ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 27 หนวนหน่วนคนขี้อาย
บทที่ 27 หนวนหน่วนคนขี้อาย
ภาพนี้เป็นภาพที่ทุกอย่างลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ภายในไม่กี่วินาที รูปภาพนี้ก็แพร่กระจายไปทั่ว
[ฉันเพิ่งถ่ายมา! ทุกคนใจเย็น ๆ! อย่าให้ประธานกู้จับได้!]
[รู้แล้วน่า รีบเซฟเลยทุกคน จะได้รีบลบ!]
หลี่เต๋อจู้มองดูรูปถ่ายที่โพสต์ลงในกลุ่ม ก่อนจะรีบบันทึกภาพทันที จากนั้นเขาก็ครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่งว่าควรบอกเจ้านายหรือเปล่า
“ทำอะไรอยู่?”
เสียงที่คุ้นเคยด้านหลังทำเอาหลี่เต๋อจู้ตัวแข็งทื่อ เขารีบปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือทันที
ดวงตาสีเข้มของกู้หลินโม่จ้องมา ดูเหมือนว่าจะเห็นรูปถ่ายของตนกับลูกสาวเข้าให้แล้ว!
สิ่งแรกที่กู้หลินโม่เห็นคือใบหน้าน้อย ๆ ที่อ่อนโยนของลูกสาว แต่ไม่ได้เห็นตัวเองด้วย
“นั่นรูปลูกสาวฉัน?”
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามว่าได้มันมาจากไหน
หลี่เต๋อจู้ชะงัก ไม่กังวลเรื่องที่ต้องปกปิดเป็นความลับอีกต่อไป แต่คนตายก็ไม่ได้น่าสงสารหรอก ขอโทษนะทุกคน!
หลี่เต๋อจู้พยายามดึงสีหน้าของตนเองให้สงบนิ่งก่อนจะเปิดโทรศัพท์มือถือของตนขึ้น
“ประธานกู้ นี่คือรูปท่านกับคุณหนูครับ มีคนถ่ายเอาไว้ในโรงอาหาร ตอนนี้ถูกโพสต์ลงในกลุ่มแล้ว”
ขณะพูด เขาก็ยื่นรูปถ่ายไปให้ด้วยความเคารพ ส่วนในใจกล่าวขอโทษคนที่โพสต์รูปอย่างเงียบ ๆ
หลังจากรับโทรศัพท์ กู้หลินโม่ก็จ้องที่รูปภาพอย่างงุนงง และในที่สุดดวงตาของเขาก็สบเข้ากับรูปของตนเองในภาพถ่าย
นั่นเขาจริงหรือ?
บรรยากาศที่รายล้อมตัวเขาและลูกสาวดูอบอุ่นมาก ในขณะที่หลี่เต๋อจู้เริ่มรู้สึกประหม่า กู้หลินโม่ก็ส่งโทรศัพท์คืนให้เขา
“ส่งรูปให้ฉันหน่อย ถือว่ากล้องดีมาก”
หลังจากพูดจบ กู้หลินโม่ก็เดินจากไปอย่างไม่รีบร้อน
หลี่เต๋อจู้มองตามแผ่นหลังเจ้านายของตนไปด้วยสายตาสับสนอยู่ประมาณสองสามวินาที ก่อนจะตั้งสติได้และรู้ความหมายของประโยคก่อนหน้า
หลี่เต๋อจู้ “!!!”
ประธานกู้ไม่เพียงแต่ไม่สนใจ แต่เขายังชมภาพถ่ายนี้ด้วย นอกจากนี้ยังไม่ว่าอะไร!
หลี่เต๋อจู้ส่งรูปให้ประธานกู้อย่างไม่คิดอะไร แต่ภายในใจแอบยกยออยู่นิด ๆ
[ประธานกู้กับคุณหนูดูอบอุ่นมากเลยเนอะ]
ติ๊ง…
หลังจากที่เขาส่งรูปไปไม่นาน โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เปิดดูก็พบว่าเป็นข้อความจากประธานกู้!
[ฉันอารมณ์ดี ไว้จะเพิ่มเงินเดือนให้เดือนนี้]
หลี่เต๋อจู้ยิ่งตะลึง แต่ก็โล่งใจที่ไม่โดนด่า
ประธานกู้นี่ก็… หลงลูกสาวอยู่นะ
คุณหนูจงเจริญ!
….
หลังจากได้นอนไปในช่วงบ่ายถึงหนึ่งชั่วโมง หนวนหน่วนก็ตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง เรือนผมฟูฟ่องขึ้นจนดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย
“หนวนหน่วน ตื่นแล้วค่ะ”
ผู้เฒ่ากู้ก็ตื่นแล้วเช่นกัน แต่หลังจากตื่นแล้วเขากลับไม่ได้ออกไปไหน เพียงแค่หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอยู่ภายในห้องและเฝ้ามองหนวนหน่วนตัวน้อยที่กำลังนอนหลับใหลอยู่แบบนั้น
เมื่อเห็นว่าหนวนหน่วนตื่นแล้ว เขาก็วางหนังสือในมือลงทันที
ประตูห้องถูกเปิดออก ก่อนจะพบว่ากู้หลินโม่เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วนม
“หนวนหน่วน ยังอยากนอนอยู่ไหม?”
หลังจากถามเขาก็วางนมไว้บนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปหาเธอ
หนวนหน่วนรู้สึกได้ว่าดวงตาตนพร่าเลือนไปด้วยความง่วงงุนจึงเริ่มส่ายหัวไปมา เด็กน้อยยกแขนเล็ก ๆ ขึ้นขยี้ตา พออ้าปากหาว ดวงตากลมโตก็ชุ่มไปด้วยน้ำตา
“ไม่นอนแล้วค่ะ”
เธอตอบกลับเสียงหวาน ก่อนจะมองไปยังสองคนตรงหน้าแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว
“คุณปู่ คุณพ่อ~”
น้ำเสียงที่นุ่มนวลและไพเราะของเจ้าน้ำนมตัวน้อยช่างจับใจยิ่งนัก สายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองจึงขับประกายอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ
“ตื่นแล้วก็ดื่มนมสักแก้ว”
ผู้เฒ่ากู้ประคองคนตัวเล็กขึ้นจากเตียง ส่วนกู้หลินโม่ส่งแก้วนมให้
หนวนหน่วนพิงผู้เป็นบิดา ถือแก้วนมด้วยมือทั้งสองข้าง จิบมันทีละนิด นมอุ่นมีรสหวานเล็กน้อย เป็นรสที่ละมุนลิ้นเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากดื่มเสร็จ คราบนมสีขาวก็ติดอยู่บนใบหน้าของเธอเป็นรูปหนวด เด็กน้อยพยายามแลบลิ้นเลีย จากนั้นก็หยิบกระดาษที่คุณปู่ส่งให้มาเช็ดทำความสะอาดปากเล็ก ๆ ของตน
“ขอบคุณค่ะคุณปู่~” เด็กหญิงตัวน้อยกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
หนวนหน่วนไม่ได้ขอให้ใครอุ้มเมื่อลุกขึ้นจากเตียง เธอลุกด้วยตัวเอง ก่อนจะสวมใส่รองเท้าอย่างเชื่อฟังแล้วสางผมที่ยุ่งเหยิงสองสามครั้ง
“อีกสักพักถึงพ่อจะเลิกงาน หนวนหน่วนดูการ์ตูนรอพ่อกับคุณปู่ก่อนได้ไหม?”
กู้หลินโม่ลูบศีรษะของหนวนหน่วน เขากลัวว่าสาวน้อยจะเบื่อ
คนตัวเล็กพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะนั่งลงบนเบาะ กอดกระต่ายสีชมพูอ่อนและดูทีวีอย่างเชื่อฟัง ด้วยความกลัวว่าจะรบกวนการทำงานของพ่อ เธอจึงลดเสียงการ์ตูนลงอย่างระมัดระวัง
สีหน้าหนวนหน่วนตอนดูการ์ตูนค่อนข้างจริงจังเลยทีเดียว ดวงตาขับประกายเปล่งปลั่ง หากเห็นฉากตลกเธอก็ทำเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากขึ้นแล้วหลบตา เป็นกิริยาที่นุ่มนวลน่ามองอย่างยิ่ง
หนวนหน่วนทานองุ่นสีม่วงลูกกลมจนแก้มป่องเหมือนหนูแฮมเตอร์ตัวเล็ก ก่อนจะป้อนให้คุณปู่ที่แอบดูเจ้าของห้องที่กำลังตั้งใจทำงานอย่างหนัก
หลังจากครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้ทำการหยิบองุ่นสีม่วงลูกใหญ่ กระโดดลงจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปหาพ่อของตน
“คุณพ่อ กินสิคะ หวานนะ”
กู้หลินโม่มองไปยังลูกสาวผู้แสนเชื่อฟังของตน ความรู้สึกอบอุ่นพลันก่อขึ้นภายในจิตใจ เขาจะอ้าปากแต่โดยดี
จากนั้นคนตัวเล็กก็ไปหยิบสตอเบอรี่สีแดงลูกใหญ่มาอีกหนึ่งลูก
“อันนี้ด้วยค่ะ”
โก้หลินโม่ “ขอบคุณมากลูกสาวพ่อ”
หนวนหน่วนยิ้ม มุมปากสีชมพูยกขึ้นเล็กน้อยจนเห็นฟันขาวเกลี้ยงเกลา เธอกุมมือผู้เป็นพ่อเอาไว้ ก่อนจะเอนศีรษะซบลงกับฝ่ามือของเขา
“คุณพ่อทำงานหนักมากเลยค่ะ”
ทว่าจู่ ๆ ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก ตามมาด้วยเหล่าผู้บริหาร พวกเขาได้เห็นภาพที่น่ารักที่สุดในโลกพอดิบพอดี!
เอียงหน้าซบฝ่ามือนี่มันอะไรกัน น่ารักเกินไปแล้ว!
สายตาหลายคู่จับจ้องไปที่หนวนหน่วนตัวน้อยที่อยู่ข้างกายกู้หลินโม่
เมื่อหนวนหน่วนได้ยินเสียงประตูเปิดออกก็หันขวับไปยังต้นเสียง ดวงตากลมโตสีดำสนิทจึงจ้องมองไปที่ผู้มาเยือนทันที
หน้าของเด็กน้อยเริ่มแดงก่ำ เธออายจนต้องซุกใบหน้าลงบนตักของผู้เป็นพ่อด้วยความเขินอายแล้วนิ่งไปราวกับตุ๊กตาหุ่นไม้
อ๊ากก นี่ก็น่ารักเกินไปแล้ว!
“เอ่อ… ประธานกู้ครับ พวกเรามีเรื่องงานจะคุยครับ”
ผู้บริหารแสดงเจตจำนงออกไป แม้จะยังงุนงงเมื่อมองเห็นหนวนหน่วนซบหน้าอยู่บนตักผู้เป็นพ่อโดยแทบไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย
กู้หลินโม่พยักหน้าให้พวกเขาก่อนจะจ้องมองลงไปที่เด็กสาวตัวน้อยพร้อมกับรอยยิ้ม ตอนนี้เจ้าตัวแสร้งทำเป็นเหมือนว่าตายไปเพราะความเขินอาย
“หนวนหน่วนมาหาปู่ก่อนไหม”
น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนมากจนผู้รับฟังแทบละลายได้ แต่ผู้คนหน้าประตูกลับยืนตัวสั่นเทา ทั้งยังเหลือบมองมาที่กู้หลินโม่ด้วยสายตาแปลก ๆ
แม้ว่าประธานกู้จะมีมาดสง่างาม แต่เขาก็ไม่เคยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเช่นนี้มาก่อน
อะไรกันเนี่ย…