ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 262 ช็อก
บทที่ 262 ช็อก
เหมือนจะมีอะไรบางอย่างอยู่ใต้ท้องของเสือขาว แต่เจ้าเสือนี่ตัวใหญ่มาก ทุกคนเลยมัวแต่ตกตะลึง ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่อยู่ใต้ท้องของมันเลย
หนวนหน่วนตื่นขึ้นในที่สุด เด็กหญิงลุกนั่งด้วยความงุนงงก่อนจะขยี้ตา สภาพอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นเช่นนี้ เธอได้แต่เอนตัวเข้าหาสิ่งที่ให้ความอบอุ่น ก่อนจะใช้มือเล็กลูบไล้ท้องน้อยของเจ้าเสือขาวตัวใหญ่ไปมา
ในขณะที่กำลังหาว เธอก็นั่งมองผู้คนที่อยู่ในถ้ำด้วยสายตาว่างเปล่า
คนอื่น ๆ ที่ได้ยินเสียงเสือคำรามก็ตกอกตกใจกันเป็นแถบ “!”
แม่เจ้าโว้ย! ดูสิ่งที่เกิดขึ้นนี่สิ!
ทุกคนต่างมองไปยังเด็กหญิงที่เพิ่งตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับอยู่ใต้ท้องของเสือขาวตัวใหญ่ จนดวงตาแทบจะถลนออกมา
“เราเป็นใครแล้วอยู่ที่ไหนเนี่ย?”
ตอนนี้สมองของหนวนหน่วนขาวโพลนไปหมด เธอยังดูงัวเงียนิดหน่อย เพราะแบบนี้ถึงดูน่ารักน่าชังมาก
แต่เมื่อสายตาของเธอเริ่มปรับโฟกัสได้ เด็กหญิงก็ค่อย ๆ มองเห็นพวกพี่ชายของตัวเอง เธอเหยียดแขนออกไปข้างหน้า กางมันออกแล้วเอ่ยออกไปเบา ๆ
“พี่ใหญ่~”
เมื่อดวงตาของกู้หนานสบประสานเข้ากับดวงตาของน้องเล็กแล้ว เขาก็สูดลมหายใจอันแสนเยือกเย็นเข้าลึก ๆ สายตาแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที
เขารีบเดินมุ่งหน้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“กรร!”
เจ้าเสือขาวไม่ค่อยพอใจนัก มันสวมกอดปกป้องคนตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมแขนแล้วจ้องมองชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างเลือดเย็น
‘เข้ามาอีกก้าวเดียวฉันจะฆ่าแก!’
ไป๋โม่ซู “โอทิส”
เสือขาวหันหน้าไปทางเขาแล้วมองอย่างดุร้าย
‘เรียกหาพ่อแกเหรอ!’
ไป๋โม่ซู “…”
เขาตาฝาดหรือมันทำตัวแปลก ๆ ไปนะ?
เมื่อละสายตาจากไป๋โม่ซูแล้ว โอทิสก็จ้องไปที่กู้หนานด้วยแววตาดุร้ายอีกครั้ง
ทั้งเสือทั้งคนต่างก็ไม่ยอมกัน บรรยากาศจึงเริ่มตึงเครียดขึ้น ราวกับว่าพร้อมจะปะทะกันอยู่ทุกเมื่อ
คนอื่นที่หายจากอาการช็อกแล้ว เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะสู้กัน พวกเขาก็เกร็งขึ้นมาทันที
ฮือ ตายแน่ ๆ เจ้าเสือขาวตัวใหญ่แบบนี้จะฆ่ามันได้ยังไงกันล่ะ!
สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือ คนที่พวกเขาออกตามหาดันมาอยู่ที่ถ้ำเดียวกันกับเสือ แบบนี้มันใจกล้ายิ่งกว่าเสืออีกนะ!
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเด็กหญิงคนนั้นกัน? ทำไมถึงโดนเสือเอาไปเลี้ยงได้?!
“โอทิส”
หนวนหน่วนตื่นเต็มตาแล้ว เมื่อมองเห็นพี่ใหญ่กับพี่เล็ก เธอก็ดีใจมาก แต่แล้วความดีใจก็สลายไปเมื่อรับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างโอทิสกับพี่ใหญ่ของเธอ
เธอวางมือเล็กลงบนหัวของเสือขาวตัวใหญ่
“โฮก”
เมื่อมือเล็กของเด็กหญิงวางอยู่บนหัวของเสือ ด้วยความที่ภาพลักษณ์ของมันในตอนนี้ดูดุร้ายมาก ทุกคนจึงพากันเป็นห่วงเธอ
พวกเขาคิดว่ามือเล็ก ๆ ของเธอจะหายวับไปในไม่กี่วินาทีข้างหน้า ทุกคนต่างยกมือขึ้นปิดตาด้วยความที่ไม่อยากเห็นภาพหวาดเสียว
“โอทิสเด็กดี นี่คือพี่ใหญ่ของหนวนหน่วนเอง อย่าดุนักสิ”
เมื่อไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างที่จินตนาการเอาไว้ คนที่ปิดตาไปก็เปิดตามองดูอีกครั้ง ก่อนจะตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า
พวกเขานี่ช่างโง่งมเสียจริง
เด็กหญิงไม่เพียงแต่ไม่ถูกเจ้าเสือขาวตัวนั้นกัดกิน แต่ยังจับหัวของมันด้วยมือทั้งสองข้างได้ นอกจากนี้มันก็ไม่ได้รู้สึกโกรธด้วย
ไม่เพียงแค่ไม่โกรธเท่านั้น เมื่อมันได้ยินสิ่งที่เด็กหญิงพูด เสือขาวก็สะบัดหัวของมันไปมาแล้วหยุดแยกเขี้ยว
มันค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก จากนั้นก็มองดูเด็กหญิงวิ่งออกไปหาอ้อมกอดของมนุษย์คนนั้น
เจ้าเสือขาวดูไม่พอใจสักเท่าไหร่ และด้วยใบหน้าที่ใหญ่โตของมันจึงสามารถแสดงสีหน้าบ่งบอกสิ่งที่มันแอบคิดได้ มันคงคิดประมาณว่า ‘ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดี อย่ามาวุ่นวาย’
มันสะบัดกวัดแกว่งหางไปมาราวกับฟาดแส้
ไป๋โม่ซูยืนมองอยู่ด้านข้างพลางจ้องมองสีหน้าที่แสดงออกมาของโอทิสอยู่หลายวินาที
โอทิสจ้องมองกลับไปด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง
‘มองหาอะไร!’
ไป๋โม่ซู ‘พิสูจน์ละ เจ้าเสือนี่เป็นอิโมติคอนเดินได้นี่เอง’
เขาแอบคิดอยู่ภายใจ การแสดงออกของมันดูเป็นธรรมชาติมากกว่าของพี่ใหญ่เสียอีก
หนวนหน่วนกำลังสวมกอดพี่ใหญ่อย่างมีความสุข เธอเอาใบหน้าเล็กแนบชิดเข้ากับสีหน้าที่เรียบเฉยและแฝงไปด้วยความเคร่งขรึมของพี่ชาย
กู้หนานยกยิ้มขึ้นนิดหน่อย เมื่อเทียบกับการแสดงสีหน้าของเจ้าเสือขาวแล้วถือว่าน้อยกว่ามาก
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ พวกพี่มาได้ยังไงคะ”
กู้หนานกอดคนตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมแขนพร้อมก้มหน้าพินิจน้องสาว เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เพียงแต่ไม่กลัวการหลงป่าครั้งนี้ แต่ยังมีพลังล้นเหลืออีกมากด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาก็สบายใจขึ้นมานิดหนึ่ง
“มาตามหาหนวนหน่วน”
โดยปกติแล้วเขาพูดน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเลือกสรรคำมาพูดให้เข้าใจอย่างชัดเจนในไม่กี่พยางค์เสียมากกว่า
กู้อันละสายตาจากเจ้าเสือขาวแล้วมองไปยังน้องสาวกับพี่ชายของตัวเองด้วยสายตาไม่พอใจสักเท่าไหร่
“หนวนหน่วน ในสายตามีแต่พี่ใหญ่เหรอ ไม่เห็นมองมาที่พี่บ้างเลย พี่เองก็อยากกอด พี่ใหญ่ได้กอดแต่ทำไมพี่ไม่ได้กอดล่ะ รู้ไหมว่าพี่อุตส่าห์ใช้แต้มบุญในการมาตามหาเธอเลยนะ ถึงได้มาเจอนี่ไง”
เขาพูดถึงเรื่องความสำเร็จในการออกตามหาออกมาได้โดยไม่ถ่อมตนเลยสักนิด
หนวนหน่วนจ้องมองพี่ชายคนเล็กของตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วครุ่นคิดแล้วพูดเอ่ยชมเขาไปหนึ่งประโยคอย่างชำนิชำนาญ
“พี่กู้อันเก่งมากเลยค่ะ!”
กู้อันภูมิใจมาก “แน่นอน ให้มันรู้ซะบ้างว่าพี่เป็นใคร”
ถึงแม้ว่าน้องสาวจะไม่ได้กอดตัวเองเป็นคนแรกแต่อย่างน้อยก็ภูมิใจ
กู้อันช่างเป็นคนที่โน้มน้าวได้ง่ายมากเสียจริง ๆ
เมื่อเห็นว่ามือของพี่ใหญ่เย็นเฉียบ หนวนหน่วนก็รีบกอดเขาเอาไว้แน่นก่อนจะจับมือเขาขึ้นมา
“พี่ใหญ่ ตัวของหนวนหน่วนอุ่นนะคะ จับแบบนี้พี่จะได้ไม่หนาว”
เธอยื่นใบหน้าตุ้ยนุ้ยเข้าไปให้พี่ใหญ่จับไว้
กู้หนานจับมือเล็กของเธอแทน “ไม่หนาว”
“แล้วพี่กู้อันล่ะ?”
กู้อันกระโดดเหยง ๆ
หนวนหน่วนยังคงจับมือของเขาไว้ เธอยกมือเขาขึ้นมา สัมผัสเข้ากับใบหน้าของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยผละออกจากอ้อมแขนของเขา
ไป๋โม่ซูโยนฟืนแห้งลงไปในกองไฟ ผ่านไปไม่นานแสงไฟในถ้ำก็สว่างขึ้นมา
โอทิสอยู่ข้างในสุดของถ้ำ ตอนนี้มันกำลังยกอุ้งเท้าขึ้นมาเลียด้วยสีหน้าไม่พอใจสักเท่าไหร่
ทุกคนต่างมายืนล้อมรอบกองไฟ นอกจากหนวนหน่วนและพี่ชายของเธอแล้ว คนอื่นต่างพากันกลัวเจ้าเสือขาวกันหมด
เพราะว่ามันตัวใหญ่มาก ราวกับว่าถ้ามันกัดพวกเขาเพียงครั้งเดียวตัวอาจหายไปครึ่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
“หนวนหน่วน เสือขาวตัวนั้นมันยังไงกัน?”
กู้อันจ้องมองเสือขาวด้วยแววตาเป็นประกายแล้วเอ่ยถามเสียงเข้ม
ดูไปดูมาแล้ว เจ้าเสือนี่ก็หล่อใช้ได้เหมือนกันนะ!
หลังจากนั้นกู้อันก็ได้รับสายตาแบบเดียวกันกับไป๋โม่ซู เจ้าโอทิสจ้องมาด้วยอารมณ์ประมาณว่า ‘แกมองหาอะไร’
กู้อัน “ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า ทำไมเหมือนรู้สึกว่าเจ้าเสือนั่นมันพูดได้!”
ไป๋โม่ซูมองตอบกู้อันไปว่า ‘ไม่หรอก ตาไม่ได้ฝาด’
หนวนหน่วนหันกลับมามองโอทิส เจ้าเสือขาวกำลังเอนกายนอนอยู่ข้างในสุดของถ้ำด้วยท่าทางองอาจเหมือนราชัน
เมื่อหนวนหน่วนมองกลับไป มันก็ชะเง้อหัวขึ้น
‘เหอะ… เจ้ามนุษย์ตัวจิ๋ว!’
“โอทิส!”
เด็กหญิงตะโกนออกไปเบา ๆ
โอทิส “…”
“โฮก”
แปลว่า ‘มีอะไร?’
มันตอบกลับอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ แต่น้ำเสียงที่มันตอบกลับนั้นช่างแตกต่างจากตอนที่เอ่ยตอบกู้หนานมาก ทุกคนต่างรู้สึกได้
ตอนที่เอ่ยตอบกู้หนาน ประหนึ่งว่ามันต้องการจะกัดฉีกร่างของเขาออกเป็นชิ้น ๆ อย่างนั้นแหละ แต่เมื่ออยู่กับเด็กหญิงดันทำตัวขี้อาย อ่อนโยนขึ้นเป็นกอง
สองมาตรฐานชัด ๆ เลย
หนวนหน่วนจ้องมองมันพร้อมกับรอยยิ้ม นัยน์ตาของเธองดงามส่องประกายราวกับดวงดาว
“พี่ เจ้าเสือตัวนี้ชื่อว่าโอทิส เหมือนว่าจะอาศัยอยู่ในอุทยานของคุณอาไคน์ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงมาที่ภูเขาหิมะได้ หนวนหน่วนเองก็เพิ่งจะได้เจอมันในวันนี้ที่นี่เองค่ะ”
“ตอนที่พี่ไป๋โม่ซูออกไปเก็บฟืน หนวนหน่วนอยู่คนเดียวในถ้ำ โชคดีมากเลยที่โอทิสมาหา มันพาหนวนหน่วนไปหาพี่ไป๋โม่ซู หาอาหารมาให้เรากินด้วย โอทิสใจดีมากเลยค่ะ…”
หนวนหน่วนเล่าทั้งหมดออกมาจากปากเล็ก ๆ ของเธอเอง เด็กหญิงเน้นชื่อของโอทิสเป็นพิเศษ ถึงจะไม่ได้คิดอะไรในตอนที่เล่า แต่มันกลับทำให้ผู้คนที่ได้ยินต่างพากันอ้าปากค้าง
จากที่เห็น ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหญิงกับเจ้าเสือขาวตัวนี้ หากมองเพียงผิวเผินใคร ๆ ก็คงคิดว่าน้องสาวคนนี้รู้จักกับเจ้าเสือขาวมานานแล้ว แต่ที่ไหนได้ เพิ่งจะเจอกันนี่เอง!
แม่เจ้า! นี่เหรอน้องสาวแสนล้ำค่าของนายน้อยตระกูลกู้?
กล้าหาญมาก!