ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? - ตอนที่ 379 แอบส่งสวัสดิการอย่างลับๆ
ตอนที่ 379 แอบส่งสวัสดิการอย่างลับๆ
ตอนที่ 379 แอบส่งสวัสดิการอย่างลับๆ
มู่ฉินเจินมีประสาทรับรู้เฉียบคมพร้อมทั้งวรยุทธ์แข็งแกร่ง เขาหลบเลี่ยงหน่วยลาดตระเวนราวกับนกอินทรีโฉบร่อนในคืนอันมืดมิด ไร้ซึ่งสุ้มเสียงใดๆ
ส่วนเฉียวเยี่ยนที่มีระบบตัวน้อยเป็นคนนำทางก็เข้าไปในกระท่อมกักกันที่ตัวประกันอาศัยอยู่อย่างง่ายดาย
ก่อนเข้าไปในกระท่อม เฉียวเยี่ยนได้ขอให้ระบบตัวน้อยนำอาหารที่เตรียมไว้ออกมาจากช่องมิติ ก่อนเดินเข้าไปในกระท่อมพร้อมกับภาระอันหนักอึ้งบนบ่า
ตัวประกันในกระท่อมฟางล้วนตัวสั่นจากความหนาวเย็น ทั้งยังมีเสียงเด็กร้องไห้จ้าดังมาแว่วๆ
แม้พวกเขาจะถูกควบคุม แต่ก็ยังอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีการจัดคนให้ผลัดกันเฝ้ายามกลางคืน
แสงไฟในกระท่อมอาศัยมืดสลัวจนไม่อาจมองเห็นใบหน้าของผู้คนได้ชัดเจน เห็นเพียงเค้าร่างของพวกเขาจางๆ เมื่อเฉียวเยี่ยนและระบบตัวน้อยเดินเข้ามา ก็มีคนส่งเสียงระแวดระวังพลางหยิบเครื่องมือทำงานขึ้นมาถือและชี้ไปทางพวกนาง
เฉียวเยี่ยนลดเสียงลงพลางกระซิบ “อย่าส่งเสียง เรามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือพวกเจ้า ต่อจากนี้ไปจงทำตามข้อตกลงของข้า ไม่ต้องกังวล ข้าจะพาทุกคนออกไปอย่างแน่นอน!”
คำพูดที่คุ้นเคยราวกับวาจาเทพพยากรณ์ทำให้ตัวประกันเหล่านี้ที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความทรมานรู้สึกอยากจะหลั่งน้ำตา
มีคนมาช่วยพวกเขาจริง ๆ เหรอ?
ไม่ทอดทิ้งพวกเขาจริงหรือ?
อันที่จริงตั้งแต่ถูกจับในเมืองหานกวน พวกเขาก็รู้สึกว่าไม่มีใครมาช่วยพวกเขาได้ เพราะอย่างไรตัวประกันหลายพันคนก็มีค่าเทียบไม่ได้เลยกับเมืองบางเมือง
หากพวกเขาตายไป คนใหม่ๆ ก็ยังเกิดขึ้นได้ แต่หากเสียเมืองไป ก็ยากจะได้กลับคืนมา
แต่ตอนนี้กลับมีคนบอกว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อช่วยพวกตน เป็นเรื่องน่าเชื่อหรือไม่เล่า?
เฉียวเยี่ยนไม่มีเวลาพูดอะไรมากกว่านี้ นางขอให้ระบบตัวน้อยยืนเฝ้าต้นทาง ในขณะที่นางถือถุงใบใหญ่แจกจ่ายอาหารให้กับตัวประกัน
เพื่อความสะดวก นางจึงเตรียมอาหารที่มีแคลอรีและน้ำตาลสูง เช่น บิสกิตอัดแท่งและช็อกโกแลตไว้
ตัวประกันบีบอาหารเสริมในมือของตนเอง จนได้กลิ่นหอมแรงอวลที่ปลายจมูกของพวกเขา
ปรากฎว่าพวกเขาไม่ได้ฝัน มีคนมาช่วยพวกเขาจริงๆ!
หลังแจกจ่ายอาหารไปได้ครึ่งทาง ระบบตัวน้อยที่ทำหน้าที่เฝ้าดูต้นทางก็ได้ร้องเตือนว่าหน่วยลาดตระเวนมา
ตัวประกันต่างได้ยินเสียงฝีเท้าของหน่วยลาดตระเวน ก็รีบยัดอาหารในมือใส่แขนเสื้อ กลืนสิ่งที่ยัดเข้าปาก และเช็ดมุมปากสองสามครั้ง
เฉียวเยี่ยนลากระบบตัวน้อยไปซ่อนที่มุมด้านในสุดของกระท่อม เหล่าตัวประกันเห็นดังนี้ก็ทำแบบเดียวกัน โดยซ่อนพวกนางไว้ด้านในสุดของกระท่อมและมานั่งข้างๆ กันเพื่อบังพวกนางไว้
ระบบตัวน้อยมีขนาดตัวเล็ก จึงซ่อนตัวหลังกำแพงมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เฉียวเยี่ยนถูกหญิงชราคนหนึ่งกอดไว้อย่างแน่นหนาจนอำพรางร่างกายครึ่งหนึ่งของนางไปได้
หน่วยลาดตระเวนได้ยินความเคลื่อนไหวเล็กน้อยในกระท่อมมุงหญ้า จึงถือคบไฟส่องตรวจดูภายในกระท่อม จากนั้นหันหลังเดินจากไปหลังจากเห็นว่าตัวประกันยังซื่อสัตย์อยู่
เฉียวเยี่ยนและระบบตัวน้อยผละออกมาจากด้านหลังฝูงชนเมื่อหน่วยลาดตระเวนอยู่ห่างออกไปแล้ว
แม้จะอยู่ด้วยกันไม่ถึงหนึ่งในสี่ของชั่วยาม แต่คนเหล่านี้ก็เต็มใจที่จะปกป้องพวกนาง ซึ่งทำให้เฉียวเยี่ยนประทับใจเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้ ตัวประกันสองคนเดินไปที่ประตูกระท่อมมุงหญ้าอย่างแผ่วเบา หลังจากแน่ใจว่าหน่วยลาดตระเวนออกไปไกลแล้ว พวกเขาจึงกลับมาเจรจากับเฉียวเยี่ยน
ตอนนี้มืดเกินไป เฉียวเยี่ยนจึงมองไม่เห็นใบหน้าของพวกเขาอย่างชัดเจน แต่สามารถบอกได้จากรูปร่างของพวกเขาว่าอีกฝ่ายเป็นชายร่างสูงสองคน
ชายคนหนึ่งถามว่า “ท่านเป็นใคร เหตุใดท่านจึงช่วยพวกเราไว้”
เห็นได้ชัดว่ายังคงระแวดระวังเฉียวเยี่ยนอยู่
เฉียวเยี่ยนไม่อยากเปิดเผยตัวตน จึงยัดถุงอาหารที่ยังแจกไม่เสร็จลงในมือของเขา และพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ไม่สำคัญหรอกว่าข้าจะเป็นใคร ตราบใดที่เจ้ารู้ว่าข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเจ้าก็ไม่ต้องกังวล องค์รัชทายาทจะไม่ทอดทิ้งเจ้า และเทียนลี่ก็เช่นกัน”
“ข้าต้องไปที่กระท่อมหลังอื่นเพื่อแจกจ่ายอาหาร เจ้าแบ่งปันส่วนที่เหลือกับพวกเขาได้ จากนี้ไป ข้าจะมาส่งอาหารให้เจ้าทุกคืนในเวลานี้ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือฟื้นคืนกำลัง เมื่อถึงเวลา ข้าจะพาพวกเจ้าออกไป”
หลังจากที่นางอธิบายเสร็จ นางก็พาระบบตัวน้อยไปที่กระท่อมถัดไปเพื่อแจกอาหาร กระท่อมทั้งหมดอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ในกระท่อมแต่ละหลังมีบุคคลราวหนึ่งหรือสองคนที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าตัวประกัน รับผิดชอบจัดการความเป็นอยู่ของตัวประกันในกระท่อม
และเหล่าหัวหน้าเล็กๆ พวกนี้ก็เชื่อฟังคำสั่งของผู้นำทั้งสอง ซึ่งพวกเขาวางแผนที่จะต่อสู้กับทหารแคว้นเป่ยเหล่านี้ในสองวัน
ชนะก็อยู่รอด แพ้ก็แค่ตาย!
ตัวประกันบางคนพร้อมที่จะตาย แม้ว่าโอกาสสำเร็จจะมีน้อยนิด แต่อย่างน้อยพวกเขาก็พยายามแล้วไม่ใช่หรือ?
มีตัวประกันเกือบ 3,000 คนและกระท่อมอีกหลายร้อยหลัง เมื่อครอบครัวสามคนของเฉียวเยี่ยนแจกจ่ายอาหารให้ตัวประกันเสร็จ ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
โชคดีที่การลาดตระเวนผ่อนคลายในช่วงครึ่งหลังของคืน ทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้ง่ายกว่ามาก
ในคืนนั้น เหล่าตัวประกันก็ได้รับประทานอาหารอย่างอิ่มหนำเป็นมื้อแรกตั้งแต่ถูกจับ
พวกเขาไม่รู้ว่ากำลังกินอะไร แต่มันทั้งหวานและหอม เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาเคยกินมา
ในตอนเช้าของวันถัดไป ตัวประกันต่างถูกผลักดันให้ไปทำงาน
ในตอนเช้า ข้างนอกถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งจนขาวโพลน ตัวประกันบางคนที่ไม่สวมรองเท้าเหยียบย่ำบนน้ำค้างแข็ง ใบหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีคล้ำจากความหนาวเย็น ขณะที่เท้าถูกน้ำแข็งกัดจนเป็นแผล
ครอบครัวของเฉียวเยี่ยนตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานเช่นกัน เฉียวเยี่ยนไปทำอาหารเช้า ส่วนมู่ฉินเจินทำงานเป็นหัวหน้าคนงาน และช่วงนั้นเองก็ถือโอกาสติดต่อกับหัวหน้าใหญ่ทั้งสองของตัวประกันอย่างลับๆ
คนสองคนนี้ คนหนึ่งชื่อสยงเหวิน อีกคนชื่อสยงอู๋ ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน พวกเขาเคยเป็นกองกำลังอารักขามาก่อน เดินทางมาแล้วตั้งแต่เหนือจรดใต้และมาตั้งรกรากที่เมืองชายแดนในบั้นปลาย แต่ไม่คิดฝันเลยว่าวันหนึ่งจะต้องกลายเป็นเชลย
สยงเหวินและสยงอู๋พอมีวรยุทธ์อยู่บ้าง แต่เห็นได้ชัดว่าไม่อาจต่อสู้กับคนทั้งกองทัพได้ ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่เฉยๆ ท่ามกลางตัวประกัน และพยายามพาตัวประกันทั้งหมดหลบหนี
มู่ฉินเจินได้เจรจาตกลงกับพวกเขาแล้วว่าจะแจ้งให้พวกเขาทราบถึงการจัดการครั้งต่อไป ก่อนให้พวกเขาแจ้งแก่หัวหน้ากลุ่มย่อยที่อยู่ใต้บังคับบัญชาทราบอีกที ด้วยวิธีนี้ประสิทธิภาพจะดีขึ้นอย่างมาก
ด้วยทักษะการทำอาหารอันยอดเยี่ยม เฉียวเยี่ยนก็ได้ครองใจทหารแคว้นเป่ยได้อย่างมั่นคง ยามทหารแคว้นเป่ยเหล่านั้นได้กินอาหารของนาง พวกเขาก็พากันเอ่ยสรรเสริญไม่หยุดปาก
พวกเขาคงไม่รู้ว่าตนยังจะสรรเสริญนางออกได้หรือไม่หลังทราบว่านางปล่อยตัวประกันแล้ว
อาหารวันนี้คือน้ำแกงเครื่องในแกะ มีทหารจำนวนมากในกองทัพที่ไม่อาจกินแต่เนื้อแกะทุกวันได้ เฉียวเยี่ยนจึงขอให้ผู้คุมซื้อเครื่องในและเลือดของแกะเข้ามาเป็นจำนวนมาก
เหล่าพ่อครัวที่ทำงานร่วมกับนางต่างตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นกองเครื่องในแกะเหม็นๆ อาหารที่พวกเขากินวันนี้คือเจ้าสิ่งนี้จริงๆ หรือ?
ในลำไส้แกะยังมีอุจจาระอัดแน่นอยู่เลย แม่นางคนนี้ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่หรือไม่?
แต่เฉียวเยี่ยนลงมืออย่างจริงจังเพื่อแสดงให้เห็นว่านางไม่ได้ล้อเล่น อย่าว่าแต่กินเครื่องในแกะเลย นางปรุงเครื่องในแกะออกมาอร่อยมากอีกด้วย
เหล่าพ่อครัวทหารยังคงกังขา แต่ด้วยความเชื่อใจในฝีมือปรุงอาหารที่ผ่านมาของเฉียวเยี่ยน พวกเขาจึงยอมล้างเครื่องในแกะอย่างเชื่อฟัง
ในวันนี้ทุกคนล้วนถูกไล่ให้ออกไปจนหมด เหลือเพียงระบบตัวน้อยและนางอยู่ในครัว นางจึงมีหน้าที่รับผิดชอบอาหารของตัวประกันเป็นธรรมดา
เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจผู้คน นางจึงยังคงนึ่งก้อนแป้งดำคล้ำเหมือนอย่างที่ทหารพ่อครัวทั้งห้าเคยทำ แต่ในตอนที่นวดแป้ง นางได้ใส่น้ำตาลทรายขาวลงไปหลายห่อ ทำให้ก้อนแป้งสีดำเหล่านั้นหวานจนถึงขั้นหวานเลี่ยน
อีกทั้งก้อนแป้งนึ่งดำคล้ำที่นางทำยังมีขนาดใหญ่กว่าที่พ่อครัวทหารทำเล็กน้อย ต่อให้รสชาติจะไม่ค่อยดี แต่การมีน้ำตาลผสมอยู่ก็พอเพิ่มพลังได้บ้าง
หลังจากที่ทหารพ่อครัวสองสามนายกลับมาจากการทำความสะอาดเครื่องในแกะ นางก็นึ่งก้อนแป้งสีดำคล้ำพวกนั้นไปหมดแล้ว ทหารพ่อครัวเห็นว่าพวกนางทำสิ่งเดียวกับที่พวกเขาทำ จึงไม่ได้สนใจมากนัก เพียงเฝ้าดูเฉียวเยี่ยนปรุงเครื่องในแกะอย่างตั้งใจ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
วางแผนกันเป็นระบบมาก เนียนแบบไม่มีใครจับได้
ไหหม่า(海馬)