ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 92 พี่สามคะ นี่หนวนหน่วนเองค่ะ
บทที่ 92 พี่สามคะ นี่หนวนหน่วนเองค่ะ
ท่าทางเหมือนลูกแมวน้อยของหนวนหน่วนทำให้กู้หมิงอวี๋หัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู ดวงตาดอกท้อเลิกขึ้น ขับเน้นให้ชายหนุ่มดูสดใสและมีเสน่ห์ยิ่งกว่าเดิม
“หนวนหน่วน” กู้หมิงอวี๋เอ่ยเรียกแผ่วเบาด้วยความรู้สึกดี
เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้ารับอย่างเรียบร้อยแล้วเปล่งเสียงเล็ก ๆ น่ารักจับใจเหล่าพี่ชายออกมา
“พี่สามคะ นี่หนวนหน่วนเองค่ะ”
“ให้ตาย…”
ทั้งผู้จัดการและผู้ช่วยที่มองอยู่ต่างสงสัยขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ว่าพี่น้องตระกูลกู้ถูกเลี้ยงมาด้วยอะไรกันแน่ พวกเขาทุกคนถึงได้หน้าตาโดดเด่นและมีเสน่ห์มากขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายแปลกหน้าสองคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาตอนนี้ ทั้งคู่ช่างดูสมบูรณ์แบบจนแม้แต่หมอศัลยกรรมมือหนึ่งก็ไม่สามารถปั้นใบหน้าไร้ที่ติแบบนี้ให้ใครได้
เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ดูงดงามเหมือนนางฟ้า แม้จะยังเป็นเด็กแต่ก็เห็นชัดว่าถ้าโตเป็นสาวคงงดงามไม่แพ้กู้หมิงอวี๋แน่ ๆ
ถึงกู้หมิงหลี่จะมีท่าทางกวน ๆ แต่ก็เต็มไปด้วยแววตาของความท้าทาย เป็นหนุ่มหล่อที่มีเอกลักษณ์ร้อนแรง แม้จะให้อารมณ์ต่างกับคนพี่ แต่ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน
หรือแม้แต่หนุ่มน้อยอีกคนที่มาด้วยกันคนนั้นก็ดูหล่อเหลาสะอาดสะอ้าน อีกทั้งยังมีท่าทางเป็นศิลปิน เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความประณีต
เรียกได้ว่าพี่น้องรูปงามเหล่านี้กำลังทำให้ห้องนี้กลายเป็นแกลเลอรีจัดแสดงงานศิลปะ
ดวงตาของผู้ช่วยเองก็เปล่งประกาย ดูมีความสุขจนปกปิดไม่มิด
กู้หมิงอวี๋อุ้มน้องสาวไว้ในอ้อมแขน เด็กน้อยยอมอยู่นิ่ง ๆ อย่างเชื่อฟัง คนเป็นพี่จึงใช้คางเรียวถูกับผมนุ่มนิ่มบนหัวกลม ๆ ของหนวนหน่วน จากนั้นก็ยกมือเรียวขึ้นลูบใบหน้านวลนิ่มของเธอเหมือนกำลังเล่นกับลูกแมว เด็กน้อยยิ้มจนตาปิดด้วยความรู้สึกดี
เด็กหญิงตัวเล็กคนนี้เป็นเด็กน่ารักเชื่อฟังมาก ไม่มีทีท่าจะขัดขืนแม้แต่น้อย
กู้หมิงหลี่ถอนหายใจเมื่อเห็นภาพนั้น น้องสาวที่ตอนแรกกังวลอย่างมากก่อนมาที่นี่ แต่ตอนนี้ดูสบายใจมากขึ้นแล้ว
เด็กน้อยที่ทั้งน่ารักทั้งเป็นเด็กดีแบบนี้ใครเล่าจะเกลียดลงได้
“พี่สามคะ อันนี้ของขวัญของพี่ค่ะ”
หนวนหน่วนชูกำไลข้อมือร้อยด้วยลูกปัดจากหินมงคลสีแดงสดบนเชือกสีดำให้พี่ชายดู ลูกปัดทุกเม็ดแกะสลักเป็นลายดอกบัวดูเรียบง่ายและสะดุดตาอย่างมาก
เธอเห็นมันครั้งแรกก็รู้สึกทันทีว่าเหมาะกับพี่สามมาก ราคาก็ไม่ได้แพงอะไรนัก อยู่ในระดับที่สามารถจ่ายเงินซื้อให้เขาได้
กู้หมิงอวี๋ถือสร้อยข้อมือหินนั้นไว้ในมือด้วยนิ้วเรียวสวย ภาพสามสีที่ตัดกันอย่างชัดเจนระหว่างดำสนิท แดงสด และขาวจัดกลายเป็นภาพที่สะดุดตาขึ้นมาทันที
ยิ่งเมื่อดาราหนุ่มสวมมันลงบนข้อมือเรียวสวย ผู้จัดการก็มองมันอย่างชื่นชม กำไลข้อมือนั่นดูสะดุดตาเข้ากับเขายิ่งกว่านาฬิกาหรูที่เจ้าตัวสวมอยู่ซะอีก
“เลือกของเก่งจังเลย”
กู้หมิงอวี๋ยกยิ้มที่มุมปากแล้วใช้นิ้วมือลูบติ่งหูน้องสาวพร้อมเอ่ยชื่นชม
หนวนหน่วนมองพี่ชายด้วยดวงตากลมโตที่ตอนนี้มีประกายระยิบระยับสะท้อนออกมา
“เธอรู้ได้ยังไงว่าพี่กลับมาแล้ว แล้วก็เจ้าน้องชายที่รัก มาทำอะไรถึงนี่ฮะ”
กู้หมิงอวี๋มองไปยังกู้หมิงหลี่อย่างเนือย ๆ คนอื่น ๆ ที่มองอยู่ต่างงงงวยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงกู้หมิงหลี่เท่านั้นที่ยังคงนั่งนิ่งบนโซฟาท่าทางไม่ยี่หระ ดวงตามีแววของความกวนประสาทอยู่เช่นเดิม
คนเป็นน้องชายหาวหวอดแล้วเอ่ยตอบ “มาแข่งมอเตอร์ไซค์แถวนี้ ใครจะไปสนกันว่าพี่กลับมาเมื่อไร แต่เล่นมีป้ายโฆษณาติดอยู่ทุกที่แบบนี้คงไม่รู้เลยมั้งว่ากลับมาแล้ว”
หนวนหน่วนกล่าวเสริมคำตอบนั้นอย่างตื่นเต้น
“หนวนหน่วนเห็นว่ามีคนชอบพี่สามเยอะมาก มีแต่คนชมว่าพี่สามหน้าตาดี พี่สี่ก็เลยพาหนวนหน่วนมาหาพี่สามค่ะ”
ท่าทางอารมณ์ดีของน้องสาวช่างเป็นเหมือนกับแม่เหล็กดึงดูดมือของคนเป็นพี่อย่างกู้หมิงอวี๋ให้เอื้อมไปบีบแก้มกลมอย่างอดไม่ได้ เขาเริ่มถามเธอต่อด้วยรอยยิ้ม
“แล้วหนวหน่วนล่ะ ชอบพี่สามไหม”
เสียงอันไพเราะนั้นทำเอาคนฟังแทบหูอื้อ แน่นอนว่าเจ้าตัวตั้งใจใช้เสียงแบบนั้นเพื่ออ้อนน้องสาว
“ชอบสิคะ พี่สามสุดยอดมากเลยค่ะ”
น้องสาวคนเล็กพยักหน้าตอบอย่างรวดเร็วแบบไม่จำเป็นต้องหยุดคิดด้วยเสียงดังฟังชัดและดวงตาที่เปล่งประกายเหมือนอัญมณี
พี่สามของเธอหัวเราะออกมาอย่างงดงาม เขาดึงน้องสาวเข้าไปกอดแน่นแล้วหอมแก้มเธออย่างเอ็นดู
เป็นเด็กน่ารักขนาดนี้ได้ยังไงกัน
เด็กน้อยพูดจบก็แอบลืมตัว เธอรีบเหลือบมองพี่ชายว่าตัวเองพูดมากไปหรือเปล่า แต่เมื่อได้รับสัมผัสอย่างเอ็นดูจากพี่สาม มือน้อยก็กอดคอระหงของเขาเอาไว้แน่น ริมฝีปากเล็กจุ๊บใบหน้าหล่อเหลานั้นเป็นการตอบกลับ จากนั้นเธอก็หลบสายตาด้วยการฝังใบหน้านุ่มนิ่มเข้ากับซอกคอของเขาอย่างเขินอายพร้อมกับพวงแก้มที่ขึ้นสีเหมือนเชอร์รีลูกน้อย
“พี่สามคะ”
เสียงหวานใสของเด็กน้อยเอ่ยออกมาอย่างเขิน ๆ
คนถูกเรียกได้ยินก็ยิ้มหวาน ลูบหัวน้องสาวตัวเล็กอย่างอารมณ์ดี เขาเอ่ยถามเธอด้วยเสียงหวานไม่ต่างกัน “แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง”
แต่ยังไม่ทันที่หนวนหน่วนจะเอ่ยตอบ กู้หมิงหลี่ก็ยืนขึ้นแล้วตอบออกมาแทน “ยัง รอพี่ไปเลี้ยงพอดี”
ท่าทางกวนประสาทสุด ๆ
ทั้งหมดจึงมาที่ร้านอาหารที่มีห้องแบบส่วนตัวแห่งหนึ่ง กู้หมิงอวี๋สวมหมวกและแมสก์บังหน้า มองแบบนี้แล้วรูปร่างสมส่วนเพรียวบางของเขาดูสูงยาวและผอมกว่าน้องชายนิดหน่อย
แต่เป็นสิ่งที่มองเห็นจากภายนอกเท่านั้น เพราะความจริงแเล้วเขาค่อนข้างจะมีกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายไม่น้อย ทั้งนี้ก็เพื่อให้สวมใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายแนวและดูดีเข้ากับทุกลุค
แม้จะมีอะไรบดบังหน้าตา แต่สำหรับคนเป็นแฟนคลับ เห็นเพียงแค่นี้ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเขา
การสวมหมวกและแมสก์ก็เหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไร
พนักงานของร้านอาหารเองก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับของเขา ทันทีที่เห็นว่าแขกคนนี้คือใครก็ทำเอาหายใจติดขัดขึ้นมา
“อวี๋อวี่!”
พนักงานสาวแอบกรี๊ดในลำคอ
นิ้วเรียวของกู้หมิงอวี๋ที่ยกขึ้นแตะบริเวณริมฝีปากทำให้เขาดูงดงามปนเซ็กซี่ และด้วยท่าทางแบบนั้น พนักงานจึงรู้ตัวทันทีว่าต้องเงียบเสียงลง เธอพยักหน้าให้เขาอย่างเข้าใจ
“ขอโทษนะครับ พอดีพวกเรามากินมื้อเย็น เลยอยากจะขอความเป็นส่วนตัวหน่อยน่ะ”
ดาราหนุ่มลดเสียงให้เบาลง เขากระซิบเสียงเบาข้างหูพนักงานสาว ใกล้จนแทบจะรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา ทำเอาเธอแทบจะบ้าตาย หูของเธอร้อนฉ่าไปหมด
หญิงสาวใจเต้นรัว พยายามสงวนท่าทีไม่ให้ดูคลั่งจนเกินไปนัก เธอรีบเปลี่ยนมาให้บริการอย่างมืออาชีพ
“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวทางร้านจะดูแลคุณลูกค้าอย่างดี ไม่ให้มีใครมารบกวนได้ เชิญทางนี้ได้เลยนะคะ เราเตรียมห้องที่ดีที่สุดไว้ให้แล้วค่ะ”
เพื่ออวี๋อวี่แล้ว ต้องดีที่สุดเท่านั้น!
ท่าทีกระตือรือร้นในการบริการของพนักงานสาวอยู่ในสายตาของหนวนหน่วนและไป๋โม่ฮัว ทั้งสองมองที่เธออย่างแปลกใจ
แต่กู้หมิงหลี่ชินกับอะไรแบบนี้นานแล้ว
สุดท้ายพวกเขาก็ได้ห้องส่วนตัวที่ตกแต่งแบบย้อนยุค มีเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างดีประดับอย่างสวยงามประณีต แม้แต่ธูปหอมที่ใช้ในห้องก็เป็นไม้หอมชั้นสูง
ไม่นานเมนูอาหารก็ถูกนำมาให้เลือกที่โต๊ะ กู้หมิงอวี๋จึงเริ่มถามน้องสาวตัวน้อย “เธอชอบกินอะไรเหรอ”
น้องสาวคนเล็กนั่งอยู่ระหว่างพี่สามกับพี่สี่ ไป๋โม่ฮัวที่ไม่เหลือที่ข้างตัวน้องสาวให้นั่งจึงเลือกตำแหน่งตรงข้ามกับลูกพี่ลูกน้องตัวน้อยแทน
อย่างน้อยตรงนี้เขาก็จะได้มองหนวนหน่วนกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
“หนวนหน่วนกินได้ทุกอย่างเลยค่ะ”
เสียงใสของน้องน้อยเอ่ยตอบ
พนักงานที่ให้บริการอยู่เริ่มรู้สึกขึ้นมาในตอนนั้นว่าทุกคนที่มากับดาราหนุ่มล้วนเป็นคนหน้าตาดีทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหญิงตัวน้อยหรือว่าเด็กหนุ่มทั้งสอง
อ้อ… ยกเว้นผู้จัดการกับผู้ช่วยก็ได้ เพราะเธอแทบไม่ได้สนใจพวกเขาเลย
ผู้จัดการกับผู้ช่วย ‘หล่อนหมายความว่าไงฮะ?’
แม้ว่าหนวนหน่วนจะบอกว่ากินได้หมด แต่กู้หมิงอวี๋ก็ยังให้น้องสาวเป็นคนเลือกอาหาร รายการอาหารทุกเมนูมีภาพประกอบจึงเป็นเรื่องง่ายที่เด็กน้อยจะเข้าใจได้ว่ามีอะไรน่าทานบ้าง
หลังจากสั่งอาหารแล้วพนักงานก็รีบเดินไปที่ประตูแล้วแอบกรี๊ดอยู่คนเดียว
ฮื่ออออ อวี๋อวี่ หล่อมากเลยยย
ว่าไปแล้ว คนที่มากับเขาก็หล่อมากด้วยเหมือนกัน คนหน้าตาดีมักดึงดูดคนหน้าตาดีสินะ