่งนี้เขาก็ไม่พูดอะไรอีกเลย เพราะว่าเรื่องบางอย่างลูกน้องเพียงแค่สามารถแนะนำก็พอแล้ว คนที่สามารถเป็นเจ้าของได้ล้วนแล้วไม่ใช่คนโง่ แน่นอนต้องรู้อยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร
แน่นอนว่าหยวนเซียงหลิงสามารถฟังออกความหมายในคำพูดของหลิวต้าโถวได้ เดิมทีใบหน้าที่จริงจังอย่างมากจู่ๆก็เผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม ทั้งหลิวต้าโถวและจ้าวเสี่ยวกังต่างตกตะลึง ภายในใจของทั้งคู่ต่างรู้สึกเหมือนกับเห็นรุ้งกินน้ำหลังฝนตกไปพร้อมๆกัน
ความสวยของหยวนเซียงหลิงนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้เลย แต่ว่าด้วยใบหน้าที่สวยงามนั้นกลับมักจะเห็นใบหน้าที่จริงจังและไม่ค่อยเห็นรอยยิ้ม ทันใดนั้นรอยยิ้มนี้ทำให้หลิวต้าโถวชายที่แต่งงานมาหลายปีแล้ว ดูเหมือนจะไม่สามารถควบคุมมันได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจ้าวเสี่ยวกังเลย
"อ้อ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเด็กหนุ่มที่เป็นวีระบุรุษ ในเมื่อนายต้องการเป็นตัวแทนนอกจากนี้ยังเคยช่วยฉัน อย่างนั้นในเรื่องนี้ไม่ว่าจะพูดยังไงฉันล้วนแล้วจะให้นายเป็นตัวแทน เพียงแต่พวกเราต้องคุยเงื่อนไขไว้ก่อน เห็ดสนที่นายซื้อมาให้ฉันห้ามมีสารเจือปนนะ ห้ามเก็บเห็ดสนจากสวนที่ชาวสวนฉีดยามานะ ไม่อย่างนั้นถ้าหากเกิดปัญหานายจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ฉันจำเป็นต้องเขียนสิ่งเหล่านี้ลงในสัญญา นายมีความคิดเห็นไหม?"
จ้าวเสี่ยวกังกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆและพยักหน้าตอบกลับ :"ฉันไม่มีความเห็น เพียงแต่ถ้าหากฉันเก็บมาได้เยอะ อย่างเช่นหนึ่งพันกิโลคุณสามารถรับซื้อไหวไหม?"
"ฮ่าๆๆๆ……อย่าว่าแต่หนึ่งพันกิโลเลย ต่อให้เป็นหนึ่งหมื่นกิโลเพียงแค่นายมีความสามารถฉันก็สามารถรับไว้ได้หมด ราคายังคงเป็นเหมือนเดิม หนึ่งโลสามสิบหยวน ล้างเสร็จแล้วสามสิบห้าหยวน นายต้องการรับซื้อราคาเท่าไหร่ก็ต้องดูความสามารถของนายแล้ว ตราบใดที่มีการลงนามในสัญญา ราคาซื้อที่พวกเราเสนอให้กับผู้อื่นจะลดลงห้าหยวน นั่นคือทั้งหมดที่ฉันช่วยนายได้ รายได้เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวนายเอง"
ทันทีที่หยวนเซียงหลิงยืนขึ้นและหยิบสัญญาจากตู้เอกสารข้างๆ และส่งให้จ้าวเสี่ยวกัง
ช่วงเวลาที่หยวนเซียงหลิงลุกขึ้น จ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย หน้าตาของหยวนเซียงหลิงดูเหมือนวัยสามสิบต้นๆ แต่ว่าภายใต้กระโปรงสั้นที่ขาขาวราวกับหิมะนั้นมีถุงน่องสีเนื้อคู่นั้นมองดูแล้วมันช่างเย้ายวนใจจริงๆ
เมื่อเวลาที่หยิบสัญญาขึ้นมา จ้าวเสี่ยวกังยังคงอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองดูขาเล็กที่เรียบยาวคู่นั้นของหยวนเซียงหลิง และนิ้วเรียวที่เพ้นท์เล็บสีสวยเอาไว้
การกระทำของจ้าวเสี่ยวกังนี้ไม่รอดสายตาของหยวนเซียงหลิง เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแค่รู้สึกว่าเป็นเด็กที่ยังอ่อนวัยเท่านั้น เพียงแต่เมื่อเธอเห็นไอ้นั่นที่เป้ากางเกงของจ้าวเสี่ยวกัง แม้ว่าจะยังไม่ลุกขึ้น แต่ว่ามีท่าทางที่กระโดดกระโดดทำให้เริ่มไม่สงบแล้ว
หลังจากอ่านสัญญาแล้วจ้าวเสี่ยวกังบอกว่าไม่มีปัญหา ทันใดนั้นก็เซ็นสัญญากับหยวนเซียงหลิง ในเวลาเดียวกันหยวนเซียงหลิงให้เงินเขาล่วงหน้าห้าพันหยวน ให้เขาซื้อมาให้ได้มากที่สุด
และหลิวต้าโถวในฐานะผู้แนะนำก็ได้รับรางวัลเป็นเงินห้าร้อยหยวน
หลังจากจ้าวเสี่ยวกังและหลิวต้าโถวไปแล้ว ใจของหยวนเซียงหลิงไม่สงบอีกต่อไป เธอไม่ค่อยแน่ใจว่าไอ้นั่นของจ้าวเสี่ยวกังที่อยู่ข้างล่างเป็นของจริงหรือเปล่า ถ้าหากไม่ใช่ของจริงแล้วมันจะเป็นอะไรได้?
ถ้าหากเป็นของจริง ไอ้นั่นที่ใหญ่ขนาดนี้ไม่ใช่ว่ามันจะรู้สึกมีความสุขกว่าของเล่นผู้ใหญ่ที่เธอซื้อมาอีกเหรอ?
สามีของเธอตายไปนานแล้ว หลายปีมานี้ล้วนแล้วต้องอยู่ตัวคนเดียว ทุกครั้งที่มีความเครียดเธอมักต้องการระบาย แต่วิธีการระบายนั้นมีความแตกต่างจากกระตุ้นแบบนั้น
เธอก็เคยมีความคิดที่อยากจะหานายแบบจากคลับเหล่านั้น เพียงแต่เมื่อนึกถึงผู้ชายเหล่านั้นที่ไม่รู้ว่าเคยมีอะไรกับผู้หญิงมาแล้วกี่คน เธอรู้สึกขยะแขยงอย่างมาก แม้ว่าหลังจากสามีตายแล้วจะมีคนมาจีบมากมาย เพียงแต่คนเหล่านั้นทั้งหมดชอบเงินของเธอมากกว่า เธอไม่เห็นความจริงใจใดๆ
คิดอยู่ดีๆ หยวนเซียงหลิงถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ หลังจากนั้นปิดประตูห้องสำนักงานเอาไว้แน่น นำเครื่องสั่นสีม่วงอันหนึ่งออกมาจากตู้นิรภัย
ดึงม่านปิดลงอย่างเงียบๆ หลังจากนั้นนั่งบนเก้าอี้คนเดียวแล้วค่อยๆถอดถุงน่องลงมาอย่างช้าๆ ค่อยๆ ใส่เครื่องสั่นเข้าไปอย่างช้าๆ
ในไม่ช้าความสุขนั้นก็ทำให้เธอลืมความเครียดในก่อนหน้านี้ทั้งหมด
จ้าวเสี่ยวกังยังคงขอบคุณหลิวต้าโถวตลอดทาง หลิวต้าโถวหัวเราะและพูด :"เสี่ยวกัง นี่คือความสามารถของตัวนายเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย นอกจากนี้ฉันยังได้รับรางวัลอีกไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น นี่คือหนึ่งพันหยวนสำหรับเห็ดสนของนาย นายรับเอาไว้เลย"
พูดจบ หลิวต้าโถวหยิบเงินก้อนหนึ่งออกจากอกของเขาและนับสิบใบให้จ้าวเสี่ยวกัง
"ลุงหลิว นี่มันเยอะเกินไปแล้ว เอาแบบนี้ไหมห้าร้อยก็พอแล้ว คุณช่วยเหลือฉันมากขนาดนี้แล้ว"
"ไม่เป็นไร เอาตามนี้แหละ นายรีบกลับไปเก็บเห็ดสนได้แล้ว ถ้าหากผ่านฤดูกาลนี้แล้วก็ไม่มีโอกาสทำกำไรได้อีกแล้วนะ"
ภายใต้หลิวต้าโถวแกล้งทำเป็นโกรธ จ้าวเสี่ยวกังค่อยรับเงินมาด้วยความลำบากใจ หลังจากนั้นเขาก็แบกตะกร้าไม้ไผ่เตรียมกลับบ้านและเริ่มต้นขึ้น
เดินมาถึงหน้าประตู จ้าวเสี่ยวกังไม่ได้ทำร้ายจิตใจของหลิวเฉิงเฉิงอีกต่อไป ขึ้นมอเตอร์ไซค์เตรียมกลับบ้านโดยตรง
"จ้าวเสี่ยวกัง นายไม่เอาของขวัญที่ฉันจะให้นายแล้วเหรอ?"
MANGA DISCUSSION