ฉันไปรบตามแผนการของน้องสาวจนได้เป็นพระราชาซะแล้ว เจ้าหญิงที่ถูกฉันจับบังคับทำเมียมองฉันด้วยความเคียดแค้น ฉันจะทำไงดีล่ะทีนี้? - ตอนที่ 3 จะทำยังไงถ้ากองทัพดยุคบุกโจมตี?
- Home
- ฉันไปรบตามแผนการของน้องสาวจนได้เป็นพระราชาซะแล้ว เจ้าหญิงที่ถูกฉันจับบังคับทำเมียมองฉันด้วยความเคียดแค้น ฉันจะทำไงดีล่ะทีนี้?
- ตอนที่ 3 จะทำยังไงถ้ากองทัพดยุคบุกโจมตี?
การรัฐประหารที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไอดรัน
อัศวินที่ควรปกป้องราชวงศ์กลับนำทัพประชาชนที่ลุกฮือบุกเข้าโจมตีปราสาทหลวง
ปราสาทที่ว่ากันว่าไม่มีวันล่มสลาย กลับถูกยึดครองได้ภายในเวลาเพียงครึ่งวัน การรัฐประหารสำเร็จเสร็จสิ้น
พระราชา ราชินี และเจ้าชายรัชทายาท ถูกลากไปตามท้องถนนให้ประชาชนรุมปาก้อนหินใส่จนใบหน้าแหลกเหลว ในที่สุดทั้งหมดก็ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดหัว
แม้ว่าจะเหลือสมาชิกราชวงศ์อีกหนึ่งคนรอดชีวิตอยู่ แต่ความโกรธแค้นของประชาชนก็ลดลงไปมากด้วยการประหารพระราชา ราชินี และรัชทายาท
มีเพียงเสียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ยืนกรานให้ประหารเจ้าหญิงผู้ที่ไม่เคยปฏิบัติตนอย่างเสื่อมเสียเหมือนราชวงศ์คนอื่น เจ้าหญิงเมดิน่าจึงเป็นเชื้อพระวงศ์เพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่
“เอาล่ะสิ ทุกท่าน มีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว”
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากการโค่นล้มราชวงศ์สำเร็จ
เหล่าแกนนำของรัฐบาลใหม่มารวมกันในห้องประชุมในปราสาทหลวง
กลุ่มอัศวินนำโดยแวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เหล่าขุนนางที่สนับสนุนเงินทุนและกองกำลัง และตัวแทนฝ่ายประชาชน
ถึงจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ในการเข้าบุกยึดครองเมืองหลวง แต่รากฐานการปกครองก็เริ่มแน่นหนาบ้างแล้ว
เมืองหลวงและรอบนอกเขตปริมณฑลเงียบสงบอย่างน่าประหลาด ไมมีเหตุจารจลหรือการก่อความวุ่นวายเลย จนไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งจะเกิดการรัฐประหารไม่นานมานี้
(ต้องขอบคุณน้องสาวของฉัน ฉันภูมิใจในตัวเธอจริงๆ)
แวนครุ่นคิดในขณะที่นั่งอยู่หัวโต๊ะของการประชุม
ก่อนการรัฐประหาร พวกเขาได้เจรจากับเหล่าผู้มีอิทธิพลในเมืองหลวงก่อนหน้าแล้ว
ต้องขอบคุณโมอาที่ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าพ่อค้า ช่างฝีมือ ผู้นำทางศาสนา เลยไม่มีความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารเสร็จสิ้น
ตอนนี้โมอาก็นั่งอย่างสงบอยู่บนเก้าอี้ด้านหลังของแวน
“มีปัญหาอันใดรึ ช่วยกรุณาอธิบายด้วย”
“เข้าใจแล้ว”
แวนขี้อายจึงประหม่าเกินกว่าจะพูดในที่สาธารณะได้ เลยขอให้น้องสาวช่วย
โมอาเมื่อถูกแวนร้องขอ จึงลุกขึ้นพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ต่างกับตอนที่คุยแบบเป็นกันเองสองต่อสอง
“อย่างที่ทุกท่านทราบ หลังการโค่นล้มราชวงศ์ไอดรันลงแล้วก่อตั้งรัฐบาลใหม่ เราได้เข้าควบคุมดินแดนโดยรอบเมืองหลวงเอาไว้ มีจดหมายจากขุนนางท้องถิ่นมากมายส่งมาขอสวามิภักดิ์กับรัฐบาลใหม่อย่างต่อเนื่อง”
ทุกคนในห้องประชุมตั้งใจฟังคำอธิบายของโมอา
ไม่มีใครดูถูกว่าเธอเป็นเพียงเด็กสาวอายุไม่ถึง 20 ปี
เนื่องจากวีรกรรมความกล้าหาญของแวนเป็นที่เลื่องลือ เฉกเช่นเดียวกับความฉลาดหลักแหลมของโมอา
“อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกาศสงครามต่อเรา นั่นคือ ดยุค โคลเดอริค ผู้ปกครองอาณาเขตทางตะวันออกของเมืองหลวง”
————————-
“ดังที่ทุกท่านเข้าใจ ดยุค โคลเดอริค มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับราชวงศ์ ถึงจะแค่ปลายแถวแต่เขาก็อ้างว่ามีสิทธิ์สืบทอดบัลลังค์ เมื่อราชวงศ์ล่มสลาย เขาได้ประกาศตัวต่อขุนนางคนอื่นว่าเป็นพระราชาองค์ใหม่โดยชอบธรรม และประนามพวกเราว่าเป็นกบฏ เขาส่งจดหมายมาขู่ว่าจะประกาศสงครามและทำลายเราให้สิ้นซากหากไม่ถอนกำลังออกจากเมืองหลวง”
โมอาถอนหายใจแล้วส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย
“เป็นข้อเท็จจริงที่ ดยุค โคลเดอริค มีสิทธิ์ในการครองบัลลังค์ ขุนนางที่สูญเสียอำนาจจากการรัฐประหารอาจจะเลือกติดตามเขาเพื่อฟื้นฟูกลุ่มอำนาจเก่า เราต้องรีบกำจัดเขาโดยเร็วที่สุด”
“สันติภาพไม่ใช่ทางออก เธอจะพูดแบบนั้นเหรอ?”
แวนถามโมอา
ต่อหน้าผู้คนในห้องประชุม แวนจะไม่แสดงออกว่าต้องพึ่งพาน้องสาว แต่กลับแสดงออกถึงความสงบเสงี่ยมและเข้มงวดด้วยใบหน้าเย็นชาของนักรบที่องอาจ
(หากมีวิธีหลีกเลี่ยงสงครามได้ก็ดีสิ ฉันฆ่าคนไปมากมายไม่นานนี้ และฉันไม่ต้องการสงครามอีกต่อไป)
มีแต่โมอาที่อาจเดาถูกว่าแวนคิดอะไรอยู่ในใจ
“ดยุค โคลเดอริค จะไม่ยอมเจรจา อันที่จริง เขาระดมทหารและเคลื่อนทัพมุ่งสู่เมืองหลวงแล้ว”
“อะไรนะ!!”
“เขาบุกมาแล้วเหรอ?!”
ทั้งห้องประชุมเกิดความโกลาหลทันที
“หลายคนตื่นตระหนกที่เมืองหลวงเพิ่งถูกยึดครองได้ไม่นานกลับถูกศัตรูบุกมาจู่โจมซ้ำอีก”
————-
อย่างไรก็ตาม พวกที่ตื่นตระหนกมีเพียงเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนและตัวแทนจากประชาชนเท่านั้น
เหล่าอัศวินยังคงสงบและไม่แสดงอาการตระหนกใดๆ
แวนมองไปรอบๆ ห้องประชุม แล้วกล่าวว่า
“เอาล่ะ เราจะทำสงคราม”
————–
“ฉันอยากจะหลีกเลี่ยงสงครามถ้าเป็นไปได้ แต่ถ้าเขาส่งกองกำลังบุกมาแล้ว คงจะไม่มีทางเลือก เราต้องระดมพลเตรียมพร้อมรบทันที”
แวนประกาศอย่างแน่วแน่และไม่ลังเล
การตัดสินใจอย่างรวดเร็วเด็ดขาด เป็นทัศนคติที่เหมาะกับผู้นำของรัฐบาลใหม่ แต่นี่ไม่ใช่การแสดงละคร
แวน อาเรงส์ ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งมากมาย เพียงแต่เมื่อมีคำตอบชัดเจนในใจแล้ว จึงตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
(เอิ่ม ฉันไม่อยากจะสู้ด้วยเลย แต่ถ้าศัตรูบุกมาแล้วก็มีแต่ต้องชนะให้ได้เท่านั้น จะให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องมาเดือดร้อนไม่ได้ เราต้องกวาดล้างพวกมันก่อนจะบุกมาถึงเมืองหลวง)
ด้วยความอยากปกป้องพวกพ้องของแวน เลยทำให้เขาตัดสินใจโดยไม่ถามน้องสาว
โมอายิ้มอย่างพึงพอใจในความใจถึงพึ่งได้ของพี่ชายของเธอ
“เราอาจเลือกวิธีปกป้องรอบกำแพงเมืองหลวง แต่นั่นอาจจะทำให้ประชาชนในเมืองหลวงไม่สบายใจหลังจากเพิ่งเกิดการรัฐประหาร ฉะนั้นเราต้องบุกออกไปสู้ในสนามรบรอบนอก คิดแบบนั้นไหมท่านพี่?”
“ใช่ ตามนั้นเลย”
แวนพยักหน้าหลังครุ่นคิดอยู่ครู่นึง เดาว่า เขาคงจะไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น
“ท่านพี่จะเป็นคนนำทัพไปปราบกองทัพของดยุค มีใครคัดค้านไหม?”
“ไม่”
“ไม่คัดค้าน”
ทุกคนบนโต๊ะประชุมล้วนเห็นด้วย
เหล่าเจ้าหน้าที่ที่ตื่นตระหนกก่อนหน้าล้วนละอายใจที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม
“ตัดสินใจได้แล้ว เราจะเดินทัพทันที”
แวนพูดพร้อมลุกจากเก้าอี้
เหล่าอัศวินเดินติดตามผู้นำที่เคารพออกจากห้องประชุม
“ฝากดูแลเมืองหลวงตอนฉันไม่อยู่ด้วยนะ”
“เข้าใจแล้ว ระวังตัวด้วยนะท่านพี่”
น้องสาวโค้งคำนับอำลาพร้อมเหล่าเจ้าหน้าที่ แวนจึงเดินทางออกจากเมืองหลวง
อัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถยึดปราสาทหลวงได้ในเวลาเพียงครึ่งวันกำลังก้าวเข้าสู่สนามรบแห่งใหม่เป็นครั้งแรกนับจากการรัฐประหารสำเร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
=================
จะแปลเฉพาะแนวฮาเร็มที่มี NTR และ zamaa เป็นความชอบส่วนตัวนะครับ ลงน้องแมวเท่านั้น ไม่ลงที่อื่น
เป็นกำลังใจให้กันได้ที่ กสิกร 606-2-07812-8 ทวิรวัฒน์