ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 37 พี่ใหญ่จะกลับมาแล้ว
บทที่ 37 พี่ใหญ่จะกลับมาแล้ว
หนวนหน่วนคว้านิ้วของกู้อัน ลืมตาขึ้นอย่างล่องลอย เพราะเพิ่งตื่นนอน ผมก็เลยยุ่งเหยิง ดวงตายังพร่ามัว ท่าทางมึนงง มองแล้วช่างน่ารักและน่าแกล้งเหลือเกิน
กู้อันทำตามกู้หมิงหลี่ เขาลองบีบแก้มทั้งสองข้างของเจ้าเกี๊ยวน้อยเอาไว้ แม้ว่าเธอจะดูไม่มีเนื้อหนัง แต่แก้มกลับนุ่มมืออย่างยิ่ง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกู้หมิงหลี่ถึงชอบหยิกแก้มของหนวนหน่วน
เด็กหญิงตัวเล็กผู้ถูกบีบหน้าเพิ่งจะได้สติ เธอลืมดวงตาฉ่ำน้ำขึ้นก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงน้ำนม “พี่ กี่โมงแล้วคะ”
กู้อันมองไปบนนาฬิกาข้อมือของตน “อีกนิดก็จะหกโมงเย็น ใกล้ถึงเวลากินข้าวแล้ว”
หนวนหน่วนลุกขึ้นนั่งแล้วสะบัดหัวของตนเองไปมา “หนวนหน่วนเข้าใจแล้วค่ะ”
หลังจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วจัดเตียงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ทำเอาสายตาของกู้อันที่จ้องมองมาตกตะลึงไปเลยที่น้องสาวคนนี้พับผ้าห่มออกมาได้เรียบร้อยสวยงามได้อย่างง่ายดาย
กู้อันลองนึกถึงเตียงรก ๆ ของตน “….”
เห็นความแตกต่างเห็นได้อย่างชัดเจน
ไม่แปลกใจที่พ่อกับแม่เกลียดเขาเหลือเกิน
หนวนหน่วนปัดไม้ปัดมือของตน ปีนลงจากเตียง สวมรองเท้าแตะนุ่ม ๆ แล้วเดินไปหยุดที่ข้างกายกู้อัน จากนั้นก็เริ่มจับมือของเขา
“ไปกันเถอะค่ะพี่”
มือเล็กที่จับฝ่ามือของเขานั้นช่างอ่อนปวกเปียก เธอดูผอมบางอย่างเห็นได้ชัด ทำไมร่างกายเด็กคนนี้ถึงอ่อนนุ่มได้เช่นนี้?
มุมปากของกู้อันยกยิ้มขึ้น เขากำมือเล็กของหนวนหน่วนที่กำลังหิวโหยแล้วมุ่งเดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ
คนตัวเล็กอาจเดินลำบาก ดังนั้นจึงต้องนำทางให้เธอก่อนหนึ่งก้าวเสมอ
นั่นเป็นวิธีที่ควรปฏิบัติต่อน้องสาวของเขา
ขณะที่เดินอย่างมีความสุข กู้อันก็ได้พึมพำทุกสิ่งอยู่ภายในใจของเขา
“หนวนหน่วนตื่นแล้วเหรอ?”
เมื่อเห็นหนวนหน่วน คุณหญิงกู้ก็เดินเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมาหอมแก้ม
“หลับเต็มอิ่มไหม?”
คนตัวเล็กพยักหน้าลงเล็กน้อย “อื้ม เต็มอิ่มแล้วค่ะ”
หลังจากพูดจบเธอก็หอมแก้มผู้เป็นแม่ฟอดหนึ่ง
กู้อันรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ทำไมน้องสาวจึงไม่ตื่นขึ้นมาแล้วหอมแก้มเขาบ้าง?
เมื่ออาหารเย็นพร้อมแล้ว ทุกคนในบ้านก็กินกันจนอิ่มหนำสำราญ รวมถึงต้าหวงกับเหม่ยฉิวด้วย จากนั้นทุกคนจึงออกไปเดินเล่นกัน
อยู่ ๆ กู้หลินโม่ก็พูดขึ้นว่า “พรุ่งนี้พี่ใหญ่จะกลับมาที่บ้าน หนวนหน่วนอยากไปรับพี่ด้วยกันไหม?”
ไม่ได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของหนวนหน่วนก็เบิกกว้างขึ้น “พี่ใหญ่กลับมาแล้วเหรอคะ?”
ทั้งความตื่นเต้นและความวิตกกังวลผสมกันไปหมด เด็กน้อยกังวลพี่ใหญ่จะถูกชะตากับเธอหรือเปล่า?
กู้หลินโม่พยักหน้า “อืม พรุ่งนี้ตอนเช้าพ่อจะไปรับที่สนามบิน”
“แล้ว… คุณพ่อกับแม่ไปด้วยหรือเปล่าคะ?”
คุณหญิงกู้ลูบหัวเจ้าตัวน้อยอย่างแผ่วเบา “แม่ไม่ได้ไปจ้ะ แต่พ่อจะไปกับหนู”
ตอนเจอพี่ใหญ่ ให้หนวนหน่วนอยู่กับคนที่เธอคุ้นเคยก็คงดี เพราะเจ้าตัวดูอยากไปรับพี่ใหญ่จริง ๆ
หนวนหน่วนพยักหน้าลงอย่างหนักแน่น
“อื้ม หนวนหน่วนจะไปรับพี่ใหญ่ค่ะ”
กู้อันมองตาขวาง “ถ้าอย่างนั้นผมขอไปกับน้องนะครับ”
“ไม่ได้!”
ผู้ใหญ่ทั้งสามพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน ทำลายความคิดที่จะไม่ต้องไปโรงเรียนของกู้อันทันที
เขาพึมพำปากขมุบขมิบ
ไม่ไปก็ไม่ไป!
หนวนหน่วนอุ้มเหม่ยฉิวขึ้นมา ก่อนจะใช้นิ้วเรียวลูบไล้ตั้งแต่หัวไปหาง ขนเหม่ยฉิวให้ความรู้สึกนุ่มฟู หนวนหน่วนชอบตุ๊กตาจึงชอบลูบเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผ่อนคลายได้อีกด้วย
จากที่เคยได้เห็นเพียงในรูปถ่ายเท่านั้น พรุ่งนี้จะได้เจอพี่ใหญ่แล้ว ในรูปเขาดูเย็นชาและพูดน้อย ถ้าเจอกันพรุ่งนี้จะทำตัวสนิทสนมกับเขายังไงดีนะ?
จะทำอย่างไรถ้าพี่ใหญ่เกิดไม่ชอบเธอขึ้นมา?
เด็กน้อยคิดแล้วคิดอีก พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงอยู่แบบนั้น ไม่นานก็เริ่มง่วงงุน
“หนวนหน่วนกังวลไหมที่พรุ่งนี้จะได้เจอพี่ใหญ่ใช่ไหม?”
เสียงของคุณหญิงกู้ดังขึ้นเหนือศีรษะ เธอใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเล็กราวกับอยากจะปลอบลูกสาว
เด็กหญิงตัวเล็กยอมรับว่าตนขัดเขินอยู่บ้างจึงโผล่หัวออกมาครึ่งหนึ่งจากใต้ผ้าห่ม จากนั้นก็ใช้นัยน์ตากระจ่างมองใบหน้าของผู้เป็นแม่
“แม่ หนวนหน่วนทำให้ตื่นหรือเปล่าคะ?”
คุณหญิงกู้จับความผิดปกติในน้ำเสียงลูกสาวได้ ปกติลูกสาวนอนดิ้นไปมาแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าในคืนนี้เธอจะนอนดิ้นไปมาเยอะเป็นพิเศษ
“คิดอะไรอยู่เหรอ?”
คุณหญิงกู้ถามยิ้ม ๆ พลางใช้สองนิ้วมือของตนบีบจมูกน้อย ๆ ของหนวนหน่วน
“แม่ก็ยังไม่หลับ เดาว่าหนูคงคิดมากเรื่องพี่ใหญ่”
หนวนหน่วนซบหน้าลงบนร่างผู้เป็นแม่ด้วยใบหน้าแดงก่ำโดยไม่พูดอะไรสักคำ
คุณหญิงกู้ยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้น “หนูกังวลว่าพี่ใหญ่จะชอบหนูไหม ใช่ไหม”
เจ้าเกี๊ยวน้อยแสนขี้อายพยักหน้าก่อนจะร้องหงิงเหมือนแมวหิวนม
คุณหญิงกู้ลูบศีรษะของหนวนหน่วนอีกครั้ง “หนวนหน่วนสบายใจได้เลย พี่ใหญ่ชอบหนูอยู่แล้ว ที่น่ากังวลคือเขาจะเปิดศึกแย่งชิงหนูกับพ่อนี่สิ”
ตอนหนวนหน่วนเพิ่งเกิด ทุกครั้งที่พี่ใหญ่ทั้งสองกับกู้หลินโม่มาเจอกัน ส่วนใหญ่จะเปิดศึกแย่งชิงเพื่อดูว่าใครจะกอดหนวนหน่วนได้มากกว่ากัน
หนวนหน่วนคาดไม่ถึงและคิดว่าคงไม่มีทางเป็นเช่นนั้นได้แน่นอน ทำไมกู้หลินโม่จะต้องเปิดศึกแย่งชิงเธอกับพวกพี่ด้วย?
“หนวนหน่วนคือคนในครอบครัวของพวกเรา ทำไมไม่มั่นใจล่ะ?”
คุณหญิงกู้สัมผัสใบหน้าเล็ก ๆ ของหนวนหน่วนด้วยความทุกข์ ใจ หากพวกเขาเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก เจ้าหนูน้อยคงไม่กังวลเช่นนี้
หนวนหน่วนจับใบหน้าของแม่ รับรู้อารมณ์ของคนตรงหน้าได้ และด้วยไหวพริบ เด็กน้อยจึงเลือกที่จะไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เพราะเธอไม่อยากทำให้แม่เสียใจ
“ถ้าอย่างนั้น หนวนหน่วนเตรียมของขวัญให้พี่ดีไหมคะ?”
คุณหญิงกู้ “แล้วแต่หนวนหน่วนเลยค่ะ”
หนวนหน่วนพยักหน้าอย่างเชื่อฟังแล้วครุ่นคิดเกี่ยวกับของขวัญ
“พรุ่งนี้ค่อยขอให้พ่อเขาพาไปห้าง ตอนนี้ถึงเวลาเข้านอนแล้ว หนวนหน่วนหลับให้สบายใจนะคะ”
“ค่ะ หนวนหน่วนเข้าใจแล้ว ราตรีสวัสดิ์ค่ะแม่”
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะที่รัก”
หลังจากหลับสนิท วันต่อมาหนวนหน่วนก็ตื่นตั้งแต่เช้า ล้างหน้าแปรงฟัน สวมกระโปรงตัวเล็กแล้วเดินลงไปข้างล่างอย่างมีความสุข
วันนี้จะได้ไปเจอพี่ใหญ่แล้ว หลังจากที่แม่เล่าให้ฟังเมื่อคืน หนวนหน่วนก็กังวลใจน้อยลง เธอเปลี่ยนมาตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้พบเจอพี่ใหญ่
“คุณพ่อ”
กู้หลินโม่ก็ตื่นเช้ามากเช่นกัน วันนี้เขาจะพาลูกสาวคนเล็กไปรับลูกชายคนโตจึงขอลาไม่เข้าบริษัท
เมื่อได้ยินเสียงนุ่มนวลของหนวนหน่วนเรียกตนเอง กู้หลินโม่ก็วางหนังสือพิมพ์ในมือลงแล้วขานรับเด็กหญิงตัวน้อยที่แสนเชื่อฟัง เขาอุ้มคนตัวเล็กขึ้นนั่งบนตัก แตะจมูกของสาวน้อยอย่างแผ่วเบาแล้วยิ้มออกมา
“ตื่นเช้าจังเลย อยากเจอพี่ใหญ่แล้วใช่ไหม?”
หนวนหน่วนเม้มริมฝีปาก ยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกาย ใบหน้าที่แสนบอบบางขึ้นริ้วสีแดงระเรื่ออย่างเขินอาย พอกะพริบตา ขนตาที่งามงอนก็ไหวสั่นราวกับผีเสื้อขยับปีก
กู้หลินโม่ได้ฟังเสียงที่ไพเราะนุ่มนวลของลูกสาวแล้วก็พูดว่า “เดี๋ยวจะออกไปแต่เช้า หนวนหน่วนจะได้ซื้อของขวัญให้พี่ใหญ่ด้วย”