ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 41 กลับบ้าน
บทที่ 41 กลับบ้าน
หนวนหน่วนจับจองที่นั่งถัดจากพี่ชายและผู้เป็นพ่อบนรถ เด็กหญิงนั่งอย่างสงบเสงี่ยม รอยยิ้มยังแย้มอยู่บนใบหน้า เท้าน้อย ๆ แกว่งไปแกว่งมา บางครั้งก็แอบชำเลืองมองชายหนุ่มท่าทางเคร่งขรึมที่นั่งถัดไปจากเธอ
และแล้วดวงตาคู่คมก็สบเข้ากับพระจันทร์เสี้ยวดวงน้อยคู่สวยของเจ้าตัวเล็ก มันกำลังขับประกายแห่งความสุขล้นออกมา
“อารมณ์ดีเหรอ”
เสียงทุ้มฟังดูเย็นชาดังขึ้น หนวนหน่วนที่แอบมองพี่ใหญ่อยู่ก็แอบสะดุ้งที่ถูกจับได้
ดวงตาของกู้หนานเองก็ฉายแววความสุขออกไป แม้สีหน้าจะเรียบนิ่งไม่ต่างจากยามปกติก็ตาม
“ใช่ค่ะ หนูดีใจที่ได้เจอพี่ใหญ่”
เด็กน้อยเขินจนหน้าแดงที่ถูกจับได้ แต่ก็เอ่ยเสียงหวานตอบพี่ใหญ่ของเธอไปเบา ๆ
กู้หลินโม่แอบน้อยใจที่ลูกชายและลูกสาวลืมตนเองไปชั่วขณะ
“หนวนหน่วนได้อยู่กับคุณพ่อ ได้กลับบ้าน ได้เอาดอกไม้ไปให้คุณแม่ มีความสุขมากค่ะ”
นัยน์ตาสีเข้มคลอไออบอุ่นจับจ้องไปที่ช่อดอกไม้สีสันสดใสอย่างพึงใจ
ร่างเล็กเปลี่ยนมาสนใจดอกไม้แทนกู้หนาน กอดช่อดอกไม้ในอ้อมแขน
ลูกชายคนโตลอบมองไปที่พ่อของตัวเองอย่างเงียบ ๆ
กู้หลินโม่ผุดรอยยิ้มอ่อนโยนขึ้นมาบนใบหน้า “ลูก พรุ่งนี้เข้าไปที่บริษัทกับพ่อสิ”
จะได้มอบหมายงานกองพะเนินให้สักหน่อย!
“ไม่ดีกว่า” กู้หนานกล่าวปฏิเสธออกมาสั้น ๆ
กู้หลินโม่หมดคำจะพูด “…”
แต่เขาก็รีบทักท้วงอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “ไม่ได้ ต้องไปสิ”
กู้หนานไม่ได้สนใจ ชายหนุ่มก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองอย่างเย็นชา แผ่นหลังเอนกายไปด้านหลังเล็กน้อย ดวงตาเรียวคมดุจหงส์เพลิงค่อย ๆ เบือนไปมองเด็กหญิงตัวเล็ก
ก่อนจะกลับ เขารู้สึกว่าตัวเองต้องรู้จักน้องสาวคนนี้เพิ่มขึ้นอีกหลายด้าน แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่แสดงสีหน้าหรือกริยาอาการอะไรออกมา แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกกระวนกระวายอยู่ภายในใจ มันคือความกลัวว่าน้องสาวจะไม่ชอบตัวเอง
เพราะท่าทีที่แสนเย็นชากับไอกดดันที่มักจะแสดงออกมา กระทั่งผู้ใหญ่ด้วยกันยังรู้สึกกลัวที่จะเผชิญหน้ากับเขา นับประสาอะไรกับเด็ก ๆ ที่ชอบร้องไห้เมื่อเห็นเขา
ชายหนุ่มแอบคิดไปถึงขั้นว่าถ้าหนวนหน่วนร้องไห้ตอนเจอกัน เขาจะต้องทำอย่างไรดี
เพราะความรู้สึกกังวลใจนั้น กู้หนานจึงหลบไปเข้าห้องน้ำที่สนามบินทันทีที่ลงจากเครื่อง และไม่คาดว่าตอนที่ออกมาจะได้เห็นร่างเล็กพยายามล้างมือที่อ่างล้างหน้า…
แผ่นหลังที่ช่างดูคุ้นเคยทำเอาชายหนุ่มชะงักนิ่งไปแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อยืนยันให้แน่ใจ
เขาไม่คิดเลยว่าการพบกันระหว่างตัวเองกับน้องสาวจะเป็นเหตุการณ์แบบนี้
ในตอนนั้นพี่ใหญ่อย่างเขาไม่ได้ทันคิดอะไร เพียงแค่ตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยให้ล้างมือได้สะดวก ในจังหวะที่แขนแกร่งสัมผัสร่างนุ่มนิ่มของเด็กน้อย กล้ามเนื้อและสันกรามของชายหนุ่มก็เกิดเกร็งขึ้นมา
น่าแปลกใจที่เด็กหญิงแค่ตกใจเล็กน้อย ไม่ได้ร้องไห้เมื่อเห็นเขาอย่างที่นึกกลัว อาการที่แสดงออกมีแค่ท่าทางไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าเท่านั้น
หนวนหน่วนใจกล้ากว่าที่คิด หรือเป็นเพราะสายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่ทำให้เด็กน้อยไม่เกรงกลัวเขาหรือเปล่านะ
ระหว่างที่เขาเช็ดมือเล็ก ๆ คู่นั้นให้น้องสาวโดยที่ไม่มีท่าทีขัดขืนจากอีกฝ่าย หัวใจของกู้หนานก็อ่อนยวบลง เพราะน้องสาวขี้อายมีท่าทีกระตือรือร้นที่จะเข้าหาเขาอย่างยิ่ง
“พี่ใหญ่คะ”
น้ำเสียงหวานละมุนเอ่ยเรียกเขาอย่างระมัดระวัง กู้หนานที่กำลังหลับตานึกถึงการพบกันระหว่างตนเองกับน้องสาวจึงลืมตาขึ้น
นิ้วเรียวยาวที่ประดับบนมือแข็งแกร่งของชายหนุ่มเอื้อมไปที่ท้ายทอยของเด็กหญิงแล้วแตะมันอย่างอ่อนโยน เขาร้องเสียงต่ำในลำคอแทนการตอบรับ ดวงตาแสนเย็นชาอ่อนแสงลงเล็กน้อย
ชายหนุ่มจ้องไปที่น้องสาวเชิงถาม
“พี่ใหญ่ เหนื่อยหรือเปล่าคะ”
พอได้เห็นดวงตาคู่สวยแสนอบอุ่นเต็มไปด้วยแววของความรู้สึกห่วงใย ได้ฟังน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานราวกับเสียงดนตรี มุมปากของกู้หนานก็ยกยิ้มขึ้นบาง ๆ แล้วเริ่มขยับตอบอย่างแผ่วเบา “ไม่หรอก”
หนวนหน่วนเอียงศรีษะเล็ก ๆ ไปซบกับมือใหญ่ของพี่ชายที่กำลังลูบเธออยู่เบา ๆ
ไม่นานรถก็ขับไปถึงคฤหาสน์สกุลกู้ เมื่อได้ยินเสียงเห่าของสุนัข กู้หนานก็หันไปมองมันอย่างเงียบ ๆ ต้าหวงที่กำลังส่ายหางไปมาอยู่เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนพลันหยุดนิ่งด้วยท่าทางหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
“โฮ่งโฮ่งโฮ่ง”
มองอะไร!
กู้หนานละสายตาจากเจ้าหมาอย่างเฉยเมย “โง่จริง”
ร่างสูงเปิดประตูแล้วยื่นขายาว ๆ ออกไปจากรถ ท่าทางทรงพลังดูน่ากลัวของเขาทำเอาเจ้าหมารีบวิ่งหนีหางจุกตูดไปอย่างรวดเร็ว
‘มนุษย์คนนั้นน่ากลัวชะมัด ไม่น่าเข้าใกล้!’
กู้หนานไม่ได้ลงจากรถในทันที แต่หันไปอุ้มน้องสาวตัวน้อยออกมาด้วยกัน
กู้หลินโม่เงียบลงอีกครั้ง “…”
“ลูกสาวของพ่อ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้หลินโม่เหือดแห้งทันทีที่ลูกชายคนโตอุ้มลูกสาวไป เขาได้แต่กัดฟันเอ่ยคำเหล่านั้นออกมา
กู้หนานยิ้มแล้วฮึมฮัมเบา ๆ “น้องสาวของพี่ใหญ่ต่างหาก”
ศึกสายเลือดระหว่างพ่อและลูกชายคนโตจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยการปะทะสายตากัน ตอนนี้ราวกับว่ามีประกายไฟแลบออกมาทั่วบริเวณ
หนวนหน่วนต้องเป็นคนห้ามทัพด้วยการเอื้อมมือไปดึงเสื้อของผู้เป็นพ่อเอาไว้ “พี่ใหญ่ คุณพ่อ อย่าเสียงดังกันซี่”
เด็กน้อยอยู่ตรงกลางระหว่างสงครามพ่อลูก ได้แต่อึกอักไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
โชคดีที่คุณหญิงกู้เข้ามาพอดี
“ลูกสาว!”
คุณหญิงกู้ตรงเข้ามาคว้าร่างเล็กออกจากอ้อมแขนของลูกชายคนโตอย่างรวดเร็ว
กู้หนานนิ่งสนิท “…”
ลูกชายอย่างเขาไม่เคยกลัวที่จะต้องปะทะคารมกับพ่อ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก ลูกชายทั้งสองมักจะขัดแย้งกับพ่อเพื่อแย่งความสนใจจากแม่ของพวกเขา ตอนนี้มีน้องสาวเพิ่มมาอีกคน ศึกระหว่างลูกชายและพ่อจึงเกิดขึ้นอีกครั้งเพื่อแย่งความสนใจจากเด็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นลูกชายก็ไม่กล้าหือกับแม่ของตัวเอง
ตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปแย่งเพราะหนวนหน่วนอยู่ในอ้อมแขนของคุณหญิงกู้
“คุณแม่ขา นี่ของขวัญของคุณแม่ค่ะ”
หนวนหน่วนแจกยิ้มหวานราวกับเป็นนางฟ้าตัวน้อยในอ้อมอกแม่ จากนั้นก็ใช้มือเล็ก ๆ ส่งช่อดอกไม้ที่อยู่ในอ้อมแขนให้ผู้เป็นแม่
คุณหญิงกู้ตื่นเต้นอย่างมาก ดวงตาคู่สวยของเธอเปล่งประกายขึ้นมาทันที เอาแต่ถามซ้ำ ๆ ว่า “หนวนหน่วนซื้อให้แม่เหรอคะ”
เจ้าตัวเล็กยิ้มโชว์ฟันขาวสะอาด พยักหน้าขึ้นลงอย่างน่าเอ็นดู เด็กน้อยเขินอายเล็กน้อย ดวงตากลมโตแสนบริสุทธิ์สดใสฉายความรู้สึกคาดหวังออกมาเต็มเปี่ยม
“หนวนหน่วนไม่รู้จะซื้ออะไรดี คุณพ่อเป็นคนช่วยเลือกค่ะ”
คุณกู้ลูบหัวกลม ๆ ที่เต็มไปด้วยเส้นผมนุ่มลื่นของเด็กน้อยในอ้อมแขนด้วยความรัก เธอซาบซึ้งจนน้ำตาไหล ลูกสาวที่แสนดีทำไมถึงรู้จักนึกถึงคนอื่นได้ขนาดนี้นะ
“หนวนหน่วนอุตส่าห์เอาของขวัญมาให้ แม่ชอบมากเลยจ้ะ”
หนวนหน่วนโอบรอบคอแล้วแนบแก้มกลมกับใบหน้าผู้เป็นแม่อย่างรักใคร่
“หนูรักคุณแม่”
คุณหญิงกู้ยิ้มกริ่ม
“ทำไมยังยืนอยู่ตรงนี้กันล่ะ เข้าบ้านเถอะ”
คุณหญิงกู้กระชับตัวลูกสาวแล้วหอมแก้มน้อย ๆ นั้นด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่รับของขวัญ เธอก็เดินนำสองพ่อลูกเข้าบ้านโดยมีลูกน้อยนั่งแหมะอยู่ในอ้อมแขนอย่างแช่มชื่น
กู้หลินโม่และกู้หนานมองหน้ากันก่อนจะเบือนหน้าหนีไปคนละทางเงียบ ๆ แล้วสาวเท้าตามคุณหญิงกู้เข้าบ้าน
“หนวนหน่วนกลับมาแล้วเหรอ”
“คุณปู่ขา”
ร่างน้อยเรียกคุณปู่ด้วยน้ำเสียงเล็ก ๆ น่ารักพลางใช้ขาสั้น ๆ กระโดดเข้าไปกอดคุณปู่อย่างรวดเร็ว
จากนั้นเด็กน้อยก็มอบของขวัญให้ท่าน มันเป็นรองเท้าที่เหมาะกับคุณปู่มาก
ชายชรายิ้มพลางรับของขวัญมาอย่างมีความสุข
แน่นอนว่าเด็กน้อยไม่มีทางลืมคุณปู่และแม้แต่คุณแม่บ้าน
“มีของฉันด้วยเหรอคะ”
คุณแม่บ้านรับของขวัญด้วยความประหลาดใจ คุณหนูหนวนหน่วนช่างเอาใจใส่คนอื่นมากจริง ๆ