ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? - ตอนที่ 307 ซื้อต่อหอเยี่ยนชุน
ตอนที่ 307 ซื้อต่อหอเยี่ยนชุน
ตอนที่ 307 ซื้อต่อหอเยี่ยนชุน
หลังออกจากเมืองหลวงได้ไม่กี่เดือน เฉียวเยี่ยนซึ่งไม่ได้ทำธุรกิจมานานก็รู้สึกคันไม้คันมือเล็กน้อย นางจึงตกหลุมรักสถานที่แห่งหนึ่งและต้องการซื้อเพื่อทำธุรกิจ
นั่นคือหอเยี่ยนชุนที่ถูกราชสำนักปิดตาย!
หอเยี่ยนชุนกินพื้นที่ขนาดใหญ่ สิ่งสำคัญที่สุดคือมีวังใต้ดินอยู่ใต้ดิน พื้นที่ใหญ่โตกว้างขวางกว่าโถงธรรมดาหลายเท่า
ถ้านางซื้อสถานที่แห่งนี้มาเริ่มต้นธุรกิจได้ นางจะทำเงินได้อีกมากอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้หอเยี่ยนชุนถูกยึดแล้ว มันเป็นทรัพย์สินของราชสำนัก และจะต้องใช้ความพยายามบางอย่างเพื่อให้ได้มา
นางบอกมู่ฉินเจินว่าตนต้องการซื้อหอนางโลมแห่งนี้ มู่ฉินเจินมองนางแปลก ๆ แล้วถามอย่างประหม่าหลังจากนั้นครู่หนึ่งว่า “เจ้าไม่ได้ตั้งใจจะเปิดซ่องใช่ไหม?”
ภรรยาเขาชอบทำธุรกิจ เขารู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมให้นางขยายลู่ทางถึงขั้นไปเปิดซ่อง!
เมื่อเห็นสีหน้าวิตกกังวลและปวดเศียรเวียนเกล้าของเขา เฉียวเยี่ยนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ท่านอ๋อง เหตุใดข้าจึงไม่ทราบว่าท่านมีจินตนาการสูงส่งเช่นนี้มาก่อน? ข้าไม่กล้าเปิดมันหรอกต่อให้ท่านจะต้องการให้เปิดก็ตาม”
แม้ว่าสถานที่อย่างหอนางโลมจะทำเงินได้ แต่พวกเขาก็จะได้แต่เงิน นางไม่ต้องการบังคับให้สาว ๆ เหล่านั้นขายตัวเองด้วยเงินไม่กี่ตำลึง
นางกำลังวางแผนที่จะทำลายหอนางโลมและเปิดปรับปรุงเป็นร้านขายของชำขนาดใหญ่ ซึ่งเทียบได้กับซูเปอร์มาร์เก็ตสมัยใหม่
มันบังเอิญมากที่มีการสร้างโรงงานใหม่ในเมืองหลวง และผลผลิตของสินค้าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอนาคต ดังนั้นสินค้าร้านเฉียวจี้จึงนำมาวางขายในร้านขายของชำนี้ได้ อีกทั้งยังวางขายสินค้าหลายอย่างที่ไม่มีในอาณาจักรที่กองคาราวานของนางนำกลับมาจากภูมิภาคซีอวี้ได้ด้วย
นอกจากนั้นก็มีสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆ สารพัดอย่างมารวมกันในร้านขายของชำขนาดใหญ่ ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อของในร้านเดียวได้โดยไม่ต้องเดินวนไปทั่วเมือง
หลังได้ยินแผนของนาง มู่ฉินเจินก็พบว่ามันแปลกใหม่มาก หากมีร้านขายของชำที่รวบรวมสินค้าสารพัดชนิดได้ในที่เดียวก็จะประหยัดเวลาหาซื้อได้อย่างมาก และยังสามารถหาซื้อสินค้าหายากได้เพียงพออีกด้วย
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามด้วยความสงสัย “ร้านขายของชำแบบนี้มีอยู่ในโลกของเจ้าด้วยเหรอ?”
เฉียวเยี่ยน พยักหน้า “แน่นอน แต่เราไม่เรียกมันว่าร้านขายของชำ เราเรียกมันว่าซูเปอร์มาร์เก็ต และซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีขนาดใหญ่ก็จะเรียกว่าห้างสรรพสินค้า”
นางและมู่ฉินเจินกำลังทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตสมัยใหม่เป็นที่นิยม ท่านอ๋องที่ได้ฟังก็รู้สึกโหยหาโลกอันวุ่นวายมีสีสันใบนั้นขึ้นมา หากมีโอกาส เขาก็อยากไปเยี่ยมชมบ้างเหมือนกัน
มู่ฉินเจินริเริ่มทำเรื่องขอซื้อต่อหอนางโลม เพียงเขาเอ่ยปาก ราชสำนักท้องถิ่นก็จะขอเงินเพื่อมอบให้เขา
ท้ายที่สุดแล้วบุตรธิดาของเขาก็ประสบอุบัติเหตุในดินแดนของพวกเขา หากท่านอ๋องคิดบัญชีเรื่องนี้ขึ้นมา ชีวิตของพวกเขาก็คงประสบความหายนะ
นับประสาอะไรกับหอนางโลมที่ทรุดโทรมในตอนนี้ ต่อให้พวกเขาต้องการครึ่งหนึ่งของอำเภอชิงผิง ตราบใดที่พวกเขาสามารถให้ได้ พวกเขาจะมอบให้โดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน
เพียงวันเดียว มู่ฉินเจินก็ได้รับโฉนดที่ดินของหอนางโลม โดยที่ราชสำนักท้องถิ่นไม่ได้อะไรเลยสักตำลึง แต่เฉียวเยี่ยนยังคงให้ตามราคาตลาดเพื่อไม่ให้ถูกพูดถึงลับหลัง
เมื่อได้โฉนดหอนางโลมมาไว้ในมือสดๆ ร้อนๆ เฉียวเยี่ยนก็อดใจรอไม่ไหวที่จะพา มู่ฉินเจินไปสำรวจสถานที่ ส่วนลูก ๆ เหล่านั้นถูกส่งไปให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพาไปเล่นที่หมู่บ้าน
หอนางโลมไม่ได้รับการดูแล ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยเด็กไปที่รกร้างแบบนั้น
เฉียวเยี่ยนและมู่ฉินเจินพาเกาจัวหยวนและหลันหนิงไปที่หอเยี่ยนชุน
นางฉีกผนึกทางการที่แปะบนประตูออก ผลักประตูเปิดและเข้าไปข้างใน สภาพข้างในยุ่งเหยิง โต๊ะและเก้าอี้ล้มคว่ำอยู่บนพื้น ถ้วยจานแตกกระจาย เปลือกเมล็ดแตงโมและเปลือกถั่วลิสงกระจัดกระจายอยู่บนพื้น ยังเป็นฉากวันสุดท้ายที่ทางการมาปิดตึก
เด็กหญิงในอาคารถูกราชสำนักจับตัวไปทั้งหมด และผู้ที่ไม่ได้ก่ออาชญากรรมก็ถูกปลดออกจากสถานะต่ำต้อย และผู้ที่ก่ออาชญากรรมก็ถูกปล่อยให้กินข้าวแดงอยู่ในคุก
เฉียวเยี่ยนพามู่ฉินเจินเดินท่องไปทั่วทุกมุมของอาคาร คิดถึงแผนการปรับปรุงใหม่
เวทีการแสดงและหน้าจอในโถงชั้นหนึ่งจะถูกรื้อออกเป็นห้องเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ว่างเปล่า จากนั้นจึงวางชั้นวางสินค้าเป็นแถวอย่างเรียบร้อยภายใน ซึ่งแบ่งออกเป็นพื้นที่ต่างๆ สำหรับขายสินค้าต่างๆ
นอกจากห้องพักพนักงานแล้ว ช่องเก็บของชั้นบนก็ถูกรื้อออกและยังใช้วางสินค้าอยู่
วังใต้ดินที่ว่างเปล่าถูกใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า
ยิ่งเฉียวเยี่ยนมองดูวังใต้ดินมากเท่าใด นางก็ยิ่งพอใจ นี่ไม่ใช่โกดังชั้นหนึ่งหรอกหรือ? ช่วยประหยัดเงินของนางในการสร้างโกดังไปได้มากโขทีเดียว
แต่ก่อนที่ร้านขายของชำจะเปิด หอนางโลมแห่งนี้ต้องได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เพื่อชะล้างกลิ่นแป้งฝุ่นฉุนกึกและคาวโลกีย์ภายในออกไป
ในอนาคต หอเยี่ยนชุนจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นร้านขายสินค้าเฉียวจี้ เฉียวเยี่ยนจึงตั้งใจจะร่วมมือกับโจวผิงฟาน ในอนาคตนางต้องกลับเมืองหลวง คงไม่สามารถอยู่ดูแลธุรกิจที่นี่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงจะส่งมอบร้านให้กับโจวผิงฟานดูแล โดยที่นางจะจัดหาสินค้าให้
ทั้งคู่ออกจากหอเยี่ยนชุนและตรงไปยังที่พักของโจวผิงฟาน
โจวผิงฟานยังคงอยู่ในช่วงพักฟื้น เพื่อปกป้องเด็กๆ ทำให้เขาถูกแทงที่ท้องแผลหนึ่ง และต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
เมื่อเฉียวเยี่ยนเห็นเขา นางก็พูดตรงๆ ว่าต้องการร่วมมือกับเขา โจวผิงฟานได้ยินก็สนใจความคิดของนางเช่นกัน และตกลงโดยไม่พูดอะไรสักคำ รับหน้าที่เป็นผู้เปลี่ยนโฉมร้านขายของชำด้วยตัวเอง
เขาอยู่ที่อำเภอชิงผิงมานานแล้ว จึงคุ้นเคยกับช่างฝีมือและคนงานทุกประเภท และเขาก็มีคนมากมายอยู่ในมือ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะทำสิ่งนี้
เฉียวเยี่ยนไม่อ้อมค้อม และตกลงกับเขาว่าในอนาคตพวกเขาจะแบ่งรายได้จากร้านขายของชำเป็นสี่ต่อหกส่วน ผลประกอบการหกส่วนเป็นของนางที่รับผิดชอบจัดหาสินค้า อีกสี่ส่วนเป็นของเขาที่มีหน้าที่บริหารจัดการร้าน
แต่โจวผิงฟานต้องการเพียงสามส่วนเท่านั้น เขากล่าวว่าเฉียวเยี่ยนเป็นถึงผู้จัดหาสถานที่และจัดหาสินค้า เขาที่รับผิดชอบดูแลร้านค้าขอส่วนแบ่งเพียงสามส่วนเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
ทั้งสองคุยกันอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการปรับปรุงร้านขายของชำ เฉียวเยี่ยนร่างพิมพ์เขียวของร้านในแบบง่ายๆ และส่งให้เขาก่อนจะกลับไป
เฉียวเยี่ยนเขียนจดหมายกลับไปยังเมืองหลวงเพื่อส่งให้ผู้จัดการโรงงานเฉียวจี้ และสั่งให้ผู้จัดการส่งสินค้าจำนวนหนึ่งไปยังอำเภอชิงผิง ในขณะที่เวลาที่เหลือ นางเดินทางไปทั่วหางโจวเพื่อหาผู้จัดส่งและกระจายสินค้า
แป้งข้าวทุกชนิด เมล็ดพืช น้ำมัน ด้าย ผ้า เครื่องเทศ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ทั้งหมดนี้นางต้องไปซื้อหา พูดคุยและต่อรองกับเจ้าของร้านต่าง ๆ และสรุปราคาและลงนามในเอกสาร
หลังจากทำงานอย่างหนักมานานกว่าหนึ่งเดือน ในที่สุดร้านขายของชำก็ได้รับการปรับปรุงใหม่จนสำเร็จ สินค้าที่ส่งมาจากเมืองหลวงก็มาถึง ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมแล้ว เหลือเพียงเลือกวันที่จะเปิดทำการเท่านั้น
ก่อนเปิดร้าน เฉียวเยี่ยนยังคงทำเหมือนเดิมโดยการหาคนช่วยโฆษณาร้านขายสินค้าเฉียวจี้ ทำให้ความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอำเภอชิงผิง จากนั้นจึงให้คูปองเมื่อซื้อของในร้านขายของชำสามวันก่อนร้านเปิด ซึ่งคูปองนี้สามารถใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านได้ยินเกี่ยวกับร้านขายของชำที่มีสินค้าครบครันในที่เดียว พวกเขาต่างให้ความสนใจกับร้านขายของชำเฉียวจี้ที่ยังไม่เปิด บางคนที่ได้คูปองส่วนลดในมือแล้วก็รอคอยให้ร้านเปิดเพื่อที่พวกเขาจะไม่เสียโอกาสไปเปล่าๆ
วันที่เจ็ดของเดือนตุลาคมเป็นวันที่ดี ร้านขายสินค้าเฉียวจี้จึงเลือกที่จะเปิดในวันนี้
มีการจุดประทัดตั้งแต่เช้าตรู่ ลูกค้าจำนวนมากยืนเฝ้าอยู่นอกร้านขายของชำเพื่อรอเข้าร้าน
บางคนผ่านมาเห็นคนมุงกันเต็มหน้าร้านด้วยอาการตื่นเต้น พอได้ยินว่าร้านขายสินค้าเปิดก็มาหยุดดูเหมือนกัน
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
นี่คือห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในรัชสมัยเทียนลี่สินะ ขอให้กิจการปังๆ ยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
ไหหม่า(海馬)