ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 61 พ่อตีอีกแล้ว!
บทที่ 61 พ่อตีอีกแล้ว!
กู้อันกำลังจะวิ่งไปเช่นกัน แต่เมื่อเห็นว่าพ่อตนกำลังหยิบนมออกมาให้ดื่ม เขาก็ขยะแขยงและแทบจะวิ่งหนีออกไปเดี๋ยวนั้น แต่ก็ไม่มีทางรอดพ้นสายตาของกู้หลินโม่ไปได้
“จะไปไหน มากินนม!”
กู้อันงอแง “ไม่เอา! นมมีไว้สำหรับเด็กเท่านั้นแหละ ผมโตแล้ว ไม่ต้องกินแล้ว!”
กู้อันตะโกนสุดเสียง เขาลุกขึ้นยืนและคิดต่อต้านผู้เป็นพ่ออย่างสุดตัว
กู้หลินโม่ยิ้มแยกเขี้ยวด้วยความโกรธ เขาดึงแขนของกู้อันไว้ก่อนจะจับหันหลังแล้วฟาดลงเข้าตรงบั้นท้าย
“เด็กนี่ ดื้อนักใช่ไหม!”
กู้อันผู้โดนตีต่อหน้าน้องสาวตัวเอง “…”
เด็กชายรู้สึกชาวาบบนใบหน้าอยู่หน่อย ๆ
กู้หลินโม่เอ่ยเสียงเรียบ “ไม่รู้หรือไงว่าใครเป็นพ่อแก คิดว่าฉันจะจัดการกับแกไม่ได้เหรอ?”
กู้อันกรีดร้อง “พ่อตีก้นผม! พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง! ไม่รู้เหรอว่าห้ามตี? ผมบอกไว้ก่อนเลยนะว่าพ่อกำลังตีเสืออยู่ บอกให้ปล่อยผมไง!”
กู้หลินโม่เอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ “แล้วแกจะทำไม?”
กู้อันหน้าแดงก่อนจะพูดอย่างน่าอายถึงสิ่งที่เก็บอยู่ภายในใจออกไป “ผมจะฟ้องแม่!”
กู้หลินโม่ “…”
หนวนหน่วน “…”
ดี… ช่างเป็นพี่ชายตัวอย่างเสียเหลือเกิน
หลังจากถูกปล่อยตัว เขาก็รีบดื่มนมอย่างเชื่อฟังแล้วพยายามหลบหน้าของตัวเองอย่างหนัก
“ผมไม่ได้อยากดื่มเพราะพ่อบังคับหรอกนะ แค่อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องเท่านั้น”
หนวนหน่วนกะพริบตาปริบ ๆ
เธอต้องมีตัวอย่างในเรื่องของการดื่มนมอย่างเชื่อฟังด้วยเหรอ
กู้อันเห็นดวงตากระจ่างเคลือบแคลงใจของน้องสาวแล้ว ใบหน้าก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าเขาไม่สามารถขัดขืนพ่อได้ และที่ดื่มนมอย่างเชื่อฟังก็เป็นเพราะพ่อบังคับ
กู้หลินโม่กระตุกยิ้มมุมปาก
เจ้าลูกคนนี้ ซื่อบื้อได้ใครมา?
“ได้เวลาเข้านอนแล้ว วันนี้หนวนหน่วนจะนอนกับพ่อกับแม่!”
ก่อนหน้านี้เขาอาจวางใจไปว่าลูกสาวแสนดีของตนสามารถปรับตัวกับบ้านหลังนี้ได้แล้ว แต่ทุกวันนี้เธอก็ยังหวาดกลัวและยังต้องการความปลอบโยนจากพ่อแม่อยู่
กู้อันที่กำลังดื่มนมอยู่วางแก้วลงทันที
“พ่อมีสิทธิ์อะไร!”
เขาเช็ดฟองนมที่เลอะอยู่บนปากออกแล้ววางแก้วลงอย่างภูมิใจ ก่อนจะจับมือเล็กของหนวนหน่วนแล้วดึงเธอมาหลบอยู่ข้างหลังตน เขายืนประจันหน้ากับพ่อของตนแล้วยืดอกเชิดหน้าขึ้นราวกับไก่ตัวน้อย
“เมื่อวานน้องนอนกับพี่ใหญ่ไปแล้ว วันนี้ควรจะนอนกับพี่เล็กอย่างผมสิ!”
กู้อันยืนกรานอีกครั้ง เขาอยากนอนกอดน้องน้อยที่ตัวหอมฟุ้ง เทียบกันแล้วหนวนหน่วนสบายกว่าหมอนข้างเป็นเท่าตัว!
กู้หลินโม่ปรายตามองลูกชายของตน เจ้าเด็กนี่ เพิ่งจะโดนตีไปไม่ถึงสามวิ…
และไม่กี่วินาทีต่อมา…
“ว้ากกกก!!! แม่ช่วยด้วย พ่อตีอีกแล้ว!”
หนวนหน่วนยืนถือแก้วนม ความงุนงงปรากฏขึ้นบนใบหน้าเรียวบาง เธอได้แต่มองพ่อหยิบไม้แขวนเสื้อไล่ตามพี่ชายคนเล็กของตนที่วิ่งหนีราวกับลิงกระโดดโลดโผนไปมา
และในที่สุดกู้หลินโม่ก็อุ้มหนวนหน่วนออกมาอยู่นอกประตู ปล่อยให้เสียงแหลม ๆ ของกู้อันตะโกนออกมาจากข้างในนั้น
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู คุณหญิงกู้และกู้หนานต่างก็มองหน้ากัน
“ทำไมตีลูกอีกแล้ว?”
คำว่า ‘อีกแล้ว’ นั้นเธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปาก เพราะภาพนี้ช่างชินตาเหลือเกิน
หนวนหน่วนใช้แขนกอดคอพ่อของตนไว้ นัยน์ตากลมโตจ้องมองไปยังประตูห้องนอนของพี่เล็ก เธอเห็นว่าพ่อยังไม่ได้ตีเขาเลย หรือว่า… พี่แกล้งร้องออกมา
กู้หลินโม่สวมกอดลูกสาวตัวหอมของตน ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เขาจะเอาตัวหนวนหน่วนไป วันนี้หนวนหน่วนจะนอนกับพวกเราสองคนไง”
ได้ยินดังนั้นคุณหญิงกู้จึงไม่สนใจลูกชายอีกต่อไป
กู้หนานมองไปที่พ่อและแม่ด้วยแววตาไร้ความรู้สึก ในที่สุดสายตาของเขาก็สบเข้ากับดวงตาของหนวนหน่วน ทำให้ความรู้สึกบางอย่างของเขา… จางหายไป
หนวนหน่วนจ้องมองพี่ใหญ่ของเธออย่างจริงจัง ถึงได้เห็นว่าความเย็นชาในดวงตาของพี่ชายค่อย ๆ มลายหายไป
“พี่ใหญ่”
เธอเอ่ยพูดเบา ๆ “พรุ่งนี้หนวนหน่วนจะนอนกับพี่ใหญ่นะคะ”
เด็กน้อยช่างอ่อนโยนน่ารักและเอาใจใส่ กู้หนานได้ยินแล้วก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
หนวนหน่วนอิงตัวผู้เป็นพ่ออยู่ข้างกายแล้วครุ่นคิด
ถ้าวันนี้จะอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ แล้วพี่เล็กล่ะ? ใครจะอยู่กับเขา?
หนวนหน่วนคิดอย่างหนัก
เฮ้อ… เศร้าใจจัง หนวนหน่วนมีทั้งคุณพ่อ คุณแม่ พี่ใหญ่ พี่เล็ก แต่ตัวหนวนหน่วนกลับมีร่างเดียว
กู้หลินโม่ “…”
พรุ่งนี้เขาก็ยังอยากนอนกับลูกสาวเหมือนกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้แล้ว
กู้หลินโม่ได้แต่เหลือบมองลูกชายคนโตด้วยความขุ่นเคือง
ฝนตกเป็นบางช่วงตลอดทั้งคืน ทำให้อุณหภูมิทั้งภายนอกและในห้องค่อนข้างแตกต่างกัน การอยู่ใต้ผ้าห่มจึงกลายเป็นสิ่งที่โปรดปรานจนแทบไม่อยากจะพาตัวออกมา
หนวนหน่วนนอนแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างคุณแม่และคุณพ่อ ครั้งนี้เธอนอนหลับสนิท เส้นผมหนา ๆ และใบหน้าโผล่พ้นออกมาครึ่งหนึ่ง ริมฝีปากสีชมพูเองก็เปิดออกเล็กน้อยเลยได้ยินเสียงหายใจดังชัด
เธอนอนเก่งมาก แต่ความเก่งแบบนี้กลับเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนกังวลใจ
เมื่อพลิกตัวไปด้านข้างเข้าสู่อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ ชุดนอนของเขาถูกคว้าโดยนิ้วเรียวบางของหนวนหน่วน แสงที่ส่องลงมาจากข้างบนสะท้อนขนตาโค้งงอนให้ดูเหมือนพัดขนาดเล็ก มันขยับเล็กน้อยเหมือนผีเสื้อแสนสวยที่ขยับปีกในยามเช้า
หนวนหน่วนลืมตาตื่นขึ้น ก่อนจะรู้สึกได้ว่าศีรษะของเธอถูกฝ่ามือหนาอบอุ่นลูบอย่างแผ่วเบา
“ตื่นแล้วเหรอหนวนหน่วน? อยากนอนต่ออีกสักหน่อยไหม?”
เด็กหญิงมีน้ำตาคลอเบ้า เธอส่ายศีรษะเล็กน้อยแล้วจ้องมองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาว่างเปล่าเป็นเวลานาน
เธอไม่ตอบสนองอะไรไปชั่วครู่ เกิดเป็นภาพน่ารักที่หามองได้ยาก
นิ้วเรียวของกู้หลินโม่จับเข้าที่ใบหน้าเล็กแล้วบีบแก้มขาวผ่องที่ดูอิ่มขึ้น
“คุณพ่อ~”
น้ำเสียงราวกับน้ำนมพึมพำดังขึ้น ทำให้กู้หลินโม่หลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไร้เดียงสา ตอนนี้มองไม่ออกเลยว่ารูปลักษณ์ที่สง่างามและชาญฉลาดของเขาหายไปไหน
เขากอดลูกสาวผู้แสนดีไว้ในอ้อมแขนและลูบเธออย่างเอ็นดู
ลูกสาวของเขาเป็นเด็กดีเหลือเกิน!!!
“ทำอะไรน่ะ?”
คุณหญิงกู้ฟาดสามีของเธอไปหนึ่งที ก่อนจะพาหนวนหน่วนที่ผมฟูยุ่งเหยิงออกมาจากอ้อมแขนของเขา
กู้หลินโม่ยอมรับ คนตัวเล็กทำให้อารมณ์ของเขาอ่อนลงจนไม่รู้ว่าจะต้านทานอย่างไร
“ลูบหัวหนวนหน่วนแบบนั้นได้ยังไงกัน?”
คุณหญิงกู้กลอกตาใส่สามีผู้ไร้เดียงสาอย่างขุ่นเคือง เธออุ้มหนวนหน่วนขึ้นก่อนจะพาไปหวีผมใหม่
หลังจากหวีผมเรียบร้อยแล้ว ลูกสาวเธอก็กลับมาน่ารักน่าทะนุถนอมขึ้นมาทันที
เจ้าตัวน้อยแสนน่ารักยังคงใส่ชุดขนปุยอยู่ แต่มันเปลี่ยนจากกระต่ายเป็นแฮมสเตอร์สีขาวน้ำนม นอกจากนี้ยังมีหูกลม ๆ ประดับอยู่บนหัวด้วย
เด็กน้อยเหมือนหนูแฮมสเตอร์ตัวเล็กนัก ช่างน่ารักเหลือเกิน
กู้อันที่เข้ามาก็จ้องมองน้องสาวก่อนจะมองไปรอบ ๆ แล้วจับมือเล็กเอาไว้
“เธอต้องบอกพ่อแม่ว่าคืนนี้จะมานอนกับพี่แค่คนเดียว เข้าใจไหม?”
หนวนหน่วนกะพริบตาคู่สวยปริบ ๆ “แต่… คือว่า หนวนหน่วนสัญญากับพี่ใหญ่แล้วว่าวันนี้จะนอนด้วยกัน”
กู้อันรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าเข้ากลางอก เด็กชายโกรธจนแทบจะร้องไห้ออกมาให้ได้