ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? - ตอนที่ 81 กลับมาถึงเมืองหลวงก็ยุ่งทั้งครอบครัว
ตอนที่ 81 กลับมาถึงเมืองหลวงก็ยุ่งทั้งครอบครัว
ตอนที่ 81 กลับมาถึงเมืองหลวงก็ยุ่งทั้งครอบครัว
เถาซานเหลียงเพ้อฝันอย่างสวยหรูยิ่ง และกังวลว่าเฉียวเยี่ยนจะเปลี่ยนใจไม่ให้เงิน จึงเอ่ยเสมือนช่วยคนอื่นด้วยเจตนาดี “เอาเช่นนี้ไหม ให้ถือเสียว่าข้าเสียเปรียบ ผู้ใหญ่หนึ่งเด็กหนึ่งแปดสิบตำลึง หากน้อยไปกว่านี้ข้าไม่ตกลงแล้ว รีบพาพวกนางไปเสีย!”
นางอยู่ด้วยกันกับเขามาแล้วห้าหกปี เป็นภรรยาที่คอยปรนนิบัติเขาเสมือนนายท่าน แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเขาเองก็เป็นเหมือนสิ่งของในสายตาเขา ณ ขณะนี้ บอกว่าขายก็ขายเลย
ตู้เยว่หงยิ้มเฝื่อนออกมาอย่างเศร้ารันทด หัวใจที่ตายไปแล้วถูกบดขยี้จนเหลวเละอีกครั้ง นี่คือเพื่อนร่วมเตียงของนางหรือ!
เฉียวเยี่ยนข่มกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ ยั้งมือไม่ให้เตะสวะผู้นี้ตาย และไม่อยากเสียเวลาพูดกับเขาให้มากความ เพราะคนเช่นนี้มองเพียงปราดเดียวก็รู้สึกได้ว่าเป็นคนโฉดชั่ว
“เปิ่นเฟยจะให้เจ้าหนึ่งร้อยตำลึง เจ้ารีบไปหาหัวหน้าหมู่บ้านร่างหนังสือหย่าออกมา และจากนี้ไปห้ามมาข้องแวะใด ๆ กับพวกนางสองแม่ลูกอีก!”
ตู้เยว่หงได้ยินคำพูดนี้ก็ดึงเฉียวเยี่ยนไว้ พลางส่ายหน้าเพื่อบ่งบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ทว่าเฉียวเยี่ยนแค่ส่งสายตาให้อดทนรออีกประเดี๋ยว
เถาซานเหลียงปิติยินดียิ่ง คาดไม่ถึงว่าจะได้รับเงินหนึ่งร้อยตำลึง พลันนอบน้อมลงทันใด และทำท่าว่าจะกำลังจะไปทำเดี๋ยวนี้
เฉียวเยี่ยนส่งสัญญาณให้ฮุ่ยเซียงนำตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงออกมาหนึ่งใบส่งให้เขา ฮุ่ยเซียงมองตั๋วเงินที่ส่งออกไปอย่างปวดใจ เงินมากมายเช่นนี้เอามาให้ไอ้สวะผู้นี้ช่างสิ้นเปลืองเสียจริง ๆ !
นอกบ้านมีพวกชาวบ้านมาล้อมดูกันไม่น้อยแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านก็อยู่ในฝูงชนเหล่านั้นเช่นกัน ครั้นเห็นเฉียวเยี่ยนให้เงินหนึ่งร้อยตำลึงกับเถาซานเหลียง เขาก็รู้สึกปวดใจยิ่งกว่าตัวนางเองเสียอีก
หัวหน้าหมู่บ้านลากเถาซานเหลียงไว้ พร้อมด่าอย่างจงเกลียดจงชัง “รีบเอาเงินคืนไปเดี๋ยวนี้! เจ้าคิดว่าขายพวกนางสองแม่ลูกไปแล้วจะมีใครยอมมาใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าหรือ!”
เถาซานเหลัยงสะบัดมือเขาออก และเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “ออกไป! เรื่องในบ้านข้าไม่เกี่ยวกับเจ้า!”
เขามองตั๋วเงินร้อยตำลึงในมืออย่างลำพองใจ ทั้งยังสั่งให้หัวหน้าหมู่บ้านเขียนหนังสือหย่าให้ประหนึ่งเป็นนายท่าน และประทับตราฝ่ามือตัวเองลงบนนั้นอย่างมีความสุข
เถาซานเหลียงโยนหนังสือหย่าใส่ตู้เยว่หง พร้อมทั้งถุยน้ำลายไปทางนาง “ถุย! ข้าอยากหย่ากับหญิงแก่หน้าเหลืองเช่นเจ้ามาเนิ่นนานแล้ว รีบพาตัวขาดทุนนั่นไสหัวออกไปซะ!”
แววเยือกเย็นแวบผ่านนัยน์ตาเฉียวเยี่ยน นางหัวเราะเยาะเย้ยอยู่ในใจ ปล่อยให้เขาได้ใจไปอีกสักพักเถิด สักวันหนึ่งเขาจะต้องร้องไห้แน่นอน!
คิดว่าจะเอาเงินของนางไปได้ง่าย ๆ หรืออย่างไร? ถุย! กูหน่ายหน่าย*ผู้นี้ไม่ได้เปิดโรงทานเสียหน่อย!
(*姑奶奶 กูหน่ายหน่าย เป็นคำที่บุคคลในครอบครัวของแม่เรียกลูกสาวที่แต่งงานออกไป และหมายถึงแม่เจ้าประคุณที่ใช้เรียกผู้หญิงที่สนิทเชิงตำหนิอีกด้วย)
เถาซานเหลียงเดินอย่างวางมาดออกไป โดยมีพวกชาวบ้านพากันก่นด่าสาปแช่งเขา พลางอำลาเฉียวเยี่ยนด้วยความฉุนเฉียว แล้วเดินตามชายคนนั้นกลับไป
ผู้คนแยกย้ายกระจายกันกลับ ในบ้านจึงเหลือเพียงสองแม่ลูกตู้เยว่หงกับพวกเฉียวเยี่ยน จากนั้นเฉียวเยี่ยนก็เรียกเกาจัวหยวน สั่งให้เขาไปทำภารกิจหนึ่งให้สำเร็จ
“โจรย่องเข้าหมู่บ้าน ออกปล้นสะดมชาวบ้าน ประจวบเหมาะกับชาวบ้านผู้หนึ่งเจ็บหนัก และยังถูกเผาบ้านอีก สถานการณ์เช่นนี้น่าจะไม่ถือว่าเห็นได้น้อยนะ? ”
เกาจัวหยวนฟังคำพูดที่ไม่ตรงประเด็นของหวางเฟยเหนียงเหนียงก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย นี่อยู่ดี ๆ มันเกี่ยวข้องกับโจรได้อย่างไร?
มู่ฉินเจินฟังเฉียวเยี่ยนพูดจบก็เข้าใจว่านางอยากจะทำอะไร จึงยกมุมปากยิ้มบางเบา เจ้าท่อนไม้ของเขาจะทำให้ตัวเองเสียเปรียบได้อย่างไร ในตอนที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวก็ลากมาตกหลุมพราง ขณะที่อีกฝ่ายยังนับเงินให้นางอย่างมีความสุข
เกาจัวหยวนมองสีหน้าอมยิ้มของหวางเฟย พลันหัวสมองก็เปล่งแสงออกมา เขาตบศีรษะตัวเองไปหนึ่งที และคำนับรับคำสั่ง “กระหม่อมจะทำภารกิจสำเร็จแน่นอนพะย่ะค่ะ!”
อ่า! ดูเหมือนต่อไปตอนคุยกับหวางเฟยต้องระมัดระวังหน่อย ไม่เช่นนั้นจะถูกขายไปเมื่อใดก็ไม่อาจรู้ได้ เขาก็ว่าอยู่ว่าเหตุใดหวางเฟยถึงใจดีให้เงินไอ้สวะนั่นตั้งหนึ่งร้อยตำลึง ที่แท้ก็รอจังหวะเช่นนี้อยู่นี่เอง!
ให้เงินอีกฝ่ายไปก่อนหนึ่งร้อยตำลึง และหลอกให้ลงนามใบหย่า ก่อนจะส่งเขาที่ปลอมเป็นโจรไปแย่งเงินกลับมา จากนั้นก็อัดสั่งสอนแล้วก็เผาบ้าน ให้มันผู้นั้นสิ้นเนื้อประดาตัว!
เยี่ยมมาก! ช่างอำมหิตอะไรเช่นนี้! ไม่เพียงแต่ไม่มีเงิน แม้แต่บ้านก็ไม่มี แถมยังเสียลูกเมียไปด้วย ความเสียหายระดับนี้ช่างเหมาะสมกับนิสัยของหวางเฟยจริง ๆ !
คนที่อยู่ในบริเวณนั้นเข้าใจความหมายของเฉียวเยี่ยนแล้ว จึงปิดปากหัวเราะขึ้นมา ตอนนี้ไอ้เลวเถาซานเหลียงนั้นน่าจะกำลังมีความสุขอยู่สินะ!
ตู้เยว่หงฟังคำพูดอ้อมค้อมเหล่านี้ไม่เข้าใจ เพราะกำลังหยิบใบหย่านั้นด้วยน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้า นางหลุดพ้นจากชายคนนั้นแล้ว! ลูกของนางไม่ต้องถูกทุบตีอีกแล้ว!
นางปาดน้ำตาที่เอ่อล้นในดวงตาออก แล้วดึงตัวสาวน้อยมา สองแม่ลูกคุกเข่าคำนับเฉียวเยี่ยวหลายครั้ง นี่คือผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ของพวกนาง เป็นบิดามารดาที่ให้กำเนิดพวกนางอีกครั้ง!
……
ชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม แม้ว่าบางคราจะมีเรื่องน่าขยะแขยงบ้าง ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป เราก็ยังมีพรุ่งนี้ที่สวยงามเสมอ
พวกเฉียวเยี่ยนขี่รถม้าออกเดินทางไปยังเมืองหลวง พอตกค่ำหมู่บ้านจิ่วหลีพัวก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ซึ่งก็คือมีโจรเข้ามาในหมู่บ้าน!
ทว่าโจรผู้นี้แปลกประหลาดยิ่งนักตรงที่ปล้นสะดมแค่บ้านของเถาซานเหลียง คงเป็นเพราะรู้ว่าเถาซานเหลียงได้เงินมาหนึ่งร้อยตำลึง แถมยังจุดไฟเผาบ้านอันทรุดโทรมของเขาด้วย
พวกเขานอนหลับอย่างสบาย พอรุ่งเช้าถึงได้รู้ว่าบ้านของเถาซานเหลียงถูกเผาวอดไปหมดแล้ว ทว่าตัวเถาซานเหลียงไม่ได้ถูกเผา กลับถูกคนทุบตีจนหน้าตาปูดช้ำดำเขียว ทั้งถูกเปลื้องผ้าด้านนอกออกแล้วมัดแขวนไว้บนต้นไม้ในหมู่บ้าน
ชาวบ้านที่ตื่นเช้ามาทำงานเห็นเข้าก็ตกใจ และยังคิดว่าเป็นคนตายแล้วเสียอีก!
ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครเห็นอกเห็นใจเขา คนชั่วย่อมถูกสวรรค์ลงโทษ ซึ่งพระเจ้าคงเห็นว่าเขาชั่วช้าเกินไป จึงทนดูไม่ไหวและลงโทษเขาไป!
เฉียวเยี่ยนรู้แล้วว่าสภาพของเถาซานเหลียงน่าสังเวชเพียงใด เพราะหลังเกาจัวหยวนกลับมาจากการทำภารกิจเสร็จสิ้น เขาก็คุยโม้กับเหล่าองครักษ์จนจะบินขึ้นฟ้าแล้ว
เมื่อมาถึงเมืองหลวง สองแม่ลูกตู้เยว่หงไม่มีที่ไป เฉียวเยี่ยนจึงจัดให้นางไปทำงานที่เรือนกระจกในหมู่บ้านลวี่หลัว ช่วงนี้พริกใกล้จะเก็บเกี่ยวได้พอดี พวกคนงานยุ่งกันมาก ๆ มีคนไปเพิ่มหนึ่งคนคงช่วยแบ่งเบาได้ไปส่วนหนึ่ง
นางยังให้หงรุ่ยผู้คุมงานในเรือนกระจกจัดห้องพักให้นางหนึ่งห้อง นางสามารถอาศัยอยู่ที่นั้น ทั้งยังดูแลลูกได้
เพิ่งกลับมาเมืองหลวงได้ไม่นาน เฉียวเยี่ยนก็ยุ่งเหมือนลูกข่างอีกแล้ว พริกชุดใหญ่ที่เก็บเกี่ยวในเรือนกระจกต้องมีคนจัดการ และนางต้องตรวจดูสมุดบัญชีใกล้หนึ่งเดือนของภัตตาคาร อีกทั้งร้านเครื่องสำอางที่ปรับปรุงซ่อมแซมไว้ก่อนหน้านี้ก็ยังรอนางอยู่
พริกที่เก็บเกี่ยวแล้วส่วนหนึ่งถูกส่งมายังภัตตาคารส่วนขายสินค้ากับห้องครัวด้านหลัง ส่วนที่เหลือนางให้พวกคนงานเอาพวกมันมาตากแดด ซึ่งมันจะมีประโยชน์ให้นางใช้ในภายหลัง
นางได้ตั้งชื่อร้านเครื่องสำอางว่าร้านอวิ๋นเหยียน เริ่มซ่อมแซมมาตั้งแต่ปีก่อน จวบจนบัดนี้ก็ผ่านไปครึ่งปีกว่า และเมื่อสองเดือนก่อนได้ซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทว่านางยุ่งกับเรื่องอื่นมาตลอด จึงไม่ได้สนใจ ซึ่งช่วงนี้ต้องเริ่มวางแผนขึ้นมาโดยเร็วแล้ว!
เฉียวเยี่ยนยุ่ง มู่ฉินเจินเองก็ยุ่ง วันที่อยู่กับภรรยานั้นมีความสุขนัก ยามนี้ทำงานล่วงเวลาเพื่อจัดการงานราชการที่สะสมเป็นกอง ก็รู้สึกไม่มีความสุขมาก!
โดยเฉพาะตาเฒ่านั่นที่เปลี่ยนกฏเพิ่มงานให้เขา เขารู้หรอกนะว่าตาเฒ่านั่นกำลังอิจฉาเขาที่มีภรรยาผู้มีความสามารถ!
ชีวิตของเด็กทั้งสองก็น่าเศร้ามากเช่นกัน เป็นเพราะลาหยุดไปหามารดา พวกเขาจึงทิ้งการบ้านที่ยังทำไม่เสร็จไว้มากมาย
เสี่ยวฉวนเอ๋อร์นับว่ายังดี มือน้อย ๆ จับพู่กันเขียนตอบหัวข้อคำถามที่อาจารย์มอบหมายมาอย่างประณีตเรียบร้อย แต่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กลับเศร้าสลดจนนึกสงสัยในชะตาชีวิตแล้ว
หัวข้อเหล่านั้น นางอ่านไม่ออกสักตัว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการเขียน นางเงยใบหน้าน้อยมองพี่ชายเขียนตัวอักษรอย่างตั้งใจ พลางถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ ดวงหน้าน้อยยับยู่ยี่ และตัดสินใจละเลงวาดสมุดบันทึกนี้จนเต็มหน้า!
ด้วยเหตุนี้เอง วันหนึ่งอาจารย์ได้เปิดสมุดเรียนของเจ้าปลาอ้วน เมื่อเห็นด้านในมีดอกไม้ช่อหนึ่งก็ยิ้มอ่อน และลูบเคราอย่างจนใจ
พวกเขาเป็นอาจารย์มาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เจอศิษย์เช่นนี้ จะให้ลงโทษหรือก็ทำไม่ลง ท่าทางน่ารักที่ยิ้มให้กับพวกเขาที พวกเขาก็ใจละลายแล้ว แต่หากไม่ลงโทษ ทักษะกวนประสาทคนอื่นของเด็กน้อยคนนี้ก็ล้ำลึกจนเกินไป!
เด็กน้อยทั้งสองกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างตั้งใจอยู่ในห้องหนังสือ เจ้าหมาน้อยที่เติบโตจากสุนัขสีดำตัวเล็กไปเป็นสุนัขสีดำตัวใหญ่กำลังนอนอยู่ใต้เท้าของเจ้าปลาอ้วน ปล่อยให้นายของมันใช้เท้าน้อยเหยียบไปบนท้องมัน
เฉียวเยี่ยนแอบมองอยู่หน้าประตูห้องหนังสือ พบว่าเด็กน้อยทั้งสองตั้งใจมากก็พึงพอใจยิ่งนัก จึงหยิบตะกร้าผักไปเก็บผักในเรือนกระจกมาทำของอร่อยให้พวกเขากิน
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สมน้ำหน้าแล้ว เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับหวางเฟย เจอการเอาคืนของหวางเฟยเข้าไปถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวไม่ได้อะไรสักอย่าง
น่าสงสารท่านอ๋องกับพวกเด็ก ๆ นะคะ หายหน้าไปนานก็ต้องทำงานชดใช้กรรมแบบนี้แหละค่ะ
ไหหม่า(海馬)