ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 3 คุณปู่
บทที่ 3 คุณปู่
หนวนหน่วนกุมมือผู้เป็นแม่เอาไว้ เงยหน้ามองผู้ดูแลคฤหาสน์ด้วยรอยยิ้มเขินอาย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
บุคลิกที่สุภาพอ่อนน้อมและวางตัวดีของเธอช่างพบเจอได้ยาก
ผู้ดูแลคฤหาสน์เอ่ยขึ้นเป็นครั้งที่สองอย่างเศร้าใจ ดวงตาของเขายังคงแดงก่ำ “คุณหนูผอมมากเลย ควรทานให้เยอะ ๆ นะครับ ทางเราไม่ทราบว่าคุณหนูชอบทานอะไร จึงเตรียมตามอาหารโปรดของนายท่านและท่านหญิง”
คุณหญิงกู้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ต้องขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ”
ขณะที่กำลังเดินไปยังห้องนั่งเล่น ชายชราที่นั่งรออยู่อย่างใจจดใจจ่อก็ไม่สามารถนั่งนิ่งได้เมื่อเห็นหลานชายเข้ามา
“กลับมาแล้วรึ น้องสาวแกอยู่ไหน”
กู้อันทำหน้ามุ่ยทันที แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีความเกรงอกเกรงใจเมื่ออยู่ต่อหน้าชายชรา
“คุณปู่ กังวลอะไรขนาดนั้นครับ ทุกคนกำลังเดินมาแล้วนี่ไง ทำไมทุกคนเอาแต่สนใจแต่เด็กนั่นกันนะ ไม่เห็นหัวผมบ้างเลย”
ชายชราหันไปมองหลานชาย “ถ้าใจเย็นลงบ้างก็จะดีต่อตัวแกนะ”
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก ชายชราก็อดใจรอแทบไม่ไหว เขาลุกยืนขึ้นแล้วจัดเสื้อผ้าของตนเองอย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะรีบนั่งลงพร้อมกับชุดที่ดูสง่างาม แต่เมื่อคิดพิจารณาอีกครั้ง เขาอาจทำให้หลานสาวที่น่ารักของตนเกิดตกใจได้ เขาจึงผ่อนสีหน้าลง
ชายชราคนนี้ โดยปกติใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้างสรรพสินค้า ตอนนี้เขารู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อย แต่หากบอกใครว่าประหม่า ก็คงไม่มีใครเชื่อ
แต่ทั้งหมดคือความจริง
“คุณพ่อครับ”
ชายชราพยักหน้าให้ลูกชายและลูกสะใภ้ สายตาจับจ้องไปยังหลานสาวร่างผ่ายผอมที่ยืนอยู่ถัดจากพวกเขา เมื่อมองไปที่ใบหน้าของหนวนหน่วน จู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืน ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง มือทั้งสองข้างสั่นเล็กน้อย
“นี่… นี่มัน…”
กู้หลินโม่รีบลูบหลังชายชราเพื่อปลอบให้เขาตั้งสติ “คุณพ่อ ใจเย็น ๆ ก่อน”
“ตกลง ตกลง ตกลง…”
ชายชราตอบตกลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยริมฝีปากสั่นเครือ เขาอดใจไม่ไหว เดินเข้าไปหาหนวนหน่วน คุกเข่าลง รอยยิ้มอันอ่อนโยนของเขาฉายแววอยู่ในดวงตาที่ตื่นตระหนกของเด็กหญิงตัวเล็ก
“ไม่ต้องกลัวนะหนวนหน่วน ฉันเป็นคุณปู่ของหนู”
“ทำไมผอมแบบนี้ล่ะ”
“หนวนหน่วนของเราผ่านความทุกข์ยากมามาก ต่อไปในอนาคตหลานจะไม่ลำบากอีกแล้วนะ”
เขาสวมกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนแน่นจนตัวสั่นเทา อันที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องตรวจพิสูจน์ทางสายเลือดเลยด้วยซ้ำว่านี่คือหลานสาวของตนเองหรือไม่
หนวนหน่วนไม่สามารถรู้ได้ว่าเหตุใดคุณปู่จึงเศร้าใจ เธอยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างเชื่อฟัง ริมฝีปากเม้มแน่น ค่อย ๆ ใช้มือน้อย ๆ ยกขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าของชายชราอย่างระมัดระวัง ดวงหน้าฉายชัดว่ากำลังเขินอาย
“คุณปู่ ไม่ร้องไห้นะคะ”
เธอปลอบเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ชายชรามองไปยังเด็กหญิงตัวน้อยแล้วพยักหน้าซ้ำ ๆ
“ปู่ไม่ได้ร้องเพราะเศร้าใจ แต่เพราะปู่มีความสุขมาก”
เสียงของเขาช่างอ่อนโยนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้กู้อันที่ยืนมองตกตะลึงอยู่ไม่น้อย
คุณปู่ยังมีความอ่อนโยนอยู่ภายในจิตใจอีกเรอะ? ร้องไห้เป็นด้วย! เหลือเชื่อ!!!
เมื่อได้ยินเด็กหญิงตัวน้อยเรียกตนว่าคุณปู่ ชายชรารู้สึกอบอุ่นในใจยิ่งนัก ในที่สุดเขาก็มีหลานสาวสักที แถมยังเป็นหลานสาวที่เชื่อฟัง หน้าตาภรรยาผู้ล่วงลับของเขาอีกต่างหาก
“นี่ ลูกสาวเราเก่งจังเลย”
เมื่อได้รับคำชม ใบหน้าของหนวนหน่วนขึ้นสีแดงเรื่อด้วยความเขินอาย เมื่อพบว่าชายชราใจดี เธอก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวสิ่งใดอีกต่อไป ดวงตากลมโตที่สวยสดใสจึงจดจ้องมองชายชราอย่างไม่หวั่นเกรง
ชายชราเองก็อ่อนโยนลงเมื่ออยู่กับเธอ
“หลานสาวของเราสวยมาก โดยเฉพาะตา เหมือนของคุณย่าเป๊ะ ๆ เลย แถมยังฉลาดพูด เป็นเด็กดี แค่เนื้อตัวผอมบางเกินไป ต่อไปต้องดูแลให้ดี ให้เธอทานเยอะ ๆ จะได้อ้วนท้วนหน่อย ดูดีขึ้นอย่างแน่นอน”
กู้อันที่กำลังนั่งรออาหารเย็นมองไปที่หนวนหน่วนอยู่หลายรอบ คิดว่าปู่ของตนอาจแก่มากแล้ว สายตาจึงพร่ามัว มองอย่างไรถึงบอกว่าเด็กนี่นั่นสวย?
เขาจินตนาการไม่ออกจริง ๆ ว่าหนวนหน่วนจะหน้าตาดีขนาดไหนหากเธอถูกเลี้ยงจนอ้วนท้วมอย่างที่ว่า อัปลักษณ์แบบตอนนี้สิถึงเพลินตาเป็นที่สุด
กู้อันมิวายสงสัยว่าน้องสาวคนนี้จะเป็นอย่างไร ถ้าหน้าตาดีขึ้นมาภายหลัง
ผู้เฒ่ากู้อุ้มหนวนหน่วนขึ้น พูดคุยกันอยู่สักพัก เมื่ออาหารพร้อมจึงเริ่มทานพร้อมกันทั้งครอบครัว ยกเว้นกู้อันไว้คนหนึ่ง
ผู้เฒ่ากู้ตักอาหารลงในชามของหนวนหน่วน
“หนวนหน่วนลองกินกุ้งตัวนี้สิ”
“ปลาไม่มีก้าง หนวนหน่วนทานได้เลยนะ ไม่ต้องกังวล”
“สังขยาอร่อยมาก ลูกแม่ควรกินให้เยอะกว่านี้นะ แล้วดื่มนมสักแก้วหลังกินข้าว ต่อไปตัวจะได้สูง ๆ”
เมื่อพิจารณาไปรอบ ๆ ผู้ใหญ่ทั้งสามขยันกันเอาอกเอาใจเธออย่างมาก ต่างกับเอาใจกู้อันลิบลับ นั่นจึงทำให้เด็กชายโกรธมาก
“ทุกคนทำเกินไปแล้วนะ เอาแต่ห่วงน้องไม่สนใจผมเลย!”
สิ้นเสียงทุกสายตาก็หันไปจับจ้องที่กู้อัน จากนั้นผู้เป็นพ่อก็หยิบปีกไก่ขึ้นแล้ววางลงในชามของเขาด้วยรอยยิ้มเชือดเฉือน กู้อันจึงต้องหลบสายตา
“มา เดี๋ยวพ่อดูแลแกเอง!”
ชายชราปรายตามองก่อนจะหยิบตะเกียบแล้วคีบผักให้หลานชาย
“อันอัน ดูเหมือนช่วงนี้จะน้ำหนักขึ้นนะ อย่าเพิ่งกินเนื้อสัตว์เยอะ กินผักให้มากขึ้นดีกว่า โภชนาการจะได้สมดุล”
กู้อัน “….”
ทำเวรทำกรรมอะไรไว้เนี่ย!
ภายใต้แรงกดดันจากสายตาทั้งสามคู่ กู้อันจึงต้องจำใจยอมทานผักและปีกไก่ในชามอย่างน่าสมเพช
เหอะ ทำไมครอบครัวของเขาต้องมีน้องสาว มีแค่พ่อกับแม่ก็เพียงพอแล้ว!
เอ๊อะ ยังมีคุณปู่อีกคนนี่หว่า!
เมื่อเห็นว่าทุกคนให้ความสนใจกับพี่ชายของตนเอง หนวนหน่วนก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่อาหารในชามก็ชิ้นค่อนข้างใหญ่และแข็งจนเธอเคี้ยวแทบไม่ได้
โชคดีที่ผู้ใหญ่ทั้งสามเหมือนจะคิดได้ว่าอาหารที่ตักให้เธอนั้นเยอะพอแล้วจึงไม่ได้ตักมาเพิ่มให้หนวนหน่วนอีก เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ คุณหญิงกู้ก็พาขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบน
เธอพาหนวนหน่วนไปยังห้องหนึ่ง ผลักประตูออกแล้วจูงมือเล็ก ๆ เดินเข้าไป
“หนวนหน่วน จากนี้ไปนี่คือห้องของลูกนะ”
พิศมองโดยรอบแล้ว หนวนหน่วนเห็นว่าห้องนี้มีขนาดใหญ่กว่าบ้านไม้ที่เธอเคยพักอาศัยมาก อีกทั้งการตกแต่งที่หรูหราชวนฝันภายในนั้นช่างเหนือจินตนาการ ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ทำให้ปากของเธออ้ากว้างขึ้น
“ห้องนี้คือ… ของหนวนหน่วนเหรอคะ?”
หนวนหน่วนยอมรับความจริงด้วยความรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ราวกับตนยังอยู่ในโลกความฝัน
“ใช่แล้ว ทั้งห้องเตรียมไว้ให้หนวนหน่วนโดยเฉพาะเลย ทั้งของเล่นบนเตียงแล้วก็โต๊ะตรงนั้น พอได้ไปโรงเรียนแล้ว หนูเก็บหนังสือและเก็บของตรงนี้นะ…”
คุณหญิงกู้แนะนำของในห้องให้หนวนหน่วนได้รู้จักทีละอย่าง คำพูดที่อ่อนโยนของเธอทำให้เด็กน้อยคลายความกังวลใจลงได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าออกดู ข้างในมีเสื้อผ้าและกระโปรงสวย ๆ เต็มไปหมดจนหนวนหน่วนไม่กล้าแม้แต่จะมอง
แต่สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจก็คือมีเสื้อผ้าทารกที่ใส่ไม่ได้แล้ววางอยู่ด้วย
คุณหญิงกู้เดินเข้าไปหยิบเสื้อผ้าตัวเล็ก ๆ พวกนั้นออกมาบางส่วน เธอดึงหนวนหน่วนมานั่งบนเตียงแล้วพูดพร้อมกับแววตาที่แดงก่ำ
“เสื้อผ้าพวกนี้ แม่เตรียมไว้ให้ตั้งแต่ลูกยังเด็ก ซื้อให้ใหม่ทุกปีในวันเกิดของลูกเลยนะ แม่น่ะ หวังว่าวันหนึ่งลูกกลับมาจะได้ใส่ชุดที่เตรียมไว้ให้”
หนวนหน่วนจ้องมองชุดและกระโปรงที่สวยงามพวกนั้น มันโดนจัดวางอย่างเป็นระเบียบอยู่ในตู้ เห็นแล้วก็เคืองจมูก แววตาเริ่มพร่าเลือนไปด้วยน้ำตา ไม่อาจมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
กลับกลายเป็นว่า… ที่ผ่านมายังมีคนเฝ้ารอเธออยู่เสมอ เธอไม่ใช่เด็กที่ไม่มีใครต้องการ
“ลูกสาวของแม่… กลับมาสักที ดีจริง ๆ”
คุณหญิงกู้อุ้มลูกสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน ไม่มีใครนอกจากครอบครัวของเธอเองที่รู้ว่าการสูญเสียลูกสาวตัวน้อยแห่งตระกูลกู้นั้นทำให้เสียใจมากแค่ไหน เธอถึงกับเคยอยากตายด้วยซ้ำ
โชคดีที่เด็กสาวรอดชีวิตมาได้เพราะคนในหมู่บ้านเล็ก ๆ นั่นช่วยไว้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยละทิ้งความพยายามในการตามหาลูกสาวตัวน้อยเลย ตราบใดที่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเธอ ไม่ว่าหนทางจะลำบากแค่ไหนก็จะไปหาให้จนได้ ถึงแม้จะเจอข่าวที่ผิดหวังก็ตาม
แต่ถึงอย่างไร เธอก็ไม่ล้มเลิกการตามหาลูกสาว เพราะเธอคิดถึงลูกสาวตัวน้อยสุดหัวใจ
ตอนได้ยินข่าวของหนวนหน่วน ทั้งครอบครัววิตกกังวลกันมาก จนได้เห็นใบหน้าของหนวนหน่วน ทุกคนก็มั่นใจในทันทีว่าเด็กน้อยคนนี้เป็นลูกสาวของพวกเขาอย่างแน่นอน
พวกเขามั่นใจโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบทางสายเลือดเพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างชัดแจ้งเลย