ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 260 ค้นหา
บทที่ 260 ค้นหา
“ที่นี่เหรอ?”
กู้หนานมองลงไปด้านล่าง พลางถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หนวนหน่วนและคนอื่น ๆ คงอยู่เหนือภูเขาหิมะ…
ภายในเฮลิคอปเตอร์ มีคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งวางอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มผอมซูบ แม้ว่าจะกำลังป่วยอยู่ แต่นิ้วทั้งสิบก็ยังคงเคลื่อนไปมาได้อย่างคล่องตัว
“อืม ตำแหน่งอยู่ห่างจากที่นี่สามกิโลเมตร แต่เสียงเฮลิคอปเตอร์ดังเกินไป เข้าไปไม่ได้”
กู้หนานย่อมรู้ว่าเสียงของเฮลิคอปเตอร์จะทำให้หิมะถล่มได้ง่าย พวกเขาอาจจะไม่เป็นอะไร แต่พวกหนวนหน่วนนั้นไม่แน่
กู้หนานจะไม่ปล่อยให้น้องสาวของตนได้รับบาดเจ็บใด ๆ
“ทุกคนลงมาให้หมด!”
กู้หนานออกคำสั่ง เฮลิคอปเตอร์ทุกลำจึงหาที่ลงจอด จากนั้นกลุ่มชายหนุ่มแข็งแรงกำยำในเครื่องแบบก็ทยอยพากันลงจากเฮลิคอปเตอร์ตามลำดับ
ทุกคนแบกเป้คนละใบเตรียมตัวขึ้นภูเขาไปตามหาคน
“พี่ใหญ่ ผมอยากไปด้วย”
กู้อันวิ่งออกมายืนอยู่ตรงหน้ากู้หนาน ใบหน้าอ่อนเยาว์ช่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
“เหลียงฉือป่วยไม่สามารถตามขึ้นไปบนภูเขาได้ แต่ผมสามารถระบุตำแหน่งสัญญาณโทรศัพท์ของพวกน้องสาวได้ ผมช่วยเหลือได้นะ”
เหลียงฉือเม้มปากมองไปทางกู้อัน แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าร่างกายของตนเป็นภาระต่อการขึ้นไปบนภูเขาจริง ๆ
เขากำหมัดแน่นพลางหลุบตาลงเพื่อเก็บซ่อนอารมณ์ในสายตาเอาไว้ รู้สึกหมดเรี่ยวแรงอีกครั้ง
กู้หนานหลุบตามองกู้อันอยู่หลายวินาที
กู้อันหวาดกลัวสายตาที่กดดันแบบนี้ของพี่ใหญ่มาก แต่เขาเชิดหน้าไม่ยอมแพ้ พยายามสบสายตาเย็นชาเข้ากระดูกของพี่ใหญ่
“ผมทำได้!”
กู้หนานหันกลับมาแล้วทิ้งคำพูดไว้สามคำอย่างเย็นชา “งั้นก็ไป”
กู้อันดีใจเป็นลิงโลดทันที “รอผมด้วยพี่ใหญ่”
กู้เป่ยเอานิ้วขยี้ตาตัวเอง ก่อนจะลูบหัวของน้องชายคนเล็ก
“ดีมาก โตขึ้นแล้ว”
กู้อันหัวเราะแหะ ๆ ขึ้นมาทันที วินาทีต่อมาก็พยายามเก๊กหน้าแสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อีกครั้ง
“ผมจะต้องตามหาหนวนหน่วนกับพวกพี่ชายให้เจอ!”
เหลียงฉือถูกทิ้งไว้ เขาติดต่อกู้หนานและคนอื่น ๆ ผ่านการสื่อสารไร้สายอยู่แนวหลัง
กู้เป่ยก็ถูกทิ้งไว้เช่นกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากไป
เขาเป็นอัจฉริยะทางด้านมันสมอง แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ
แต่เขาไม่ไปก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะช่วยเหลือทุกคนไม่ได้
แค่เพียงกู้เป่ยดีดนิ้ว ทันใดนั้นหุ่นยนต์สีขาวตัวหนึ่งก็บินออกมาจากเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งที่แตกต่างจากเฮลิคอปเตอร์ของตระกูลกู้ หุ่นยนต์ตัวเล็กขนาดเท่าลูกบาสเกตบอลลอยอยู่กลางอากาศเหมือนเป็นพวกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำโลกในภาพยนตร์ ดูใช้เทคโนโลยีชั้นสูงมาก
“ฉันจะให้พวกนายยืมเสี่ยวไป๋ไปก่อน”
เมื่อหุ่นยนต์เสี่ยวไป๋ได้ยินคำสั่งของเจ้านาย มันก็เหาะไปตรงหน้ากู้หนานและคนอื่น ๆ จากนั้นดวงตาจักรกลคู่นั้นก็ส่องประกาย แผ่กระจายเป็นรูปพัดโดยมีเสี่ยวไป๋เป็นจุดศูนย์กลาง ทำให้พื้นที่ข้างหน้าห้าร้อยเมตรสว่างขึ้นทันที
[กำลังวิเคราะห์ภูมิประเทศ พบเส้นทางที่ทุ่นแรงและเหมาะสมที่สุดสำหรับเจ้านาย]
เสียงกลไกอันเป็นเอกลักษณ์ของเสี่ยวไป๋ได้ยินไปถึงหูของทุกคน
นอกจากพี่น้องตระกูลกู้ที่เคยเห็นจนชินเป็นเรื่องธรรมดา ที่เหลือทุกคนล้วนตกตะลึงกับภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
นี่คือหุ่นยนต์สุดไฮเทคที่มีแต่ในหนังเท่านั้น!
ยังพูดไม่ทันจบ กู้เป่ยก็ได้แชร์ขอบเขตการมองเห็นของเสี่ยวไป๋ไปที่คอมพิวเตอร์ของเหลียงฉือ
“เอาละ แบบนี้พวกเราก็ติดตามเส้นทางของพวกคุณได้แล้ว”
กู้หนานดูเวลา โบกมือให้ทุกคนออกเดินทางไปตามเส้นทางที่เสี่ยวไป๋วางไว้
หลังจากเข้าไปในภูเขาหิมะ กู้อันเริ่มค้นหาตำแหน่งของหนวนหน่วนและคนอื่น ๆ ด้วยโทรศัพท์มือถือที่ตั้งค่าพิเศษเอาไว้
“เอ๊ะ? พี่โม่ฮัวกับพวกหนวนหน่วนไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดียวกันเหรอ?”
ในช่วงเวลานี้กู้อันได้เรียนรู้ทักษะของแฮกเกอร์เล็กน้อย แม้ว่าความเร็วจะช้ากว่าเหลียงฉือมาก แต่เขาก็ยังทำได้
นี่เป็นครั้งแรกที่เขานำสิ่งที่ตนเรียนรู้มาปฏิบัติในความเป็นจริง กู้อันประสบความสำเร็จอย่างมาก!
แต่เมื่อพบว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือของไป๋โม่ฮัวกับหนวนหน่วนและไป๋โม่ซูไม่ได้อยู่ในบริเวณเดียวกัน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนทันที
“ใครทำโทรศัพท์มือถือตกหรือว่าพวกเขาแยกกันแล้ว?”
กู้หนานกดหูฟังที่ใบหู
“หาสัญญาณโทรศัพท์ของเพื่อนทั้งสองคนของไป๋โม่ซูได้ไหม?”
[ได้ครับ]
เสียงของเหลียงฉือดังเข้ามา ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็เอ่ย…
“ไคน์ อีวาน ไป๋โม่ฮัวอยู่ด้วยกัน ไป๋โม่ซูกับหนวนหน่วนอยู่ด้วยกัน พวกเขาแยกกันแล้ว”
กู้หนาน “เจ้าสาม เจ้าสี่ พวกนายสองคนไปตามหาไป๋โม่ฮัว ส่วนฉันกับกู้อันจะไปตามหาหนวนหน่วน”
หลังจากสิ้นเสียงของกู้หนาน เสียงของกู้เป่ยก็ดังขึ้นเหนือตัวหุ่นยนต์เสี่ยวไป๋
“เสี่ยวไป๋ ปล่อยระบบออกมา”
[ได้ครับเจ้านาย]
ทันใดนั้นประตูเล็ก ๆ บนหน้าท้องที่เคยปิดสนิทไร้ร่องรอยใด ๆ ของเสี่ยวไป๋ก็เปิดออก จากนั้นลูกบอลสีขาวเล็ก ๆ ก็พุ่งออกมาจากหน้าท้องของมันหลายลูก
มันเป็นลูกบอลเล็ก ๆ สามลูก มีสองลูกวิ่งไปยังทีมของกู้หมิงอวี๋แล้วเปิดไฟเหมือนกับเสี่ยวไป๋ ดูไม่กระจอกเลยสักนิด
ลูกบอลเล็ก ๆ อีกลูกหนึ่งก็ติดตามทีมของกู้หนานไป
ทหารรับจ้างและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกว่าจ้างชั่วคราวเพื่อให้มาตามหาคนต่างจ้องมองเสี่ยวไป๋ เริ่มให้ความสนใจกับหุ่นยนต์ตัวนี้เป็นอย่างมาก
อยากรู้จริง ๆ ว่าหุ่นยนต์ตัวนี้มีความสามารถอะไรอีกบ้าง
เมื่อก่อนพวกเขาคิดว่าการที่คนจำนวนมากมาตามหาคนแค่ไม่กี่คนแบบนี้ เศรษฐีพวกนี้คงมีเงินมากเกินไปจนไม่รู้จะไปใช้จ่ายที่ไหน ตามหาคนไม่กี่คนทำไมถึงได้เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนขนาดนี้
แต่หลังจากเห็นวิธีการของคุณชายหลายคนในตระกูลกู้แล้ว พวกเขาถึงพบว่าวิสัยทัศน์ของตัวเองยังแคบเกินไป
พวกเขาไม่ใช่เพียงมาตามหาใครสักคน แต่ไปรับคนคนนั้นโดยตรง
มีทั้งแฮกเกอร์ระดับแนวหน้าผู้เป็นอัจฉริยะด้านเทคโนโลยี แม้แต่คุณชายที่อายุน้อยที่สุดก็เป็นแฮกเกอร์ ตระกูลกู้นี้ช่างมีแต่ผู้ไม่ธรรมดา!
กองกำลังถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน มุ่งหน้าไปคนละทาง
เมื่อมีหุ่นยนต์ของกู้เป่ย ต่อให้เป็นตอนกลางคืนก็ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อพวกเขาเลย
ยิ่งไปกว่านั้นหุ่นยนต์ตัวน้อยยังสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายที่มองไม่เห็นในระหว่างเส้นทางได้อีกด้วย
กู้หมิงอวี๋และกู้หมิงหลี่เป็นคนแรกที่พบพวกไป๋โม่ฮัวทั้งสามคน เนื่องจากท่ามกลางพายุหิมะที่ไม่สามารถมองเห็นทิศทางได้ชัดเจนแล้ว หนวนหน่วนและไป๋โม่ซูยิ่งเดินก็ยิ่งไกลออกไป แต่สุดท้ายก็ได้พบทิศทางที่ถูกต้องโดยบังเอิญซึ่งอยู่ใกล้ตีนเขามาก
หมาป่าหิมะเป็นพวกแรกที่พบว่ามีคนมา ขณะนั้นไป๋โม่ฮัวกำลังถือขากระต่ายแทะอยู่
“ริค พวกนายเป็นอะไรหรือเปล่า?”
ไคน์เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของริคและเพื่อน ๆ
หมาป่าหิมะทั้งสามอยู่ในสภาวะระแวดระวัง กัดฟันจ้องมองไปข้างหน้า ดวงตาสีฟ้าเต็มไปด้วยพลังอาฆาตอันโหดเหี้ยม
ทั้งสามคิดว่ามีสัตว์ป่ากำลังใกล้เข้ามา ดังนั้นจึงตื่นตัวขึ้นมาทันที
อีวานเองก็กำไม้ค้ำถ่อในมือไว้แน่น
เขากล่าวอย่างมั่นใจ “ต่อให้ตัวที่มาจะเป็นหมี พวกเราก็ยังสามารถเอาชนะมันได้”
ชายชาตินักรบจะไม่เกรงกลัวสิ่งใดเช่นนี้
ไป๋โม่ฮัว “…”
พวกคุณไม่กลัวแต่ผมกลัว!
แต่เห็นได้ชัดว่าพวกที่เขาได้เจอไม่ใช่สัตว์ป่า
แสงสว่างที่เห็นได้ชัดว่าเป็นเทคโนโลยีของมนุษย์ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ในขณะนั้นหมาป่าหิมะทั้งสามก็พุ่งปรี่ออกไปราวกับลมพัด ไคน์ไม่ทันได้หยุดพวกมัน
[โปรดระวังตัว หมาป่าหิมะทั้งสามกำลังใกล้เข้ามา]
เมื่อสัมผัสได้ถึงการใกล้เข้ามาของหมาป่าหิมะ เสียงของหุ่นยนต์ตัวน้อยพลันดังขึ้น
ทันใดนั้นทุกคนก็ชักปืนออกมา มองไปข้างหน้าอย่างระแวดระวัง
“ริค หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ไคน์ตะโกนตามหลังไป
โชคดีที่เขาตะโกนห้ามหมาป่าหิมะทั้งสามไว้ได้ทันเวลา พวกมันไถลไปบนหิมะเป็นระยะทางสั้น ๆ ก่อนจะหยุดลง กู้หมิงอวี๋และคนอื่น ๆ เกือบจะลงมือแล้ว
“เฮ้ เพื่อน ๆ ทางนั้น พวกคุณเป็นใคร?”
ไคน์วิ่งไปอยู่ข้าง ๆ หมาป่าหิมะทั้งสาม เอามือบังแสงจ้าที่สาดเข้ามาในตา แสงนี้ทำให้เขามองไม่เห็นสถานการณ์ที่อยู่อีกฝั่ง
“ลูก ๆ ของฉันไม่มีเจตนาร้าย พวกคุณช่วยปิดแสงไฟพวกนั้นก่อนได้ไหม?”
ไป๋โม่ฮัวและอีวานก็วิ่งมาด้วย
ไป๋โม่ฮัวเป็นศิลปิน ในเวลานี้การวิ่งอย่างหนักหน่วงทำให้เขาเหนื่อยจนแทบไม่ไหว
“ไป๋โม่ฮัว”
ไป๋โม่ฮัวที่กำลังหอบเอามือเท้าหัวเข่า เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา
“กู้หมิงหลี่?”
เขาวิ่งเข้ามา จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็พบกัน บอดีการ์ดและทหารรับจ้างที่อยู่ข้างหลังพี่น้องตระกูลกู้มองหมาป่าหิมะทั้งสามอย่างระแวดระวัง
“ทำไมถึงเป็นพวกนาย!”
เมื่อมองจนแน่ใจแล้ว ปรากฏว่าเป็นคนรู้จักจริง ๆ!
ไป๋โม่ฮัวดีใจสุด ๆ กระโดดกอดกู้หมิงหลี่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ ก่อนจะหันกลับไปกอดกู้หมิงอวี๋
“เยี่ยมเลย! เร็วเข้า พวกเราไปตามหาหนวนหน่วนกันเถอะ!”