ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 28 ป้อนผลไม้คุณพ่อ
บทที่ 28 ป้อนผลไม้คุณพ่อ
หนวนหน่วนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เผยแก้มสีแดงระเรื่อสู่สายตาทุกคน นิ้วเล็กจับกางเกงพ่อของตนอย่างประหม่า เด็กน้อยเหลือบมองไปที่ปู่ของตน พยักหน้าลงอย่างเชื่อฟังแล้วเปล่งน้ำเสียงแผ่วเบาออกมา
“ค่ะ”
หลังจากพูดจบ เด็กน้อยก็เม้มปากแน่น ประสานนิ้วที่ดูนุ่มนิ่มเข้าด้วยกันแล้ววิ่งไปหาคุณปู่ด้วยขาสั้น ๆ อย่างรวดเร็ว
“คุณปู่”
เธอเอ่ยเรียกคุณปู่ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับแมวน้อย
ชายชรากอดคนตัวเล็กไว้แล้วลูบผมหลานสาวป้อย ๆ “ไม่ต้องกลัวนะหนวนหน่วน ปู่กับคุณพ่ออยู่ตรงนี้ ตรงนี้เป็นเพื่อนร่วมงานของคุณพ่อหนูทั้งนั้นเลย”
ได้ยินแล้วขนตางอนงามก็สั่นระริก แม้จะยังอยู่ในอ้อมแขนของคุณปู่ เด็กน้อยก็ยกศีรษะขึ้นมองผู้มาใหม่ ผมนุ่มสลวยของหนวนหน่วนฟูฟ่อง ทำให้เจ้าตัวดูเหมือนองค์หญิงตัวน้อยที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาอย่างดีภายในพระราชวังอันเก่าแก่ ท่าทางเหนียมอาย รวมถึงใบหน้าเรียวเล็กนั้นช่างสวยงามเหลือเกิน
หนวนหน่วนจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเชื่อฟัง “สวัสดีค่ะคุณอา”
เด็กน้อยใช้ดวงตาฉ่ำน้ำมองไปที่เหล่าผู้บริหารด้วยกิริยาสุภาพนุ่มนวล
ผู้คนเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในวัยสามสิบปีกันแล้ว แต่ยังไม่มีลูก เมื่อได้มองดูเด็กหญิงตัวเล็กที่แสนเชื่อฟังคนนี้จึงทำให้หัวใจของพวกเขาอ่อนระทวยรวยแรงจนหมดสิ้น รอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนต่างปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“อ่า… สวัสดีหนวนหน่วน”
“หนวนหน่วนเป็นเด็กดีจังเลยนะคะ”
พวกเขาเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าพวกเขาต้องการจะสวมกอดเด็กน้อย แต่ในตอนนี้อาจไม่ใช่เวลาที่สมควร
“มาทำงานให้เสร็จกันเถอะ”
หนวนหน่วนมองดูผู้เป็นพ่ออย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ตัดสินใจปิดการ์ตูนเพื่อไม่ให้รบกวนการทำงาน
ผู้เฒ่ากู้เหมือนจะรู้ว่าหลานสาวคิดสิ่งใดอยู่ เขายกมือขึ้นลูบหัวหนวนหน่วนก่อนจะถอนหายใจออกมา หลานสาวของเขาช่างเป็นเด็กดีเสียจริง เขาหวังอยากให้หนวนหน่วนเอาแต่ใจเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ที่รุ่นราวคราวเดียวกันบ้าง
แต่ดูความแสนดีของหนวนหน่วนสิ ใครจะตำหนิเธอได้ลง?
ถึงแม้ว่าหนวนหน่วนจะไม่ได้ดูการ์ตูน แต่กลับไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด ด้วยความเข้าใจว่าคุณพ่อต้องทำงาน เธอเลยไปนั่งทานอาหารแทน
เด็กน้อยวางจานที่ใส่องุ่นลงบนโต๊ะ หยิบมันขึ้นมาทีละลูกแล้วเริ่มปอกเปลือกองุ่น
เปลือกองุ่นสีม่วงถูกลอกออกเผยให้เห็นเนื้อสีเขียวมรกตด้านใน ปอกเสร็จเธอก็หันไปป้อนองุ่นให้คุณปู่
เมื่อเห็นว่าคุณปู่อ้าปากทาน รอยยิ้มมีความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ภายใต้แสงไฟอันอบอุ่น ผมสั้นฟูของสาวน้อยเปล่งประกายเป็นสีอ่อน ดวงตาของเธอก็ส่องประกายเจิดจ้า ประกอบกับรอยยิ้มอันสดใส เหล่าผู้บริหารต่างอดใจไม่ได้ที่จะมองดูหนวนหน่วน
ช่างเป็นหญิงสาวที่คล้ายกับนายหญิงใหญ่มากเหลือเกิน ทั้งคิ้วและดวงตาก็โก่งสวย สวยจนหาใครเปรียบไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับบุคลิกของนายหญิงใหญ่แล้วยังมีความแตกต่างกันอยู่มากพอสมควร เพราะล่วงลับไปแล้ว นายหญิงใหญ่จึงเป็นหญิงที่สูงศักดิ์สง่างาม ต่างจากหนวนหน่วนที่แลดูคล้ายสัตว์แสนเชื่อง
แต่ใครจะทราบได้ว่าในอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ถึงแม้ว่าคุณหนูน้อยแห่งตระกูลกู้จะดูเชื่องและง่ายต่อการรังแก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสามารถทำเช่นนั้นได้
หนวนหน่วนปอกเปลือกองุ่นแล้วยัดเข้าปาก องุ่นลูกใหญ่ให้ความรู้สึกเต็มปากเต็มคำตอนที่ทานเข้าไป แถมเนื้อองุ่นก็ยังหอมหวานอีกด้วย
อันนี้สำหรับคุณปู่ และอีกอันสำหรับตนเอง ส่วนที่เหลืออยู่ในจานเป็นของคุณพ่อ
เธอนับองุ่นในจานให้สามคนอย่างเงียบ ๆ
พอตั้งใจนับอย่างตั้งใจก็พบว่าพ่อมีองุ่นแปดลูกแล้ว
อืม… ไปดูอย่างอื่นเพิ่มด้วยดีกว่า
“คุณปู่ กินกล้วยค่ะ”
หนวนหน่วนนำกล้วยยัดใส่มือคุณปู่ก่อนจะแกะเม็ดเกาลัดคั่วน้ำตาลออกมา
เสียดายที่เปลือกมันแข็งเกินไป
เด็กน้อยก้มลงมองมือเล็กของตน มันทั้งบอบบางและอ่อนนุ่ม ถึงแม้ว่าบางจุดจะแข็งเป็นไตจากการทำงานในชนบทเป็นเวลานาน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังดูดีมาก เพราะเธอมีวินัยในการรักษาความสะอาด และยิ่งได้รับการดูแลเพิ่มเติมหลังกลับมา ผิวของเธอจึงอ่อนโยนและกระจ่างขึ้นเล็กน้อย อย่างไรเธอก็ไม่ค่อยตัวคล้ำแดด แต่หากไม่ทาครีมกันแดดและต้องทำงานกลางแดดเป็นระยะเวลานาน สุดท้ายก็คงหนีผิวคล้ำแดดไม่ได้
บนมือที่อ่อนนุ่มนั้นเล็บของเธอถูกตัดจนอย่างสะอาดเรียบร้อย นั่นทำให้… เธอไม่สามารถใช้เล็บในการปอกเปลือกเกาลัดได้
แกะ… แกะไม่ออกง่ะ QAQ
“ปู่ช่วยหนูเอง”
ชายชราบีบส่วนปลายแบน ๆ ของเกาลัด ไม่นานเปลือกเกาลัดก็แยกออกจากกันพร้อมกับเสียงดังแคร่ก
หนวนหน่วนเบิกตากว้าง มองคุณปู่ด้วยแววตาชื่นชม
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ชายชรากลับอิ่มเอมใจยิ่งกว่าได้รางวัลเป็นเงินร้อยล้านเสียอีก!
“อันนี้ปอกไม่ยากเท่าเกาลัดนะ หนวนหน่วนอยากลองไหม?”
หนวนหน่วนพยักหน้าขึ้นลงราวกับลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่กำลังจะจิกข้าว จากนั้นก็ลองเลียนแบบวิธีของคุณปู่
ว้าว… เปิดได้แล้ว
หนวนหน่วน “(^ω^)”
ออกแล้ว!
“คุณปู่ดูสิคะ!”
น้ำเสียงของหนวนหน่วนตัวน้อยดังขึ้นด้วยความตื่นเต้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงนุ่มนวลเอาไว้
“เก่งมากเลย”
ผู้เฒ่ากู้ยกนิ้วขึ้นชมหนวนหน่วน
หนวนหน่วนที่ได้รับคำชมรู้สึกทั้งดีใจทั้งเขินอาย ดวงตาสีเข้มฉายแววเป็นประกาย เธอลอกเปลือกเกาลัดออกแล้วหยิบเอาเนื้อเกาลัดที่มีรสสัมผัสนุ่มเหนียวหวานออกมาใส่จานใบเล็กที่อยู่ด้านข้าง
“อันนี้ของคุณพ่อ”
หนวนหน่วนแกะได้ลูกหนึ่งก็ดีใจราวกับลูกแมวตัวน้อยแล้ว
ผู้เฒ่ากู้พูดขึ้น “แล้วอันไหนของปู่ล่ะ?”
ดวงตาใสซื่อไร้เดียงสาของหนวนหน่วนจะจับจ้องไปยังลูกเกาลัดที่อยู่ในมือชายชรา
ผู้เฒ่ากู้ “…อันนี้ไม่นับสิ”
“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวหนวนหน่วนปอกให้คุณปู่ค่ะ”
น้ำเสียงผ่อนคลายและนุ่มนวลราวกับอยากเกลี้ยกล่อมเด็กที่ไร้เดียงสาทำให้ชายชราตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
แต่หลังจากได้ทานเกาลัดเนื้อนุ่มเหนียวหวานที่ถูกแกะโดยหนวนหน่วนแล้ว เขาก็รู้สึกพอใจขึ้นในทันที
หนวนหน่วนที่ทานเกาลัดไปสามลูกเปลี่ยนมาเอามือเท้าคาง หลังจากยัดเข้าปาก แก้มของเธอก็พองขึ้น ดวงตากลมโตนั้นราวกับหนูแฮมเตอร์ตัวน้อยที่ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักมาอย่างดี
หลังจากเหล่าผู้บริหารออกไปแล้ว หนวนหน่วนเองก็ยังเห็นว่าคุณพ่อของตนวุ่นวายกับการทำงานอยู่ เธอจึงวิ่งไปหาพร้อมกับขนมผลไม้ด้วยขาสั้น ๆ ของตน ก่อนจะเอ่ยพูดอย่างแผ่วเบา
“คุณพ่อกินสิคะ กินก่อนแล้วค่อยไปทำงาน”
เด็กน้อยวางจานเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเนื้อองุ่น สตอเบอรี่ แอปเปิล เกาลัด และเนื้อผลไม้แห้งอื่น ๆ ลงหน้าพ่อของตน
กู้หลินโม่บีบระหว่างคิ้วอย่างเหนื่อยล้าจากการทำงาน เมื่อเห็นลูกสาวแบกของมากมายมาป้อนให้เขา ความเหนื่อยล้าก็หายไปทันที
“หนวนหน่วนทำให้คุณพ่อเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
หนวนหน่วนตัวน้อยผงกหัวก่อนจะป้อนสตอเบอรี่ให้เขา
“คุณพ่อพักผ่อนเถอะค่ะ เหนื่อยแล้ว”
กู้หลินโม่หอมลูกสาวไปฟอดหนึ่งก่อนจะยอมกินผลไม้ที่เธอเตรียมมาให้แต่โดยดี