"ฮ่าๆๆ เด็กอย่างนายความกล้าไม่ใช่น้อยเลยจริงๆนะ เพียงแต่ตอนกลางคืนไม่ได้อย่างแน่นอน พี่ชายต้าจ้วงของนายอยู่ที่บ้านทุกคืน ถ้าถูกเขาสังเกตเห็นไม่ดีแน่นอน"
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังได้ยินแบบนี้ เข้าใจทันทีว่าซุนหรานหรานตอบตกลงเขาแล้ว ภายในใจเริ่มมีการวางแผนขึ้นมา เขาเพิ่งทำสัญญากับฟาร์มบนภูเขาหนึ่งร้อยเอเคอร์ ถ้าหากเป็นที่นั่นจะมีกระท่อมอยู่สองหลัง อย่างนั้นช่วงกลางวันล้วนแล้วได้หมด
"ฮ่าๆๆ พี่สาว ไม่อยากจะโกหกเลย ฉันได้ทำสัญญาเช่าฟาร์มบนภูเขาและสระบัวในหมู่บ้านของพวกเราแล้ว อย่างแบบนี้คุณไปรอฉันที่ฟาร์มภูเขามีกระท่อมอยู่สองหลัง ถึงเวลานั้น……"
แม้ว่าคำพูดด้านหลังจ้าวเสี่ยวกังยังพูดไม่จบ แต่ว่าซุนหรานหรานกลับสามารถเข้าใจได้
"เสี่ยวกัง ฟาร์มบนภูเขาและสระบัวมีผลประโยชน์อะไร? นายโง่หรือเปล่า? ในสระบัวไม่มีปลาอะไรเลยด้วยซ้ำ ฟาร์มบนภูเขาปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ถ้าหากสามารถหาเงินได้คนในหมู่บ้านของพวกเราคงทำสัญญาเช่าไปนานแล้ว ไม่ต้องทิ้งร้างมานานขนาดนี้หรอก"
"พี่สาว ฉันรู้อยู่แล้ว ถ้าหากมีคนต้องการทำสัญญาเช่าคงไม่ถึงคิวของฉันหรอก ก็เพราะว่าไม่มีคนทำสัญญาเช่าฉันก็เลยเช่าลงมาไง ที่สิบเอเคอร์สามหมื่นหยวนสำหรับครอบครัวพวกเราแล้วเหนื่อยอย่างมาก ตอนที่พี่ชายของฉันแต่งงานก็เป็นหนี้หนึ่งก้อนแล้ว แม้ว่าพี่ชายของฉันจะตายไปแล้ว แต่เงินก็ยังคงต้องชดใช้อยู่ใช่ไหมล่ะ? คุณให้ฉันไปทำสัญญาเช่าสิบเอเคอร์สามหมื่น ฉันคงไม่ไหวหรอกนะ"
"หนี้ของพี่ชายนายไม่ใช่ว่ามีพี่สะใภ้นายอยู่เหรอ? นายนี่เป็นคนที่ชอบเป็นห่วงคนอื่นตลอดเลยนะ"
แม้ว่าจะพูดแบบนี้ออกมา แต่ว่าภายในใจของซุนหรานหรานกลับชอบเด็กผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มากยิ่งขึ้น ปากหวาน คนยังมีอารมณ์ขัน พูดจาหลอกให้สาวๆมีความสุข และยังมีความรับผิดชอบ
"อื้ม แม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงนั่นก็เป็นพี่สะใภ้ของฉันนะ ตอนที่พี่ชายของฉันยังมีชีวิตอยู่เขาเคยบอกว่า ตอนที่เขาไม่อยู่บ้านให้ฉันปกป้องพี่สะใภ้ให้ดี ดูแลให้ดี แม้ว่าพี่ชายของฉันจะตายไปแล้ว แต่ว่าคำพูดของพี่ชายฉัน ฉันยังคงต้องทำตามเหมือนเดิม"
"ฮ่าๆๆ……ฉันว่านายน่าจะชอบพี่สะใภ้เข้าแล้วเลยหาข้ออ้างมากกว่ามั้ง?"
ถูกซุนหรานหรานพูดแบบนี้ใส่ จ้าวเสี่ยวกังมีความเขินอายอย่างมาก โชคดีที่เขามีใบหน้าหนา ไม่อย่างนั้นเกรงว่าตอนนี้คงหน้าแดงไปหมดแล้ว
"ฮ่าๆๆ ถ้าหากฉันชอบพี่สะใภ้ของฉัน อย่างนั้นฉันจะต้องพูดออกมาแน่นอน ฉันไม่มีทางซ่อนเอาไว้หรอก นอกจากนี้ฉันก็ไม่มีทางหาข้ออ้างมากขนาดนั้น ชอบก็คือชอบ ทำไหมต้องหาข้ออ้างด้วย?"
หลังจากพูดจบ มือของจ้าวเสี่ยวกังก็ลูปต้นขาของซุนหรานหรานอีกครั้ง แต่ว่าในครั้งนี้กลับถูกซุนหรานหรานขวางเอาไว้
"พอได้แล้ว ถึงทางเข้าหมู่บ้านแล้วนายยังกล้าขนาดนี้อีก ไม่เห็นหรือยังไงตรงทางเข้าประตูมีคนมากขนาดนี้? รีบไปทำธุระของนายได้แล้ว"
จ้าวเสี่ยวกังถูกซุนหรานหรานเตือนแบบนี้ ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านก็เห็นหญิงชราสองสามคนกำลังพัดพัดอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้เพื่อดื่มด่ำกับความเย็นสบาย ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นคนซื่อสัตย์ทันที
หลังจากกลับถึงบ้าน จ้าวเสี่ยวกังหาตะกล้าไม้ไผ่และนำกุ้งลอบสเตอร์ใส่เข้าไปในทันที กล่าวทักทายจ้าวโหย่วเทียนหนึ่งทีและเดินตรงไปยังสระบัว
มาถึงสระบัว จ้าวเสี่ยวกังหาสถานที่ที่มีโคลนโดยตรงและใช้ตาข่ายผืนใหญ่ที่ทำจากไม้ไผ่ที่บ้านเพื่อปิดกั้นที่ดินส่วนใหญ่เป็นเขตแดน หลังจากนั้นปล่อยกุ้งลอบสเตอร์เลี้ยงลงไปโดยตรง ถ้าหากกุ้งลอบสเตอร์ไม่สามารถอยู่รอดได้ อย่างนั้นจ้าวเสี่ยวกังคงต้องพิจารณาสระบัวเอาไปทำอย่างอื่นแทนแล้ว
หลังจากเสร็จสิ้นทั้งหมด จ้าวเสี่ยวกังกลับบ้านและรับประทานอาหารกลางวันง่ายๆ จากนั้นขึ้นไปฟาร์มบนภูเขา วันนี้เขาถูกดึงดูดด้วยเนื้อหาบนป้ายโฆษณาหน้า "ร้านอาหารเผิงไหล"เข้าแล้ว
ฟาร์มบนภูเขาและในป่ามีเห็ดสนป่าไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะฟาร์มบนนภูเขาถูกทิ้งร้างมานานหลายปี ข้างในภูเขาไม่มีใครมาเก็บเห็ดสนป่าเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนในหมู่บ้านยังไม่รู้ว่าเห็ดสนป่ามีมูลค่าอย่างมาก ในเมื่อตอนนี้พบวิธีการหาเงินแบบนี้แล้ว แน่นอนจ้าวเสี่ยวกังจะต้องกุมมันเอาไว้ในมือ
มองดูฟาร์มบนภูเขาที่ลับตา จ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ทันใดนั้นแบกตระกล้ายาไว้หนึ่งใบปีนขึ้นไปทางฟาร์มบนภูเขา ผ่านไปได้ไม่นานเขาก็หาเห็นสนป่าไปทั่วทั้งผืนดิน มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
แม้ว่าแดดจะแผดเผา แต่จ้าวเสี่ยวกังกลับไม่รู้สึกถึงความแรงของดวงอาทิตย์เลย ภายในใจของเขามีการคำนวณว่าแค่ช่วงบ่ายก็สามารถหาเงินได้มากขนาดนี้แล้ว
จนกระทั่วพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน จ้าวเสี่ยวกังค่อยลงมาจากบนภูเขาด้วยความพึงพอใจ แค่ช่วงบ่ายของวันก็สามารถเก็บเห็ดสนป่าได้ถึงสิบกว่ากิโล นี่มันคือเงินสามร้อยกว่าหยวนเลยนะ ถ้าฝนเพิ่งตกเสร็จ จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกว่าเขาสามารถเก็บเห็ดสนป่าเพิ่มได้มากกว่านี้
ข้างหลังแบกเห็ดสนป่าเต็มตระกล้า ความคิดแรกของจ้าวเสี่ยวกังคือไปส่งให้ซ่งยวี่ชิงนิดหน่อย
เมื่อคิดถึงซ่งยวี่ชิงเอาแต่กินขนมปังแผ่นใหญ่และหัวผัดกาดแบบนั้น ภายในใจของจ้าวเสี่ยวกังรับไม่ได้ เร่งความเร็วอีกครั้งทันที
เดินมาถึงหน้าประตูบ้านของซ่งยวี่ชิง จ้าวเสี่ยวกังผลักประตู ประตูบ้านไม่ได้ล็อค ถูกเขาผลักเข้าไปโดยตรง
สิ่งที่สำคัญคือซ่งยวี่ชิงกำลังนั่งร้องไห้อย่างเงียบๆอยู่คนเดียวที่ลานบ้าน เมื่อเห็นท่าทางใบหน้าที่สวยงามอันน่าเศร้าของซ่งยวี่ชิง จ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวด
"พี่สะใภ้ คุณเป็นอะไรเหรอ? ใครรังแกคุณ? คุณบอกกับฉันได้เลย ฉันจะช่วยคุณไปขอความเป็นธรรม"
ซ่งยวี่ชิงก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจ้าวเสี่ยวกังจะมาหาเธอที่นี่ ท้ายที่สุดแล้ววันนี้ยังถูกคนมาล้อมดูมากขนาดนี้ เดิมทีเธอคิดว่าจ้าวเสี่ยวกังจงใจซ่อนตัวจากเธอสักสองสามวันเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าใจผิด
"ไม่เป็นไร นายมาได้ยังไง? ไม่กลัวถูกคนอื่นพูดไปเรื่อยเหรอ?"
ซ่งยวี่ชิงเช็ดน้ำตา มองไปทางสายตาที่ไม่สามารถอธิบายได้ของจ้าวเสี่ยวกังด้วยความเขินอาย มีความปวดร้าวในดวงตา มีความอ่อนโยน มีร่องรอยของความเร่าร้อน
"ฮ่าๆๆ พี่สะใภ้พวกเราสองคนไม่ได้มีอะไรกันจะกลัวทำไหม กลัวสิ่งเหล่านั้นทำไหม ฉันมาที่นี่ก็เพื่อเอาเห็ดสนป่ามาให้คุณ คุณเอาไปผัดสักหน่อย รับรองว่าอร่อยอย่างมาก"
จ้าวเสี่ยวกังพูดไปด้วยและหยิบเห็ดสนป่าในตระกล้าออกมาด้วย
แต่ว่ากลับถูกซ่งยวี่ชิงห้ามเอาไว้
"นายเก็บเอาไว้กินเองดีกว่า ถ้าฉันอยากกินจะไปเก็บเอง นอกจากนี้เย็นขนาดนี้แล้วนายมาที่นี่ถ้าแม่ของพวกเรารู้จะไม่ดีเอานะ"
"เห้อ! จะกลัวไปทำไหม ฉันโตขนาดนี้แล้ว หรือว่าเธอจะมาดูแลฉันตลอดชีวิตเหรอ คุณดูสิฉันเก็บมาเยอะขนาดนี้กินคนเดียวจะกินหมดได้ยังไง? คุณช่วยหน่อยนะ ช่วยฉันกินหน่อย"
มองดูในตระกล้าของจ้าวเสี่ยวกังเต็มไปด้วยเห็ดสนป่า ซ่งยวี่ชิงพยักหน้าอย่างหมดหนทาง
เมื่อเห็นซ่งยวี่ชิงพยักหน้าและตกลง บนใบหน้าของจ้าวเสี่ยวกังเผยให้เห็นรอยยิ้ม
"พี่สะใภ้ คุณยังไม่พูดเลยว่าเมื่อกี้ร้องไห้ทำไหม"
"ไม่มีอะไร นายไม่ต้องถามแล้ว เย็นขนาดนี้แล้วนายยังไม่รีบกลับบ้านอีก ถูกคนอื่นพบเข้าจะไม่ดีนะ"
"ไม่ได้ คุณไม่พูด ฉันก็ไม่มีทางไป"
เมื่อได้ยินซ่งยวี่ชิงพูดว่าไม่บอกตัวเอง จ้าวเสี่ยวกังนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ไผ่ที่อยู่ตรงลานบ้านโดยตรง ไม่มีท่าทีของการจากไปด้วยซ้ำ
ซ่งยวี่ชิงมองไปทางจ้าวเสี่ยวกังที่เล่นโกงแต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย สำหรับจ้าวเสี่ยวกังแล้วเธออยากจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลง ในจุดนี้แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร
"ได้ อย่างนั้นถ้าฉันพูดแล้วนายรีบไปเลยนะ"
"อื้ม คุณพูดเลย พูดเสร็จฉันก็จะไปเลย"
จ้าวเสี่ยวกังมีความสุขที่ได้เห็นการประนีประนอมของซ่งยวี่ชิง
"คนทวงหนี้มาแล้ว นอกจากนี้ยังเอาทีวีที่บ้านไปแล้ว บอกว่าทีวีทำเงินสูงสุดห้าร้อยหยวน ถ้าหากภายในหนึ่งเดือนยังไม่สามารถคืนเงินหนึ่งพันห้าร้อยหยวนที่เหลือได้ พวกเขาจะมาขนของในบ้านทั้งหมด"
หลังจากจ้าวเสี่ยวกังได้ยินคำพูดนี้รีบเข้าไปในบ้านทันที แน่นอนมองไม่เห็นทีวีที่อยู่กลางห้องนั่งเล่นหายไปแล้ว นอกจากนี้โต๊ะที่อยู่ข้างเตียงก็หายไปแล้วหนึ่งตัว สิ่งนี้ทำให้จ้าวเสี่ยวกังโกรธจนสั่นไปทั้งตัว แต่ว่าสำหรับเรื่องของการติดหนี้คนอื่นนี้ เขานั้นทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
กะทันหัน สมองของจ้าวเสี่ยวกังสว่างขึ้นทันที
"พี่สะใภ้ เอาแบบนี้คุณไปทำงานกับฉันไหม ภายในหนึ่งสัปดาห์ฉันสัญญาว่าจะสามารถคืนเงินได้"
ซ่งยวี่ชิงไม่เข้าใจว่าความมั่นใจของจ้าวเสี่ยวกังมาจากไหน แต่ว่ายังคงถามด้วยความสงสัย :"ทำงานอะไรกับนาย? ทำงานอะไรหนึ่งสัปดาห์ถึงสามารถหาเงินได้หนึ่งพันห้าร้อยหยวน?"
"ฮ่าๆๆ คุณพูดก่อนว่าจะทำกับฉันไหม เพียงแค่คุณตอบตกลง ฉันสัญญาว่าทำได้แน่นอน"
"เสี่ยวกัง เรื่องที่ทำผิดกฎหมายห้ามทำเด็ดขาดเลยนะ นายบอกฉันก่อนว่าให้ฉันทำงานอะไร หลังจากนั้นฉันจะพิจารณาดูว่าตอบตกลงไหม"
จ้าวเสี่ยวกังคิดไม่ถึงเลยว่าในเวลาแบบนี้ซ่งยวี่ชิงจะเป็นห่วงเขา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
"ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ก็คือไปเก็บเห็ดสนป่ากับฉันที่ฟาร์มบนภูเขา เพียงแค่วันเดียวคุณสามารถเก็บได้สิบกิโล ฉันก็จะสามารถช่วยคุณขายออกไปได้เงินสามร้อยหยวน"
เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ภายในใจของซ่งยวี่ชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"ก็ได้ พี่สะใภ้จะทำกับนาย เพียงแต่ตอนที่นายไปขายเห็ดสนฉันจะไปกับนายด้วยกัน"
หลังจากได้ยินซ่งยวี่ชิงตอบตกลง จ้าวเสี่ยวกังกระโดดไปกอดซ่งยวี่ชิงอย่างมีความสุขโดยตรง ดีใจจนหมุนเป็นวงกลมหนึ่งรอบอยู่กับที่
ซ่งยวี่ชิงคิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเสี่ยวกังจะกอดตัวเองอย่างกะทันหันแบบนี้ ตบอย่างเขินอายทันที
"เสี่ยวกัง นายปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ ปล่อยฉันลง"
"พี่สะใภ้เมื่อกี้คุณตอบตกลงฉันแล้วนะ ห้ามกลับคำเด็ดขาด พรุ่งนี้เช้าตอนตีห้าฉันจะมาหาคุณ"
หลังจากพูดเสร็จจ้าวเสี่ยวกังก็ถือตะกร้ายาและวิ่งจากไปอย่างมีความสุข
ซ่งยวี่ชิงนึกถึงความหมายของคำพูดของจ้าวเสี่ยวกัง อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉากที่จ้าวเสี่ยวกังโอบกอด ในเวลานั้นเธอรู้สึกมีความสุขอย่างมาก มีความสุขมากๆๆ
MANGA DISCUSSION