ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? - ตอนที่ 238 ไก่ชนสองตัว
ตอนที่ 238 ไก่ชนสองตัว
ตอนที่ 238 ไก่ชนสองตัว
วันที่สิบสามเดือนสิบ หลันหนิงกับเว่ยอวิ๋นซูขนเสบียงชุดสุดท้ายจากโรงงานเฉียวจี้มาถึงเมืองอันหยาง ตอนนี้ผู้ประสบภัยกำลังสร้างบ้านขึ้นมาใหม่โดยใช้งบประมาณที่ราชสำนักออกให้ และตอนนี้ก็มีเสบียงมาอีกหนึ่งชุด ซึ่งมากพอจะรับประกันได้ว่าช่วงระยะเวลาสั้นๆ นี้พวกเขาจะไม่หิว
ตอนที่หลันหนิงกับเว่ยอวิ๋นซูมาถึง เฉียวเยี่ยนกำลังเก็บเกี่ยวผักบุ้งกับผู้ประสบภัยอยู่ พื้นที่การปลูกแบบไร้ดินได้ขยายออกไปกว้างขวาง ตอนนี้เพียงเก็บเกี่ยวผักหนึ่งครั้ง ก็เพียงพอให้พวกเขารับประทานไปได้หลายวัน
“เฉียวเฉียว พวกเรามาแล้ว!”
เว่ยอวิ๋นซูเห็นแผ่นหลังของเฉียวเยี่ยนก็พุ่งเข้าไปหาอย่างตื่นเต้น เฉียวเยี่ยนหันกลับมอง ก่อนยิ้มอย่างสดใสให้กับพวกนาง
“ข้าเดาว่าวันนี้พวกเจ้าน่าจะมาถึงแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าข้าจะเดาถูกจริงๆ เป็นอย่างไรบ้าง ระหว่างทางเจออันตรายหรือไม่?”
เว่ยอวิ๋นซูส่ายหัว “ไม่มี เรายังสบายดีอยู่ พวกเรารีบควบม้าอย่างรวดเร็ว แล้วก็มาถึงที่นี่อย่างราบรื่นด้วย”
หลันหนิงยังคงชอบทำหน้าขรึมเช่นเคย ในมือกอดกระบี่ไว้เล่มหนึ่ง และมองผู้ประสบภัยเก็บผักอย่างตั้งใจ
เฉียวเยี่ยนเดินไปหานาง แตะไหล่นางเบาๆ ก่อนเอ่ยติดตลก “แม่สาวน้อย ไม่เป็นอะไรก็อย่าเย็นชานักสิ มา ยิ้มให้ข้าหน่อย”
มุมปากหลันหนิงกระตุกอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนยิ้มอย่างเยือกเย็นและแข็งทื่อ ท่าทางราวกับกำลังดึงแผ่นแป้งเจียนปิ่งอยู่
เฉียวเยี่ยนกุมหน้าผาก เฮ้อ อยากให้เจ้าดอกไม้ผู้เย็นชาของนางยิ้ม มันใช่เรื่องง่ายที่ไหนกัน
การซ่อมแซมเขื่อนเสร็จสิ้นเป็นส่วนใหญ่แล้ว หลายวันมานี้มู่ฉินเจินเลิกงานเร็วและกลับมาอยู่กับเฉียวเยี่ยนได้
วันนี้เฉียวเยี่ยนยังไม่ได้เริ่มทำอาหารมู่ฉินเจินก็กลับมาแล้ว ครั้นเห็นเว่ยอวิ๋นซูที่เกาะติดอยู่กับภรรยาตัวเอง ใบหน้าพลันขรึมลงทันใด
ทุกครั้งที่นางมา อีกฝ่ายมักจะแย่งเจ้าท่อนไม้กับเขาเสมอ หากไม่ใช่เพราะเจ้าท่อนไม้ปกป้องนาง เขาคงส่งนางกลับซีเป่ยไปนานแล้ว
ยามเว่ยอวิ๋นซูกับมู่ฉินเจินที่เหมือนน้ำกับไฟมาเจอกันทุกครั้ง พวกเขาก็เป็นเหมือนไก่ชนสองตัวอยู่ร่ำไป และแน่นอนว่าท่านอ๋องเป็นไก่ชนที่เย็นเยือก ทุกคำพูดทิ่มแทงบาดลึกจนเลือดซิบ ในขณะที่เว่ยอวิ๋นซูเป็นไก่ชนที่มักจะบ้าดีเดือดชวนตีเสมอ
วันนี้ยังคงเหมือนเคย เมื่อเว่ยอวิ๋นซูเห็นมู่ฉินเจินเข้ามาใกล้ นางก็รีบกอดแขนเฉียวเยี่ยนไว้แน่น ก่อนเชิดหน้าขึ้นและเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “เจ้าอยู่กับเฉียวเฉียวมาหลายวันแล้ว ตอนนี้นางเป็นของข้า!”
มู่ฉินเจินกำหมัดแน่น ปากก็พ่นประโยคเย็นชาออกมา “มาจากไหนก็กลับไปทางนั้น!”
เว่ยอวิ๋นซูโกรธมากจนมิอาจหาคำใดมาหักล้างเขาได้ พลันเบือนหน้าหนีกระทืบเท้า ก่อนพ่นลมหายใจออกมาด้วยโทสะ “ฮึ่ม!”
เฉียวเยี่ยนปวดหัวเป็นอย่างมาก สองคนนี้ไม่ลงรอยกันจริงๆ เจอกันทีไรเป็นทะเลาะกันทุกที นางที่ยืนอยู่ตรงกลางต้องคอยแยกทั้งสองออกจากกันและทำหน้าที่เป็นผู้สร้างสันติอยู่เสมอ “พอได้แล้ว ทุกคนไม่ได้เจอกันนาน วันนี้ข้าจะทำอาหารอร่อยๆ เลี้ยงฉลองกัน ”
เว่ยอวิ๋นซูกลอกตาใส่มู่ฉินเจิน “การกลับมาพบกันหลังไม่ได้เจอกันมานานของข้ามีแค่เจ้าเท่านั้น ไม่มีเขา!”
มุมปากของมู่ฉินเจินวาดโค้งยิ้มเย้ยหยัน “งั้นก็ดี”
สิ้นเสียง เขาก็ก้มลงอุ้มเฉียวเยี่ยนขึ้นมา ย่างสามขุมเดินออกไปข้างนอก แล้วกระซิบเสียงเบาข้างหูนาง “วันนี้ไม่ต้องทำกับข้าวแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปสถานที่หนึ่ง”
เฉียวเยี่ยนไม่ทันตั้งตัวเล็กน้อย ก่อนเหลือบมองกลับไปที่เว่ยอวิ๋นซู และพูดอย่างไม่แน่ใจ “แต่… ”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น นางมีมือมีเท้า ไม่หิวตายหรอก”
ด้วยเหตุนี้ เฉียวเยี่ยนจึงถูกท่านอ๋องพาขึ้นหลังม้าอย่างบ้าอำนาจแกมบังคับ เขาโอบนางไว้และดึงสายบังเหียนควบออกไปข้างนอก เหลือเว่ยอวิ๋นซูเพียงคนเดียวที่กราดเกรี้ยวจนแทบเต้นเร่าๆ อยู่ที่เดิม
ตอนนี้เพิ่งจะครึ่งยามเชิน ดวงอาทิตย์ยังคงลอยอยู่กลางท้องฟ้า แต่กลับรู้สึกว่าการขี่ม้านั้นมีความสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้
ม้าวิ่งออกจากเมือง เฉียวเยี่ยนรับรู้ถึงสายลมที่พัดต้องใบหน้า นางพลันอารมณ์ดี พลางเงยหน้าขึ้นมองมู่ฉินเจินที่บนใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอ่อน”พวกเราจะไปไหนกันหรือ?”
“ถึงแล้วเจ้าก็จะรู้เอง”
มู่ฉินเจินทำไขสือไม่ตอบคำถาม เฉียวเยี่ยนถูกยั่วจนรู้สึกไม่สบายใจมาก ก่อนเงยหน้าขึ้นอ้าปากงับคางเขาไปหนึ่งครั้ง และมองเขาด้วยสีหน้าน้อยใจ “ท่านมันดีแต่อมพะนำอยู่เรื่อย!”
แววตาน้อยใจของนางในเวลานี้ดูออดอ้อนน่าสงสารนักในสายตามู่ฉินเจิน ซึ่งทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดีมาก
หลังจากขี่ม้าประมาณครึ่งชั่วยาม มู่ฉินเจินก็พาเฉียวเยี่ยนมาถึงหุบเขาหนึ่ง หุบเขาตั้งอยู่ระหว่างเขาหลายลูก ล้อมรอบไปด้วยเมฆหมอกที่เต็มไปด้วยไอร้อน มันคือน้ำพุร้อนนี่เอง!
กระแสน้ำไหลลงมาจากยอดเขา เกิดเป็นน้ำตกขนาดเล็ก และด้านล่างของน้ำตกจะบรรจบกันเป็นแอ่งน้ำ เมื่อน้ำล้นสระ จะก่อตัวเป็นสายน้ำไหลเชี่ยวกราก ไหลลงมาจากภูเขา
ไอหมอกที่ลอยกระจายทำให้ที่นี่เหมือนแดนสวรรค์ มีต้นไม้ให้ร่มเงา มีเมฆหมอกลอยวน สวยงามยิ่งนัก
เฉียวเยี่ยนรู้สึกตกตะลึง จับมือใหญ่ของมู่ฉินเจิน พร้อมเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “ท่านพบที่แห่งนี่ได้อย่างไร มันสวยงามมากจริงๆ !”
เมื่อเห็นท่าทางดีใจของนาง มู่ฉินเจินก็มีความสุขขึ้นมา ก่อนพานางไปหาหินสะอาดและนั่งลง”ก่อนหน้านี้ข้าตระเวนไปรอบๆ และบังเอิญเข้าไปในภูเขา เลยพบว่ามีน้ำพุร้อนอยู่ที่นี่”
เฉียวเยี่ยนเงยหน้าขึ้นมองไปบนภูเขาที่มีน้ำไหลลงมา เหตุใดถึงรู้สึกว่าด้านบนเหมือนปล่องภูเขาไฟกันนะ?
ที่นี่มีน้ำพุร้อน ซึ่งพิสูจน์ว่าแหล่งกำเนิดความร้อนใต้พิภพอุดมสมบูรณ์มาก และใกล้ๆ นี้น่าจะมีภูเขาไฟอยู่
ยากนักที่จะได้เห็นบ่อน้ำพุร้อน เฉียวเยี่ยนแทบอยากลงไปอาบน้ำไม่ไหว ก่อนจะยื่นมือออกไปทดสอบอุณหภูมิของน้ำ และพบว่าอุ่นกำลังดี
มู่ฉินเจินนั่งเอียงคออยู่บนก้อนหิน สายตามุ่งมั่นรอให้นางปลดเสื้อผ้าออก เฉียวเยี่ยนปลดเสื้อผ้าได้ครึ่งหนึ่ง ก็รู้สึกแปลกขึ้นมากเมื่อเห็นเขามองด้วยสายตาเช่นนี้
นางเดินไปอยู่ตรงหน้าเขา ดึงผ้าคาดเอวเขาออกอย่างรุนแรง และเอ่ยอย่างไม่มีเหตุผล “ท่านก็ต้องถอดด้วย ในเมื่อท่านมองข้า ข้าก็จะมองท่านเช่นกัน”
มู่ฉินเจินเม้มริมฝีปากยิ้ม และตอบอย่างสบายๆ “น้อมรับคำสั่งฮูหยิน”
เขาขยับตัวอย่างเชื่องช้า ปลดเสื้อผ้าตัวเองออกทีละชั้นๆ
เขาในเวลานี้กลายเป็นปีศาจหนุ่มผู้เย้ายวนในสายตาของเฉียวเยี่ยน ทุกสายตาและการเคลื่อนไหวของเขาดึงดูดนางมาก
สีหน้าของนางเริ่มเปลี่ยนเป็นแดงปลั่ง ราวกับว่าเลือดกำเดาจะพุ่งออกมาในไม่ช้า ไม่รู้ว่าเป็นผลจากความร้อน หรือถูกมู่ฉินเจินปลุกเร้ากันแน่
เสื้อผ้าซับในชิ้นสุดท้ายร่วงลงสู่พื้น ร่างกายท่อนบนอันแข็งแรงของมู่ฉินเจินเผยออกมา กล้ามหน้าท้องอันแข็งแกร่งแปดลูก ทำให้เฉียวเยี่ยนที่มองรู้สึกจั๊กจี้
แม้นางจะเคยเห็นและสัมผัสกล้ามเนื้อหน้าท้องของเขามาแล้วหลายครั้ง ทว่าในบรรยากาศคลุมเครือตอนนี้ นางรู้สึกเพียงว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องเหล่านั้นล้วนดูหลอกล่อจนอันตรายถึงชีวิตได้
นางจ้องมองกล้ามหน้าท้องของมู่ฉินเจินเหมือนคนทะลึ่ง มู่ฉินเจินยิ้มด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ถอดกางเกงตัวเองออกอย่างรวดเร็วและว่องไว
วินาทีก่อนเฉียวเยี่ยนหมกมุ่นอยู่กับกล้ามหน้าท้อง วินาทีต่อมาก็เห็นแค่ใครบางคนถอดกางเกงและเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอยู่ต่อหน้านาง
นางอึ้งค้างไป ก่อนที่จะได้สติกลับมา พลางมองการกระทำของมู่ฉินเจินอย่างตกใจและอึ้งงัน
พี่ชาย แม้ตอนนี้จะมีพวกเขาเพียงสองคนที่นี่ แต่การเปลือยกายในตอนกลางวันแสกๆ เช่นนี้ มันไม่ค่อยเหมาะเท่าไรหรือเปล่า?
มู่ฉินเจินสนใจที่ไหนกัน เขาค่อยๆ เดินไปหาเฉียวเยี่ยน ถอดเสื้อผ้าของนางที่ยังตกใจอยู่ออกจนหมด ก่อนอุ้มนางขึ้น เดินเข้าไปที่บ่อน้ำพุร้อน
น้ำอุ่นโอบรอบตัวนาง รู้สึกสบายตัวจนเฉียวเยี่ยนตัวสั่น และลืมความตกใจกับความอายเมื่อครู่ไปทันที
นางกำลังว่ายน้ำไปมาอยู่ในน้ำ ขณะมู่ฉินเจินพิงตัวอยู่ตรงมุมหนึ่ง ดูนางว่ายน้ำอย่างมีความสุข
ในป่าเงียบสงบมาก ยกเว้นเสียงนกร้องและเสียงลมพัด ก็มีเพียงเสียงหัวเราะของเฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินเท่านั้นที่ดังอยู่
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องขี้โกงอะ พาเสี่ยวเยี่ยนหนีดื้อๆ เลย
หมั่นไส้ท่านอ๋องจังโว้ยยย แหมพอคลั่งรักแล้วมันช่างแพรวพราวนักนะ
ไหหม่า(海馬)