ฉันไปรบตามแผนการของน้องสาวจนได้เป็นพระราชาซะแล้ว เจ้าหญิงที่ถูกฉันจับบังคับทำเมียมองฉันด้วยความเคียดแค้น ฉันจะทำไงดีล่ะทีนี้? - ตอนที่ 15 กินเหล้ามันขม กินนมดีกว่า ♪
- Home
- ฉันไปรบตามแผนการของน้องสาวจนได้เป็นพระราชาซะแล้ว เจ้าหญิงที่ถูกฉันจับบังคับทำเมียมองฉันด้วยความเคียดแค้น ฉันจะทำไงดีล่ะทีนี้?
- ตอนที่ 15 กินเหล้ามันขม กินนมดีกว่า ♪
ในวันนั้นเอง ได้มีการจัดงานเลี้ยงสังสรรที่ป้อมอาร์มสตรอง
เป็นงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการสถาปนาราชอาณาจักรอาเรงส์ แทนที่ราชอาณาจักรไอดรันที่ล่มสลาย และการขึ้นครองบัลลังค์ของพระราชาองค์ใหม่
“แด่พระราชาองค์ใหม่ของพวกเรา ขอจงทรงพระเจริญ!”
“””””””ไชโย””””””””
เมื่อมาร์คกราฟ อุลเบลส์ ขุนพลแห่งป้อมปราการ ชูแก้วขึ้น ผู้คนก็ต่างชูแก้วขึ้นตามกัน
แขกเหรื่อล้วนเป็นขุนนางที่ปกครองดินแดนทางชายแดนตะวันออก
แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีอิทธิพลต่อราชสำนักมากนัก แต่ก็ล้วนเป็นยอดนักรบที่เคยต่อสู้กับจักรวรรดิทางตะวันออกอย่างช่ำชอง
การสนับสนุนของพวกเขามีความสำคัญต่อความมั่นคงทางตะวันออกของราชอาณาจักรเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้พวกเขาประกาศกร้าวว่า “พวกกบฏจะต้องพ่ายแพ้!” แต่ตอนนี้พวกเขากลับเฉลิมฉลองให้กับการขึ้นครองราชย์ของแวนอย่างจริงใจ
เหล่าขุนนางทางชายแดนตะวันออกรวมทั้งมาร์คกราฟ อุลเบลส์ ล้วนมีสมองกล้าม จึงนิยมชมชอบผู้ที่มีความกล้าหาญในการต่อสู้
พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธการมีอยู่ของชายคนหนึ่งผู้ซึ่งเอาชนะการดวลกับบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดที่พวกเขาให้ความเคารพนับถือได้
พวกเขาสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อแวน และจะกรีธาทัพไปร่วมต่อสู้เพื่อองค์ราชาในทุกสนามรบ
(น้องสาวววว!!! ช่วยฉันด้วยยย!!!)
แวนกรีดร้องอยู่ในใจขณะที่นั่งเป็นประธานของงาน
แวนนั่งอยู่ข้างมาร์คกราฟ อุลเบลส์ ได้รับการทักทายจากขุนนางมากหน้าหลายตา
ก่อนจะมาเป็นอัศวิน แวนเป็นบุตรชายคนที่ 3 ของครอบครัวขุนนางที่ยากจน
เขาไม่ได้รับสืบทอดทั้งบ้านและอาณาเขต เหล่าพี่ชายล้วนรังเกียจเขา เขากับน้องสาวจึงเดินทางมาเมืองหลวงเพื่อเป็นอัศวิน
แต่ตอนนี้แวนคือพระราชา
ขุนนางล้วนปฏิบัติต่อแวนอย่างไม่คุ้นชิน
ขุนนางที่อายุมากกว่าสองเท่า ต่างเข้ามาทักทายและโค้งศีรษะแสดงความเคารพทีละคน
ความเครียดลงตับอย่างล้นหลาม
(น้องสาว ฉันคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเป็นพระราชาเลยจริงๆ…)
“ขออภัย ฉันขอรินสุราให้ท่านได้ไหม?”
“อ่า…ขอบคุณ….”
สาวงามปรากฏตัวในขณะที่แวนค่อยๆ จิบไวน์ทีละน้อย เพื่อไม่ให้ตัวเองเมาจนเกินไป
เธอมีสายตาอันเฉียบคมที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่น และมีรูปโฉมงดงามที่หาได้ยากแม้แต่ในเมืองหลวง
“คุณคือ…”
“หม่อมฉัน ลูเซีย อุลเบลส์ หลานสาวของมาร์คกราฟ อุลเบลส์ เพคะ”
สาวงามผมสีเงินยิ้มเล็กน้อยแล้วรินไวน์ลงในแก้วของแวน
“การดวลเมื่อสักครู่ช่างน่าประทับใจยิ่งนัก หม่อมฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีผู้ใดที่สามารถเอาชนะท่านปู่ได้ ทรงโปรดให้อภัยแก่ผู้หญิงโง่เขลาเช่นนี้ ที่ประเมินฝ่าบาทต่ำเกินไปด้วยเถิด”
“โอ้….ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน”
“ไม่มีทางที่ฝ่าบาทจะใช้คมดาบวิเศษเช่นนี้เพื่อชิงบัลลังค์ด้วยผลประโยชน์ส่วนตัว แน่นอนว่าต้องมีเหตุผลอันสมควร หม่อมฉันละอายใจที่กล่าวหาว่าฝ่าบาทเป็นผู้ทรยศโดยไม่รู้อะไรเลย…”
สีหน้าของลูเซียสลดและก้มหัวขอโทษ
แวนตื่นตระหนกเมื่อเห็นสาวงามมีท่าทีหดหู่
“ไม่ ไม่ ไม่! ฉันได้แย่งชิงบัลลังค์มาจริงๆ! คุณไม่ได้กล่าวผิดแต่อย่างใด! เงยหน้าขึ้นเถอะ!”
“ขอบพระทัย”
ลูเซียเงยหน้าขึ้น
แวนไม่ได้สังเกตถึงหยดน้ำตาที่หางตาของเธอ
“ในฐานะผู้นำคนต่อไปของตระกูล อุลเบลส์ หม่อมฉันสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อฝ่าบาทเช่นกัน เชิญดื่ม!”
“อ่า”
“ได้โปรด ดื่มอีก!”
“อูว…”
ตามคำเชิญของลูเซีย แวนจึงดื่มไวน์ในแก้วของเขา
เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะดื่มหนัก เพราะรู้ดีว่าถ้าเมาแล้วตัวเองจะขาดสติ แต่การปฏิเสธคำเชิญถือเป็นการหยาบคาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลานสาวของมาร์คกราฟที่มีสถานะอันสูงส่ง
(ว่าแต่ไวน์นี่ดื่มง่ายจัง ถ้าไม่ดื่มมากจนเกินไป ฉันคงไม่น่าจะเมา)
แต่….แวนหารู้ไม่
ไวน์ที่ผลิตในภูมิภาคนี้ถึงแม้จะมีรสชาติที่นุ่มนวลดื่มง่าย แต่ปริมาณแอลกอฮอล์นั้นสูงลิ่ว หากไม่คุ้นเคยมาก่อนแล้วดื่มในปริมาณมากก็ต้องมีเมาจนกอดเสาเถียงอย่างแน่นอน
“โอ้…?”
“เอ้า ฝ่าบาท อีกแก้วนึง”
แวนพยายามครองสติได้อยู่ประมาณ 30 นาที
เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในห้องหนึ่งของป้อมปราการ
ลูเซีย อุลเบลส์ กำลังนอนหลับในสภาพนุ่งลมห่มฟ้า อยู่ข้างๆ เขา
=================
จะแปลเฉพาะแนวฮาเร็มที่มี NTR และ zamaa เป็นความชอบส่วนตัวนะครับ ลงน้องแมวเท่านั้น ไม่ลงที่อื่น
เป็นกำลังใจให้กันได้ที่ กสิกร 606-2-07812-8 ทวิรวัฒน์