ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 72 ดื่มให้หมดกันเถอะ
บทที่ 72 ดื่มให้หมดกันเถอะ
นิ้วขาวเรียวยาวของไป๋โม่ฮัวสะกิดลงบนใบหน้าของหนวนหน่วนอย่างนุ่มนวล จากนั้นเขาก็จิ้มลงไปในแก้มบุ๋มเล็ก ๆ ของเธอ
เจ้าลูกพี่ลูกน้องตัวน้อยช่างน่ากอดเหลือเกิน!
เมื่อผู้ใหญ่มาถึง พวกเขาก็ได้เห็นความร่าเริงที่เกิดขึ้นระหว่างลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคน
“พวกเรากำลังเล่นหมากรุกกันอยู่ หนวนหน่วนคงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา”
อากิ๋มมองหนวนหน่วนด้วยแววตารู้สึกผิด “ก่อนหน้านี้ฉันควรจะไปดูหลานสักหน่อย”
พวกเขากำลังเล่นหมากรุกและดื่มชาอยู่ในห้องที่อยู่ไม่ไกลมากนัก โดยไม่ทันได้คิดว่าหนวนหน่วนจะตื่นเร็วขนาดนี้
หนวนหน่วนส่ายหน้าอย่างลำบากใจก่อนจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “หนวนหน่วนเองที่ลืมโทรหาคุณพ่อคุณแม่ค่ะ”
“หนูคงกลัวแย่เลย”
พวกผู้ใหญ่รุมล้อมตั้งคำถามใส่ญาติตัวน้อย
เด็กน้อยส่ายหัวไปมาอย่างอารมณ์ดี “เปล่าค่ะ”
“ไม่ต้องคิดมากนะ เด็กวัยหนูร้องไห้กันทั้งนั้นแหละ”
ไป๋โม่ฮัวจับใบหน้าเล็กแล้วพึมพำว่า “น่าสงสารจังเลย”
คุณพ่อและคุณแม่กู้ก็รู้สึกเจ็บปวดใจ แต่หนวนหน่วนไม่อยากให้พวกเขากังวลใจ เธอจึงจับมือขึ้นมาอย่างงุ่มง่ามแล้วออดอ้อนพวกเขา
“แล้วนี่ไม่แปลกใจเลยเหรอที่เจอผม”
ไป๋โม่ฮัววางกระดานวาดภาพลงแล้วส่งยิ้มไปให้พ่อแม่ของตน เขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อผู้ยิ้มง่าย นั่นทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนมากมาย ผู้เฒ่าผู้แก่ในครอบครัวก็เช่นกัน
“ใครบ้างจะไม่รู้ทันแก ถ้ากลับพรุ่งนี้อย่างที่บอกนั่นแหละคงแปลกใจ”
ไป๋โม่ฮัวหัวเราะ เขาย่อตัวลงแล้วอุ้มหนวนหน่วนขึ้น
“ผมพาหนวนหน่วนไปเล่นนะ”
หนวนหน่วนตัวเล็กตัวน้อยดูน่ารังแก เธอไม่แม้แต่จะขัดขืนสักนิด
“ไปเถอะ ๆ ดูแลน้องด้วย”
“รับทราบครับ”
ไป๋โม่ฮัวอุ้มหนวนหน่วนไว้ด้วยแขนข้างหนึ่งแล้ววิ่งขึ้นไปข้างบนพร้อมกับมืออีกข้างที่ถือกระดานวาดภาพไว้
เมื่อเข้าไปถึงห้องของเขา หนวนหน่วนก็ถูกดึงดูดความสนใจด้วยภาพวาดสีน้ำมันขนาดเล็กใหญ่ที่แขวนอยู่ในห้อง ส่วนใหญ่เป็นภาพวาดทิวทัศน์ เป็นภาพทั้งภูเขาปกคลุมด้วยหิมะสวยงามภายใต้แสงอาทิตย์สีทองอันอบอุ่น และน้ำตกที่เหมือนแดนสวรรค์ใต้สายรุ้ง นอกจากนี้ยังมีรูปดอกบัวที่ดูบอบบาง ทุกภาพทำให้หนวนหน่วนตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก
ไป๋โม่ฮัวเข้าไปในห้องของเขาพร้อมกับหนวนหน่วนที่อยู่บนอ้อมแขน ก่อนจะตรงไปที่ห้องใต้หลังคาขนาดเล็กแล้วเปิดผ้าม่านออก มันเป็นหน้าต่างทรงฝรั่งเศสบานใหญ่ สามารถมองเห็นทัศนียภาพภายนอกบ้านได้อย่างชัดเจน
ภายในห้องใต้หลังคาเล็ก ๆ นี้เป็นที่ที่ไป๋โม่ฮัวใช้วาดภาพ ในห้องตกแต่งเรียบง่าย โดยมีสีสำหรับวาดภาพพร้อมกับพู่กันและกระดาษถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ในตู้ไม้ที่วางชิดติดผนัง โดยตรงกลางห้องจะเป็นขาตั้งสำหรับกระดานวาดภาพ และสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจมากที่สุดในห้องนี้ก็คือเหล่าภาพวาดที่แขวนอยู่
ภายในห้องนอนมีเพียงภาพวาดขนาดเล็กเท่านั้น แต่ตรงนี้มีแต่ภาพใหญ่ ๆ โดยเฉพาะตรงกลางห้องที่มีรูปต้นแปะก๊วยสูงใหญ่วางอยู่ หนวนหน่วนสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามาว่ามันคือต้นแปะก๊วยที่ปลูกเอาไว้ตรงลานข้างนอก
ทันทีที่มองเห็นต้นแปะก๊วยในภาพก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ามันมีชีวิตขึ้นมาทันที ใบไม้สีเหลืองทำให้รู้สึกถึงลมหายใจของฤดูใบไม้ร่วง ราวกับว่าเธอได้กลับไปยืนอยู่ตรงลานเล็กเพื่อยืนชมต้นแปะก๊วยที่สูงใหญ่นั้น
มีภาพวาดอีกภาพหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากต้นแปะก๊วยนัก มันเป็นภาพวาดของหญิงงามที่กำลังสวมใส่ชุดกี่เพ้าลายครามสีน้ำเงินขาว เธอยืนอยู่ตรงบานหน้าต่างสีน้ำตาลแดงโดยหันหลัง เห็นใบหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มองแล้วให้ความรู้สึกถึงความสง่างามตามแบบฉบับสตรีจากตระกูลใหญ่
สวยขนาดนี้ ใครจะไม่ชอบได้!
“อากิ๋มนี่นา”
หนวนหน่วนมองหญิงสาวในชุดกี่เพ้าตัวยาวแล้วเอ่ยเสียงเบา แม้ว่าจะเห็นใบหน้าเพียงเสี้ยวเดียว แต่เธอก็รู้ได้ทันทีว่าในภาพคือบุคคลใด
ไป๋โม่ฮัวลงไปข้างล่างอีกครั้งโดยเอากระเป๋านักเรียนสีดำติดมือไปด้วย จากนั้นก็ทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับมาอย่างเร็วไว
“พี่รองวาดรูปเก่งที่สุดเลย!”
มองดูก็รู้ว่าคนที่วาดภาพพวกนี้คือชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า หนวนหน่วนรู้สึกชื่นชมเขาเหลือเกิน เคยได้ยินเพียงคำบอกเล่าจากคุณแม่ แต่เมื่อได้มาเห็นจริง ๆ หนวนหน่วนถึงกับคิดว่าพี่รองคนนี้อาจมีเวทมนตร์วิเศษอยู่ในมือ
เด็กหญิงตัวน้อยจ้องมองอย่างตั้งใจ ทำให้ไป๋โม่ฮัวทำตัวไม่ถูก ใบหูของเขาขึ้นสีแดงเล็กน้อยด้วยความเขินอาย
“เก่งอะไรกันเล่า ทุกคนล้วนมีสิ่งที่ตนเองสนใจกันทั้งนั้น หนวนหน่วนก็ต้องลองหาดูว่าตัวเองชอบอะไร จะได้ทำได้ดีเหมือนกันไง”
ขณะที่เขาพูด เขาก็หยิบกระเป๋านักเรียนแล้วตรงไปที่ระเบียงขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ จากนั้นก็โบกมือมาทางสาวน้อย
“มานี่สิ ดูซิว่าชอบกินของพวกนี้ไหม”
เด็กหญิงตัวน้อยเดินไปอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะพบเข้ากับ… ขนมที่เต็มกระเป๋านักเรียนสีดำ
ไป๋โม่ฮัวสวมใส่เพียงถุงเท้าสีขาวเท่านั้น เพราะพื้นระเบียงปูด้วยพรมนุ่ม และเครื่องทำความร้อนในห้องก็เปิดอยู่ บริเวณระเบียงจึงไม่เย็นมากนัก
เวลาอยู่บ้าน เขาชอบสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็กสีเทาอ่อนยาวถึงข้อเท้า รอยยิ้มน้อย ๆ ที่ประดับบนใบหน้าของเขาและผมสีดำนุ่มเรียบสะอาดนั้นทำให้เขาดูราวกับหยกขาวที่งดงามไม่มีผิด
หนวนหน่วนถอดรองเท้าเดินไป ก่อนจะนั่งลงไขว่ห้างอยู่ข้างกายเขา จากนั้นเธอก็ใช้สองมือเรียวบางรับนมที่เด็กหนุ่มส่งมาให้
“ดื่มนมกันเถอะ”
ช่างแตกต่างจากกู้อันที่คอยแต่พูดว่าเขาโตแล้ว ไป๋โม่ฮัวยังนิสัยเหมือนเด็ก นอกจากนี้เขายังเอาขนมที่ชอบมาแบ่งหนวนหน่วนอีกต่างหาก
“เค้กชิ้นนี้อร่อยมาก ขนมแผ่นเผ็ดเสฉวนนี่พี่ก็ชอบมาก พี่ชอบกินทีละชิ้น ลองกินดูสิหนวนหน่วน”
หนวนหน่วนเอี้ยวตัวไปหยิบขนมแผ่นเผ็ดเสฉวนขึ้นมาแล้วทานมันอย่างมีความสุข
“ว้าว… อร่อยจัง!”
ไป๋โม่ฮัวยกยิ้มอย่างมีความสุข ดวงตากระจ่างที่เหมือนแมวของเขาโค้งขึ้น
“ใช่ไหมล่ะ”
ทั้งสองคนพูดคุยกันราวกับสนิทสนมกันมานานหลายปี
“มานี่สิ มาดื่มให้หมดเถอะ เป็นการต้อนรับเธอไง!”
หนวนหน่วนเลียนแบบท่าทางคนตรงหน้า เธอเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ดื่มให้หมดกัน!”
ท่าทางการดื่มนมของทั้งสองคนนั้นทำเอาน่าตกตะลึงอยู่ไม่น้อย
“เอาละ เอาละ เรียบร้อยแล้ว ไปล้างมือกันเถอะ”
ไป๋โม่ฮัวจัดแจงทุกอย่างตรงริมหน้าต่างอย่างชำนาญ ก่อนจะพาหนวนหน่วนไปล้างมือ
โฟมสีขาวอยู่บนมือเรียวยาวขาวสะอาดราวกับหยกขาวและอยู่บนมือเล็ก ๆ สีขาวราวกับน้ำนม บนหลังมืออันอ่อนโยนของหนวนหน่วนจะสามารถเห็นรอยกระดำกระด่างสองสามจุดได้อย่างชัดเจน
“ไปกัน พี่รองจะพาไปวาดรูป”
หลังจากเสร็จสิ้น มือเรียวของเด็กหนุ่มก็เข้ากอบกุมมือบางของหนวนหน่วนเอาไว้ เขาเงยหน้ามองหาทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่มองเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกไม่เป็นที่พอใจ
“อืม… ไม่ได้ ทิวทัศน์ตรงนี้ไม่เหมาะกับหนวนหน่วนเลย”
หนวนหน่วนที่วิ่งเล่นอยู่กับเขาเหลือบไปเห็นแมวส้มที่โผล่ออกมาเพียงครึ่งตัวบนต้นไม้ตรงหน้า ท่าทางของมันคล้ายอยากจะลงไปข้างล่างแต่เหมือนจะกลัวอยู่นิดหน่อย มันจึงห้อยโหนอยู่บนกิ่งไม้แล้วร้องออกมา
“พี่รอง แมว”
หนวนหน่วนดึงเสื้อผ้าของไป๋โม่ฮัวให้เขาหันไปดู แต่แล้วแมวส้มก็ร่วงลงจากต้นไม้ไปตกอยู่ในลานบ้านของคนอื่น
ไป๋โม่ฮัวตกใจ มองไปที่แมวของตน “ทำไมเข้าไปในบ้านคนอื่นเขา!”