ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 271 โอทิส นายมีห้องลับอยู่ในบ้านด้วย
บทที่ 271 โอทิส นายมีห้องลับอยู่ในบ้านด้วย
หนวนหน่วนพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้เจ้าเสือขาวตัวใหญ่จอมเย่อหยิ่งลงมาจากต้นไม้ หลังจากลงมามันก็เข้ามาดมกลิ่นตามตัวเด็กหญิง สีหน้าของมันแปรเปลี่ยนไปในทันที
โอทิส ‘เฮอะ กลิ่นไอ้เสือตัวนั้น’
บางทีกลิ่นของสัตว์ก็แรงเหมือนกัน โอทิสจึงได้กลิ่นของไอริสที่ติดตัวหนวนหน่วนมา สีหน้าของโอทิสดูไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ แววตาของมันเต็มไปด้วยความดูถูกอย่างมาก
ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงทำนิสัยเหมือนเจ้าเหมียวตัวใหญ่ได้ขนาดนี้
เห็นได้ชัดว่าเจ้าโอทิสไม่ชอบกลิ่นตัวของหนวนหน่วนตอนนี้เลย มันฟึดฟัดจนน้ำมูกไหลออกมาอย่างน่าขยะแขยง ก่อนจะเริ่มทำการตะปบดึงเด็กหญิงเข้าไปถูไถกับหน้าท้องของมัน
เดี๋ยวถูไถกลิ้งไปกลิ้งมาสักพักก็หอมเองแหละ!
หนวนหน่วนที่กำลังโดนมันพากลิ้งไปมา “…”
พวกพี่ชายของหนวนหน่วนที่ได้แต่กำหมัดแน่น “…”
ไม่กี่นาทีต่อมา เจ้าโอทิสก็ไล่ดมกลิ่นบนตัวของเธออีกครั้ง เมื่อไม่ได้กลิ่นของสัตว์ตัวอื่นแล้ว มันก็ปล่อยเธอไปอย่างพอใจ
หนวนหน่วนลุกขึ้นยืนด้วยความงุนงง โอทิสเดินวนรอบตัวของหนวนหน่วน เหมือนมันจะยั่วโมโหให้คนรอบข้างของหนวนหน่วนได้สำเร็จด้วย
กู้หนานและคนอื่น ๆ ‘มีดอยู่ไหน’
“โอทิสทำอะไรน่ะ คิกคิก” หนวนหน่วนโดนโอทิสจั๊กจี้
ไคน์ดึงสติกลับมาได้อีกครั้งก่อนจะถือกล้องแล้ววิ่งตามถ่ายภาพของมันอย่างตื่นเต้น “โอทิสมองฉันหน่อย ฉันจะถ่ายรูปให้!”
เขายกกล้องขึ้นมา ขณะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ ไม่กี่วินาทีต่อมาตัวของหนวนหน่วนก็ลอยเคว้งคว้างขึ้นกลางอากาศ
โอทิสคาบกระเป๋าเป้ของหนวนหน่วนขึ้น ก่อนจะหันหลังเดินแล้ววิ่งจากไปอย่างว่องไว
พวกเขาวิ่งตามเจ้าสี่ขาตัวใหญ่แทบไม่ทัน และที่สำคัญ เจ้านี่มันยังหลบซ่อนตัวเก่งอีกด้วย
“แม่ง!”
กู้หมิงหลี่มองตาละห้อย เขาทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่มองดูเจ้าเสือตัวใหญ่ที่คาบน้องสาวของเขาเอาไว้ในปากแล้วเดินหายไปในชั่วพริบตา
สีหน้าของกู้หนาน ไป๋โม่ซูและคนอื่น ๆ ต่างเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
ไคน์ผู้ถือกล้องอย่างโง่งม “…”
เผลอแป๊บเดียวเอง นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
กู้หมิงอวี๋เตะกิ่งไม้ที่อยู่ข้างเท้าของตัวเองอย่างไม่พอใจ “ไอ้เสือบ้านี่ กล้าดียังไงมาขโมยน้องสาวของเราไป!”
กู้อันตะโกนไล่ตามไป “เฮ้!!! หนวนหน่วนล่ะ? น้องของผมล่ะ? ขนาดพี่ใหญ่ก็ยังตามไม่ทันอีกเหรอ!”
ทันทีที่กู้อันพูดจบก็โดนสายตาอันเย็นชาของกู้หนานจ้องมองมา ทำเอาต้องหุบปากลงทันที แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังข้องใจอยู่ดี
น้องสาวที่เพิ่งได้เจอกันเมื่อวานนี้หายตัวไปอีกแล้ว!
กู้หนานพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ตามหามัน!”
มันเป็นเพียงคำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกราวกับว่าจะฉีกโอทิส
ออกเป็นชิ้น ๆ
ขณะเดียวกัน โอทิสก็รู้สึกถึงจิตสังหาร
มันคาบร่างของเด็กหญิงตัวน้อยเอาไว้ในปาก สายตากวาดมองโดยรอบอย่างระแวดระวัง นี่เป็นอาณาเขตของมัน จะมีเจ้าพวกเต่าหัวหดหน้าไหนกล้าเข้ามาไหมนะ?
คิดมากเกินไปหรือเปล่า?
“โอทิส”
หนวนหน่วนตัวน้อยเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เธอห้อยโตงเตงไปพร้อมกับกระเป๋าเป้อยู่เนิ่นนาน ได้แต่แกว่งขาสั้น ๆ ของเธออย่างอึดอัด สีหน้าเลยไม่ค่อยดีนัก
เจ้าเสือขาวค่อย ๆ วางร่างเล็กลงอย่างระมัดระวัง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอแล้วจ้องมองเด็กหญิงด้วยดวงตาสีทองอร่ามไร้เดียงสา
“พาหนวนหน่วนมาที่นี่ทำไม? พวกพี่ชายของฉันจะเป็นห่วงเอาได้นะ”
เด็กหญิงจัดแจงกระเป๋าและเสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าเสือตัวใหญ่ที่กำลังนั่งเชิดหน้าขึ้น
เธอสะพายกระเป๋าเป้ให้กระชับแล้วหันหน้ามุ่งตรงไปหาพี่ชายของตัวเอง
“โอทิสจะพาหนวนหน่วนมาที่นี่โดยไม่บอกกล่าวไม่ได้นะ พวกพี่ชายของฉันจะเป็นห่วงเอา แล้วถ้าต่อไปในวันข้างหน้าเขาไม่พาฉันมาหาโอทิสล่ะ? รีบพาหนวนหน่วนกลับไปหาพี่ชายเลย”
หนวนหน่วนก้าวเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกเจ้าเหมียวตัวใหญ่พุ่งเข้ามาคาบกระเป๋าเป้ของเธอจากทางด้านหลังอีกครั้ง ตอนนี้เธอไม่สามารถเดินไปข้างหน้าต่อได้เลย
หนวนหน่วน “…”
ตอนที่เสือขาวตัวใหญ่กระโจนเข้าหา หนวนหน่วนเกือบจะโดนมันล้มทับ ดูเหมือนว่าเจ้าเสือขาวตัวใหญ่นี่จะควบคุมแรงของตัวเองไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่
โอทิสหยุดอยู่ตรงหน้าหนวนหน่วน ใช้อุ้งเท้าดึงตัวเธอให้หันหน้าไปอีกทางพลางดันหลังให้เดินไปข้างหน้า
เป็นเพราะหนวนหน่วนตัวเล็กจึงทำให้มีแรงน้อย การโดนผลักแบบนี้ทำให้เธอต้องพยายามทรงตัวอย่างหนัก
“โอทิสจะพาหนวนหน่วนไปไหน? พาพวกพี่ ๆ ไปด้วยไม่ได้เหรอ? ป่านนี้พวกพี่ ๆ คงกังวลกันแล้ว!”
แก้มน้อยสีขาวดุจหิมะพองขึ้นด้วยความไม่พอใจ
โอทิสกระดิกหูของตัวเอง เหมือนจะได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้าพวกสองขานั่นเลย?
ไม่ได้การ!
“โอเค โอเค หนวนหน่วนจะตามไปนะ”
ในที่สุดเด็กหญิงก็ยอมเดินไป เธอลูบหัวเจ้าเสือขาวตัวใหญ่แล้วไปยืนอยู่ข้างมัน
โอทิสหมอบลงบนพื้น ตวัดหางไปโอบรอบเอวของหนวนหน่วนแล้วดึงตัวเธอเข้าหาให้ขึ้นไปบนตัวของมัน
“อยากให้ฉันขึ้นไปขี่เหรอ?”
เจ้าโอทิสพยักหน้าลง
“ถ้างั้นรอแป๊บนะ ฉันขอส่งข้อความหาพวกพี่ ๆ ก่อน พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวล”
หนวนหน่วนเอนกายพิงเจ้าเสือขาวตัวใหญ่ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อส่งข้อความ
[พี่คะ โอทิสจะพาหนวนหน่วนไปเดินเล่น ไม่ต้องกังวลไปนะคะ หนวนหน่วนไม่เป็นอะไร]
ทันทีที่ส่งข้อความไปก็ได้รับการตอบกลับจากบรรดาพี่ชายของเธอทันที
กู้หนาน [ระวังตัวด้วย]
กู้เป่ย [เข้าใจแล้ว หนวนหน่วนจำได้ใช่ไหมว่าเราติดต่อหากันผ่านทางข้อความได้]
กู้หมิงอวี๋ [เจ้าเสือโง่นั่นพาเธอไปไหน? ทำไมรู้สึกว่ามันคิดร้ายยังไงไม่รู้!]
กู้หมิงหลี่ [จะกลับมาได้ยัง?]
ไป๋โม่ซู [เดี๋ยวพวกเราจะรีบไปหา]
ไป๋โม่ฮัว [ว้าว มีของน่ากินบ้างไหม? อยากไปเหมือนกัน]
กู้อัน [เจ้าเสือตัวเหม็นกล้าขโมยน้องสาวของฉันไป เดี๋ยวเจอดีแน่!]
กู้อันดูเหมือนจะยังประเมินความแข็งแกร่งของตัวเองไม่ถูก
หนวนหน่วนเพิ่งไล่อ่านข้อความของพี่ ๆ เสร็จ กำลังจะไล่ตอบกลับไป แต่ก็โดนโอทิสเรียกเสียก่อน
[พี่ ๆ โอทิสจะให้หนูขี่หลังมัน ตอนนี้ยังคุยไม่ได้ ไปก่อนนะคะ]
หลังจากที่พิมพ์ข้อความส่งให้พวกพี่ ๆ เรียบร้อยแล้ว เธอก็ขึ้นขี่บนหลังของโอทิสพลางกอดคอมันแล้วพูดเบา ๆ
“พร้อมแล้ว”
โอทิสลุกขึ้นยืน มันออกตัววิ่งอย่างรวดเร็วจนรู้สึกถึงลมที่พัดผ่านไปอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ ไม่รู้ว่ามันทำได้ยังไง ตอนวิ่ง เสียงฝีเท้าของมันกลับเงียบเชียบมาก
มันเบามากจนพวกสัตว์กินพืชที่บังเอิญมองเห็นต่างพากันตกอกตกใจจนแทบลมจับกันเลยทีเดียว
โอทิสพาหนวนหน่วนมาหยุดอยู่ตรงหน้าถ้ำ
เธอไถลตัวผ่านขนที่เกลี้ยงเกลาของมันลงมายืนบนพื้น ยืนพิงมันแล้วมองเข้าไปในถ้ำ
“โอทิส นี่คือถ้ำของแกเหรอ?”
ขนปุกปุยของเจ้าเสือขาวตัวใหญ่แนบชิดติดกับร่างของเด็กหญิง มันสะบัดกวัดแกว่งหางไปมาแล้วพาเดินเข้าไป
ถ้ำนี้ค่อนข้างลึกมาก เด็กหญิงรู้สึกใจเต้นแปลก ๆ จนต้องเดินเกาะติดเจ้าโอทิส
ภายในถ้ำไม่มีกลิ่นเหม็นอะไรเลย แม้แต่สภาพพื้นดินที่กำลังเหยียบย่ำอยู่ก็ค่อนข้างแห้ง เสียอย่างเดียวคือมันมืดไปหน่อย
แต่รูปลักษณ์ของมันที่เป็นเสือขาวมีลายสีดำแต่งแต้มนั้นค่อนข้างโดดเด่นเมื่อเทียบกับถ้ำนี้ อีกทั้งดวงตาสีทองอร่ามคู่นั้นของมันก็ดูเป็นประกายมากด้วย
โอทิสดูเกรงใจมากเพราะรู้ว่าเด็กหญิงค่อนข้างกลัว มันเดินช้า ๆ พลางใช้หางของมันพันรอบเอวแล้วดึงเธอมาเดินใกล้ ๆ
มีเสือขนปุกปุยตัวใหญ่เดินวนอยู่ข้าง ๆ ถึงแม้ว่าสถานที่นี้จะมืดไปหน่อย แต่เธอก็รู้สึกปลอดภัยที่มีโอทิสอยู่ข้างกาย
หลังจากที่ก้าวเดินกันมาอย่างช้า ๆ ใช้เวลาอยู่ประมาณสิบนาทีได้ ในที่สุดก็ได้เห็นแสงสว่างราง ๆ
ภายในตัวถ้ำ เมื่อเทียบกับทางที่เดินเข้ามาแล้วมันช่างดูกว้างใหญ่มาก สภาพแวดล้อมค่อนข้างแห้งและสะอาด มีแสงสาดส่องเข้ามาผ่านโพรงเหนือเพดานถ้ำอยู่บ้าง
โพรงพวกนั้นไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ใหญ่พอที่แสงจะสาดส่องเข้ามาได้ ทำให้ภายในถ้ำไม่มืดจนเกินไป
“โอทิสนอนที่นี่เหรอ? กว้างมากเลย!”
ดูจากน้ำเสียง ที่นี่คงกว้างมากจริง ๆ
โอทิสเดินต่อไปในถ้ำพร้อมกับหนวนหน่วน แล้วไปหยุดลงตรงหน้าหินก้อนใหญ่
เธอมองดูโอทิสผลักหินก้อนใหญ่ออกด้วยตัวมันเอง หินสูงใหญ่พอ ๆ กับตัวของมันเลย มันใหญ่มากจนโอทิสต้องใช้แรงผลักมันออกอย่างช้า ๆ
หลังจากที่ผลักหินออกไปแล้ว มันก็กลายเป็นประตูทางเข้าสู่อีกสถานที่แปลกใหม่อีกแห่งหนึ่ง
ดวงตาของหนวนหน่วนเบิกกว้าง
“โอทิส แกมีห้องลับอยู่ในบ้านด้วย!”
ตอนที่เธอดูรายการทีวีกับพี่ชาย บางครั้งก็เคยเห็นพวกห้องลับแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโอทิสเองก็มีเหมือนกัน!