ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 57 มีนกมาเป็นแขกที่บ้าน
บทที่ 57 มีนกมาเป็นแขกที่บ้าน
หนวนหน่วนไม่ค่อยเข้าใจนัก คิ้วน้อย ๆ จึกผูกกันเป็นโบว์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูราวกับนางฟ้าตัวจิ๋ว
มือเล็กของเด็กน้อยค่อย ๆ เช็ดน้ำตาให้คุณแม่ “ไม่เอาสิคะ คุณแม่อย่าร้องไห้”
ทำไมหนูเป็นเด็กดีขนาดนี้นะ…
คุณหญิงกู้ลูบหัวลูกสาว น้ำตายังคงไหลไม่หยุด
กู้หนานยืนอยู่ที่ประตูครู่หนึ่งและส่งข้อความถึงหนานเฟิง ให้อีกฝ่ายรับหน้าที่สืบหาคนที่เคยรังแกน้องสาวในหมู่บ้านห่างไกลนั้น
แม้ว่าจะไม่เหมือนกับในละครที่มีการสั่งเก็บคนได้ง่าย ๆ แต่กู้หนานก็อยากเล่นงานคนพวกนั้นสักหน่อยเพื่อเอาคืน
จากนั้นไม่นาน ลูกสะใภ้ย่าซุนก็พบว่าตัวเองถูกนอกใจ หล่อนเป็นผู้หญิงที่โมโหร้ายและไม่ยอมใคร จึงพาพรรคพวกไปจัดการชู้คนนั้นและทุบตีลูกชายของย่าซุนจนบาดเจ็บสาหัส ย่าซุนรู้เรื่องเข้าก็โมโหจนอกจะแตก ให้ลูกชายกับลูกสะใภ้หย่ากัน ความวุ่นวายของครอบครัวนี้กลายเป็นเรื่องขบขันของชาวบ้านทั้งหมู่บ้านเสี่ยวซีอยู่พักใหญ่
แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นลับหลังหนวนหน่วน เด็กน้อยไม่ได้รับรู้สักนิดว่าพี่ใหญ่คิดจะเอาคืนคนไม่ดีที่เคยรังแกตนให้อย่างสาสม
ย้อนกลับมาหลังจากที่เด็กน้อยปลอบคุณแม่ให้หยุดร้องไห้สำเร็จ เจ้าตัวก็ถือบิสกิตที่อบเสร็จเอาไว้ในมือแล้วพูดว่า
“คุณแม่คะ หนูอยากเอาไปให้พี่ชายกินค่ะ”
กลิ่นแป้งเด็กที่ลอยฟุ้งไปทั่วและภาพเด็กน้อยที่เอ่ยอย่างตื่นเต้นดูน่ารักไม่น้อย หนวนหน่วนใช้ขาสั้น ๆ วิ่งตรงไปยังประตูจนเกือบจะชนเข้ากับพี่ใหญ่ที่ยืนอยู่ โชคดีมือใหญ่ของเขาจับน้องน้อยที่กำลังจะเซล้มไว้ได้ทัน
“พี่ใหญ่คะ”
หลังจากกลับมายืนอย่างมั่นคง เจ้าตัวเล็กก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาโตค่อย ๆ โค้งขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่เผยให้เห็นลักยิ้มบุ๋มที่สองข้างแก้ม แก้มกลม ๆ ตอนนี้กำลังค่อย ๆ มีเนื้อนิ่มน่าบีบเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ดูนุ่มนิ่มน่ารักน่าทะนุถนอมเหมือนตุ๊กตาน่ารักจนละสายตาไม่ได้
“ค่อย ๆ สิ”
กู้หนานก้มลงมองน้องสาวที่อยู่ในท่าทางเชื่อฟังด้วยรอยยิ้มมุมปากอย่างไม่รู้ตัว
“พี่ใหญ่กินอันนี้เร็วค่ะ คุณแม่กับหนวนหน่วนช่วยกันทำ”
หนวนหน่วนน้อยแบ่งปันบิสกิตคุณหมีตัวหนึ่งให้พี่ใหญ่ตัวสูงของเธอ
บิสกิตตรงหน้ามีกลิ่นหมอนวลแบบน้องสาว กู้หนานตั้งใจกินขนมของน้องทีละคำจนหมดโดยที่ไม่เปลี่ยนสีหน้า พลางยื่นนิ้วโป้งมาเช็ดคราบแป้งที่เลอะหน้าเจ้าลูกแมวจอมซนอย่างเบา ๆ
แมวเด็กของเขายืนนิ่งให้อย่างไม่งอแง เอียงหน้าเข้าหามือพี่ชายแล้วถูไถไปมาเบา ๆ เหมือนลูกแมวจิ๋วตัวขาวที่มีอุ้งเท้าสีชมพู
รอยยิ้มสดใสฉายผ่านแววตาพี่ใหญ่ เช็ดเสร็จเขาก็ช้อนอุ้มน้องสาวด้วยแขนข้างเดียวอย่างชำนาญ
หนวนหน่วนเด็กดีไม่นิ่งเฉย ส่งขนมเข้าปากพี่ใหญ่ไปพลาง
ในช่วงบ่ายอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน หนวนหน่วนนั่งเล่นบนเก้าอี้ทรงกระเช้าที่แขวนอยู่ตรงริมระเบียงเล็ก ๆ ของห้องนอน สองมือกอดเหม่ยฉิวในอ้อมแขน ต้าหวงนอนเฝ้าอยู่ที่ปลายเท้า ในมือสาวน้อยมีหนังสืออ่านเขียนสำหรับเด็กประถม เธอหัดอ่านจนจำได้อย่างชัดเจนประโยคต่อประโยคตามที่พี่เล็กสอนให้เมื่อวานนี้
หลายคนมองว่าหนังสือเรียนแสนน่าเบื่อ แต่เสียงอ่านหวานใสของหนวนหน่วนท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาด้านนอกทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ไม่เพียงเจ้าหมาเจ้าแมวที่นอนฟังอยู่เท่านั้น แต่ยังมีนกน้อยหลบฝนมาเกาะที่ขอบหน้าต่างกำลังฟังอยู่ด้วย
การกระพือปีกของเจ้านกทำให้เกิดเสียงพึ่บพั่บ เด็กน้อยหยุดการอ่านหนังสือลง แล้วเดินเท้าเปล่าไปที่หน้าต่าง เปิดหน้าต่างด้วยมือเล็ก ๆ อันแสนอ่อนนุ่ม มีสิ่งมีชีวิตตัวสีขาวหัวสีเหลืองอ่อนและแก้มแดง ๆ สองข้างเดินเตาะแตะเข้ามา
ใช่แล้ว นั่นคือนกแก้วที่บินผ่านมาและฟังเสียงหนวนหน่วนอ่านหนังสืออยู่
“สวัสดีจ้า… สวัสดีจ้า”
เสียงทุ้มใสเอ่ยสวัสดีด้วยสำเนียงแปร่ง ๆ หนวนหน่วนเบิกตากว้าง เธอเพิ่งเคยเห็นนกพูดเป็นครั้งแรก
แม้แต่ต้าหวงกับเหม่ยฉิวเองก็เข้ามาหา เงยหน้ามองแขกไม่ได้รับเชิญด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนปุย ๆ ของมัน
หนวนหน่วนมองนกน้อยที่อยู่ตรงขอบหน้าต่างอย่างแปลกใจแล้วทักทายกลับอย่างสุภาพ
“สวัสดี”
“คนสวย คนสวย”
เจ้านกพูดขึ้นมาอีกครั้งและคราวนี้มันเอ่ยชมเด็กน้อย
หนวนหน่วนตื่นเต้นมาก “!!!”
คนตัวเล็กหน้าแดงด้วยความเขินอาย พยายามใช้นิ้วมือเล็ก ๆ แตะที่หัวของนกน้อยแล้วตอบโต้กับมัน
“เธอชื่ออะไรเหรอ ฉันชื่อหนวนหน่วน”
“โต้วโต้ว หนวนหน่วน หนวนหน่วน”
เหมือนว่าเจ้านกจะชอบพูดอะไรซ้ำสองครั้งตลอด
หนวนหน่วนต้อนรับแขกที่อยู่ ๆ ก็มาเยี่ยมเยียนถึงบ้านโดยการผายมือเล็ก ๆ ไปหาแล้วพูดว่า “ฉันจะพาเธอไปซับตัวให้แห้งดีไหม”
“ดี ขอบคุณ ขอบคุณ”
นกน้อยยกเท้าขึ้นเหยียบยืนบนฝ่ามือของเด็กหญิงแล้วทิ้งตัวลงนอนบนนั้นอย่างสบายใจ จะงอยปากเล็ก ๆ จิกที่นิ้วของเธอเบา ๆ แต่หนวนหน่วนเพียงแค่รู้สึกคัน ๆ เท่านั้น ไม่ได้เจ็บอะไร
เธอไม่แน่ใจว่าเจ้านกตกลงไปในโคลนมาก่อนหรือเปล่า ขนสีสวยของมันมีรอยเปื้อนนิดหน่อย เด็กน้อยจึงเอ่ยปากชวนเจ้านกไปอาบน้ำ มันตอบตกลงเธอทันที
หลังจากเตรียมน้ำอุ่น ๆ เรียบร้อย เจ้านกก็ยื่นเท้าแตะลงไปในน้ำเพื่อทดสอบอุณหภูมิ เมื่อรู้ว่ากำลังพอดี มันก็กระพือปีกพั่บ ๆ แล้วกลิ้งตัวไปมาในน้ำอย่างสบายใจ
หนวนหน่วนมองภาพนั้นแล้วยู่ปากเล็กน้อย “เหม่ยฉิวดูนี่สิ เจ้านกน้อยอาบน้ำเองได้ด้วย ทำไมเหม่ยฉิวชอบหนีเวลาอาบน้ำล่ะ”
เจ้าแมวดำที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ชูหางขึ้น ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องไปที่นกน้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาเลียอุ้งเท้าด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง
เจ้านกที่กำลังอาบน้ำ “…”
จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นเหยื่อ
มันมองเจ้าแมวดำอย่างระแวดระวังด้วยตาคู่เล็ก ๆ ของตัวเองแล้วใช้อุ้งมือเล็กของหนวนหน่วนเป็นที่ซ่อนตัว มันรู้สึกว่านี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
หนวนหน่วนคิดว่าเจ้านกอยากให้ช่วยอาบน้ำให้ จึงค่อย ๆ บรรจงถูขนให้จนสะอาด
นกน้อยตัวเปียกที่เพิ่งขึ้นจากน้ำถูกวางลงบนผ้าแห้ง เด็กหญิงซับน้ำให้มันทีละน้อยตามขนสีสวย ต่อด้วยที่ท้องและขาสองข้างด้วยความตั้งใจ
“ขอบคุณ ขอบคุณ”
เจ้านกสะบัดขนตัวเองให้แห้ง ขอบคุณหนวนหน่วนด้วยเสียงแปร่ง ๆ จากนั้นเจ้านกน้อยก็ถูกหนวนหน่วนนำไปวางในเครื่องเป่าขนของเหม่ยฉิวจนตัวแห้งสนิท ออกมาเป็นนกแสนสวยในไม่กี่นาที
เจ้าตัวเล็กยังคงไซ้ขนสีสวยของตัวเองด้วยจะงอยปากเล็กจิ๋ว หนวนหน่วนไม่รู้ว่านี่คือนกอะไร เธอเลยตัดสินใจเอาไปถามพี่ใหญ่
เด็กน้อยสวมสลิปเปอร์ สองมือประคองเจ้านกน้อยเอาไว้ เดินไปตามทางในบ้านตัวเองโดยมีเจ้าผู้พิทักษ์ทั้งสองเดินตามอย่างขันแข็งไปที่ห้องทำงานของกู้หนาน
เมื่อเปิดประตูแล้วชะโงกมองเข้าไปด้านใน พอเห็นว่าพี่ใหญ่ไม่ได้ประชุมอยู่ก็สาวเท้าเข้าไปเบา ๆ
“พี่ใหญ่คะ พี่ใหญ่”
หนวนหน่วนตรงเข้าไปหาชายหนุ่มท่าทางเคร่งขรึม มือเล็ก ๆ ของน้องสาวค่อย ๆ เปิดออก ยื่นนกน้อยไปให้พี่ชายดู ทันใดนั้นเจ้านกก็ร้องลั่น กระพือปีกบินขึ้น
“น่ากลัว น่ากลัวกว่าแมว!”
โชคดีของมันเหลือเกินที่พูดได้เพียงเท่านั้น
เด็กหญิงตัวน้อยมองฝ่ามือที่ว่างเปล่าของตัวเองด้วยอาการงุนงง เจ้านกหนีไปไหนซะแล้ว
กู้หนานหรี่ตามองเจ้านกที่บินหนีไปอย่างเอาเรื่อง
“พี่ใหญ่คะ นกที่พูดได้คือนกอะไรเหรอคะ” หนวนหน่วนแววตาใสซื่อเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
กู้หนานลูบผมของเธอไปมา “ค็อกคาเทลน่ะ”