ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 46 กู้หมิงหลี่ ฉันจะฆ่าแก
บทที่ 46 กู้หมิงหลี่ ฉันจะฆ่าแก
หนวนหน่วนเงยหน้ามองพี่ใหญ่อย่างกระตือรือร้น
กู้หนานมองน้องสาว ม่านตาสีเข้มล้ำลึกเหมือนบ่อน้ำค่อย ๆ ขยาย “มีอะไร”
เด็กน้อยเอานิ้วเล็ก ๆ มาประกบกันราวกับกำลังเขินอาย
“ถ้าพี่ใหญ่ไม่ปลูกดอกไม้ หนวนหน่วนขอปลูกผักได้ไหมคะ”
ตอนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยวซี เด็กน้อยเป็นคนลงมือปลูกผักหวานฉ่ำด้วยตัวเอง แม้ว่าจะยังเป็นเด็ก แต่ผักของผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ในหมู่บ้านก็ยังสู้ของเธอไม่ได้
เมื่อมาอยู่ที่บ้านตระกูลกู้ หนวนหน่วนก็ไม่ได้ปลูกผักอีก เพียงแค่ช่วยรดน้ำดอกไม้ที่สวนเท่านั้น เด็กหญิงเริ่มคิดถึงรสชาติหวานอร่อยของผักที่ลงมือปลูกด้วยตัวเอง รวมถึงความรู้สึกภูมิใจยามได้เก็บเกี่ยวผลผลิตอวบอ้วน
พี่ใหญ่มีที่ดินกว้างขวางมากที่นี่ น่าเสียดายถ้าจะปล่อยเอาไว้เฉย ๆ
หนวนหน่วนเขี่ยปลายเท้าแล้วเสมองไปที่พื้น ไม่กล้ามองหน้าพี่ใหญ่เพราะความละอายใจ เธอกลัวนิดหน่อยว่าจะดูมากเกินไปที่มาขอเรื่องแบบนี้กับเจ้าของบ้าน
ระหว่างที่กำลังกังวลอยู่นั้น น้ำหนักมือของคนข้างกายก็กดลงบนหัวกลม ๆ ของหนวนหน่วนแล้วขยี้ผมสลวยจนฟูฟ่อง
“ได้สิ อยากทำอะไรก็ทำ”
หนวนหน่วนมองพี่ใหญ่ด้วยดวงตาเป็นประกาย เธอไม่เคยได้ยินคำพูดแสนอบอุ่นเจือความอ่อนโยนที่มาจากน้ำเสียงเย็นชาแบบนี้มาก่อนเลย
เจ้าตัวเล็กย่นจมูกนิดหน่อย แล้วเข้าไปกอดขายาว ๆ ของพี่ใหญ่แล้วเริ่มออดอ้อน
“พี่ใหญ่ใจดีที่สุดเลยค่ะ”
มุมปากของกู้หนานยกยิ้มขึ้น เขาเริ่มพาน้องสาวเดินชมรอบ ๆ บ้านเพื่อสร้างความคุ้นเคย “อยากปลูกอะไร เดี๋ยวพี่จะให้คนซื้อเมล็ดไว้ให้”
หนวนหน่วนเอานิ้วจิ้มกันไปมาพลางเดินตามพี่ชายต้อย ๆ “หนวนหน่วนเลือกเองได้ไหมคะ”
“อืม ได้”
หนานเฟิงที่ตามมาข้างหลังมีสีหน้ามึนงง นี่เจ้านายเห็นด้วยกระทั่งเรื่องนี้งั้นหรือ
เขาแทบพูดไม่ออก ตอนได้ยินว่าเด็กหญิงต้องการใช้ที่ดินรอบบ้านเป็นที่ปลูกผัก เขาก็คิดในใจว่าเจ้านายคงไม่ยอมแน่ ๆ
ปลูกผักในคฤหาสน์หรูแบบนี้น่ะนะ ให้นึกภาพยังไงก็นึกไม่ออก
แต่สิ่งที่หนานเฟิงค้นพบคือ เขาประเมินความตามใจน้องสาวของเจ้านายไว้ต่ำเกินไป ถ้าหนวนหน่วนอยากได้ดวงดาวบนท้องฟ้า เจ้านายของเขาคงจะหาทางซื้อมาให้เธอจริง ๆ
หนวนหน่วนวางแผนกับพี่ใหญ่อย่างมีความสุขในพื้นที่ว่างของบ้าน เมื่อสองพี่น้องไปถึงโรงเรียนของกู้อันก็เลิกเรียนพอดี พวกเขามาช้าไปเพียงไม่กี่นาที ตอนนี้กู้อันกำลังยืนรออยู่กับเพื่อนอีกสองคนจากระยะไกล
“พี่กู้อันคะ”
รถของกู้หนานหยุดลงตรงหน้ากู้อัน และเมื่อลดกระจกลง เด็กน้อยก็ชะโงกหัวกลม ๆ อันแสนน่ารักไปเรียกพี่เล็กเสียงใสทันที
กู้อันที่เดิมเป็นคนตรง ๆ และโผงผาง พอได้ยินเสียงหวานที่คุ้นเคยของน้องน้อย ความร้อนในหัวของเขาก็ค่อย ๆ ลดลง แต่ก็ยังคงแสดงท่าทางหยิ่ง ๆ ออกมาอยู่เหมือนเดิม
“มัวทำอะไรอยู่ ทำไมเพิ่งมาถึงตอนนี้ รู้ไหมว่ารอนานขนาดไหน” น้ำเสียงกู้อันฟังดูอารมณ์เสีย แต่ถ้าไม่พอใจจริง ๆ เขาก็คงไม่รออยู่ตรงนี้แล้ว
หนวนหน่วนไม่ได้โกรธที่ถูกพี่ชายบ่นเลยตอบไปอย่างอ่อนโยน
“ขอโทษค่ะพี่เล็ก หนวนหน่วนมาช้า เรากลับบ้านกันเถอะ”
เพื่อนสองคนที่อยู่ข้าง ๆ กู้อันเบิกตาโตด้วยความตกใจ หนวนหน่วนเรียกเขาว่าอะไรนะ… หมายความว่าไง?
“โอเค เห็นแก่ที่เธอรู้สึกผิดหรอกนะ… ฉัน”
“กู้อัน”
เสียงเย็น ๆ ดังออกมาจากในรถ นายน้อยที่แสนหยิ่งทะนงได้ยินแล้วก็ตัวสั่น เข่าแทบทรุดทันทีที่เห็นว่าคนพูดคือใคร
เขาเบิกตากว้าง มองเข้าไปในรถ พบว่ากู้หนานกำลังจ้องกลับมาอย่างไม่แยแส
กู้อันหุบปากฉับ “…”
ถ้าถามว่าเขากลัวใครที่สุดในครอบครัว คนคนนั้นไม่ใช่คุณปู่หรือพ่อ แต่เป็นผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถตอนนี้นี่ต่างหาก พี่ใหญ่ของเขา
“จะขึ้นมาหรือจะเดิน”
กู้อันรีบกระโดดขึ้นรถแล้วจ้องหนวนหน่วนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
‘ทำไมมากับเขา’
ส่วนน้องสาวตัวเล็กกลับมองพี่ชายด้วยสายตาพาซื่อ ไม่ได้เข้าใจความหมายที่พี่ชายจะสื่อแต่อย่างใด
กู้อันบอกลาเพื่อนทั้งสองด้วยท่าทางเสียดาย เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะอวดน้องสาวกับสองคนนั้น เพราะพี่ใหญ่มาด้วยทุกอย่างเลยผิดแผนไปกันหมด
“พี่ใหญ่”
เมื่อรถออก กู้อันก็เรียกกู้หนานอย่างเนือย ๆ
หนวนหน่วนอยู่ตรงกลางโดยมีพี่ชายคนโตและพี่ชายคนเล็กขนาบข้าง เด็กน้อยนั่งแกว่งเท้าอย่างมีความสุข
“พี่ใหญ่คะ เราไปหาพี่สี่ตอนนี้เลยไหมคะ”
เด็กน้อยเอียงคอมองกู้หนานด้วยรอยยิ้ม
“อืม อยากไปเลยไหม”
หนานเฉิงกุ้ยจื่ออยู่ไม่ไกลจากที่นี่ โรงเรียนที่ลูกหลานในตระกูลกู้เรียนเป็นโรงเรียนชั้นนำของเหล่าชนชั้นสูง โรงเรียนของกู้อันเป็นโรงเรียนระดับอนุบาลถึงประถม ส่วนที่กู้หมิงหลี่อยู่เป็นโรงเรียนมัธยมในเครือเดียวกันที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน
“ค่ะ เดินเล่นไปที่นั่นกันเถอะ”
หลังตอบพี่ใหญ่ เธอก็หันไปมองกู้อัน “พี่เล็กอยากไปด้วยกันไหมคะ”
กู้อันดูร่าเริงขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น “แน่นอนสิ”
แม้แต่พี่ใหญ่จอมเย็นชาเองก็พ่ายแพ้ให้กับน้องสาวคนนี้
แต่…
พอเห็นว่าหนวนหน่วนกับพี่ใหญ่เดินจับมือกัน กู้อันก็ฉุนขึ้นมา สองคนนี้ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร!
เป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นพี่ชายคนแรกที่หนวนหน่วนได้เจอ แต่ตอนนี้น้องสาวมีทั้งกู้หมิงหลี่ มีทั้งพี่ใหญ่ แถมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ยังดูสนิทสนมกว่าอีกต่างหาก เขาไม่ยอมหรอกนะ!
กู้อันเดินเข้าไปจับมือน้องสาวไว้อย่างไม่พอใจ อดไม่ได้ที่จะมองไปทางพี่ชายอย่างท้าทาย แต่เมื่อถูกดวงตาแสนเย็นชาจากพี่ชายกวาดมองมา น้องชายตัวจ้อยอย่างเขาก็หน้าหดลงเหลือสองนิ้วทันที
หนวนหน่วนมีความสุขมากที่พี่เล็กเริ่มทำท่าจะอุ้มเธอขึ้น เด็กน้อยยกยิ้มอย่างมีความสุข ทำเอาทุกคนรู้สึกอุ่นในใจไปด้วย
“พี่เล็ก เราต้องรีบแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงหนวนหน่วนเรียกตัวเองด้วยเสียงหวาน ๆ กู้อันก็ปลาบปลื้มใจ
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำเธอหายหรอก”
เขาบอกตัวเองด้วยความมั่นใจ
กู้หนานมองน้องชายตนด้วยสายตาว่างเปล่า
หมอนี่ทำตัวแปลกมากขึ้นทุกที
ให้ทายว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อพบเหล่าพี่น้องตระกูลกู้ในที่สาธารณะตอนนี้
ปึก!
เยี่ยม! ผู้หญิงคนหนึ่งเดินชนต้นไม้เพราะมัวแต่แอบดูพวกเขา ส่วนทางนั้นก็เกือบสะดุดล้มเพราะไม่ยอมมองทาง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพด้วยความตื่นเต้น แต่ไม่ทันที่พวกเขาจะได้โพสต์รูป ก็ต้องเจอกับบอดีการ์ดในชุดสูทสีดำเดินเข้ามาเตือนอย่างสุภาพ
“กรุณาลบภาพด้วยครับ”
กู้หนานดูจะชินกับอะไรแบบนี้ เขายังคงมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนของกู้หมิงหลี่พร้อมกับน้องสาวและน้องชายโดยไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา
ทว่าจู่ ๆ เสียงเอะอะโวยวาย เสียงตะโกน เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นมา
เป็นเสียงที่ดังมาจากซอยมืด ๆ ข้างหน้า ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก
“กู้หมิงหลี่ ฉันจะฆ่าแก!”
เมื่อได้ยินคำว่ากู้หมิงหลี่ ดวงตาของหนวนหน่วนก็เบิกกว้าง
พี่หมิงหลี่เหรอ?
ปัง ปัง!
กู้หนานชะงัก “…”
ชายหนุ่มพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า แต่ไม่ต้องการให้หนวนหน่วนอยู่ในอันตรายไปด้วย
แต่หนวนหน่วนไม่สามารถรออยู่เฉย ๆ ได้ เด็กน้อยอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ยิ่งทำให้เธอเป็นห่วงพี่ชายของตนมาก
กู้หนานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพาน้องสาวไปด้วยกัน และแล้วภาพที่เห็นก็ทำให้หนวนหน่วนอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง