ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? - ตอนที่ 211 จับตะพาบในไห
ตอนที่ 211 จับตะพาบในไห
ตอนที่ 211 จับตะพาบในไห
เฉียวเยี่ยนไม่ได้โกหก ยาที่นางให้เฉียวจิ่นนั้นเป็นยารักษาโรคลิ่มเลือดในเส้นเลือดปอดโดยเฉพาะ และขนาดยาที่รับประทานตามปกติจะต้องเป็นไปตามคำแนะนำในฉลาก การรับประทานน้อยเกินไปจะไม่รักษาโรค และการรับประทานมากเกินไปจะส่งผลต่อสุขภาพ
หน้าที่โดยตรงที่สุดของยานี้คือป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือดและหลอดเลือดที่อุดตัน ในคนที่เป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดปอดจะมีฤทธิ์รักษา แต่เมื่อคนปกติรับประทานเข้าไปมันจะไปต้านการแข็งตัวของเลือดแทน
หากคนผู้นั้นได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจและมีเลือดออกมาก ก็มีโอกาสมากที่เลือดจะไหลไม่หยุด
หลังจากที่เฉียวเยี่ยนอธิบายข้อดีและข้อเสียของยานี้แล้ว ซูเนี่ยนหว่านและเฉียวจิ่นก็โล่งใจ
ซูเนี่ยนหว่านกัดฟันอย่างเกลียดชังอย่างลับๆ คนชั่วคนไหนขโมยยานี้ไปแล้ว ก็ขอให้มันกินแล้วมีอาการผิดปกติ!
หลังจากปลอบโยนหญิงชราและพี่ชายแล้ว เฉียวเยี่ยนก็นึกถึงแรงจูงใจของขโมยในการขโมยยา
คนในเมืองหลวงต่างรู้ว่าเฉียวจิ่นหายจากอาการป่วยแล้ว บางคนถึงกับมาเยี่ยมจวนสถุลเฉียว ด้วยหวังว่าเขาจะสามารถแนะนำแพทย์ที่มีชื่อเสียงได้
หลายคนต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคที่รักษาไม่หาย เมื่อเห็นว่าเฉียวจิ่นหายดีแล้ว ก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาและต้องการไปหาหมอเทวดาผู้นี้ที่พวกเขาบอกต่อกันปากต่อปาก
แต่เฉียวจิ่นกลับส่งทุกคนออกจากจวน โดยอ้างว่าหมอเทวดาผู้นี้เดินทางไปต่างแดนแล้ว และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ยาที่น้องสาวให้มานั้นมีสรรพคุณมหัศจรรย์เกินไป เขาไม่ต้องการใหนางตกเป็นเป้าวิจารณ์ของสาธารณชน
หลังเชิญแม่และพี่ชายของนางไปรับประทานอาหารในตำหนักแล้ว เฉียวเยี่ยนก็นำกล่องยามาให้เฉียวจิ่นอีกกล่องหนึ่ง จากนั้นจึงส่งผู้อารักขาหลายคนไปที่จวนสกุลเฉียวเพื่อปกป้องพวกเขา
นางไม่กลัวโจรมาขโมยยา แต่กลัวว่าพวกเขาจะบุกรุกจวนมาทำอันตรายต่อผู้คนในจวน
ในตอนเย็น เมื่อมู่ฉินเจินกลับถึงบ้าน เฉียวเยี่ยนก็เล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้
นางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอดทั้งบ่าย และในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่เป็นไปได้มากที่สุด
โจรต้องขโมยยาเพราะโรคภัยไข้เจ็บ และโรคของเขาต้องเหมือนกับของพี่ชายของนาง มิฉะนั้นคงไม่มีใครกล้ากินยาโดยไม่เลือกชนิด
แต่นางไม่รู้จักใครในเมืองหลวงที่มีอาการคล้ายกับพี่ชายของเขา และการพยายามค้นหาก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ มู่ฉินเจินก็เห็นด้วยกับการคาดเดาของนางและปลอบโยนนาง “ไม่ต้องกังวล ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบเรื่องนี้ และจะส่งคนไปปกป้องทางด้านท่านแม่ของเจ้าด้วย”
เฉียวเยี่ยนกลับหยุดเขาไว้ “อย่าส่งใครไปที่นั่น ครั้งนี้เขาไม่ได้ขโมยยาไปมากนัก และเขาก็จะกลับมาอีกแน่นอน พวกเรามาลองจับตะพาบในไหกันเถอะ!”
นางวางแผนหลายอย่างด้วยความรอบคอบ หลังวางแผนสำเร็จในวันพรุ่งนี้แล้ว นางก็รอให้หัวขโมยมาที่ประตูบ้านของนาง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือยาถูกขโมยอีกครั้งในคืนนี้!
องครักษ์สองคนที่มีวรยุทธ์ดีต่างเฝ้าประตูห้องนอนของเฉียวจิ่นทั้งคืนอย่างระมัดระวังอยู่เสมอ แต่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขโมยมาขโมยยาไปเมื่อใด
เช้าตรู่วันต่อมา องครักษ์ทั้งสองก็กลับไปที่ตำหนักและหมอบคำนับเพื่อรายงานความผิดด้วยความละอายใจเกินกว่าจะเผชิญหน้าใคร นี่เป็นเรื่องน่าอายที่สุดในอาชีพของพวกเขาแล้ว!
โชคดีที่หัวขโมยไม่ได้ทำอะไรให้ชีวิตใครต้องเสียหาย ไม่เช่นนั้นต่อให้บั่นศีรษะแล้วก็ยังหนีไม่พ้นความผิด
เฉียวเยี่ยนยังคงรับประทานอาหารเช้าอยู่ แล้วจึงได้เห็นผู้คุมสองคนมารายงานพร้อมกับหลบตา หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วใบหน้าของนางก็เคร่งเครียด
ดูเหมือนว่าหัวขโมยรายนี้จะจับไม่ง่าย!
“หวางเฟย ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ละเลยหน้าที่ โปรดลงโทษพวกข้าด้วย”
ผู้คุมสองคนคุกเข่าลงข้างหนึ่งและขอรับการลงโทษด้วยความรู้สึกราวกับมีชนักปักหลัง
เฉียวเยี่ยนโบกมือ: “ลุกขึ้นเถิด กลับไปที่จวนสกุลเฉียวเพื่อจับตาดู ครั้งนี้อย่าให้ข้าผิดหวังเล่า!”
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่จริงจังกับงาน แต่โจรผู้นี้เจ้าแผนการเกินไป หากทำโทษพวกเขาแล้วนางจะกลายเป็นคนไร้เหตุผล
แต่องครักษ์ทั้งสองกลับรู้สึกอึดอัดในใจยิ่ง ยิ่งหวางเฟยมีความอดทนต่อพวกเขามากเท่าใดพวกเขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจมากขึ้นเท่านั้น
หลังได้รับความเป็นธรรมแล้ว พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังจวนสกุลเฉียว คราวนี้พวกเขาล้วนตั้งปณิธานว่าจะจับหัวขโมยน้อยที่ขโมยยาไปให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!
หลังจากไล่องครักษ์ทั้งสองออกไปแล้ว เฉียวเยี่ยนก็หมดความตั้งใจที่จะกินอาหารเช้า พูดกับระบบตัวน้อยที่ยังนอนอยู่บนเตียงว่า “ระบบ ดูเหมือนว่าคราวนี้ข้าต้องพึ่งเจ้าอีกแล้ว”
ความสามารถในการค้นหาของระบบตัวน้อยนั้นน่าทึ่งมาก นางสามารถรับรู้ในเรื่องที่คนปกติไม่สามารถมองเห็นได้
แม้ว่าเรื่องนี้นางจะจัดการเองได้ แต่นางก็เทียบกับหัวขโมยนั่นไม่ได้ การที่อีกฝ่ายสามารถเข้าออกอย่างไร้ร่องรอย แสดงว่าจะต้องมีวิชาตัวเบาเป็นเลิศ อย่างน้อยก็เหนือกว่าพวกองครักษ์เหล่านั้น
สิ่งที่นางได้ยินก็คือเสียงคร่ำครวญไม่พอใจของระบบตัวน้อย ก่อนที่คนตัวเล็กจะพลิกตัวและนอนหลับสนิทต่อ
เฉียวเยี่ยนหัวเราะ มันคงดีมากกระมังที่ได้เป็นปลาเค็มตัวน้อย ตรงที่จะนอนนานเท่าไรตื่นยามไหนก็ได้ ซื้ออะไรก็ได้ที่ต้องการโดยที่ไม่ต้องออกไปทำงานหาเงิน
โจรขโมยกล่องยาไปแล้วครึ่งกล่อง เฉียวเยี่ยนจึงคาดว่าวันนี้เขาจะไม่มา
หากนับจากจำนวนเม็ดยา นางก็ประเมินว่าเขาจะกินได้กี่วัน ยากล่องมี 10 เม็ดและปริมาณปกติคือครึ่งเม็ดต่อวัน แต่อีกฝ่ายคงไม่เข้าใจข้อความในคำแนะนำอย่างแน่นอน
เนื่องจากเป็นยานำเข้า คำแนะนำจึงเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
เมื่อไม่รู้ว่าต้องกินยาเท่าไร คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะกินยาครั้งละ 1 เม็ด สมมติว่ากินยาวันละ 3 ครั้ง ก็สามารถกินยาได้เพียงกล่องละครึ่งเม็ดเป็นเวลาสูงสุด 5 วัน
เพื่อให้มียาพอกิน ดังนั้นเขาอาจมาเยือนก่อนเวลา!
หลังตัดสินใจแล้ว เฉียวเยี่ยนก็วางแผนไปอาศัยอยู่ในจวนสกุลเฉียว เพียงรอให้หัวขโมยถูกจับได้
แต่วิญญาณตามติดทั้งหนึ่งใหญ่สองเล็กจะปล่อยให้นางไปคนเดียวได้อย่างไร นางจึงต้องลากครอบครัวของนางทั้งโขยงกลับไปอาศัยในจวนสกุลเฉียวในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
เมื่อลูกสาว ลูกเขย และหลานทั้งสองอยู่ที่นี่ทั้งหมด ซูเนี่ยนหว่านก็มีความสุขมากในทุกวัน ตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อต้มน้ำแกงและทำอาหารสำหรับเด็กๆ
มู่ฉินเจิน และเฉียวจิ่นไปขึ้นศาลด้วยกันในตอนเช้า ขณะที่เฟิงหยางส่งลูกทั้งสองไปโรงเรียนตามปกติ ทว่ากล่องอาหารกลางวันขนาดเล็กของพวกเขาไม่ได้เป็นฝีมือของแม่ กลับเป็นฝีมือท่านยายของพวกเขา
กับข้าวที่ท่านยายทำล้วนอร่อยทุกอย่าง อีกทั้งท่ายยายยังแอบให้ขนมลับหลังมารดาพวกเขาอีกด้วย วันนี้คือเค้กพุทรา วันหน้าอาจเป็นผลไม้เชื่อมหรือเนื้อตากแห้ง
เฉียวเยี่ยนเมินและแกล้งทำเป็นไม่เห็นการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างหญิงชราและเด็ก ๆ
แต่เมื่อกระเป๋านักเรียนของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ถูกยัดของว่างจนเต็ม นางก็อดไม่ได้ที่จะกระแอมสองครั้งเพื่อเตือนพวกเขาว่านางยังไม่ตาบอด
หลังจากใช้เวลาพักผ่อนสองสามวันในจวนสกุลเฉียว ในที่สุดก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในคืนที่สี่
เฉียวเยี่ยนยังคาดว่าคืนนี้พวกหัวขโมยจะมาเยี่ยม ดังนั้นนางกับมู่ฉินเจินจึงไม่ได้หลับ แต่มานั่งที่ศาลาในลานบ้านเพื่อดื่มชาและคุยกัน
คืนนี้เป็นวันที่อากาศแจ่มใสอีกวันหนึ่ง และบังเอิญดอกกุหลาบข้างศาลาก็บานสะพรั่งพอดี มันส่งกลิ่นหอมจางๆ โชยมาแตะที่ปลายจมูก
บรรยากาศจิบชาพูดคุยกันท่ามกลางสวนดอกไม้ใต้แสงจันทร์นี้ดูเหมาะมากสำหรับการพลอดรักระหว่างคู่หนุ่มสาว หากไม่ใช่ว่าพวกเขากำลังรอจับโจรอยู่
ระบบตัวน้อยที่เป็นกำลังหลักในค่ำคืนนี้กำลังกระพริบตาปริ่มน้ำคู่ใหญ่สอดส่องไปรอบ ๆ จวนสกุลเฉียวในทุกทิศทาง โดยไม่ปล่อยให้เบาะแสใด ๆ เล็ดรอดไปได้
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ทุกอย่างก็เงียบสงัด และร่างในชุดดำก็ปีนเข้ามาทางกำแพงด้านตะวันออกของจวนสกุลเฉียว
เขาเหินตัวขึ้นไปบนหลังคา ฝีเท้าเบากริบราวกับแมว ก่อนพุ่งตรงไปยังลานบ้านของเฉียวจิ่นอย่างง่ายดาย
[ท่านโฮสต์ ขโมยมาแล้ว! ขโมยมาแล้ว!]
เด็กตัวน้อยส่งเสียงเตือนเจี๊ยวจ๊าว ในน้ำเสียงนุ่มนวลน่ารักนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เฉียวเยี่ยนตบต้นขา พลางยิ้มและพูดกับมู่ฉินเจิน “ไปกันเถอะที่รัก ได้เวลาแสดงความสามารถของท่านแล้ว”
ทั้งคู่เดินไปที่เรือนของเฉียวจิ่นและเข้าไปในลานบ้าน เฉียวเยี่ยนยกมือขึ้นและทำสัญญาณ จากนั้นผู้คุมที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็ชักดาบออกมาล้อมห้องนอนของเฉียวจิ่นไว้ทันที
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จับขโมยได้แล้ว จะเป็นใครกันแน่น้า
ไหหม่า(海馬)