ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 76 นี่คือน้องสาวของเจ้านายเหรอ
บทที่ 76 นี่คือน้องสาวของเจ้านายเหรอ
คุณปู่ซูได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะชอบใจแล้วเอ่ยชมเด็กหญิงว่าเป็นเด็กฉลาดเฉลียว
ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองเข้ามานั่งอยู่ในบ้านของคุณปู่ซูไม่นาน ก่อนที่กู้หลินโม่จะโทรมาตามว่าทั้งสองหายไปไหนกัน และสุดท้ายเขาก็มารับเด็กทั้งคู่ถึงที่
ก่อนกลับไป ซูหรานก็พาสิงอวิ๋นออกไปส่งสองพี่น้อง “หนวนหน่วน เธอจะกลับเมื่อไหร่”
เด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนของคนเป็นพ่อไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องกลับเมื่อไร เธอจึงส่งสายตาไปถามพ่อของเธอ
กู้หลินโม่ลูบหัวลูกสาวตัวดีไปมา
“น่าจะอยู่ที่นี่อีกสองสามวันน่ะ”
ซูหรานพยักหน้ารับอย่างสุขุม เห็นได้ชัดว่าแม้เขาจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุสิบห้า แต่กลับไม่ค่อยมีท่าทางถ่อมตัวกับผู้ใหญ่ ท่าทางสุขุมไว้ตัวแบบนั้นทำให้เขาดูโดดเด่นเป็นเท่าตัว
“งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปเยี่ยมที่บ้านคุณไป๋นะครับ”
รอยยิ้มสดใสประดับอยู่บนใบหน้าของไป๋โม่ฮัว “ได้อยู่แล้ว บ้านห่างกันแค่นี้ นายอยากไปเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ตามสบาย”
หลังจากที่เขาได้รู้ว่าสิงอวิ๋นเป็นอดีตสุนัขทหาร ความกลัวที่มีต่อเจ้าหมาใหญ่ก็ลดลงมาก
หนวนหน่วนโบกมือให้เพื่อนใหม่วันนี้ของเธอพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พี่ซูหราน ลาก่อนนะคะ”
ซูหรานพยักหน้าตอบ “อืม ลาก่อน”
ระหว่างทางกลับบ้าน กู้หลินโม่ก็เอ่ยถามลูกสาวเบา ๆ ว่าวันนี้เจออะไรที่ทำให้มีความสุขบ้าง
หนวนหน่วนเล่าเรื่องราวสนุกสนานที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้คุณพ่อฟังเจื้อยแจ้ว เสียงหวานใสนั้นดังไปตลอดทางราวกับกำลังฟังเสียงเพลงที่สดใสและไพเราะ
ลูกแมวสีส้มถูกจับอาบน้ำเมื่อมาถึงบ้าน เจ้าเหมียวไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน และนอกจากเสียงร้องเหมียว ๆ ระหว่างถูกจับอาบน้ำก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้ มันไม่วิ่งพล่านไปทั่วอีกด้วย พอแมวน้อยถูกจับเป่าขนจนแห้งก็กลายเป็นก้อนฟูฟ่องสีส้มก้อนเล็ก ๆ น่ารัก
ขนของเจ้าแมวเป็นสีส้มสดใสตัดกับส่วนท้องและขาทั้งสี่ที่เป็นสีขาว มันขี้อ้อนมากโดยเฉพาะกับไป๋โม่ฮัว
ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน เจ้าแมวน้อยสีส้มก็เดินตามติดแล้วร้องเหมียว ๆ ไปทุกที่
หนวนหน่วนลูบแก้มที่เต็มไปด้วยขนนิ่ม ๆ ของแมวน้อยแล้วถามพี่ชายว่า
“พี่คะ พี่ชายอยากเลี้ยงเสี่ยวจูไหมคะ”
คนเป็นพี่นั่งยองข้างน้องสาวตัวเล็ก หนวนหน่วนสวมถุงเท้านั่งอยู่บนผ้าห่ม สองขางอเข้าหากันและกำลังใช้นิ้วเล็ก ๆ เกลี่ยพุงแมวน้อย
“แล้วหนวนหน่วนไม่อยากเลี้ยงเองเหรอ”
ใบหน้าแสนน่ารักของน้องสาวตีกันยุ่งเหมือนกำลังครุ่นคิด
“หนวนหน่วนมีเหม่ยฉิวที่บ้านแล้ว มีแม่แมวกับลูก ๆ ด้วย รวมเป็นครอบครัวแมวสี่ตัว ถ้าพาเสี่ยวจูกลับไปด้วยหนูกลัวว่าจะโดนรังแกค่ะ”
ไป๋โม่ฮัวกอดอกและเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แล้วถ้าเหม่ยฉิวรังแกเธอหรือเจ้าแมวนี่ล่ะ”
เด็กหญิงมองเจ้าแมวส้มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ “หนูจะกัดกลับ”
เจ้าแมวส้มที่กำลังนั่งขดตัวกลมเลียขนตัวเองอยู่ จู่ ๆ ก็เงยหน้ามามองหนวนหน่วนด้วยสายตาว่างเปล่า มันเลียปาก หนวดเล็ก ๆ กระตุกยุกยิก
ไป๋โม่ฮัวหัวเราะจนดวงตาเรียวรีของเขาหยิบหยี ความสดใสและอ่อนโยนฉายอยู่ในแววตา
“ถ้างั้นเพื่อไม่ให้เสี่ยวจูถูกเหม่ยฉิวรังแก พี่จะเลี้ยงเจ้าตัวนี้เอง พี่ก็เคยอยากเลี้ยงแมว แต่ต้องไปวาดภาพที่ต่างประเทศ ต่อไปนี้เจ้าตัวเล็กนี่จะเป็นแมวตัวแรกของพี่นะ”
เด็กหนุ่มอุ้มแมวน้อยขึ้นมาแล้วถูจมูกตัวเองกับใบหน้าของมันอย่างรักใคร่ มันลู่หูไปข้างหลัง ขยับขาทั้งสี่ไปมาแล้วเริ่มร้องเหมียว ๆ
“ต้องซื้ออะไรให้แมวบ้าง”
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดเสี่ยวจูให้นั่งอยู่ที่พื้นแล้ววางเจ้าแมวส้มไว้บนตัก จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้หนวนหน่วนดู
“เอาอาหารแมวยี่ห้ออะไรดี อันนี้ก็ดูดีน่าสนใจ ลองซื้อมาสักหน่อยแล้วกัน”
“อันนี้ คอนโดแมวอันนี้น่ารักจังค่ะ”
หนวนหน่วนชี้ไปยังที่นอนสำหรับแมวอีกอันหนึ่ง “อันนี้เสี่ยวจูต้องชอบแน่เลย”
“ใช่เหรอ พี่ว่าน้องสาวต่างหากที่ชอบน่ะ”
พี่ชายเอ่ยแซวแต่ก็เลือกซื้อของตามที่น้องสาวบอกในมือถือ
หนวนหน่วนยิ้มอย่างมีความสุข หลังจากที่ช่วยกันเลือกของเรียบร้อยก็ได้อุปกรณ์ต่าง ๆ มาอย่างครบครัน
วันนี้เด็กน้อยไม่ได้กลับบ้าน พอตกกลางคืนจึงเกิดอาการคิดถึงคุณปู่กับพี่ ๆ ขึ้นมา พี่ใหญ่น่าจะเลิกงานแล้ว เธอจึงอยากจะโทรหาเสียหน่อย
ระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้นเอง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา เป็นเสียงเรียกเข้าของวิดีโอคอลจากคุณปู่และพี่เล็ก
หนวนหน่วนรีบกดรับทันที
เมื่อภาพปรากฏขึ้นในจอ หนวนหน่วนก็เริ่มพูดเสียงหวาน
“พี่เล็กขา คุณปู่ขา”
ทั้งปู่ทั้งหลานที่อยู่ปลายสายแทบจะได้กลิ่นแป้งเด็กทะลุออกมาจากหน้าจอ
[หลานสาวคนดี คิดถึงปู่ไหม]
เมื่อคุณปู่กู้ได้ยินเสียงหลานสาวก็หัวเราะออกมา รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าฉายชัด
กู้อันรีบพูดเร็ว ๆ [พี่ไม่ได้อยากโทรหาเธอหรอกนะ ที่ต้องโทรเพราะคุณปู่ชวน เธอไม่เห็นจะสนใจโทรหาพวกเราเลย]
น้ำเสียงปกติที่น่าจะต้องฟังดูโอ้อวดนิด ๆ ของกู้อันตอนนี้ฟังอย่างไรก็มีแต่ความน้อยใจ
คุณปู่มองไปที่กู้อันอย่างเคือง ๆ [แล้วใครที่เอาแต่รอสายหนวนหน่วนน่ะฮะ อยากคุยกับน้องจนงุ่นง่านไปหมดแล้ว ใคร ๆ ก็ดูออก]
เพราะถูกแฉออกมา กู้อันก็เริ่มเขินอายหน้าขึ้นสี แต่ก็ไม่ยอมแพ้เริ่มขึ้นเสียงดังกลับ
[คุณปู่เข้าใจผิดแล้ว พี่ไม่ได้คิดถึงเธอนะ]
หนวนหน่วนยิ้มกว้างก่อนจะกะพริบตาปริบ ๆ แล้วเอ่ยเสียงหวาน “หนวนหน่วนคิดถึงพี่เล็ก คิดถึงมากเลยค่ะ”
ได้ยินแบบนั้นกู้อันก็ยิ่งเขินเข้าไปอีก
[พี่รู้ว่าเธอขาดพี่ไม่ได้หรอก แล้วแบบนี้ทำไมไม่โทรมาเลยฮะ ลืมไปแล้วเหรอ]
น้ำเสียงกู้อันแสนจะนุ่มนวล แต่สีหน้ากลับดูไม่พอใจ
หนวนหน่วนอธิบายอย่างดีว่ากำลังอาบน้ำให้แมวกับลูกพี่ลูกน้องคนรองของเธอ และเริ่มเล่าเรื่องสนุก ๆ ที่ไปเจอมาวันนี้ให้ทั้งพี่เล็กและคุณปู่ฟังด้วย
แม้แต่เรื่องธรรมดาเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างวัน เธอก็ยังคงเล่ามันอย่างมีความสุข ปู่และหลานชายคนเล็กที่อยู่ปลายสายฟังอย่างตั้งใจไม่มีเบื่อ
เมื่อได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหมาตัวโตของซูหราน กู้อันก็คร่ำครวญออกมา
[น่าสนใจตรงไหน พี่พาเธอไปดูหมาตัวใหญ่ได้เหมือนกัน มีทั้งฮัสกี้แล้วก็อลาสกัน ไม่ได้ตัวใหญ่อย่างเดียวนะ สวยมากด้วย]
พูดจบก็ยังกล่าวเสริมอีกว่า [ถ้าเธอกลับมาพี่จะพาไปดู หมาพันธุ์นั้นสุดยอดมาก]
ส่วนคุณปู่มีน้ำเสียงเศร้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินหนวนหน่วนเล่าเรื่องคุณปู่ซู “ตอนปู่ยังเด็ก เขากับพี่ชายสองคนนั้นเล่นงานปู่หนักมาก แต่ก็คิดถึงเหมือนกัน น่าเสียดายที่หลัง ๆ ปู่ทำงานเยอะมาก ไม่ได้ไปเจอพวกเขาหลายปีแล้ว”
และเนื่องจากชิงเฉี่ยนเสียชีวิตไปเพราะอาการป่วย พี่ชายทั้งสองของเธอจึงพากันโทษว่าเป็นเพราะเขาดูแลภรรยาไม่ดี ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจึงได้ห่างเหินกันไป
แต่เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเด็ก ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความไม่สบายใจไปมากกว่านี้
“คุณปู่เก่งมากเลยค่ะ เพราะสุดท้ายก็ได้แต่งงานกับคุณย่า”
คำเอ่ยชมนั้นทำให้คุณปู่กู้มีความสุขขึ้นมาในทันที
หลังจากคุยกันไปได้สักพักหนึ่ง ในที่สุดกู้อันก็เอ่ยขึ้นอย่างเขิน ๆ [เธอไม่อยากไปดูหมาตัวใหญ่เหรอ รีบกลับมาเลย ไม่งั้นพี่จะไม่พาไปดูนะ]
หนวนหน่วนพยักหน้าอย่างเชื่อฟังแล้วตอบรับคำ จากนั้นก็วางสายอย่างไม่เต็มใจนัก
เด็กน้อยไม่เห็นพี่ใหญ่ในจอด้วยเลยเดาว่าเขาคงไม่กลับบ้าน
เพราะความคิดถึงต่อพี่ใหญ่ เจ้าตัวเล็กจึงโทรวิดีโอหาเขาอีกคน
ในตอนนี้กู้หนานกำลังทำงานล่วงเวลา พูดคุยเรื่องไอเดียต่าง ๆ อยู่กับพนักงานที่สตูดิโอ พอเห็นว่าสายเข้าจึงกดรับโดยที่ไม่ทันได้ดูว่าเป็นวิดีโอคอล ภาพเด็กน้อยน่ารักจึงฉายขึ้นไปอยู่บนจอใหญ่ให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน
[พี่ใหญ่ขา]
เสียงเรียกพี่ใหญ่แสนน่ารักและนุ่มนวลทำเอาเหล่าพนักงานในสตูดิโอพากันใจละลาย ทุกคนจับจ้องไปที่จอภาพนั้นเป็นตาเดียว
“เฮ้ย”
“โอ้โห นี่คือน้องสาวเจ้านายเหรอ”
ในที่สุดก็ได้เห็นสักที แม้ว่าจะเป็นแค่ในจอก็เถอะ!