ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 10 จากนี้ไปพี่ชายและหนูจะเป็นครอบครัวของพี่เอง
- Home
- ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก
- ตอนที่ 10 จากนี้ไปพี่ชายและหนูจะเป็นครอบครัวของพี่เอง
ตอนที่ 10 จากนี้ไปพี่ชายและหนูจะเป็นครอบครัวของพี่เอง (รีไรท์)
ตอนที่ 10 จากนี้ไปพี่ชายและหนูจะเป็นครอบครัวของพี่เอง (รีไรท์)
หลี่หรงเหลียนตาแดงก่ำวิ่งเข้ามาคว้าแขนของซูเถาไว้แน่น หยาดน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาราวกับสายฝน
“เถาเถา ลูกไปอยู่ที่ไหนมา? รู้ไหมว่าพี่สาวของลูกต้องเข้าร่วมกองทัพบุกเบิกแทนลูก แม่ขอร้อง ตราบใดที่ลูกเต็มใจกลับมา แม่จะยกห้องของพี่สาวให้ลูก อะไรที่พี่สาวมีลูกก็จะได้มี ตกลงไหม? เมื่อก่อนแม่ลำเอียงไม่ดูแลลูกให้ดี ยกโทษให้แม่ได้หรือเปล่า?”
ซูเถาเกือบจะหัวเราะเยาะด้วยความสมเพช และสะบัดมือออกจากการจับกุมของหลี่หรงเหลียน
“กลับไปเหรอ? ให้กลับไปสลับตัวกับเจียงจิ่นเวย? แม่ไม่เคยรู้สึกผิด แม่ไม่เคยรู้สึกตัวเลยว่าลำเอียง แม่แค่ต้องการให้หนูใจอ่อนเพื่อที่จะได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเจียงจิ่นเวย! แม่ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าหนูจะอยู่หรือตาย!”
หลี่หรงเหลียนอ้าปากค้างพูดไม่ออกและพึมพำหลังจากนั้นไม่นาน
“เถาเถา? ทำไมลูกถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?”
“คิดว่าหนูไม่เชื่อฟังเหรอ หนูอยู่นอกเหนือการควบคุมของแม่เหรอ หลี่หรงเหลียน บางครั้งหนูก็สงสัยว่าคุณเป็นแม่ที่แท้จริงของหนูจริง ๆ หรือเปล่า หนูเคยอยู่ในท้องของคุณหรือเปล่า คุณถึงทำกับหนูแบบนี้ พอตอนนี้ชีวิตหนูดีขึ้นมาหน่อยแล้วคุณก็กระโดดออกมาเพื่อทำลายชีวิตหนู อีก”
หลี่หรงเหลียนตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็มีปฏิกิริยาและพูดว่า “ชีวิตดีขึ้น? ผู้ชายที่ลูกคบหา ปฏิบัติกับลูกดีมากใช่ไหม”
ซูเถาสำลักครู่หนึ่ง นี่เธอกำลังพูดถึงอะไร? ซูเถารู้สึกสับสนเล็กน้อย
“เขาเป็นใครเหรอ? ครั้งก่อนแม่ได้ยินว่าลูกคุยอยู่กับผู้ชายหลายคนจากกองทัพบุกเบิกที่ประตู 2 เขามียศมีตำแหน่งหรือเปล่า” หลี่หรงเหลียนพึ่งพาผู้ชายมาทั้งชีวิต เธอคิดว่าเหตุผลเดียวที่น่าจะทำให้ซูเถาอยู่ดีกินดี คือชายข้างกายที่ร่ำรวยและมีอำนาจ
สือจื่อเยว่ที่อยู่ข้าง ๆ ได้ฟังก็เข้าใจได้ทันที เธอที่ขี้อายอยู่เสมอก้าวไปยื่นอยู่ข้างหน้าซูเถาอย่างเชื่องช้า และพูดกับหลี่หรงเหลียนด้วยน้ำเสียงดังกึกก้อง
“พี่เถาจื่อของหนูไม่ได้พึ่งพาผู้ชายเลย เธอมีทั้งบ้านและเงิน พี่ชายของหนูเป็นนายพลใหญ่ยังต้องอ้อนวอนให้เธอจัดห้องให้ ตอนนี้เธอสบายดีและไม่ต้องการคุณหรือคนในครอบครัว ในอนาคตได้โปรดอย่ามาหาเธออีก”
คำเหล่านี้ทำให้หลี่หรงเหลียนรู้สึกตกใจ
ลูกสาวที่ถูกไล่ออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ไม่เพียงพบชายที่มียศทหาร แต่ยังมีบ้านด้วย? และดูเหมือนจะมีมากกว่าหนึ่งห้อง?
หลี่หรงเหลียนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องโกหก การโอ้อวดของเด็กหญิงตัวน้อยดูอุกอาจ แต่เธอก็ไม่สามารถหักล้างได้
ซูเถาไม่สนใจหญิงที่เรียกแทนตนเองว่าแม่อีกต่อไป จับมือสือจื่อเยว่แล้วเดินจากไปทันที
ระหว่างทางจื่อเยว่ลอบสังเกตการแสดงออกของซูเถาอย่างระมัดระวัง เธอรู้สึกอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่กล้าพูด
“มีอะไรก็พูดมาเถอะ” ซูเถาสังเกตเห็นท่าทางของเด็กหญิงก็หัวเราะเอ็นดู
สือจื่อเยว่ชะงักเล็กน้อยและพูดว่า “พี่เถาจื่อ ไม่ต้องเสียใจไปนะ จากนี้ไปพี่ชายและหนูจะเป็นครอบครัวของพี่เอง”
เบ้าตาของซูเถาร้อนผ่าวขึ้นทันที ราวกับว่ามีบางอย่างทำลายความรู้สึกอัดอั้นของเธอมาเนิ่นนานหลายปี
“ขอบใจนะจื่อเยว่”
เมื่อสือจื่อจิ้นกลับมาก็เห็นน้องสาวและเจ้าของห้องพักตัวติดกันเหมือนฝาแฝด เมื่อเห็นว่าเขากลับมาแล้ว ซูเถาก็สำรวจดูร่างกายของเขาอย่างละเอียด เมื่อไม่พบอาการบาดเจ็บที่สาหัส หญิงสาวก็ดูโล่งใจไม่น้อย
ดูเหมือนว่าภารกิจจะผ่านไปด้วยดี
จากนั้นเธอก็ทักทายผู้เช่าใหม่ด้วยรอยยิ้ม นั่นคือพี่น้องฝาแฝดต้าโจวและเสี่ยวโจวที่อยู่ห้องคู่
แฝดพี่คือโจวไห่และแฝดน้องคือโจวหยาง พี่น้องฝาแฝดหน้าตาเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว หากมองด้วยตาเปล่าก็แทบจะไม่เห็นแตกต่างระหว่างพวกเขาเลย
เขาทั้งคู่เป็นคนพูดไม่เก่ง ทั้งยังดูนิ่งเงียบไร้อารมณ์ ทั้งคู่เพียงหยิบคีย์การ์ดก้มตัวลงถือกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจสิ่งรอบกาย
สือจื่อจิ้นกล่าวว่า “อย่าถือสาเลย ภูมิหลังของพี่น้องสองคนนั้นไม่ค่อยดีนัก ตอนที่พวกเขายังเด็กมาก แม่ของพวกเขาถูกฆ่าตายโดยพวกสำมะเลเทเมาสิ้นคิด แล้วนำร่างของเธอไปเป็นอาหารให้ซอมบี้ต่อหน้าพวกเขา หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือจากพวกเรา สภาพจิตใจของพวกเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ปกติ พวกเขานิ่งเงียบไม่ทำร้ายผู้คนและเชื่อฟังมาก แต่พวกเขาก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน”
ซูเถารู้สึกสงสารทั้งสองคนในทันที และถามด้วยความสงสัยในเวลาเดียวกัน
“ความสามารถของพวกเขาคืออะไร?”
“แหวกมิติ ทั้งสองคนสามารถแหวกมิติออกจากกัน และส่งเราไปยังสถานที่อื่นชั่วขณะ เหมาะสำหรับการหลบหนีหากเราไม่สามารถเอาชนะได้”
ซูเถาคิดกับตัวเองว่ามันเป็นความสามารถที่ทรงพลังมาก
น่าอิจฉาจัง ไม่รู้ว่าเธอจะปลุกความพลังวิเศษได้หรือเปล่า แต่ว่ากันว่าช่วงเวลาอายุสิบแปดนั้นเรียกได้เป็นอุปสรรค ถ้าปีนี้เธอปลุกได้ก็สำเร็จ ถ้าปลุกไม่ได้ก็จะเป็นคนธรรมดาไปตลอดชีวิต
ช่างเถอะ เธอไม่ควรโลภเกินไป เธอมีระบบเจ้าของอสังหาฯ อยู่แล้ว กับคนบางคนไม่ว่าจะมีพลังล้นเหลือแค่ไหนก็ยังไม่พอใจ
“แล้วความสามารถของคุณคืออะไร” ซูเถาถามอีกครั้ง
สือจื่อจิ้นมองเธออยู่สองวินาที “ความลับทางทหาร อยากรู้เหรอ แต่หลังจากฟังแล้วคุณต้องลงนามในข้อตกลงไม่เปิดเผย…”
ซูเถารีบขัดจังหวะเขา “ลืมมันไปเถอะ เรามาพูดเรื่องอื่นกันดีกว่า ฉันสร้างห้องใหม่สองห้อง ห้องคู่ 1 ห้องและห้องเดี่ยว 1 ห้อง มาดูกันเถอะว่าเราจะแบ่งให้ใครได้บ้าง”
ในที่สุดก็ได้รับการยืนยันว่าห้องเดี่ยวถูกมอบให้กับเพื่อนร่วมทีมของแผนกการรักษา เขาชื่อเจี่ยนไคอวี่ เขาดูเป็นหนอนหนังสือและก็ตัวเล็กที่สุดในบรรดาสมาชิกในทีม
ซูเถายังจำได้ในวันที่อาฉือตายได้ชัดเจน เขาร้องไห้ฟูมฟายและทุบพื้นอย่างขมขื่น ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว
ห้องคู่ถูกจัดไว้สำหรับมือปืนในทีม คนหนึ่งชื่อตั่งซิ่งเหยียนและอีกคนชื่อจวงหู่
ตั่งซิ่งเหยียนก็เหมือนกับชื่อของเขา เขาเป็นคนช่างพูดและหยุดสนทนาไม่ได้ เป็นคนจู้จี้จุกจิก เขาเอาแต่บ่นเรื่องตู้เสื้อผ้าไม่หยุด ทำให้ซูเถาถึงกับกลอกตามองบน
จวงหู่เป็นคนไม่ค่อยพูดและเขาเป็นคนซื่อสัตย์
เมื่อมาถึงจุดนี้คนของสือจื่อจิ้นได้รับการจัดเตรียมทุกอย่างอย่างสมบูรณ์แล้ว และซูเถาก็ได้รับเงินค่าเช่า 25,000 เหลียนปังทันที
สินทรัพย์รวมมีมากกว่า 28,000 เหลียนปัง
ครึ่งทางสู่การอัปเกรดครั้งต่อไป!
ซูเถามีกำลังใจฮึกเหิม ถ้าเธอทำงานหนักขึ้น จะสามารถปลดล็อกห้องสวีทแบบหนึ่งห้องนอนและร้านขายของใช้ประจำวันได้เมื่อถึงเลเวล 3
ด้วยเหรียญกว่า 20,000 เหลียนปังในมือ ซูเถาร่ำรวยขึ้นมากและขยายห้องคู่ 5 ห้องและห้องเดี่ยว 2 ห้องในทันที
สินทรัพย์รวมจะลดลงทันที 17,000 เหลียนปัง
มีค่าใช้จ่าย 10,100 เหลียนปังในการตกแต่งให้เสร็จสมบูรณ์ตามมาตรฐาน และทั้งหมดนี้เริ่มต้นโหมดค่าเช่ารายเดือน
หลังจากกระบวนการทั้งหมด มีเงินเหลือไม่ถึง 15,000 เหลียนปัง
ซูเถาเพิ่งปวดใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ตอนนั้นก็รู้สึกมีความสุขอีกครั้งเมื่อคิดว่าเธอมีห้องว่าง 7 ห้องที่ยังไม่ได้ปล่อยเช่า
เธอเรียกหาสือจื่อเยว่ทันทีให้ไปที่ประตูเขตเถาหยางกับเธอ เพื่อติดโฆษณาสำหรับห้องเช่า อธิบายข้อกำหนดและราคาค่าเช่าห้อง ขอให้ผู้ที่สนใจกรอกข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องและติดต่อเธอทันที
ธุรกิจของซูเถาในฐานะเจ้าอสังหาฯ กำลังเฟื่องฟู ผิดกับความกังวลของสือจื่อจิ้นที่กำลังตึงเครียด เขาฟังรายงานของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับผลึกนิวเคลียสของซอมบี้ที่ตนเองจัดการ
“พลตรีสือ นี่เป็นซอมบี้ที่มีวิวัฒนาการสมบูรณ์มากที่สุดที่เราค้นพบในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา จากเนื้อและเลือดที่คุณนำกลับมา เรายังพบว่า DNA ของมันรวมตัวกันใหม่ได้อย่างรวดเร็วและกลายพันธุ์ทันที บางที…คลื่นลูกใหม่ของซอมบี้ที่มีวิวัฒนาการอาจกำลังจะมา”