ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 302 ได้รับการช่วยชีวิตP
บทที่ 302 ได้รับการช่วยชีวิต
หลังจากการหารือแผนการของกลุ่มพ่อค้ามนุษย์จบลง พวกเขายังคงจมอยู่กับความฝันที่จะได้เงินหลายร้อยล้าน
ลูกพี่อารมณ์ดีมาก “หาคนมาดูเด็กทั้งสองคนนั้น อย่าให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว”
“ลูกพี่คิดจะปล่อยเด็กสองคนนั้นกลับไปหลังจากได้เงินจริง ๆ เหรอ?”
“เป็นไปได้ยังไง”
ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ ถ้ามองจากรูปลักษณ์ภายนอกก็ดูเป็นคนซื่อสัตย์ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเขามีกี่ชีวิตอยู่ในมือ เด็กเกือบทั้งหมดถูกขายออกไปผ่านมือเขา
เขาหัวเราะอย่างน่ากลัว แววตาเต็มไปด้วยเจตนาร้าย
“คนอย่างตระกูลกู้ เราจะปล่อยหรือไม่ปล่อยเด็ก พวกเขาก็ไม่ยอมปล่อยเราไปอยู่แล้ว พอได้รับเงินเราจะฆ่าตัวประกัน เราต้องเตรียมเส้นทางหลบหนีไว้ล่วงหน้าให้เรียบร้อย”
“ไม่ต้องห่วง พวกเราสั่งการไปแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น พวกเราก็เอาเงินก้อนนี้ไปใช้ได้ตามสบาย ๆ ฮ่า ๆ ๆ…”
พวกเขาหัวเราะ แต่ไม่นานบรรยากาศแห่งความสุขก็ถูกพังทลายลง
“ลูกพี่ ไม่ได้การแล้ว!”
ชายหนุ่มวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาอย่างทุลักทุเล ทำเอาหัวใจของลูกพี่เต้นตุบ ๆ จู่ ๆ ก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี
“เด็ก…เด็ก ๆ ทั้งหมดหนีไปแล้ว โหวจือถูกตีสลบไป เด็ก ๆ…หายไปหมดแล้ว!”
ข่าวนี้สำหรับพ่อค้ามนุษย์ เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากตกตะลึงไปหลายวินาที ลูกพี่ก็คำรามด้วยความโกรธ “ยังมัวยืนทำอะไรอยู่ล่ะ! รีบไปตามหาซะ!”
ในขณะที่ลูกพี่กำลังโกรธ ทุกคนก็เริ่มเคลื่อนไหว
“ดูกล้องวงจรปิดสิ ไอ้เด็กเวรพวกนั้นวิ่งไปทางไหนแล้ว!”
“แต่ว่าลูกพี่ กล้องวงจรปิดของพวกเราไม่ได้ใช้มาตั้งนานแล้ว”
“ไอ้สวะ!”
ชายที่พูดถูกลูกพี่ถีบออกไป เขานำคนไปที่คลังอาวุธด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“เอาอาวุธไปค้นหา แล้วหมาสองตัวล่ะ? ทำไมพวกมันไม่ส่งเสียงอะไรเลย!”
เสียงเห่าของสุนัขสองตัวดังมาก ปกติแค่มีคนแปลกหน้าเข้ามาพวกมันก็จะร้องเรียกเสียงดัง วันนี้เด็ก ๆ ในห้องวิ่งหนีไปหมด แต่เจ้าสุนัขสองตัวไม่ส่งเสียงร้องเลยแม้แต่ครั้งเดียว!
“หมา… หมาหายไปแล้ว!”
ใบหน้าของลูกพี่บึ้งตึงมากขึ้น นี่ยังไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อเขาพาคนไปถึงสถานที่ที่ซ่อนอาวุธก็แทบจะเป็นลม
เห็นเพียงคนของพวกเขานอนอยู่หน้าประตู ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ลูกพี่มองไปยังประตูที่ถูกเปิด ก่อนจะวิ่งเข้าไปดูด้วยดวงตาแดงก่ำ เขาโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม สายตาทวีความดุดัน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเหมือนอยากจะฉีกอะไรสักอย่างให้เป็นชิ้น ๆ
“เกิดอะไรขึ้น อาวุธหายไปไหน!”
“ปืนของฉันอยู่ที่ไหน?”
“มีดก็ไม่เหลือสักเล่ม ฝีมือของใคร!”
ท่ามกลางเสียงเอะอะโวยวาย มีคนเริ่มเอ่ยโทษว่า “ฉันบอกแล้วไง อาวุธพวกนี้ให้พวกเราเก็บไว้เอง พวกนายก็ยังจะทำคลังอาวุธอะไรอีก ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ มันหายไปหมดแล้ว”
“ใครแม่งกล้าทำแบบนี้!”
“หุบปากให้หมด!”
ลูกพี่ดวงตาแดงก่ำ “เอาจอบกับมีดที่บ้านไล่ตามไป เดี๋ยวถ้าจับไอ้เด็กเวรกลุ่มนั้นได้ ฉันจะถลกหนังพวกมันให้หมด!”
เขาโกรธมากจริง ๆ สีหน้าและน้ำเสียงจึงดุดันเหมือนผีร้ายที่คลานออกมาจากนรก
ผู้คนที่รายล้อมอยู่หวาดกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรอีก
ทั้งหมู่บ้านดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมา พวกเขาเริ่มทำการค้นหาทั่วทุกพื้นที่ เมื่อไปถึงสถานที่ที่กักขังผู้หญิงไว้ก็พบว่าผู้หญิงเหล่านั้นหายไปหมดแล้ว
ตอนนี้พ่อค้ามนุษย์ต่างเดือดดาล โมโหแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว
“พวกผู้หญิงกับเด็ก ๆ วิ่งไปได้ไม่ไกลแน่นอน ค้นหาให้ทั่ว!”
แต่ก่อนที่พวกเขาจะขยายขอบเขตการค้นหาไปรอบ ๆ หมู่บ้าน ลูกน้องหลายคนก็วิ่งกลับมาอย่างตื่นตระหนก
“ล… ลูกพี่ ไม่ได้การแล้ว ต… ตำรวจกำลังมา!”
ที่มาไม่ได้มีเพียงตำรวจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบอดีการ์ดของตระกูลกู้และทหารรับจ้างอีกด้วย ผู้คนนับไม่ถ้วนรายล้อมภูเขาทั้งลูก
เวลานี้ทุกคนล้วนหวาดผวา
“ตำรวจรู้จักที่นี่ได้ยังไง!”
บนภูเขาสูงชันอันตราย ยากต่อการค้นหา ตำรวจรู้ได้อย่างไร?
ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ ในขณะที่เสียงปืนดังขึ้น คนทั้งหมู่บ้านก็เริ่มวิ่งหนีตัวใครตัวมัน
บางทีถ้าพวกเขามีปืนหรืออาวุธเหล่านั้นอยู่ในมือก็คงจะต้องงัดข้อกันสักหน่อย แต่ว่าตอนนี้…
ไม่มีใครสนใจว่าใครจะเป็นลูกพี่ใหญ่แล้ว ทุกคนเริ่มวิ่งหนีกระจัดกระจายเพื่อเอาตัวรอด รวมถึงคนที่เป็นหัวหน้าด้วย
“อย่าขยับ พวกคุณถูกล้อมไว้หมดแล้ว”
ที่มาไม่ได้มีเพียงตำรวจเท่านั้น แต่ยังมีสุนัขตำรวจด้วย ใช้เวลาหลายชั่วโมง พวกพ่อค้ามนุษย์ก็ถูกจับกุมกลับไปดำเนินคดีได้ทั้งหมด
แล้วหนวนหน่วนและคนอื่น ๆ ในเวลานี้ล่ะ…
เด็ก ๆ ปล่อยตัวพวกผู้หญิงออกมาแล้วพาสุนัขทั้งสองวิ่งหนีไป ในยามค่ำคืนมองเห็นทางไม่ชัด ค่อนข้างเดินลำบาก โชคดีที่มีสุนัขทั้งสองนำทาง และหนวนหน่วนก็สามารถเปิดไฟฉายจากสร้อยข้อมือได้ด้วย
ยังไม่ทันเดินออกไป คนที่มาช่วยพวกเขาก็มาถึงแล้ว เมื่อเห็นตำรวจและครอบครัวตระกูลกู้ เด็ก ๆ หลายคนก็ดีใจจนแทบร้องไห้
“พ่อคะ พี่คะ!”
หนวนหน่วนวิ่งเข้าไปหา กู้อันก็เช่นกัน
จากนั้นเด็กหญิงตัวน้อยก็ถูกอุ้มขึ้นมา ส่วนกู้อันถูกตี
“ที่นายถืออยู่ในมือคืออะไร?”
ขณะที่ตี กู้หมิงหลี่ก็คว้าวัตถุสีดำทะมึนจากมือของกู้อันออกมา จากนั้น “…”
“นายไปเอาปืนมาจากไหน?!”
กู้อันเอามือกุมศีรษะพลางกระซิบว่า “ได้มาจากพวกพ่อค้ามนุษย์”
หากมองไปที่เด็กคนอื่น ๆ อีกครั้ง ส่วนใหญ่ก็ถือของจำพวกมีดอยู่ในมือ
ทุกคน “…”
พวกเขามาช่วยคน เด็ก ๆ ไม่เพียงหนีออกมาเอง แต่ยังพาคนอื่น ๆ ที่ถูกลักพาตัวหนีออกมาด้วย พร้อมกับขนอาวุธของพ่อค้ามนุษย์มาจนหมดคลัง
พวกเขายินดีเรียกเด็ก ๆ กลุ่มนี้ว่าเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่มันอันตรายเกินไป หลังจากทราบเรื่องราวทั้งหมดจากปากนักข่าวหนุ่มที่มีส่วนร่วมในกระบวนการทั้งหมด พวกผู้ใหญ่ก็ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก
หากเกิดพลาดพลั้งขึ้นมาในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง พวกเขาไม่อยากจะคิดถึงผลที่จะตามมาเลย
จากนั้นกู้อันก็ถูกตีอีก แน่นอนว่าพ่อและบรรดาพี่ชายที่ช่วยกันตี
เด็กซนพวกนี้ ไม่โดนตีสักวัน ต่อไปคงไปก่อเรื่องใหญ่แน่
“โอ๊ย ๆ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว!”
เด็กชายยอมรับผิดสุดชีวิต แต่ครั้งหน้าเขาก็ยังกล้าทำอยู่ดี
เด็ก ๆ ปลอดภัยก็ดีแล้ว ครูที่โรงเรียนกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้นเหมือนกัน หลังจากได้รับแจ้ง แต่ในที่สุดก็โล่งอกได้สักที
กู้อัน หนวนหน่วน และเด็ก ๆ ที่มาเที่ยวกับโรงเรียนถูกส่งกลับบ้านอย่างปลอดภัย เด็กและผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ถูกลักพาตัวมาถูกพาตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน จากนั้นจึงตามหาพ่อแม่ของพวกเขาทีละคน
ตำรวจยังคิดว่าเด็ก ๆ เหล่านี้จะหวาดกลัวจนเกิดเงามืดในจิตใจ จึงตามนักจิตวิทยามาเป็นพิเศษเพื่อปลอบโยนพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในห้องรับรอง…
“วันนี้ฉันเตะพ่อค้ามนุษย์คนนั้นไปสองครั้งแน่ะ”
“ฉันช่วยพี่กู้อันกดหัวของเขา กดจนเกือบตาย เสียงร้องของเขายังเล็ดลอดออกมาไม่ได้เลย”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเอามือทั้งสองเท้าสะเอว “ฮึ่ม! พวกเธอนี่ไม่ได้เรื่องเลย ฉันเอาก้อนอิฐทุบหัวพวกเขานะ ทุบแรงมากเลย!”
“พวกเราไปตีพวกพ่อค้ามนุษย์ที่ถูกจับไปอีกครั้งได้ไหม น่ารังเกียจชะมัด”
“อื้ม ๆ พวกพี่สาวอยากตีพ่อค้ามนุษย์พวกนั้นไหม? หนูจะบอกให้ ตีพวกเขาสะใจมากเลย”
แววตาของผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวเป็นประกาย กัดฟันกรอด ทำไมจะไม่อยากล่ะ พวกเธออยากจะตีไอ้สารเลวเหล่านั้นให้ตายแม้กระทั่งในความฝัน
ตำรวจและนักจิตวิทยาที่เข้ามา “…”
ดูไม่เหมือนมีเงามืดในจิตใจเลย ที่มีเงามืดในจิตใจน่าจะเป็นพ่อค้ามนุษย์เหล่านั้นมากกว่า