ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 89 เฮ้กู้หลี่ นี่น้องชายนายเหรอ
บทที่ 89 เฮ้กู้หลี่ นี่น้องชายนายเหรอ
ผลการแข่งขันในครั้งนี้ช่างเหนือความคาดหมาย ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เจอม้ามืดตัวใหญ่ที่แสดงผลงานได้ดีเยี่ยมขนาดนี้
นักแข่งสมญานามกู้หลี่สร้างความประทับใจให้กับเหล่าผู้ชมเป็นอย่างมาก ใคร ๆ ต่างก็มองว่าเขา ‘ทั้งหล่อเหลาและมีพรสวรรค์’ นับว่ากู้หมิงหลี่เป็นนักแข่งที่หน้าตาโดดเด่นและมีความสามารถที่น่าทึ่งจนทำให้ทุกคนต่างประหลาดใจ
หนวนหน่วนยิ้มไม่หุบตั้งแต่การแข่งขันจบลง ช่างเป็นภาพที่ดูสดใสและนุ่มนวล แววตาแสดงความภูมิใจในตัวพี่สี่ของเธอออกมาไม่หยุด
โดยเฉพาะตอนที่เห็นพี่สี่หันมาพูดกับกล้องว่า ‘พี่ชนะแล้ว หนวนหน่วน’ หัวใจดวงน้อยของน้องสาวคนเล็กเจ้าของชื่อก็พองโต เธอคิดในใจว่าพี่สี่ช่างสุดยอดไปเลย
ไป๋โม่ฮัวพาหนวนหน่วนไปหาพี่ชาย ตอนที่ไปถึง กู้หมิงหลี่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังรุมล้อมเขาอยู่ ทั้งยังมีเหล่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันและชายสวมสูทอีกหลายคน
แน่นอนว่าเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ให้ความสนใจกับแชมป์หน้าใหม่ พวกเขาต้องการเชิญมาร่วมงานกัน
ในตอนนี้มีหลายสโมสรที่ให้ความสนใจกับนักแข่งหนุ่มคนนี้ที่ฝ่าวงล้อมออกมา แถมยังเอาชนะคริสกับอันเดรไปได้ พวกเขาต่างแข่งกันยื่นข้อเสนอที่ดีกว่าเพื่อจะได้ตัวเด็กหนุ่มคนนี้เข้าสังกัด
ภาพนั้นทำเอานักแข่งหลายคนพากันอิจฉาเพราะต่างหวังว่าจะถูกแย่งตัวจากสโมสรแบบนี้บ้าง
“ขอโทษด้วย พอดีผมยังไม่มีความคิดจะเข้าสโมสรเลย”
กู้หมิงหลี่ตอบปฏิเสธไปอย่างสงวนท่าที แม้ว่าข้อเสนอที่ได้รับจะน่าอิจฉาในสายตาคนอื่นก็ตาม
เหล่าตัวแทนจากสโมสรพากันนิ่งค้างด้วยความสงสัย นี่มีแต่ข้อเสนอดี ๆ ทั้ง นั้นทำไมเด็กคนนี้ถึงยังปฏิเสธอยู่อีก คนที่มองข้ามโอกาสทองแบบนี้ต้องเป็นคนซื่อบื้อแค่ไหนกัน
แต่กู้หมิงหลี่ก็ยังยืนกรานว่ายังไม่สามารถตกลงเข้าร่วมกับใครได้ในตอนนี้
“นายเยี่ยมมาก” คล้อยหลังจากเหล่าตัวแทนสโมสร ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มก็ยกนิ้วให้กู้หมิงหลี่พร้อมเอ่ยชมนักแข่งเจ้าของฉายาเสือดำด้วยภาษาจีนแปร่ง ๆ
อันเดรเป็นชาวซาอุดิอาระเบีย เขามีรูปร่างสูงโปร่ง หน้าคมเข้ม บุคลิกเด็ดเดี่ยว ในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน แม้ว่าจะต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด แต่อันเดรก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอีกฝ่ายแต่อย่างใด ความพ่ายแพ้ครั้งนี้กลับทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“คริสพยายามไล่ตามฉันมาหลายปีแล้วแต่ยังไงก็ไม่ทัน ฉันไม่คิดว่าสุดท้ายจะโดนนายแซงไปซะได้ ตอนไล่กวดกันช่วงท้ายนั่นน่าประทับใจมาก”
เขาเอ่ยอย่างตื่นเต้นด้วยภาษาจีนผสมกับภาษาอาหรับ แต่ก็สามารถฟังเข้าใจได้ไม่ยาก
กู้หมิงหลี่ตอบรับคำชมนั้นด้วยรอยยิ้ม
“ครั้งนี้สนุกมาก รับรองว่าครั้งหน้าฉันจะไม่อ่อนข้อให้แน่นอน”
กู้หมิงหลี่ยกกำปั้นขึ้นชนหมัดกับอีกฝ่าย “ไว้เจอกันสนามหน้า”
แม้จะยังอายุน้อย แต่เด็กหนุ่มก็มีความมั่นใจ ไม่ตื่นกลัวเลยสักนิด
คริสเองก็ชมออกมา เขาไม่ใช่คนที่แพ้ไม่เป็นเช่นกัน
น่าจะมีเพียงเคิร์ลและเพื่อน ๆ ที่มองเจ้าแชมป์ใหม่อย่างไม่ยินดียินร้ายด้วยความอิจฉา โดยเฉพาะเคิร์ลที่ถูกท้าทายระหว่างการแข่ง เขาไม่สามารถเอาความไม่พอใจออกจากหัวไปได้
“กู้หลี่ กล้ามากที่มายั่วโมโหฉันกลางสนาม แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
หลังจากพูดจาข่มขู่เสร็จ เคิร์ลก็หันหลังเดินจากไป แม้จะอยากเข้าไปหาเรื่องเจ้าเด็กนั่นสักหน่อย แต่ก็รู้ดีว่าถ้าทำอย่างนั้นมีหวังอาชีพนักแข่งคงได้จบเห่
กู้หมิงหลี่เพียงยืนนิ่งมองเคิร์ลเดินออกไปอย่างเย็นชา ไม่ได้สนใจคำพูดแบบนั้นของอีกฝ่ายอีก
แต่อันเดรกับคริสกังวลใจเล็กน้อย “กู้หลี่ นายต้องระวังหน่อย หมอนั่นชอบเล่นไม่ซื่อ เดี๋ยวจะหาเรื่องมาให้ได้”
กู้หมิงหลี่พยักหน้าขอบคุณพวกเขาสำหรับคำเตือนอย่างเป็นมิตร
“ฉันไม่เป็นไรหรอก”
“ฉันก็หวังว่าแบบนั้น โชคดีล่ะ”
“พี่สี่คะ”
สิ้นเสียงของอันเดรก็มีเสียงหวานใสดังขึ้นมาจากที่ประตูห้อง
เสียงน่ารักของเด็กหญิงตัวน้อยดึงดูดความสนใจจากคนในห้อง จากนั้นพวกเขาก็ได้เห็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ตรงเข้าไปหาพี่ชายราวกับผีเสื้อแสนสวยที่กำลังบินเข้าไปตอมดอกไม้
หัวคิ้วที่เคยขมวดกันของเด็กหนุ่มคลายลงทันที มีเพียงรอยยิ้มอ่อนโยนส่งไปให้ร่างเล็กน่ารักนั่น
กู้หมิงหลี่ย่อตัวลง ชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง จากนั้นก็อ้าแขนออก อุ้มน้องสาวคนเล็กขึ้นมาอย่างอ่อนโยน
“หนวนหน่วนของพี่สี่”
กู้หมิงหลี่แจกรอยยิ้มสดใส ช้อนตัวน้องสาวเข้ามาแนบอกแล้วลูบหัวกลมนุ่มนิ่มของเธอไปมา
“พี่สี่ขา”
เสียงหวานนุ่มนวลของเด็กหญิงตัวเล็กเต็มไปด้วยความสุขอย่างรู้สึกได้ เธอใช้แขนเล็กโอบรอบคอพี่ชายแน่นแล้วซบหน้าลงกับอกแกร่งของพี่ชาย
“พี่สี่ พี่สี่เก่งมากเลยค่ะ หนูกับพี่ชายดูพี่สี่แข่งตลอดเลย ทุกคนชอบพี่สี่มาก”
ดวงตาของเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนส่องประกาย แก้มป่องสองข้างแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น จากเด็กขี้อายและเรียบร้อยกลายเป็นพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดปาก นี่เป็นครั้งแรกที่พี่ชายได้ยินหนวนหน่วนพูดเยอะแบบนี้ เจ้าตัวกำลังแสดงท่าทางต่าง ๆ ด้วยมือเล็ก ๆ อย่างตื่นเต้น
“มีแต่คนชมว่าพี่สี่เก่งที่สุด” น้ำเสียงของหนวนหน่วนมีแต่ความภูมิใจ
กู้หมิงหลี่ยิ่งยิ้มกว้าง นิ้วเรียวของเขาบีบแก้มน้องสาวอย่างที่ชอบทำ
“ดีใจมากเลยเหรอ”
น้องน้อยยิ้มกว้างอวดฟันขาวซี่เล็กน่าเอ็นดูก่อนพยักหน้ารัว ๆ พร้อมเลิกคิ้วขึ้น
“ดีใจมากค่ะ”
“นี่ถ้วยรางวัลที่พี่ได้มา พี่ยกให้หนวนหน่วน”
กู้หมิงหลี่หันหลังไปหยิบถ้วยรางวัลของการแข่งขันแล้วยื่นมันเข้าไปในอ้อมแขนของน้องสาว
มือน้อย ๆ ของหนวนหน่วนที่ต้องรับถ้วยมาก็เซไปเล็กน้อยเพราะน้ำหนักของมัน ต้องใช้ความพยายามในการถือมันเอาไว้ให้ตรง
ใบหน้าเล็ก ๆ ของเด็กน้อยเริ่มแดงระเรื่อ “พี่สี่คะ… หนักจัง… หนักมากเลยค่ะ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“กู้หลี่ น้องสาวนายเหรอ น่ารักจัง”
“ฉันก็อยากมีน้องสาวน่ารักแบบนี้บ้าง”
เสียงหัวเราะดังขึ้นทำเอาหนวนหน่วนเขินอาย เธอเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้มีคนมากมายอยู่ในห้องด้วย เพราะเมื่อครู่เอาแต่สนใจพี่ชายก็เลยไม่ทันรู้ตัวว่าถูกมองอยู่
เมื่อเห็นว่าน้องน้อยกำลังเขิน กู้หมิงหลี่ก็ไม่อาจหยุดรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าได้ เขาหยิบถ้วยรางวัลมาจากมือน้องแล้ววางมันลง เด็กน้อยขี้อายใช้โอกาสนั้นมุดหน้าเข้าสู่อ้อมอกของคนเป็นพี่อย่างรวดเร็ว เธอใช้แก้มสีแดงระเรื่อแนบกับอ้อมแขนแกร่ง มือบางคว้าเสื้อเขาไว้แน่น จากนั้นก็เอาแต่อยู่ในท่านั้นเป็นเวลานาน
หนวนหน่วน ‘แง คนมองเต็มเลย ฮื่อ QAQ’
เด็กน้อยเขินม้วนไปหมด ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้เสียงหัวเราะด้วยความเอ็นดูดังขึ้นมาอีก
“เฮ้ กู้หลี่ นี่น้องชายเหรอ”
จู่ ๆ ชายร่างสูงก็ตบไหล่ไป๋โม่ฮัวแล้วเอ่ยถามเสียงดัง
ไป๋โม่ฮัวนิ่งงันไป “…”
เสียงหัวเราะดังขึ้นทันที ใบหน้าสวยของไป๋โม่ฮัวจึงค่อย ๆ ขึ้นสีด้วยความโกรธ
กู้หมิงหลี่กอดหนวนหน่วนแล้วยืนมองด้วยรอยยิ้ม ส่งสายตาภูมิใจออกมาอย่างไม่ปิดบังไปที่ไป๋โม่ฮัว
ผู้ชายทั้งหมดที่อยู่ที่นี่มีส่วนสูง 180 เซนติเมตรขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ ส่วนไป๋โม่ฮัวที่สูงแค่ 170 กว่า ๆ อีกทั้งร่างกายผอมบาง เมื่อยืนอยู่ตรงนี้จึงคล้ายว่าจะเป็นน้องชายตัวเล็กของทุกคน
ไม่น่าแปลกใจที่จะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นน้องชายของกู้หมิงหลี่