ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 5 กิจกรรมครอบครัว
บทที่ 5 กิจกรรมครอบครัว
ผู้ดูแลคฤหาสน์เก็บอาการแทบไม่อยู่เมื่อเห็นท่าทางน่ารักของเด็กน้อยจึงเอ่ยถามอีกครั้งว่าทำไมเธอจึงตื่นเช้า
หนวนหน่วนส่งยิ้มอ่อนโยนและน้ำเสียงที่นุ่มนวลราวกับน้ำนมกลับไป
“หนวนหน่วนหลับต่อไม่ลงแล้วค่ะ เลยตื่นเวลานี้”
หนวนหน่วนเคยต้องให้อาหารไก่และเป็ดตอนตื่นนอนรวมถึงขึ้นภูเขาไปเก็บฟืน จากนั้นก็รดน้ำผักในสวน แต่เมื่อตื่นขึ้นมาในวันนี้ เธอกลับพบว่าตนเองไม่ต้องทำสิ่งเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว
เธอเป็นอิสระจากตารางชีวิตเช่นนั้นแล้ว
เมื่อมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า สายตาของผู้ดูแลคฤหาสน์ก็ยิ่งเป็นทุกข์
“นอนไม่หลับงั้นสินะ”
หนวนหน่วนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง พอตื่นแล้วก็หลับไม่ลงตามความเคยชิน
“งั้นไปดูการ์ตูนกันไหมครับคุณหนู”
พ่อบ้านพาเธอไปนั่งบนโซฟานุ่มแล้วเปิดทีวีให้หนวนหน่วนได้นั่งดูการ์ตูนอนิเมชั่น สนุกจนละสายตาไม่ได้แม้ชั่วขณะเดียว
ตอนอยู่ที่หมู่บ้านเก่า เธอก็เคยดูทีวี แต่เนื่องจากต้องทำงานและยุ่งมาก เวลาในการดูจึงมีเพียงน้อยนิด
หนวนหน่วนพยายามควบคุมสายตาไม่ให้หันไปจ้องมองผู้ดูแลคฤหาสน์
“คุณผู้ดูแล หนวนหน่วนยังไม่ได้ล้างหน้า แปรงฟันกับหวีผมเลย”
“ถ้าอย่างนั้น…”
“เดี๋ยวผมพาหนวนหน่วนไปเอง”
ก่อนที่คุณผู้ดูแลจะพูดจบ เสียงของกู้หลินโม่ก็ดังขึ้นจากชั้นบน
หนวนหน่วนเงยใบหน้าน้อย ๆ ของตนขึ้นมองไปทางต้นเสียง ดวงตากลมโตสีดำสนิทสบเข้ากับผู้เป็นพ่อพอดี
สีหน้าของกู้หลินโม่อ่อนโยนลงอย่างช่วยไม่ได้ “หนวนหน่วน มานี่มาลูก พ่อจะพาไปอาบน้ำ โอเคไหม”
แน่นอนว่าผู้ดูแลปลื้มใจที่ได้เห็นภาพนี้ตรงหน้า เพราะการเริ่มต้นเช่นนี้ย่อมช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้น
หนวนหน่วนเงยหน้าขึ้น สบตาผู้เป็นพ่ออย่างมีความหวังและพยักหน้าลงอย่างเชื่อฟัง
ในตอนท้าย เด็กน้อยพยายามรักษาสีหน้าของตนเอง แต่สุดท้ายก็ยิ้มหวาน เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”
หลังจากพูดจบ หนวนหน่วนก็กระโดดลงจากโซฟาแล้วเดินขึ้นบันไดด้วยขาสั้น ๆ ของตนเอง เมื่อไปถึงข้างกายผู้เป็นพ่อ มือหนาก็ยื่นออกมาตรงหน้าเธอ
หนวนหน่วนเม้มปากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือเล็กไปกอบกุมมือพ่อตนเองไว้ มือคู่นี้ทั้งใหญ่และอบอุ่น ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยเป็นอย่างมาก
หนวนหน่วนแสบจมูก ดวงตาเริ่มแดงก่ำ เธอรีบก้มหน้าลง กลัวว่าพ่อจะเห็นว่าเธอร้องไห้ อย่างไรเธอก็ไม่ใช้คนขี้แงขนาดนั้น
กู้หลินโม่กุมมือน้อย ๆ ของลูกสาวไว้พลางเดินช้าลง เขาพาเด็กน้อยไปที่ห้องนอน หนวนหน่วนเดินตามข้างกายเขาไปทีละก้าวโดยแอบชำเลืองมองฝ่ามือของเขาเป็นระยะ รอยยิ้มที่ปิดไว้ไม่อยู่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า คิ้วและดวงตาโค้งหยี หากมองไปที่ดวงตาของหนวนหน่วนในตอนนี้ ก็จะพบว่ามันขับประกายสดใสได้น่ามองอย่างยิ่ง
คุณหญิงกู้ที่กำลังนอนหลับอยู่พอถูกปลุกด้วยเสียงประตูที่เปิดขึ้น เธอก็รีบเหลือบมองไปยังข้างตัวเองทันที
ลูกสาวสุดที่รักของเธอหายไปไหน!
คุณหญิงกู้ตื่นตระหนก เลิกผ้านวมออกแล้วลุกขึ้นนั่ง เมื่อเห็นว่าสามีของเธอจับมือลูกสาวตัวน้อยเข้ามา อีกทั้งหนวนหน่วนยังคงดูอ่อนโยนและเชื่อฟังเหมือนเดิม จู่ ๆ หัวใจของคุณหญิงกู้ก็ผ่อนความหนักอึ้งลง เธอสวมรองเท้าเดินไปหาหนวนหน่วนก่อนจะย่อตัวลงกอดลูกไว้ในอ้อมแขน
“แม่กลัวแทบแย่ นึกว่าเมื่อวานเป็นแค่ความฝัน”
หนวนหน่วนใช้แขนคล้องคอผู้เป็นแม่แล้วออกแรงลูบแผ่นหลังคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบาเป็นการปลอบโยน
“แม่ไม่ต้องกลัวนะคะ หนวนหน่วนอยู่ตรงนี้แล้ว”
สาวน้อยรู้สึกอบอุ่นใจมาก
พอรู้ว่าสามีเข้ามาซักผ้ากับหนวนหน่วน คุณหญิงกู้จึงรีบออกปากว่าอยากทำด้วย
“หนวนหน่วนจะซักเองหรือให้พ่อช่วย”
หนวนหน่วนใบหน้าแดงก่ำ ก่อนจะตอบว่า “หนวนหน่วนจะซักเองค่ะ”
อ่างล้างหน้าสูงเกินไปสำหรับเด็กน้อย กู้หลินโม่จึงนำเก้าอี้ตัวเล็กมาต่อให้ก่อนจะจับเข้าที่รักแร้ของหนูน้อยแล้วอุ้มขึ้น
ตอนโดนอุ้ม หนวนหน่วนก็อุทานออกมาเล็กน้อย แต่แล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข
“นี่แปรงสีฟันของลูก”
เขาหยิบแปรงสีฟันสีชมพูอันเล็ก บีบยาสีฟันใส่ให้ก่อนจะส่งมาให้เธอ
“ขอบคุณค่ะปะป๊า”
หนวนหน่วนหยิบแปรงสีฟันของตนเองออกมาแล้วเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จากนั้นจึงเริ่มแปรงฟันท่ามกลางสายตาอันแสนอ่อนโยนของพ่อและแม่ พอเธอทำความสะอาดฟันซี่เล็กของตนจนเสร็จเรียบร้อย คุณหญิงกู้ก็เข้ามาสอนลูกสาวล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า ก่อนหน้านี้คุณหญิงกู้ขอให้คนเตรียมเอาไว้ให้จึงมีทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ทั้งหมดเป็นสารสกัดจากธรรมชาติและไม่ทำอันตรายต่อผิว อีกทั้งยังมีกลิ่นหวานรสนมอีกด้วย
กู้หลินโม่ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดโฟมล้างหน้าออกให้
กิจกรรมครอบครัวนั้นทำให้หนวนหน่วนได้สานสัมพันธ์กับพ่อแม่ตนมากขึ้น
หลังจากที่คุณหญิงกู้ทาครีมบำรุงผิวบนใบหน้าของหนวนหน่วนแล้ว เธอก็หวีผมและถักเปียช่อน่ารัก ๆ ให้เด็กน้อย
กู้หลินโม่เฝ้ามองดูไม่วางตา เขาเองก็อยากเป็นคนหวีผมนุ่ม ๆ ให้ลูกสาวด้วย
คุณหญิงกู้เชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจ “ลืมความคิดนั้นไปได้เลยเจ้าคนมือหนัก เดี๋ยวจะทำให้หนวนหน่วนเจ็บเอา”
กู้หลินโม่ไม่ยอมแพ้ “ผมมือหนาแล้วเกี่ยวอะไรด้วย ให้ผมทำเป็นก่อนเถอะ หนวนหน่วน พ่อมาหวีให้หนวนหน่วนคราวหลังดีไหม?”
ประโยคหลังเขาเอ่ยถามหนวนหน่วน
เด็กหญิงตัวน้อยเอนหลังพิงแม่ของตน พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ดีค่ะ”
“น่ารักมาก!”
คุณหญิงกู้จูบลงบนหน้าผากของลูกสาวด้วยความรักเต็มเปี่ยม
หนวนหน่วนก้มหน้าลงอย่างเขินอาย นัยน์ตาของเธอเป็นประกายจนเห็นได้ชัดเจนว่าเธอกำลังมีความสุขมากแค่ไหน
เวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งหกโมงครึ่ง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย หนวนหน่วนก็กุมมือพ่อไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างคว้าจับมือแม่ของตน ดวงตากลมโตสวยของเธอโค้งขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวเล็กอย่างสวยงาม
ชายชรากำลังนั่งดื่มชาอยู่ข้างล่าง เมื่อเห็นหนวนหน่วนลงบันไดมา แววตาเขาก็ฉายประกายออกมาทันที เขาโบกมือให้เด็กหญิงตัวน้อยอย่างร่าเริง
“หนวนหน่วน มาหาปู่มา”
หนวนหน่วนตอบรับอย่างเชื่อฟัง เธอเดินไปหาชายชราตรงหน้า มองดูเขายิ้มและลูบผมของเธอ
“ได้ยินว่าหลานตื่นเช้ามาก หิวไหม? อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?”
หนวนหน่วนส่ายหน้าก่อนจะตอบเบา ๆ “หนวนหน่วนไม่จู้จี้จุกจิกค่ะ”
“ไม่จู้จี้จุกจิกถือเป็นเรื่องที่ดี ไม่เลือกกินก็จะทำให้สูง สุขภาพหนูจะดีขึ้นแน่นอน”
หนวนหน่วนพยักหน้าตอบพร้อมกับดวงตาที่สาดประกาย “อื้ม หนวนหน่วนจะสูงขึ้นค่ะ”
ชายชราพบว่าพฤติกรรมเชื่อฟังเช่นนี้นั้นช่างพบเจอได้ยาก แน่นอนว่าการมีเด็กผู้หญิงอยู่ในครอบครัวนั้นเป็นเรื่องที่ดี ดูสิว่าเธอเชื่อฟังมากขนาดไหน ส่วนเด็กผู้ชาย ถึงจะแข็งแกร่งกว่ามาก แต่ก็มีนิสัยเด็ก ๆ อยู่ไม่น้อย
อาหารเช้าวันนี้ละลานตา หนวนหน่วนนั่งบนเก้าอี้ มองดูก้อนซาลาเปาน่ารัก ๆ ที่ถูกจัดวางอย่างประณีตบนโต๊ะ ทั้งเรื่องรูปร่างและรสชาติดูเอาใจใส่อย่างยิ่ง โจ๊กทะเลก็ช่างน่าอร่อย เกี๊ยวน้ำและนมสดร้อน ๆ ที่ยังมาไม่ถึงโต๊ะอาหารก็คงอร่อยเช่นกัน
ทำไม… ถึงเยอะขนาดนี้ จะยัดทั้งหมดนี้ลงไปได้จริงเหรอ?
“หนวนหน่วน ถ้ากินเหลือก็ไม่เป็นไรนะ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ยัดเข้าไปก็มีแต่จะปวดท้อง ถ้ากินเสร็จเดี๋ยวปู่พาไปเดินเล่นรอบบ้าน หลานจะได้รู้จักบ้านมากขึ้น แล้วก็ได้ไปหาแมวกับหมาที่หลานพามาด้วย”
หนวนหน่วนเงยหน้ามองอย่างอยากรู้อย่างเห็น เมื่อคืนเธอไม่เห็นต้าหวงกับเหม่ยฉิวเลย
ชายชราหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางของเด็กน้อยตรงหน้า
“ไม่ต้องห่วง เจ้าสองตัวนั้นสบายดี คนรับใช้พามันไปอาบน้ำฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปพวกมันจะอยู่ที่บ้านหลังนี้กับหนวนหน่วนนะ”
“ขอบคุณค่ะคุณปู่!”
คำขอบคุณของหนวนหน่วนดังกึกก้องชัดเจน ทำเอาชายชราเปี่ยมล้นไปด้วยความปปีติยามได้ฟัง