ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? - ตอนที่ 314 เด็กคนใหม่มาเยือน
ตอนที่ 314 เด็กคนใหม่มาเยือน
ตอนที่ 314 เด็กคนใหม่มาเยือน
หลังจากคู่บ่าวสาวคำนับกันเสร็จ เหล่าแขกก็อวยพรกันอย่างพร้อมเพรียง และงานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น
เฉียวจิ่นส่งเจ้าสาวเข้าห้องหอ แล้วออกมารับแขก
ตอนนี้เฉียวเยี่ยนเป็นไท่จื่อเฟย มีผู้คนมากมายต้องการใช้โอกาสนี้เอาใจนาง ซึ่งนางขี้เกียจเผชิญหน้า จึงพาเด็กๆ ไปหาเว่ยอวิ๋นซู
ตอนนี้เว่ยอวิ๋นซูกำลังกินข้าวอยู่ เฉียวจิ่นกังวลว่านางจะหิว จึงตั้งใจให้คนส่งสำรับอาหารไปยังเรือนหอโต๊ะหนึ่ง เฉี่ยวเยี่ยนจึงถือโอกาสพาลูกๆ ไปขอกินดื่มด้วยเช่นกัน
เห็นใบหน้าสหายรักในชุดเจ้าสาวที่ตบแต่งอย่างงดงาม เฉียวเยี่ยนก็เริ่มเอ่ยติดตลก “ข้าพาเหล่าลูกๆ มาอวยพรให้เจ้า ขอให้เจ้าตั้งครรภ์โดยเร็ว”
ตอนแรกเว่ยอวิ๋นซูยังไม่เข้าใจถึงความหมายนั้น แต่เมื่อเห็นสายตาหยอกล้อของนาง ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา ใบหน้าพลันแดงก่ำขึ้น
หลังจากกินอิ่มดื่มพอแล้ว เด็กๆ ก็ออกไปเล่น ส่วนเฉียวเยี่ยนอยู่กับเว่ยอวิ๋นซูในเรือนหอ
เว่ยอวิ๋นซูให้สาวใช้และเพื่อนเจ้าสาวออกไป ก่อนหยิบหนังสือเล่มเล็กออกมาจากอกเสื้ออย่างลับๆ ล่อๆ และเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก “เอ่อ…นี่คือทะ…ท่านแม่ให้ข้ามา แต่ข้าไม่ค่อยเข้าใจ จึงอยาก…ขอคำแนะนำ”
เฉียวเยี่ยนมองหนังสือเล่มเล็กเล่มนั้นแล้วมองอีกฝ่ายที่หน้าแดงจนเหมือนก้นลิง ก็รู้ว่านางต้องการถามอะไร พลันไม่รู้ว่าควรจะเก้อเขินหรือขบขันดี
นางหยิบหนังสือเล่มเล็กนั้นมา เปิดออกดู เห็นท่าทางคร่ำครึ และตัวอักษรที่เข้าใจได้ครึ่งๆ กลางๆ เหล่านั้น ก็รู้แล้วว่าเหตุใดนางถึงอ่านไม่เข้าใจ
นี่อย่างมากก็เป็นได้แค่รถเข็นเด็ก ตัวละครเอกในนั้นสวมเสื้อผ้าทั้งหมด มีแค่ท่าทางค่อนข้างคลุมเครือเท่านั้น
บางทีอันซีโหวฮูหยินอาจจะรู้สึกอาย จึงทิ้งหนังสือเล่มหนึ่งให้ลูกสาว ให้นางได้เข้าใจด้วยตัวเอง นอกจากนี้ เรื่องพรรค์นี้ผู้นำคือฝ่ายชาย ดังนั้นให้ลูกสาวได้เตรียมตัวไว้ก็พอแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของอีกฝ่าย เฉียวเยี่ยนก็รู้สึกถึงความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ทันที ก่อนตบไหล่เว่ยอวิ๋นซู และสอนสิ่งที่ตนรู้และเข้าใจให้นาง
เว่ยอวิ๋นซูได้ฟังก็ยิ่งหน้าแดงมากขึ้น ไม่แปลกใจที่เมื่อวานมารดาให้นางอดทนไว้ว่าอย่าเตะเจ้าบ่าวออกไปในคืนเข้าหอ
หากไม่รู้เรื่องพวกนี้ เมื่อเผชิญกับเรื่องน่าอายเหล่านั้นในคืนนี้ นางอาจจะสูญเสียการควบคุมตัวเอง และเตะเฉียวจิ่นลอยกระเด็นออกไปก็ได้
ทั้งสองคุยกันอยู่ในห้องเป็นเวลานาน รอแขกสลายตัวกันไปหมดแล้ว เฉียวเยี่ยนถึงได้จากไป
เฉียวจิ่นเป็นเจ้าบ่าวอย่างเป็นทางการแล้ว คืนนี้จึงยากจะหลบเลี่ยงสหายก่อความวุ่นวายได้ ทำให้คนที่อยากจะรีบเข้าร่วมเรือนหอกับเจ้าสาวร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูก
ต่อมาเป็นซูเนี่ยนหว่านเองที่ทนดูต่อไปไม่ได้ จึงร้องขอความความเห็นใจแทนลูกชาย เจ้าบ่าวผู้น่าสงสารถึงถูกปล่อยตัวไป
แขกเหรื่อแยกย้ายกันไปแล้ว พวกข้ารับใช้ในจวนกำลังทำความสะอาดลานบ้าน เก็บกวาดของเหลือจากงานเลี้ยง ซูเนี่ยนหว่านยุ่งมาทั้งวัน ทว่าก็ไม่รู้สึกเหนื่อย ยังอยู่ออกคำสั่งพวกข้ารับใช้ให้ทำงาน
เฉียวเยี่ยนไม่รู้ว่าเข้าไปห้องครัวอีกครั้งเมื่อใด แถมยังฉวยหยิบเอาขาเป็ดมาสองน่อง ถือมือละน่องยกขึ้นมากัดกิน
ซูเนี่ยนหว่านเห็นลูกสาวกำลังกินอีกแล้ว ความคิดที่จะไปขัดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง นางเดินไปหา กดลูกสาวนั่งลงบนเก้าอี้ดีๆ แล้วเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจัง “ระดูเจ้าไม่มานานแค่ไหนแล้ว?”
เฉียวเยี่ยนชะงักอยู่ในท่าแทะขาเป็ด เอียงศีรษะพยายามนึก ดูเหมือนว่าจะจำไม่ได้แล้ว
ช่วงนี้บังเอิญตรงกับการเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิพอดี นางยุ่งมากจนลืมไปชั่วขณะว่าประจำเดือนตัวเองไม่มานานมากแล้ว
ซูเนี่ยนหว่านแตะมือนางเบาๆ และเอ่ยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ “นังหนูเอ๊ย ช่วยสนใจร่างกายของตัวเองมากกว่านี้หน่อยได้ไหม?”
“ข้าเห็นว่าช่วงนี้เจ้าอยากอาหารมากขึ้น และยังชอบกินของเปรี้ยว เจ้าน่าจะตั้งครรภ์แล้วล่ะ”
เฉียวเยี่ยนกัดขาเป็ดไปอีกคำ เคี้ยวจนแก้มตุ่ย หลังจากกลืนลงไปถึงได้เอ่ยอย่างกังวลใจเล็กน้อย “สตรีมีครรภ์ควรจะกลัวเนื้อสัตว์กลัวของมันเลี่ยนไม่ใช่หรือ? แต่ข้านอกจากกินเปรี้ยวแล้ว ยังอยากกินเนื้อด้วย”
ความอยากอาหารของนางช่างน่าตกใจมาก ไม่มีอาการของคนแพ้ท้องใดๆ เลย จะบอกว่านางตั้งครรภ์ มันก็ดูยากจะเชื่อไปเสียหน่อย
ซูเนี่ยนหว่านเห็นท่าทางสับสนของลูกสาว ก็เอ่ยอย่างไม่ชอบใจ “เป็นแม่เด็กมากี่คนแล้ว ไฉนถึงยังสับสนอยู่เช่นนี้? นี่คืออาการแพ้ท้องชัดๆ แต่ละคนย่อมมีอาการแพ้ท้องที่แตกต่างกัน บางคนได้กลิ่นอาหารมันเลี่ยนก็จะอาเจียนไม่หยุด ทว่าบางคนกลับมีความอยากอาหารมาก”
“ช่างเถิด ไม่คุยกับเจ้าแล้ว ไปเชิญท่านหมอมาตรวจดูดีกว่า!”
ซูเนี่ยนหว่านพูดอีกสักพักก็ตบต้นขา ไม่อยากคุยกับเฉียวเยี่ยนที่พูดจาชวนสับสนไปเรื่อยแล้ว และให้คนรับใช้ไปตามหมอมา
ด้วยเหตุนี้ เฉียวเยี่ยนที่กำลังแทะขาเป็ดสองขาก็ถูกเชิญหมอมาตรวจชีพจร จากนั้นก็เป็นอันยืนยันว่านางตั้งครรภ์ และตั้งครรภ์มาเกือบจะสามเดือนแล้ว!
ในขณะนี้ เฉียวเยี่ยนกำลังนั่งอยู่บนเบาะนุ่มๆ ในห้องโถงด้านหน้า ฟังหมอแสดงความยินดีกับนางด้วยความงุนงง ในขณะที่มู่ฉินเจินซึ่งยืนอยู่ด้านข้างมีแววตาเลื่อนลอย ประหนึ่งเสาไม้อย่างไรอย่างนั้น
ซูเนี่ยนหว่านมีความสุขมาจนหมุนตัวเป็นวงกลม เดี๋ยวก็มีความสุข อีกเดี๋ยวก็โมโห
นางชี้ไปที่คู่รักสองคนพร้อมก่นด่า “พวกเจ้าสองคนใส่ใจกันบ้างจะได้ไหม? ตั้งท้องลูกได้สองเดือนกว่าแล้วยังไม่รู้กันอีก! หรือต้องให้ลูกกระโดดออกมาเรียกพวกเจ้าว่าท่านพ่อท่านแม่ก่อนถึงจะรู้ตัว!”
เฉียวเยี่ยนถูกดุด่าอย่างรุนแรงจนหดคอมองมารดาตัวเองอย่างเขินๆ
แม้นางจะมีประสบการณ์การคลอดลูก แต่ไม่เคยมีประสบการณ์ตั้งท้องเลย ใครจะไปรู้ว่าการมีลูกจะเป็นเช่นนี้ ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
เมื่อลูกๆ ได้ยินว่าในท้องของมารดามีทารกน้อยอยู่ในนั้น ก็กระโดดขึ้นลงไปมาอยู่ในห้องโถงอย่างมีความสุข
เยี่ยมไปเลย พวกเขากำลังจะได้เป็นพี่อีกแล้ว!
แต่ในเวลานี้ ชายบางคนที่เป็นพ่อของเด็กยังคงตกตะลึงอยู่ จนกระทั่งเขาถูกเฉียวเยี่ยนสะกิด ถึงได้กลับมามีสติอีกครั้ง ในแววตาของเขายังคงมีความหวาดกลัวและโทษตัวเองอยู่
เขาอดคิดไม่ได้ว่า หากเพราะความประมาทของเขา ทำให้เด็กที่มาอย่างเงียบๆ คนนี้ประสบอุบัติเหตุ…
เขาไม่กล้าคิดต่อไป แค่คิดถึงก็ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก
เฉียวเยี่ยนมองท่าทางของเขาออก จึงเอื้อมมือไปจับมือเขา และกุมไว้เบาๆ เพื่อปลอบโยนเขา
ความจริงนางในตอนนี้ก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยเช่นกัน เมื่อนับวันเวลาแล้ว ตอนนั้นที่ตั้งท้องเด็กคนนี้ นางยังแบกจอบไปทำงานในทุ่งนา ปีนต้นไม้ ตัดแต่งกิ่งไม้อยู่เลย
คู่หนุ่มสาวที่เป็นพ่อแม่อีกครั้งถูกซูเนี่ยนหว่านดุเสร็จถึงได้กลับห้อง และกอดกันอย่างเงียบๆ เพลิดเพลินไปกับความสุขยามรับรู้การมาของเด็กน้อย
หมอได้ตรวจชีพจรให้เฉียวเยี่ยนแล้ว นางมีสุขภาพดีมาก ทารกในครรภ์ก็เติบโตอย่างดี ไม่ได้มีข้อห้ามใหญ่อะไรมาก แค่กินดื่มตามปกติก็เพียงพอแล้ว
มู่ฉินเจินลูบท้องของเฉียวเยี่ยนอย่างระมัดระวัง รู้สึกแปลกเล็กน้อย พื้นที่เล็กๆ แบนๆ เช่นนี้ กลับสามารถเลี้ยงเด็กออกมาได้
แม้เขาจะเป็นพ่อของลูกหลายคนแล้ว ทว่าตอนที่เสี่ยวฉวนเอ๋อร์กับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์อยู่ในท้องจนถึงคลอดออกมา เขาไม่มีส่วนร่วมอันใดเลย แม้กระทั่งเด็กเพิ่งคลอดออกมาได้ไม่กี่ปี เขาก็ไม่ได้อยู่ด้วย ซึ่งมันทำให้เขาเสียใจถึงทุกวันนี้
ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงรู้สึกเหมือนได้เป็นพ่อครั้งแรก ทั้งตื่นเต้นและประหม่า
เฉียวเยี่ยนซบหน้าอกของเขา และเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวลแผ่วเบา “ท่านอย่ากังวลมากเกินไปเลย หมอบอกว่าเด็กสบายดี เขาเป็นเด็กตัวเล็กที่แข็งแรง ข้าเองก็สบายดี”
ทั้งสองกอดกันเป็นเวลานาน จนกระทั่งเฉียวเยี่ยนหลับไป มู่ฉินเจินก็อุ้มนางกลับไปที่เตียง
แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขากลับนอนไม่หลับ นอนอยู่ข้างนาง มองดูดวงหน้าหลับพริ้มของนาง มุมปากก็หยักยกขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขาเป็นพ่อคนอีกแล้ว! เป็นพ่อคนอีกแล้ว!
ชายผู้ตื่นเต้นตลอดทั้งคืนตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น ไปฝึกซ้อมออกกำลังกายยามเช้าก่อน และยังพบกับเฉียวจิ่นที่ตื่นแต่เช้าเช่นกัน
เจ้าบ่าวที่อิ่มหนำกับอาหารและเครื่องดื่มดูเปล่งปลั่งสดใส แต่เมื่อเห็นองค์รัชทายาทบางคนมีหน้าตาสดใสเช่นกัน ก็ทำหน้ามึนงง
เหตุใดชายคนนี้ถึงดูมีความสุขมากกว่าเขาที่เป็นเจ้าบ่าวเสียอีกล่ะ?
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ไม่รู้ตัวกันซะเลยว่าลูกมาแล้ว เกิดลูกหลุดทำไงเนี่ย
น้องเขยมีลูกอีกคนแล้วนะคะ พี่เฉียวจิ่นอย่ายอมแพ้นะคะ
ไหหม่า(海馬)