ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 85 ถูกรังแก
บทที่ 85 ถูกรังแก
“เธอไม่เห็นฉันเหรอ?”
เสียงแผ่วเบาดังขึ้น ไป๋โม่ฮัวนั่งยองลงข้าง ๆ ทั้งสองคน แววตาที่ขุ่นเคืองของเขาแทบจะถลนออกมา
หนวนหน่วน “…”
กู้หมิงหลี่ปล่อยนิ้วที่บีบแก้มอ้วน ๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยออก เขาใช้แขนเรียวยาวอุ้มหนวนหน่วนขึ้นลงราวกับเธอเป็นลูกหมู
“อะไร? เธอคิดว่าไงล่ะ?”
เขาเลิกคิ้วหนา เผยความแสบสันดุร้ายออกมาเต็มที่
ไป๋โม่ฮัวทำหน้ามุ่ย “นายมาที่นี่ได้ยังไง”
เขารู้สึกหมดสนุกกับหนวนหน่วนทันทีที่มาถึง
หนวนหน่วนมองไปที่พี่สี่ของเธอ ดวงตาใสซื่อของเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น จริง ๆ แล้วเธออยากจะถามคำถามนี้มาตั้งแต่วันก่อน
“พี่สี่ พรุ่งนี้ไม่มีเรียนเหรอ ทำไมพี่สี่ถึงมาที่นี่ได้คะ?”
เด็กหญิงตัวเล็กหันไปทางเขา แล้วจ้องมองไปรอบ ๆ จากนั้นดวงตาของเด็กน้อยก็เบิกกว้างขึ้น “พี่สี่ โดดเรียนหรือเปล่าคะ”
กู้หมิงหลี่ “…อย่าพูดแบบนั้นสิ”
นิ้วมืออันแข็งแรงของเขาบีบจมูกน้อย ๆ ของหนวนหน่วนเพื่อเป็นการเตือนให้เธอลดเสียงลง
“ฉันลงสมัครการแข่งไว้ พรุ่งนี้จะมีการจัดการแข่งขันขึ้นที่นี่ เธอสนุกแน่วันนี้”
หนวนหน่วนกะพริบตา “แข่งขันอะไรเหรอคะ”
“แข่งมอเตอร์ไซค์น่ะ ไว้พรุ่งนี้ฉันจะพาไปดู เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ แต่เธอห้ามบอกพ่อกับคนอื่นนะ”
ไป๋โม่ฮัวที่อยู่ข้าง ๆ กระแอมเสียงเบา ๆ เพื่อบ่งบอกว่าเขายังมีตัวตนอยู่ที่นี่
กู้หมิงหลี่เหลือบมองไปด้านข้าง จากนั้นก็ยกมือขึ้นเพื่อลูบผมฟูยุ่งเหยิงของไป๋โม่ฮัวเหมือนลูบสุนัขตัวน้อยด้วยความเอ็นดู
ไป๋โม่ฮัว “…ทำอะไรน่ะ!!”
กู้หมิงหลี่อิงสิงโตหินพร้อมกับหนวนหน่วนที่อยู่ในอ้อมแขนพลางส่งยิ้มให้
“เก่งมาก อย่าบอกลุงของฉันกับพวกคนอื่น ๆ ล่ะ หื้ม?”
เขาพูดลงท้ายด้วยคำว่า “หื้ม” พร้อมท่าทีเคร่งขรึมและน่ากลัว เป็นคำเตือนที่ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง
ไป๋โม่ฮัว “!!!”
“ฉันแก่กว่านะ! ใครอนุญาตให้ขยี้หัวฉัน!”
เด็กหนุ่มรู้สึกว่ากำลังถูกเอาเปรียบมากเกินไปเลยตั้งใจจะทำกลับ!
ไป๋โม่ฮัวคิดจะบ้องหัวของกู้หมิงหลี่ แต่เขาถูกอีกฝ่ายบิดมือจึงรีบย่นหน้าแล้วร้องออกมาด้วยความตกใจ ร่างกายทั้งหมดแทบจะถูกแขนของกู้หมิงหลี่ควบคุม เขาถูกบิดจนแขนม้วนเป็นวงกลมจนร่างเซไปทางสิงโตหิน
ในไม่ช้าไป๋โม่ฮัวก็สามารถประคองตัวเองขึ้นได้ เขาเอามืออีกข้างยันสิงโตหินไว้ และในตอนนั้น กู้หมิงหลี่ก็กระทืบเท้า ลมที่พัดผ่านเรียวขาจึงพัดกรูมากระทบหูของไป๋โม่ฮัวที่อยู่ห่างไม่ถึงสองเซนติเมตร
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที หนวนหน่วนยังไม่ทันได้ทำอะไร พี่ชายสองคนของเธอก็ดูเหมือนจะทะเลาะกันแล้ว แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้เพียงฝ่ายเดียวของกู้หมิงหลี่ก็เถอะ
ไป๋โม่ฮัว “…”
กู้หมิงหลี่ทำแบบนี้ถือว่าหยามหน้าเขามาก ไป๋โม่ฮัวทั้งโกรธทั้งอับอาย ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว
เขาพยายามดิ้นรนเล็กน้อย แต่แล้วก็พบว่าเขาไม่สามารถออกแรงสู้ได้
“ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันจะตะโกน!”
ไอ้บ้า! แน่นอนว่าเขาแก่กว่ากู้หมิงหลี่ แต่ทำไมเขาถึงเอาชนะไม่ได้! แถมอีกฝ่ายสามารถรั้งเขาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวเท่านั้น
กู้หมิงหลี่อุ้มหนวนหน่วนไว้แน่นด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือหนึ่งกดไป๋โม่ฮัวไว้ไม่ให้ดิ้นไปไหนได้
“นายเรียกฉันมารังแกงั้นเหรอ”
เห็นได้ชัดว่าไป๋โม่ฮัวพูดด้วยรอยยิ้ม แต่น้ำเสียงของเขาฟังดูแดกดันมาก
สีหน้าของหนวนหน่วนแสดงความกังวลเล็กน้อย แขนเล็ก ๆ ทั้งสองของเธอคว้าแขนของกู้หมิงลี่ไว้ “พี่สี่…”
“หนวนหน่วนเด็กดี ฉันไม่ฆ่าเขาหรอก”
เขาขยิบตาให้เด็กน้อย
หนวนหน่วนเข้าใจว่าพี่สี่แค่แกล้งลูกพี่ลูกน้องของเธอ แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี
“ปล่อยฉันไปนะ ฉันจะไม่ฟ้องใครแล้ว”
เสียงของไป๋โม่ฮัวอู้อี้ เขารู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ ต่อสู้กันทีไรก็พ่ายแพ้ทุกที
มุมปากของกู้หมิงหลี่ยกสูงขึ้น เขาปล่อยมือ ถอยหลังไปเล็กน้อย ถึงเขาจะอายุน้อยกว่าไป๋โม่ฮัวไม่กี่ปี แต่ก็สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ไป๋โม่ฮัวมองไปที่ข้อมือของตน พอเห็นว่ามันถูกบีบจนเป็นรอยแดงก็จ้องมองไปที่กู้หมิงหลี่อย่างขุ่นเคือง ในใจชักหวั่นกลัว อยากจะทิ้งความรู้สึกนี้ออกไปให้พ้น ๆ
หนวนหน่วนพยายามดิ้นให้หลุดจากพี่สี่ เธอเดินนำหน้าเขาทีละก้าวเพื่อไปจับมือลูกพี่ลูกน้องด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บไหมคะพี่ชาย”
กู้หมิงหลี่แลบลิ้นแล้วยกมือขึ้นปัดผม ก่อนจะกล่าวคำพูดที่ฟังแล้วน่าขยะแขยงอย่างยิ่งออกมา
“อ่อนแอเกินไปแล้ว”
ไป๋โม่ฮัวโกรธแค้นมาก ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงไร้ยางอายได้ขนาดนี้ บีบข้อมือของเขาจนเจ็บขนาดนี้ยังดูถูกเขาว่าอ่อนแออีก
“ไอ้… ไอ้คนแรงควาย!”
ไป๋โม่ฮัวเปล่งเสียงออกมาอย่างก้าวร้าว คำด่านี้เป็นคำที่เขาคิดว่าเลวร้ายและโหดร้ายที่สุดแล้ว หลังจากพูดออกไป เขากลัวว่าจะถูกรังแกอีกจึงหันหลังแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน
เขาวิ่งไปใต้ต้นแปะก๊วยแล้วหยุดชั่วขณะ จากนั้นก็หันหลังกลับมามองกู้หมิงหลี่ด้วยความรู้สึกระแวงและเกรงกลัว พอเห็นว่าหนวนหน่วนยังคงอยู่ที่นั่น เขาก็ไม่สามารถวิ่งหนีต่อได้
เด็กหนุ่มรวบรวมความกล้าวิ่งไปซ่อนหลังต้นแปะก๊วยพลางคิดว่าถ้าผู้ชายคนนั้นมา เขาจะ… เขาจะร้องเรียกใครสักคนจริง ๆ !
“หนวนหน่วน รีบมาที่นี่เร็วเข้า!”
ตะโกนเสร็จเขาก็ถดตัวซ่อนหลังต้นแปะก๊วย
กู้หมิงหลี่ผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด “…”
หนวนหน่วน “…”
ลูกพี่ลูกน้องของเธอ… น่ารักดีนะ
กู้หมิงหลี่อดหัวเราะไม่ได้จริง ๆ เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครดุเขาด้วยคำพูดที่ไร้เดียงสาเช่นนี้
หนวนหน่วนดึงเสื้อของพี่สี่แล้วเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา
“พี่สี่ หยุดหัวเราะได้แล้วค่ะ พี่ไป๋โม่ฮัวโกรธมากเลยนะคะ”
กู้หมิงหลี่บีบจมูกเล็ก ๆ ของเธอ “แมวยังโกรธน่ากลัวมากกว่าเขาอีก”
หนวนหน่วนก็เห็นด้วย หลังจากนั้นกู้หมิงหลี่ก็พูดต่อประโยคหนึ่ง “แน่นอน แมวโกรธน่ากลัวกว่าเธอด้วย”
หนวนหน่วน “…”
พี่ของเธอคิดว่ากำลังดูถูกใครเนี่ย!
และแล้วแก้มนุ่ม ๆ ของสาวน้อยก็พองขึ้นเหมือนปลาปักเป้า
“โอเค ฉันแค่มาหาเธอ ถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว อย่าบอกลุงกับคนอื่น ๆ ล่ะ พรุ่งนี้ให้ไป๋โม่ฮัวพาเธอออกไปนะ แล้วฉันจะไปรับเธอมาดูการแข่งขัน”
หนวนหน่วนพยักหน้าอย่างเชื่อฟังพลางตอบอย่างแผ่วเบา
“ตกลงค่ะ แต่พี่สี่ ดูเหมือนพี่ไป๋โม่ฮัวจะโกรธมากเลย พรุ่งนี้เขาจะยังไปดูไหมคะ”
กู้หมิงหลี่โน้มตัวเข้าไปใกล้หูของเธอแล้วกระซิบว่า “เธอทำแบบนี้สิ…”
หนวนหน่วนพยักหน้าหลังจากที่ได้ฟัง เธอเอียงหัวยุ่ง ๆ ไปทางเขา
“แล้วพี่นอนที่ไหนคะ”
กู้หมิงหลี่ตอบว่า “ได้เวลากลับบ้านแล้ว ข้างนอกมันหนาว”
เขาถอดเสื้อโค้ตแล้วกอดคนตัวเล็ก ร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังหยางอบอุ่นเหมือนเตาผิงไม่มีผิด
เธอกอดตอบพี่สี่แน่น
กู้หมิงหลี่พูดอะไรบางอย่างกับไป๋โม่ฮัว เจ้าตัวเลยเงยหน้าขึ้นอย่างไม่เต็มใจ
“อะไร?”
น้ำเสียงนั้นฟังดูไม่เต็มใจเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าหน้าเขาเหมือนแมวหน้าบูดบึ้งตัวหนึ่ง
“มารับหนวนหน่วนกลับไปได้แล้ว”
ทันใดนั้น…
ไป๋โม่ฮัวก็รีบวิ่งไปดึงหนวนหน่วนขึ้นมาแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วราวกับควัน
กู้หมิงหลี่มองร่างที่หายไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความมืดมิดพลางเดาะลิ้น จากนั้นเขาก็หันหลังเดินหายเข้าไปในความมืด
ส่วนอีกด้าน หนวนหน่วนและไป๋โม่ฮัวกลับไปอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่ถึงบ้าน ไป๋โม่ฮัวก็วางลูกพี่ลูกน้องตัวน้อยลงบนเตียง
“ทำไมหมอนั่นทำตัวน่ารำคาญขึ้นเรื่อย ๆ นะ! เขาขู่ฉันด้วย! ข้อมือแดงหมดแล้ว แรงควายหรือยังไงกัน?”