ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 64 น่าแกล้งจริง ๆ
บทที่ 64 น่าแกล้งจริง ๆ
“เสี่ยวเสินมาทานข้าวด้วยกันเร็ว” คุณหญิงกู้เรียกเสินอวี้จิ่นด้วยรอยยิ้ม
“ครับผม!”
เสินอวี้จิ่นแม้จะยังรู้สึกรังเกียจกับเสื้อผ้าแต่ก็รีบวิ่งเข้าไปมอบของขวัญที่ซื้อมาให้หนวนหน่วนทันที
“เด็ก ๆ ชอบตุ๊กตากันทั้งนั้น อันนี้ของเธอนะ”
นี่คือตุ๊กตาบีเจดีที่เขาแย่งชิงมาจากลูกพี่ลูกน้องได้ เจ้าของตุ๊กตาดูแลประหนึ่งลูกชายและลูกสาวของเขาเอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแย่งชิงมันมา
ตุ๊กตาบีเจดีที่สวยงามนี้ดูน่าทึ่งมาก เพราะไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือสวมเสื้อผ้าก็มักจะดูดีกว่าคนจริง ๆ แต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือพวกมันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
เมื่อหนวนหน่วนถือตุ๊กตาบีเจดี แววตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาทันที อันที่จริงในสายตาของคนอื่น ภาพนี้ก็ไม่ต่างจากภาพตุ๊กตาตัวใหญ่ถือตุ๊กตาตัวเล็ก เพราะทั้งคู่สวยงามมากเลยทีเดียว
“ขอบคุณค่ะพี่จิน”
ดวงตาของหนวนหน่วนยกหยีราวกับพระจันทร์เสี้ยวเล็ก เธอเอ่ยเรียกเสินอวี้จิ่นอย่างไพเราะอ่อนหวาน
เสินอวี้จิ่นแสร้งปกปิดสิ่งที่อยู่ภายในใจ ก่อนจะกล่าวว่าไม่ต้องขอบคุณ ทำเอาเด็กน้อยยิ้มแก้มปริที่ได้ตุ๊กตามาครอบครอง
หลังจากทานอาหารเสร็จ เสินอวี้จิ่นก็เข้าใจในที่สุด ว่าเหตุใดชายชราของตระกูลกู้จึงมีสุขภาพกายดีและสุขภาพจิตดีได้เช่นนี้ เพราะระหว่างมองดูหนวนหน่วนทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เขาก็รู้สึกอยากอาหารตามไปด้วยเช่นกัน หากชายชราที่บ้านของเขาทานได้มากเท่านี้รับรองว่าแข็งแรงขึ้นแน่นอน
เสินอวี้จิ่นถอนหายใจในขณะที่เขามองดูหนวนหน่วน เด็กน้อยกำลังทานอาหารจนแก้มของเธอกลมป่อง แววตาของเธอยังเปี่ยมไปด้วยความสุขล้นอีกต่างหาก
“ถ้าวันหนึ่งหนวนหน่วนไปที่บ้านผมในฐานะแขก รับรองได้เลยว่าคุณปู่ของผมต้องทานข้าวได้มากขึ้นแน่ ๆ ถ้าได้มองหนวนหน่วนกินข้าวแบบนี้ เขาต้องเพิ่มข้าวเหมือนคุณปู่กู้แน่นอนเลยครับ”
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะของคุณหญิงกู้และผู้เฒ่ากู้ก็ดังขึ้นทันที
“ใช่แล้ว คุณปู่กู้ของนายก็อยากจะพาหนวนหน่วนไปทำความรู้จักกับผู้เฒ่าผู้แก่บ้านอื่นอยู่เหมือนกัน”
คุณหญิงกู้ได้แต่บ่นอยู่ภายในใจ ทำความรู้จักอะไรกัน แค่อยากจะอวดหลานมากกว่า
ดวงตาของหนวนหน่วนเปล่งความน่ารักออกมาเต็มที่แล้วมองไปยังทุกคน เธอไม่เข้าใจว่าพวกเขาหัวเราะอะไรกัน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดลงบนศีรษะ แหงนมองก็พบว่าเป็นพี่ชายคนโตที่นั่งอยู่ข้างกัน เขากำลังลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน
หนวนหน่วนเอียงศีรษะ เม้มปากเรียบ ก่อนจะยกมุมแก้มขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นรอยยิ้มแสนหวานออกมา
วันนี้เป็นวันศุกร์ ในตอนบ่ายหนวนหน่วนต้องไปรับพี่เล็กพร้อมกับพี่ใหญ่ จากนั้นจะไปรับพี่สี่ที่หนานเฉิงกุ้ยจื่อต่อไป
กู้หมิงหลี่สวมหมวกแก๊ปสีดำ ยืนพิงประตูรั้วโรงเรียนด้วยท่าทางสุดเท่โดยมีหูฟังบลูทูธสีขาวครอบหูอยู่ เขายืนด้วยท่าทางสบาย ๆ ขณะที่อยู่ในชุดนักเรียนสีน้ำเงินขาว ลมหายใจแห่งความวัยเยาว์ถูกพ่นออกมาด้วยความเย็นชาเกินจะต้านทานไหว ขายาวข้างหนึ่งกวัดแกว่งไปมาราวกับไม่มีที่วาง มองอย่างไรก็เป็นเด็กผู้ชายในอุดมคติของสาวหลายคนในโรงเรียน
แต่ถึงอย่างนั้น กู้หมิงหลี่ผู้แสนเย็นชาก็ไม่เคยสนใจใครนอกเสียจากก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว
“พี่สี่”
กู้หมิงหลี่สวมหูฟัง ก่อนจะเปล่งเสียงว่า ‘ไม่มีใครเอาชนะฉันได้’ ออกมา ทันใดนั้นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็ตกเป็นเป้าสายตาต่อสาธารณชนขึ้นมาทันที ตามมาด้วยเสียงของหญิงสาวมากมายที่เอ่ยพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น โดยมีแต่คำว่า ‘หล่อ’ หรือ ‘หล่อมาก’ ดังขึ้นเป็นระยะ
หนวนหน่วนโผล่หน้าจากกระจกรถออกมาแล้วโบกมือให้กู้หมิงหลี่ ดวงตาประหนึ่งพระจันทร์เสี้ยวคู่เล็กฉายแววสดใสภายใต้แสงแดดอันอบอุ่น ช่างอ่อนโยนและสวยงามเป็นอย่างมาก
กู้หมิงหลี่ถอดหูฟังออกแล้วเดินไปพร้อมกับขายาว ๆ ของตน เขาใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของหนวนหน่วนอย่างแผ่วเบา
“คิดว่าเธอจะลืมซะแล้ว”
หนวนหน่วนส่ายหัวแล้วรีบอธิบาย “ไม่ใช่ค่ะ เป็นเพราะหนวนหน่วนต้องไปรับพี่เล็กที่โรงเรียนก่อน”
กู้อันโผล่ศีรษะดำ ๆ ของตนออกมา ใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาของเขาปรากฏคิ้วที่เลิกสูงขึ้น เด็กชายมองไปยังกู้หมิงหลี่ด้วยสายตายั่วโมโหราวกับอยากวอนหาเรื่องโดนทุบตี
“หนวนหน่วนมารับฉันก่อน แบบนี้มันหมายความว่ายังไงล่ะ หมายความว่า…”
“หมายความว่าแกมันโง่เง่า”
กู้อันโดนกู้หมิงหลี่ตัดบทก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ ซึ่งนั่นทำให้กู้อันโกรธมาก เด็กชายแทบจะแยกเขี้ยวและกรงเล็บออกมา
“พี่นั่นแหละโง่! โง่ที่สุด!”
กู้หมิงหลี่ขี้เกียจโต้เถียงกับหนุ่มน้อยตรงหน้าเหลือเกิน เขามองเข้าไปในตัวรถแล้วคิดว่า
ช่างดีเหลือเกิน ข้างหลังไม่มีที่ว่างเลย
แล้วพี่ใหญ่มาได้ยังไงกัน?
เขาบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงที่นั่งข้างคนขับ หลังจากนั้นก็มุ่งหน้ากลับไปที่บ้านตระกูลกู้
กู้อันเลยทราบว่าพวกเขาทั้งหมดไปปลูกต้นไม้กันในช่วงเช้าที่ผ่านมา และได้พาน้องสาวของเขาไปด้วย
หนวนหน่วนทานองุ่นลูกใหญ่ที่พี่สี่เป็นคนป้อนให้ เธอผงกหัวอย่างมีความสุขพร้อมกับแก้มกลมป่อง หมายมั่นว่าพรุ่งนี้จะไปอีกอย่างแน่นอน!
วันรุ่งขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ทุกคนยกเว้นกู้หนานต่างพากันไปปลูกต้นไม้ด้วยกันเป็นเวลาครึ่งวัน
ในที่สุดแล้วกู้หนานก็ได้ไปทำงานภายใต้คำสั่งของผู้เป็นพ่อ
“เหนื่อยจัง….”
กู้อันผู้ซึ่งลงมือทำไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็หมดแรงลงราวกับสุนัขที่หอบเหนื่อย เขากวัดแกว่งแขนของตนเองไปมาก่อนจะมองไปยังหนวนหน่วน
“เธอไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?”
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตนไม่สามารถเอาชนะน้องสาวได้!
หนวนหน่วนส่ายหัวแล้วโรยเมล็ดผักกาดขาวลงในดินที่ต้าหวงใช้อุ้งเท้าขุดอย่างมีความสุข หลังจากนั้นจึงใช้จอบอันเล็กเกลี่ยปิดหน้าดิน
“ไม่เหนื่อยค่ะ”
พูดจบเธอก็เดินไปหยิบเมล็ดพันธุ์อย่างมีความสุข
กู้อัน “…”
อย่าทำตัวแข็งแรงเกินหน้าเกินตาแล้วทำเหมือนฉันไร้ค่าจะได้ไหม!
ทางด้านกู้หมิงหลี่นั้น… เขาเหนื่อยนิดหน่อยเช่นกัน เด็กหนุ่มไม่เคยแม้แต่จะปลูกดอกไม้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อได้ลองสัมผัสประสบการณ์แบบนี้แล้วก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะตอนได้เห็นเด็กสาวตัวน้อยที่กระโดดโลดเต้นไปมาราวกับกระต่ายน้อยแบบนั้น
กิจกรรมในตอนเช้าจบลง พวกเขาไม่ได้ลงมือทำต่อในช่วงบ่าย เสร็จงานแล้วกู้อันก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าลูกแมวตัวน้อยสีน้ำนมทั้งสองที่กำลังแผดเสียงร้อง
“ไร้เดียงสาจัง ยังเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ”
แมวสีน้ำนมตัวน้อยแสนน่ารักน่าชังมองไปรอบ ๆ ด้วยดวงตากลมใส อุ้งเท้าทั้งสี่พยายามลุกเดินอย่างกะโผลกกะเผลกไปมา ดูแล้วเหมือนจะสะดุดล้มได้ง่าย
กู้อันใช้นิ้วจิ้มเข้าที่หน้าผากของแมวน้อยสีน้ำนมจนมันล้มลงไปในที่นอน เจ้าแมวน้อยตะเกียกตะกายลุกแล้วกวัดแกว่งกรงเล็บไปมาอย่างดุร้าย
หนวนหน่วนยื่นมือเข้าไปช่วยจับพยุง หลังจากที่ยืนได้แล้ว ลูกแมวสองตัวที่เพิ่งลืมตาก็ส่งเสียงร้องเหมียว ๆ ด้วยตัวสั่นเทาก่อนจะขยับเข้าหาหนวนหน่วนด้วยอุ้งเท้าทั้งสี่ที่ยังไม่มั่นคง แต่เพียงแค่ลุกขึ้นยืนและก้าวเดินเพียงไม่กี่ก้าวมันก็ล้มลง
กู้อันส่งเสียงหัวเราะออกมา “ทำไมโง่จัง”
“ฮัดชิ่ว~”
แมวน้อยจามออกมาเล็กน้อย มันลุกขึ้นยืนพรวดก่อนจะก้าวถอยหลังไปไม่กี่ก้าวเพื่อจามออกมา หลังจากนั้นก็ทิ้งตัวนั่งลงทันที
มันยกหัวปุกปุยขึ้นมาเพื่อมองดูทุกคนโดยรอบอย่างสั่นกลัว
กู้อันหัวเราะขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่กู้หมิงหลี่ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วบ่นพึมพำเบา ๆ ถึงภาพโง่เง่าที่เกิดขึ้น
หนวนหน่วนน่ารักมาก เธอยื่นนิ้วไปจิ้มลงบนท้องของแมวน้อยอย่างแผ่วเบา ดูแล้วช่างให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มเหลือเกิน
กู้อันพยายามเอานิ้วไปแหย่เช่นกัน ก่อนจะหันกลับไปมองใบหน้าของหนวนหน่วนด้วยสายตาจริงจัง “เจ้านี่เหมือนน้องสาวฉันเลย”
หนวนหน่วนพองแก้ม “ไม่ใช่สักหน่อย”
กู้อันเอี้ยวตัวไปบีบแก้มหนวนหน่วน ก่อนจะพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ถ้าไม่เชื่อก็ลองจับดูไหมล่ะ?”
หนวนหน่วนกะพริบตาพริ้มก่อนจะนำมือทั้งสองข้างมาจับตรงหน้า
นุ่มนิ่มจริงด้วย
กู้หมิงหลี่ย่อตัวลงบีบแก้มของเธอเช่นกัน
คุณหญิงกู้ยืนมองดูลูกและหลานชายของเธอที่กำลังหยิกแก้มลูกสาวจนใบหน้าของเด็กน้อยขึ้นสีแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตคู่นั้นคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ส่อแววไร้เดียงสาน่าแกล้งมากจริง ๆ
คุณหญิงกู้ “…”