ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? - ตอนที่ 227 เก็บเกี่ยวเห็ด
ตอนที่ 227 เก็บเกี่ยวเห็ด
ตอนที่ 227 เก็บเกี่ยวเห็ด
มีหมวกคลุมหน้ากับผ้าม่านบังอยู่ ทั้งสองฝ่ายจึงไม่เห็นท่าทางของอีกฝ่ายชัดเจนนัก เห็นแค่ร่างคลุมเครือคนหนึ่ง ทว่าพวกเขาต่างรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังสำรวจตัวเองอยู่
หลันหนิงรู้สึกลิงโลดอยู่ในใจ คอยมาตั้งหลายวันในที่สุดก็ติดเบ็ดแล้ว! ในที่สุดก็ไม่ต้องอยู่ในนี้เป็นเจียงไท่กงนั่งตกปลาแล้ว
นางยืดตัวตรง ยื่นมืออกไปผายมือให้คนตรงข้ามเบาๆ “คุณชายเชิญนั่งเถิด”
มู่เจ๋อจิ่นได้ยินว่าให้นั่งลง ก็ได้กลิ่นเหล้าเตะเข้าปลายจมูก เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มเรียบเฉย “เหล้าซงหลิง หมอเทวดามีอารมณ์สุนทรีย์ยิ่ง”
หลันหนิงแสร้งทำเป็นถูกชะตากับเขามาก ก่อนเอ่ยอย่างยินดี “ไม่คิดเลยว่าคุณชายก็รู้เรื่องเหล้าด้วย”
ทั้งสองสนทนาลองเชิงกันไปมา แต่กระนั้นก็มิอาจล้วงข้อมูลออกมาจากปากของอีกฝ่ายได้
มู่เจ๋อจิ่นวางมือลงบนหมอนตรวจชีพจร หลันหนิงจับชีพจรให้เขา
จับชีพจร?
นางทำเป็นก็บ้าแล้ว! นางแค่เรียนทำท่าทาง ท่าทางจดจ่อนั้นทำได้เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ
หลังจากจับชีพจรเสร็จ นางก็ท่องจำคำวิฉิจฉัยที่เฉียวเยี่ยนเขียนให้นางล่วงหน้าออกมา
ท่าทางจริงจัง น้ำเสียงเคร่งขรึม บวกกับรูปลักษณ์ราวกับนางฟ้าของนาง ใครจะเชื่อว่าหมอเทวดาผู้นี้จะเป็นตัวปลอมกัน?
“คุณชายท่านมีอาการโลหิตจาง ใจเต้นผิดจังหวะ เหนื่อยง่าย เป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่กำเนิด ทว่ายามนี้ท่านมีสัญญาณว่าเลือดออกใต้ผิวหนัง เลือดไหลเวียนเร็วขึ้น ม้ามและตับพร่องไประดับหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะกินยาผิด”
มู่เจ๋อจิ่นสงบนิ่ง ทว่าสีหน้าใต้หมวกผ้าคลุมนั้นกลับตกตะลึงอย่างมาก
ไม่คิดเลยว่านางพูดถูกหมดทุกอย่าง!
ตอนนี้ ในบรรดาหมอที่เขาหามาล้วนวินิจฉัยได้เพียงอาการป่วยของเขาเท่านั้น แต่ไม่มีใครวินิจฉัยสาเหตุอาการป่วยของเขาออกมาเลย
หากหมอเทวดาตรงหน้าหาใช่คนจัดฉากขึ้น เช่นนั้นก็เป็นคนที่มีความสามารถมากจริงๆ
หลันหนิงแสร้งทำเป็นนิ่งเฉยต่อ ก่อนยื่นมือออกไปขวดเล็กๆ จากในกล่องออกมา “ข้ากับท่านมีวาสนาต่อกัน ยาในขวดนี้ถือว่ามอบให้ท่าน กินครั้งละหนึ่งเม็ด หนึ่งวันกินสามครั้ง กินติดต่อกันหนึ่งเดือน อาการเลือดออกใต้ผิวหนังก็จะค่อยๆ ดีขึ้น”
“ส่วนโรคหัวใจของท่าน เนื่องจากเป็นโรคโดยกำเนิด เป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาหายในชั่วข้ามคืน จำต้องกินยาบำรุงรักษาในระยะยาว”
มู่เจ๋อจิ่นรับขวดยามา สีหน้าไม่เปลี่ยนไปมากนัก ทว่าในใจกลับตื้นตันใจเพราะคำพูดนั้นเมื่อครู่ของนาง
ความหมายของนางคือเขาอาจจะพอมีทางรักษาให้หายได้?
เขาควบคุมความรู้สึกของตัวเอง ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ท่านหมอเทวดาหมายถึงข้าน้อยยังมีโอกาสรักษาหายหรือ?”
“เรื่องนี้พูดยาก หากรักษาหายเป็นปลิดทิ้งก็ต้องใช้ระยะเวลายาวนาน อาจจะสิบปีหรือไม่ก็ยี่สิบปี”
หลันหนิงเอ่ยคำพูดเพ้อฝันเหมือนมีประสบการณ์โชกโชนในยุทธภพ ทว่าคำพูดนี้ได้ก่อให้เกิดคลื่นแห่งความตื้นตันใจในใจเขาขึ้นมาอีกครั้ง
เขายังสามารถมีชีวิติอยู่ได้ถึงสิบหรือยี่สิบปี?
หมอที่วินิจฉัยให้เขาก่อนหน้านี้ล้วนวินิจฉัยชัดเจนว่าเขาจะอยู่ได้อีกมากสุดห้าปี หากเป็นไปตามที่นางกล่าว ขอเพียงแค่เขายืนหยัดบำรุงรักษาต่อไป จะมีชีวิตอยู่สิบปีหรือยี่สิบปีก็ไม่ใช่ปัญหา เช่นนั้นเขาก็ห่างจากบัลลังก์นั้นไม่ไกลแล้วสิ!
ตั้งแต่เด็ก เขาวาดหวังว่าจะสามารถเป็นฮ่องเต้เหนือผู้คนนับหมื่นได้ แต่สวรรค์กลับให้ร่างกายชำรุดแก่เขามา ไม่มีราชสำนักไหนยอมให้คนอายุสั้นคนหนึ่งขึ้นครองบัลลังก์หรอก
ดังนั้นหลายปีมานี้เขาจึงไม่ได้วางเป้าหมายไว้ที่ราชสำนัก แต่แอบฝึกกองกำลังลับของตัวเอง รอโอกาสเหมาะมาถึงเมื่อใดก็ยกเข้าตีเมืองหลวงทันที!
สภาพร่างกายเป็นเรื่องเจ็บปวดที่เขายากจะกล่าวออกมา เขาเตรียมการมาอย่างยากลำบาก สุดท้ายเขากลับเพลิดเพลินในอำนาจได้เพียงแค่สองปี นี่จึงทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
หลายปีมานี้เขาท่องไปทั่วอาณาจักรเพื่อหาหมอยอดฝีมือ แต่มิอาจหาคนที่สามารถรักษาโรคหัวใจของเขาได้ หรือตอนนี้จะเป็นจุดเปลี่ยน?
ความคิดของเขาวกวนไปมา หลังจากตื่นเต้นชั่วขณะเสร็จก็กลับมาสงบเช่นเดิม ครานี้เขาจะไม่สะเพร่า และไม่ล้มเหลวให้เป็นแบบอย่างคนรุ่นหลังอีก
ก่อนจะยืนยันสถานะของหมอเทวดาคนนี้ให้ชัดเจน เขาไม่มีทางยอมกินยาที่นางให้มาทั้งหมดง่ายๆ แน่
ผิดครั้งหนึ่งนับว่าเป็นครู ครั้งก่อนกินยาของเฉียวจิ่นเข้าไป มิเพียงร่างกายจะย่ำแย่ลง แต่ยังเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาด้วย เรื่องนี้จึงทำให้เขาคับข้องใจมาก ดังนั้นครั้งนี้ก่อนจะลองกินยา เขาจะไม่ลองง่ายๆ อีกเป็นอันขาด
ความสงสัยของเขาอยู่ในการคาดเดาของเฉียวเยี่ยนนานแล้ว ดังนั้นยาครั้งนี้ที่ให้ไปจึงเป็นยาที่ใช้รักษาโรคหัวใจจริงๆ แม้จะมิอาจรักษาโรคของเขาให้หายเป็นปกติได้ แต่ก็ทำให้สถานการณ์ของเขาดีขึ้น
อยากแทรมซึมเข้าไปในค่ายศัตรูให้สำเร็จ ต้องให้อีกฝ่ายได้ประโยชน์ก่อน เขาจะได้ลดความระแวดระวังลง
ก่อนมู่เจ๋อจิ่นจะจากไป หลันหนิงก็ให้ป้ายไม้แก่เขาอันหนึ่ง จากนี้ไปสามารถถือป้ายไม้นี้มาหานางที่ที่กำหนดไว้ได้ นี่ก็เป็นของที่เฉียวเยี่ยนตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อระบุฐานะหมอเทวดาของนางอย่างชัดเจน
ร่อยรอยของหมอผู้เก่งกาจรักสันโดษมักจะไม่แน่นอน ป้ายไม้เล็กประณีตนี้ทำให้ฐานะของหลันหนิงลึกลับขึ้นไปอีก
หลังจากต้อนรับขับสู้มู่เจ๋อจิ่นเสร็จ และเปิดแผงรักษาแบบไม่คิดเงินอีกสองสามวัน หมอเทวดาที่สั่นสะเทือนไปทั่วเมืองหลวงก็ได้จากเมืองหลวงไปแล้ว และออกพเนจรไปยังที่อื่น
ในที่สุดหลันหนิงก็หลุดพ้นจากชุดกระโปรงยาวอันรุ่มร่ามนั้น กลับมาสวมเสื้อผ้าบุรุษที่นางชื่นชอบและติดตามเฉียวเยี่ยนไปทั่ว
คงอีกสักระยะหนึ่งกว่ามู่เจ๋อจิ่นจะมาหาถึงที่ เฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินจึงจัดกำลังคนไปจับตาดูการเคลื่อนไหวในเรือนเปี๋ยย้วนตรงดงป่าไผ่
หลังวุ่นวายกับเรื่องของมู่เจ๋อจิ่นจนเกือบจะหนึ่งเดือน ตอนนี้ย่างเข้าสู่เดือนแปดแล้ว เฉียวเยี่ยนจึงให้ความสำคัญกับกิจการในมือของตัวเอง
ช่วงสองสามวันนี้เรือนเพาะเห็ดเพิ่งเพาะเห็ดเสร็จ และใช้เวลากว่าสองเดือนในการเก็บเกี่ยว
เนื่องจากเวลาในการเพาะแตกต่างกัน ดังนั้นการเจริญเติบโตของเห็ดก็จะต่างกัน เห็ดชุดแรกสุดจึงเติบโตใกล้จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว
การเจริญเติบโตของเห็ดหอมกับเห็ดนางฟ้าใช้เวลาสี่ถึงห้าเดือน แถมเห็ดน้อยยังค่อยๆ งอกทีละดอก ส่วนการเจริญเติบโตของเห็ดเขากวางใช้เวลาเพียงราวๆ แปดสิบวัน ยังเหลืออีกประมาณเดือนหนึ่งก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว
ในตำหนักอ่องซู่มีการเพาะเห็ดก่อนเป็นที่แรก เฉียวเยี่ยนมองขวดเพาะเลี้ยงเห็ดในตำหนัก ซึ่งตอนนี้ดอกเห็ดอวบหนาสดใหม่ก็ได้งอกออกมาแล้ว
สองสามวันมานี้นางเก็บมาทำเป็นอาหารให้สามพ่อลูกกินไปจำนวนมาก
เห็ดหอมสามารถนำมาทำเป็นซอสเห็ดหอมหรือหมูสามชั้นผัดเห็ดหอมได้ ส่วนเห็ดเขากวางนำมาใช้ทำน้ำแกงได้
หั่นเห็ดหอมเป็นแผ่นหนาๆ ลงไปลวกน้ำในหม้อ ผัดหมูสามชั้นให้กลายเป็นสีเหลืองทอง แล้วใส่โต้วป้านเจี้ยงลงไปผัดให้หอม จากนั้นนำเห็ดหอมที่ลวกน้ำมาแล้วใส่เข้าไปผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตอนที่ใกล้จะตักออกจากหม้อให้เพิ่มพริกสีเขียวหั่นลงไป หมูสามชั้นผัดเห็ดหอมที่ทั้งอร่อยทั้งเผ็ดก็เป็นอันเสร็จ
เห็ดหอมลื่นนุ่ม ขณะที่หมูสามชั้นดูดซับกลิ่นหอมเฉพาะตัว ทั้งอร่อยทั้งเผ็ด แม้แต่เด็กทั้งสองที่กินเผ็ดจัดไม่ได้ ก็คีบใส่ปากน้อยพลางร้องฮู่ฮ่าไปด้วยไม่หยุด
ส่วนเห็ดนางฟ้าหลังจากนำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วก็นำมาฉีกเป็นชิ้นๆ แล้วเอาลงไปทอดพร้อมพริกแห้งกับฮวาเจียว ทอดจนเหลืองกรอบแล้วก็ตักออก ก็สามารถนำมาเป็นอาหารก็ได้ เป็นของว่างกินก็ดี
ตอนที่ทอดเห็ดนางฟ้า เฉียวเยี่ยนนึกถึงของทอดเสียบไม้ที่มักจะมีในแผงขายของว่าง ในนั้นมีเห็ดทอด เห็ดเสียบไม้ที่ทอดเสร็จแล้วนำมาโรยด้วยเครื่องปรุง หนึ่งไม้กินหมดภายในสองคำ นี่เป็นของว่างอย่างหนึ่งที่นางเมื่อชาติก่อนชอบกินมากๆ
การจัดการเห็ดเขากวางนั้นยุ่งยากกว่าเห็ดหอมกับเห็ดนางฟ้ามาก ทว่ามันก็เป็นหนึ่งในสามเห็ดที่มีราคาสูงที่สุด
มันมีสรรพคุณช่วยแก้พิษ บำรุงร่างกาย ในสมัยปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ที่ซื้อล้วนเป็นเห็ดเขากวางที่ผ่านการอบแห้งมาแล้ว ดังนั้นราคาจึงค่อนข้างแพง มีราคาตั้งแต่แปดสิบไปจนถึงหนึ่งร้อยหยวนต่อหนึ่งชั่ง
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ในที่สุดก็รู้ตัวคนขโมยยาพี่เฉียวจิ่นแล้ว แผนการนี้ช่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติจริงๆ
เมนูสารพัดเห็ดมาแล้วค่ะ อ่านแล้วอยากเก็บเห็ดมากินเลย
ไหหม่า(海馬)