ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? - ตอนที่ 93 อันดับหนึ่งทั้งสองคน
ตอนที่ 93 อันดับหนึ่งทั้งสองคน
ตอนที่ 93 อันดับหนึ่งทั้งสองคน
กิจการร้านอวิ๋นเหยียนเป็นที่นิยมมาก แม้เทียบกับวันแรกแล้วจำนวนลูกค้าในช่วงหลังจะลดลงไปบ้าง แต่ก็มากพอให้คนงานหญิงทั้งหกคนยุ่งมือระวิง
เฉียวเยี่ยนไปช่วยในร้านเมื่อสองสามวันก่อน หลังจากนั้นไม่กี่วัน เมื่อคนงานหญิงปรับตัวได้ทั้งหมดแล้ว นางก็กลายเป็นเถ้าแก่เนี้ยชี้นิ้วสั่ง และไปตรวจดูสถานการณ์เป็นครั้งคราวเท่านั้น
เมื่อเดือนเก้ามาเยือน สำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยนก็หยุดการเรียนการสอน วันหยุดในสมัยโบราณนั้นแตกต่างกับวันหยุดในฤดูหนาวกับฤดูร้อนของปัจจุบัน นอกจากจะหยุดในทุกสิบวันแล้ว ยังมีวันหยุดเฉพาะกิจในเดือนห้าและวันหยุดประจำปีในเดือนเก้า ความหมายตามชื่อนั้นคือวันหยุดเฉพาะกิจเป็นการให้นักเรียนกลับบ้านในช่วงที่วุ่นวายกับงานเกษตร ส่วนวันหยุดประจำปีคือใช้ฤดูหนาวมาเป็นตัวกำหนด ให้นักเรียนกลับไปเตรียมเสื้อผ้าอบอุ่นก่อนฤดูหนาวใกล้เข้ามา
ก่อนที่นักเรียนจะออกจากสำนักศึกษา อาจารย์จะจัดให้มีการทดสอบ เพื่อตรวจสอบสิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ ซึ่งเทียบเท่ากับการสอบปลายภาคในสมัยปัจจุบัน
ในวันที่เด็กทั้งสองหยุดวันนั้น เฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินก็ไปรับพวกเขาจากสำนักศึกษาด้วยตนเอง แต่ผลก็คือถูกเรียกเข้าฝ่ายปกครอง
ทำไมน่ะรึ? เพราะลูกน้อยทั้งสองของนางยอดเยี่ยมเกินไปนะสิ
เสี่ยวฉวนเอ๋อร์แสดงความสามารถออกมาได้อย่างมีเสถียรภาพ และเป็นอันดับหนึ่งในชั้นเรียนมาตลอดตั้งแต่เขาเข้ามาเรียน และครั้งนี้เองก็เช่นกัน นอกจากวิชาต่อสู้ที่แพ้ให้กับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์แล้ว ในศาสตร์ทั้งหกแขนง*ที่เหลือเขาก็ล้วนเป็นอันดับหนึ่ง
*ศาสตร์หกแขนงที่เหล่าบัณฑิตในราชสำนักต้องเรียน ได้แก่ มารยาท ดนตรีและนาฏศิลป์ การยิงธนู การขี่ม้า การคัดอักษร และการคำนวณ
อาจารย์ชื่นชอบเด็กน้อยมาก เมื่อเอ่ยถึงเขา ก็ยิ้มจนแทบไม่หุบ แต่ครั้นเอ่ยถึงเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ใบหน้านั้นก็ฉายแววทั้งรักทั้งชัง
เจ้าปลาอ้วนได้อันดับรั้งท้ายอย่างมีเกียรติมาก ทั้งศาสตร์หกแขนงล้วนได้คะแนนเพียงหลักเดียว เฉียวเยี่ยนมองกระดาษข้อสอบที่มีแต่กากบาทสีแดงของลูกสาวก็รู้สึกปวดหัวอย่างยิ่ง และคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเหตุใดเด็กน้อยจึงไม่ฉายแววความฉลาดในด้านการเรียนเลยล่ะ?
นางมองเจ้าปลาอ้วนที่เอาแต่เกาศีรษะ แล้วเอ่ยอย่างจนใจ “เฉียวจืออวี๋ เหตุใดเจ้าถึงวาดรูปไปเรื่อยบนกระดาษข้อสอบ?”
ถูกต้อง เด็กน้อยนำกระดาษข้อสอบมาเป็นกระดาษวาดภาพ ช่องว่างที่ให้เขียนคำตอบถูกนางวาดรูปจนเต็ม มีดอกไม้ดอกน้อย และมีรอยหมึกสีดำเป็นกองๆ
หากเป็นแค่คะแนนแย่อาจารย์คงไม่เรียกผู้ปกครองมา ความจริงแล้วทุกครั้งที่เด็กน้อยส่งการบ้านมาล้วนเป็นภาพวาดอะไรไม่รู้ พวกเขาเองก็ตำหนินางไม่ลง จึงทำได้แค่ผลักแรงกดดันมาให้เฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจิน
เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เงยหน้าขึ้นอย่างน้อยใจ เสียงเด็กเล็กน้อยใจนั่นใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว
“ลูกไม่ได้วาดไปเรื่อย ”
เห็นได้ชัดว่านางตั้งใจวาดมาก ทว่าท่านแม่กับอาจารย์ต่างไม่ชื่นชอบ
เฉียวเยี่ยนกุมหน้าผากอย่างจนปัญญา รู้ว่าตัวเองกำลังสีซอให้ควายฟัง นางจึงอธิบายอย่างอดทน “วาดรูปบนกระดาษข้อสอบเป็นการไม่เคารพต่ออาจารย์ อาจารย์จะรู้สึกว่าเจ้าเป็นเด็กที่ไม่เชื่อฟัง ดังนั้น จากนี้ไปห้ามทำเช่นนี้อีกเข้าใจหรือไม่? ”
เจ้าปลาอ้วนเบะปาก นัยน์ตาสั่นระริกไปด้วยน้ำตา จนมู่ฉินเจินมองอยู่ด้านข้างอย่างปวดใจไม่น้อย
เขาอุ้มเด็กน้อยขึ้นมา พลางเช็ดน้ำตาให้นางอย่าง อ่อนโยน เจ้าปลาอ้วนซุกหัวเข้าไปในอ้อมอกเขา เหลือเพียงใบหูสองข้างฟังมารดาพูด
เฉียวเยี่ยนถลึงตาใส่มู่ฉินเจิน ท่านให้ท้ายนางเช่นนี้ ต่อไปนางคงกลายเป็นอันธพาลน้อยบวกกับเป็นคนไม่รู้หนังสือแน่ แล้วสักวันท่านจะต้องร้องไห้
ท่านอ๋องถูกถลึงตาใส่ก็ไม่โกรธ แถมยังยิ้มให้กับเฉียวเยี่ยน แต่ก็ยังคงปกป้องเจ้าปลาอ้วนเช่นเดิม
ในสายตาเขา ลูกตัวเองดีหมดทุกอย่าง เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ฉลาด มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดี แม้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จะไม่มีความรู้ในด้านการเรียน แต่ในด้านการต่อสู้ นางกลับมีพรสวรรค์ อีกทั้งเด็กน้อยยังสนใจตำราพิชัยสงครามด้วย
เขาตั้งใจจะเปลี่ยนรูปแบบการเรียนให้นาง ในเมื่อนางเรียนตำราศาสตร์ในด้านต่างๆ ที่น่าเบื่อไม่ได้ เช่นนั้นเขาก็จะให้นางเรียนตำราพิชัยสงคราม
นักรบที่โดดเด่นไม่เพียงต้องมีวิชาแข็งแกร่ง แต่ที่สำคัญคือต้องมีมันสมอง ตามหลักการเดินทัพทำสงคราม มีเพียงคนบ้าบิ่นที่มีวิชาแต่ไม่มีมันสมองเท่านั้นที่สามารถเป็นแม่ทัพได้ ทว่าถูกกำหนดให้เป็นผู้ฝึกสอนไม่ได้
เฉียวเยี่ยนฟังความคิดของเขาแล้วก็เห็นด้วย แม้จะไม่เรียกร้องให้ลูกสาวศึกษาด้านดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ปรัชญา แต่ก็ยังต้องรู้จักตัวอักษรบ้าง ไม่เช่นนั้นด้วยสถานการณ์ของนางในตอนนี้ ก็จะมีความเป็นไปได้สูงที่ต่อจากนี้ไปนางจะเป็นคนไม่รู้หนังสือ
ให้นางรู้จักอักษรผ่านการฝึกตำราพิชัยสงคราม ก็นับว่าเป็นการช่วยชาติแล้ว
เมื่อตัดสินใจได้เช่นนี้ มู่ฉินเจินก็ไปหาตำราพิชัยสงครามที่เหมาะสมกับเจ้าปลาอ้วนมาให้นางไม่น้อย และอธิบายความรู้ในตำราพิชัยสงครามเหล่านั้นให้เด็กน้อยฟังทุกวัน
ตามคาด ความสนใจคือครูที่ดีที่สุด พอเด็กน้อยอ่านตำราพิชัยสงครามซุนจื่อสามสิบหกกลยุทธ์ นางก็ไม่ง่วงงุนเหมือนตอนอ่านตำราวิชาการอีก และเรียนอย่างสนุกสนานมาก
……
ในช่วงกลางเดือนเก้า พืชผลในทุ่งนาส่วนใหญ่สุกเต็มที่แล้ว ข้าวสาลีเหลืองอร่าม ผลแตงส่งกลิ่นหอม พวกชาวนาดื่มดำความสุขอยู่ท่ามกลางช่วงเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง
ด้านตำหนักอ๋องซู่ก็วุ่นวายมาก ต้นพริก แตงต่างๆ ถั่วฝักยาวที่ปลูกในแปลงน้อยใหญ่ในตำหนักสามารถเก็บได้แล้ว ซึ่งเฉียวเยี่ยนนำพวกข้ารับใช้ไปทำงานอยู่ในทุ่งนาทุกวัน
ขาของมู่ฉินเจินได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว จึงต้องกลับไปทำงานในค่ายทหารต่อ ทุกวันหลังจากเลิกว่าราชกิจหรือกลับมาจากค่ายทหาร เขาก็จะทำงานด้วยกันกับเฉียวเยี่ยน
ในตำหนักสร้างชั้นวางแตงไว้มากมาย บนนั้นมีแตงน้อยใหญ่ห้อยอยู่เต็มไปหมด ฟักทองใหญ่เหลืองอร่ามหนึ่งลูก มีน้ำหนักราวๆ สามหรือสี่สิบชั่ง เมื่อปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเอาใส่หม้อต้ม ไม่ต้องเติมน้ำตาลกับน้ำมัน ก็สดชื่นและหอมหวานแล้ว
แล้วก็ยังมีฟักทองเกาลัดขนาดเท่ากำปั้นอีก นำไปล้างให้สะอาดใส่หม้อเอาไปนึ่งให้สุกแล้วก็รับประทานได้เลย มันอัดแน่นไปด้วยเนื้อ หอมหวาน รับประทานในตอนเช้านับว่าเหมาะมาก
ฟักทองพวกนี้กลายเป็นของโปรดปรานของเฉียวเยี่ยนในตอนนี้ไปแล้ว ทุกวันนางล้วนพลิกแพลงทำเป็นอาหารออกมา วันนี้เป็นขนมฟักทอง พรุ่งนี้เป็นแกงซี่โครงฟักทอง
แล้วก็ถั่วฝักยาวเป็นพวงๆ นั้นอีก เก็บไปอบกับซี่โครงหรือเอาไปหมักเป็นถั่วฝักยาวดองก็ได้ ล้วนอร่อยทั้งหมด
ถั่วฝักยาวที่กินไม่หมดก็เอามาตากแดดให้แห้งได้ เอาเปลือกถั่วออกให้เหลือแต่เพียงเม็ดถั่ว แล้วรอให้ถึงฤดูหนาว ก็นำเม็ดถั่วที่แช่น้ำแล้วไปตุ๋นกับหัวถุ่ย ตุ๋นจนเม็ดถั่วดูดซับกลิ่นของหัวถุ่ย เอาไปกินกับข้าวก็อร่อยมาก
รากบัวในสระบัวตำหนักอ๋องก็สามารถขุดได้แล้ว ตอนเข้าฤดูวสันต์ของปีนี้ เฉียวเยี่ยนได้สั่งให้คนไปทำความสะอาดสระบัวแล้ว ใบบัวเติบโตได้ดีเป็นพิเศษ และผลิดอกมากกว่าปีก่อนๆ มาก
วันนี้อากาศดียิ่งนัก ปลอดโปร่งแสนสบาย มู่ฉินเจินจึงไม่ได้ไปที่ค่ายทหาร ทุ่มแรงกายแรงใจพาคนทั้งตำหนักไปขุดรากบัวให้เฉียวเยี่ยน
พวกองครักษ์กับข้ารับใช้ต่างกระโดดลงแม่น้ำเหมือนอย่างลิง เอามือล้วงเข้าไปในโคลนขุดรากบัวออกมา ส่วนเฉียวเยี่ยนกับพวกสาวใช้อยู่บนฝั่งเก็บรากบัวที่พวกเขาโยนขึ้นมาดีๆ
มู่ฉินเจินเองก็อยากลงไป แต่เฉียวเยี่ยนไม่ยอมหลีกให้ ขาเขาเพิ่งได้รับบาดเจ็บมา มิควรสัมผัสความเย็น ยามนี้เป็นฤดูสารทแล้ว ใต้โคลนเย็นมาก หากมีอาการข้างเคียงตามมาก็จะแย่
ภายในสระบัวนอกจากมีรากบัวแล้วยังมีปลา หลังเลี้ยงมาแล้วหนึ่งปี ปลาแต่ละตัวก็อวบอ้วนมาก แต่ก็จับยากเป็นพิเศษเพราะน้ำถูกกวนให้ขุ่นหมดแล้ว จึงเห็นปลาได้ไม่ชัดนัก อีกทั้งมันยังลื่นมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจับเลย เพราะสุดท้ายปลาที่จับได้ก็หลุดมือไปในพริบตา
เด็กทั้งสองให้กำลังใจท่านลุงทั้งหลายอยู่บนฝั่ง เห็นพวกเขาจับปลาแล้วทำหลุดมือไป ก็ร้อนรนจนเขย่งเท้าไปมา
เจ้าหมาใหญ่ตามมาอยู่ข้างเจ้าปลาอ้วน เห็นคนกลุ่มหนึ่งจับปลาไม่ได้ มันจึงร้องออกมาอย่างไม่ชอบใจ จากนั้นก็พุ่งกระโดดลงน้ำ ไปจับปลากับพวกองครักษ์
ต้องยอมรับว่า ทันทีที่พี่หมาออกโรง มันก็ทำสำเร็จโดยไม่ต้องออกแรงมาก พอเอาปากจุ่มน้ำลงไปและเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง มันก็คาบปลาตัวหนึ่งไว้แล้ว
เล็บใหญ่ดำขลับของมันนั้น เพียงตบลงก็ตบได้อย่างแม่นยำ ตบจนปลาที่อยู่ในน้ำมึนงง
เพียงครึ่งบ่าย เจ้าหมาดำที่มีความสามารถก็จับปลาได้หลายตัว เฉียวเยี่ยนดีใจมาก จึงให้กระดูกติดเนื้อแก่มันหนึ่งชิ้นเป็นรางวัล
วันนี้ขุดรากบัวมาไม่น้อย ดังนั้นเฉียวเยี่ยนก็ทำอาหารกลางวันจากรากบัวไม่น้อยเช่นกัน ได้แก่รากบัวผัดเปรี้ยวเผ็ด รากบัวทอดกรอบ แล้วก็รากบัวยัดไส้ข้าวเหนียว
รากบัวยัดไส้ข้าวเหนียวใช้เวลาทำค่อนข้างนาน เพราะต้องยัดข้าวเหนียวลงไปในรูของรากบัวก่อน แล้วเอาไปแช่ไว้ในน้ำ ให้ข้าวดูดซับน้ำจนพองขึ้นมาเต็มช่องรากบัว จากนั้นใส่ลงไปในหม้อ ต้มรากบัวให้สุก แล้วราดด้วยน้ำผึ้งกุ้ยฮวาให้ฉ่ำ
รากบัวยัดไส้ข้าวเหนียวเหนียวนุ่มหอมหวานเป็นที่ชื่นชอบของสามพ่อลูกมาก จนรากบัวเต็มจานถูกพวกเขารับประทานจนหมด
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องอย่าหืออย่าต่อต้านเมียค่ะ ถ้าไม่อยากชะตาขาด
น้องปลาอ้วนไปเรียนวิชาบู๊ถือว่าถูกทางแล้ว ดูน้องชอบเคลื่อนไหว ไม่ชอบนั่งเฉย ๆ
ที่ไหนมีรากบัวยัดไส้ข้าวเหนียวขายบ้างคะ หรือว่าผู้แปลต้องลงมือทำเองอีกแล้ว?
ไหหม่า(海馬)