ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 257 กู้หนวนหน่วน เด็กหญิงแห่งตระกูลกู้
บทที่ 257 กู้หนวนหน่วน เด็กหญิงแห่งตระกูลกู้
เสือขาววิ่งหนีไปอีกครั้ง หนวนหน่วนเลยได้แต่ทำแก้มพอง
“เมื่อไหร่พี่จะกลับมานะ”
หลังจากผ่านไปได้สักพัก เธอก็เริ่มคิดถึงพี่ชายของตัวเองแล้ว เด็กหญิงพึมพำเสียงอู้อี้ แต่ก็ไม่มีใครตอบคำถามนี้ของเธอได้
ในเวลานี้ไป๋โม่ฮัวและคนอื่น ๆ ที่แยกไปก็รู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเช่นกัน
ในช่วงที่เริ่มเกิดพายุหิมะ ไป๋โม่ซูเตือนพวกเขาว่าตอนเดินให้จับมือกันเอาไว้ หลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนและไป๋โม่ซูกับหนวนหน่วนแยกจากกัน พวกเขาทั้งสามจึงยังอยู่ด้วยกันอยู่
พวกเขาโชคดีที่ได้พบกับสถานที่ที่สามารถหลบพายุหิมะได้ เจ้าหมาป่าหิมะทั้งสามตัวที่อยู่ด้านหลังเองก็หาพวกเขาเจอได้อย่างราบรื่นเช่นกัน
ไป๋โม่ฮัวเป็นห่วงน้องสาวและพี่ใหญ่ของตัวเองมาก เขาเอาแต่นั่งเหม่อลอย
พอพายุหิมะหยุดลง เขาก็แทบอดไม่ได้ที่จะออกไปตามหา
โชคดีที่อีวานและไคน์เคยตั้งแคมป์อยู่นอกบ้านบ่อย ๆ จึงรู้จักสภาพอากาศของที่นี่ดี พวกเขาหยุดไป๋โม่ฮัวเอาไว้
“ตอนนี้ท้องฟ้าใกล้จะมืดแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าออกไปก็จะเป็นอันตรายมาก หมอไป๋เป็นคนฉลาด เขาจะต้องดูแลตัวเองและหนวนหน่วนได้แน่ ถ้านายออกไปตามหาแล้วเกิดหลงทางขึ้นมา ทุกคนก็ต้องออกไปตามหานายอีก”
ไป๋โม่ฮัวกระวนกระวายมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รับฟัง เขาทำได้เพียงแค่สงบสติอารมณ์และควบคุมความคิดวิตกเอาไว้
ไคน์และอีวานหารือกันแล้วเริ่มแบ่งหน้าที่ ป่าแห่งนี้โดยเฉพาะในช่วงหิมะตก การออกไปข้างนอกตอนดึกอันตรายที่สุด
แต่พวกเขาไม่มีฟืน ดังนั้นก็ต้องออกไปหาฟืน
ไคน์ตัดสินใจพาริคออกไปหาฟืน ส่วนริคกี้และแอนนี่ออกไปล่าสัตว์
อีวานและไป๋โม่ฮัวรับหน้าที่ตั้งเต็นท์และทำงานอื่น ๆ
ในตอนนี้พวกเขาพยายามติดต่อคนภายนอกด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ก็ไม่ต่างจากฝั่งหนวนหน่วนนัก ไม่มีสัญญาณใด ๆ เช่นกัน
ไป๋โม่ฮัวเป็นกังวลอย่างมาก อีวานกลับไม่ได้กังวลอะไร ทั้งยังปลอบใจเขาด้วย
“นายเองก็ประเมินพี่ชายนายต่ำไปแล้ว ตอนนั้นที่มหาวิทยาลัยของเราออกไปตั้งแคมป์ ทักษะการเอาตัวรอดในป่าของเขาน่ะดีซะจนอาจารย์ชมด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเคยเข้าร่วมการฝึกตั้งแคมป์ด้วยนะ ดังนั้นแทนที่จะเป็นห่วงเขา นายเป็นห่วงตัวเองก่อนดีกว่า”
จริงด้วย พี่ชายของเขาเก่งจะตายไป
พวกเขาทางด้านนี้ค่อย ๆ สงบลง แต่อีกด้านหนึ่ง เหลียงฉือซึ่งกำลังรอพวกหนวนหน่วน แต่พอเห็นยังไม่มา สีหน้าจึงเริ่มเคร่งเครียด
ท้องฟ้าใกล้จะมืดแล้ว คนที่รออยู่ก็ยังไม่กลับมา เหลียงฉือโทรหาหลายรอบแต่ก็ไม่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ เขากำโทรศัพท์ในมือแน่น ให้จางเหลียงเอาคอมพิวเตอร์มาเตรียมค้นหาโทรศัพท์ของพวกหนวนหน่วนและไป๋โม่ซู
ขณะกำลังเตรียมจะลงมือ เบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นก็โทรเข้ามา
“ฮัลโหล”
[เหลียงฉือ พวกหนวนหน่วนล่ะ]
น้ำเสียงเย็นชาดังมาจากปลายสายโทรศัพท์ เพียงเหลียงฉือได้ยินก็รู้ว่าเป็นใคร
“พวกเขาไปเล่นสกี ตอนนี้ยังไม่กลับเลย ฉันกำลังจะหาสัญญาณโทรศัพท์ของพวกเขา”
กู้หนาน [รบกวนด้วยนะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้]
กู้หนานไม่ได้พูดอะไรมาก เขามีนิสัยเย็นชาและเงียบขรึมอยู่แล้ว หากเอ่ยอะไรไป เขาย่อมทำตามที่ว่า
หลังจากวางสายแล้ว เขาก็บอกหนานเฟิงให้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ทันที
แม้ตอนที่อยู่ต่างประเทศ หนวนหน่วนก็จะส่งข้อความมาหาเขาในเวลาเดิมทุกวันเพื่อบอกเขาให้กินข้าวตรงเวลา
แต่วันนี้กู้หนานไม่ได้รับข้อความ อีกทั้งตอนจัดการเอกสาร ในใจก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีผุดขึ้นมา
เขาใส่ใจกับความรู้สึกนี้มาก ถ้าเกี่ยวข้องกับน้องสาวของตัวเองก็ยิ่งไม่อาจเมินเฉยเลยแม้แต่น้อย
กู้หนานโทรหาหนวนหน่วนทันที แต่ไม่มีใครรับ จากนั้นเขาก็ติดต่อไป๋โม่ซูและไป๋โม่ฮัว แต่ก็ยังโทรไม่ติด เขารู้ได้ทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องแล้วแน่ ๆ
นั่นเป็นสาเหตุที่เขาโทรไปหาเหลียงฉือ
กู้หนานสั่งลูกน้องของตัวเองอย่างใจเย็นว่าให้เตรียมเฮลิคอปเตอร์โดยเร็วที่สุด ถึงขนาดพาบอดีการ์ดและทหารรับจ้างจำนวนมากไปด้วย
การเคลื่อนไหวของเขาย่อมไม่สามารถปกปิดกู้หลินโม่ได้ หลังจากกู้หลินโม่รู้เรื่องก็ร้อนรนเสียยิ่งกว่ากู้หนาน
“พาคนนิดเดียวไปกับเฮลิคอปเตอร์จะพอที่ไหนกัน! เอาเฮลิคอปเตอร์ของพ่อไปด้วย…”
พูดจบ กู้หลินโม่ก็หันหลังไปโทรศัพท์ ติดต่อขอคนจากบริษัทบอดีการ์ด
และในตอนนี้ พี่ชายคนอื่น ๆ ของหนวนหน่วนก็ได้รู้ข่าว
“อะไรนะ หนวนหน่วนหายตัวไปเหรอ”
กู้หมิงอวี๋ที่กำลังเตรียมถ่ายทำ เมื่อได้ยินข่าวก็ยืนขึ้นทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“รอเดี๋ยว เดี๋ยวฉันจะไปตามหาด้วย”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น
เหล่านักแสดง ผู้ช่วยผู้กำกับ นักเขียนที่กำลังทดสอบหน้ากล้องกันอยู่ “…”
“คุณกู้ ยังทดสอบหน้ากล้องอยู่เลยนะคะ”
กู้หมิงอวี๋ที่เพิ่งเดินไปได้สองก้าวก็ถูกรั้งเอาไว้ กลุ่มคนต่างมองเขาด้วยความงุนงง
กองถ่ายกองใหญ่แบบนี้รอเขาอยู่ ถ้าเขาจากไปก็จบน่ะสิ
กู้หมิงอวี๋ “ทดสอบหน้ากล้องวันนี้ให้เลื่อนไปก่อน ตอนนี้ฉันมีธุระ ใครก็อย่ามาห้าม!”
พูดจบก็สาวเท้าก้าวจากไป ครั้งนี้ใครก็ไม่กล้าขวางเขาเลยจริง ๆ
ด้วยสถานะของเขา อีกทั้งอารมณ์ที่ไม่ควรไปยั่วยุ ใครไปขวางก็จะโชคร้ายเสียเปล่า ๆ
กู้หมิงอวี๋ขับรถสปอร์ตของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว ผู้จัดการของเขาทำได้แค่ยืนขึ้นแล้วจัดการเรื่องในกองถ่าย พากลุ่มนักแสดงที่มาทดสอบหน้ากล้องส่งกลับไปก่อน
“พี่ฟาง คุณกู้เขารีบร้อนอะไรขนาดนั้นเหรอ”
ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ กลับสามารถจากไปได้โดยไม่สนอะไรทั้งนั้น คงจะเกิดเรื่องใหญ่แล้วมั้ง
ผู้จัดการของกู้หมิงอวี๋สูบบุหรี่แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“พวกนายเองก็เป็นคนในวงใน เรื่องที่ว่าลูก ๆ ตระกูลกู้เป็นเด็กผู้ชายกันเกือบทั้งหมด พวกนายคงรู้แล้วใช่ไหม”
สองสามคนนี้มีไม่กี่คนที่รู้ภูมิหลังของกู้หมิงอวี๋
พวกเขาพากันพยักหน้า ลูก ๆ ของตระกูลกู้นี้เป็นที่สุดของที่สุดที่ทุกคนต่างก็อิจฉาริษยา
“แต่ที่พวกนายไม่รู้ก็คือ ตระกูลกู้ยังมีลูกสาวอีกคนหนึ่ง สาวน้อยคนนี้เป็นน้องสาวคนเล็กของพี่ ๆ นายน้อยตระกูลกู้ ปกติแล้วพี่ ๆ จะรักและเอ็นดูเธอมาก เมื่อกี้ฉันได้ยินว่าเด็กหญิงคนนั้นหายตัวไป พวกนายว่าเขาจะนั่งอยู่เฉย ๆ ไหวเหรอ”
สองสามคนจ้องหน้ากัน เรื่องที่ตระกูลกู้มีลูกสาว คนอื่น ๆ น้อยมากที่จะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาจึงไม่รู้ มักจะเป็นคนใหญ่คนโตที่รู้จากการเข้าร่วมงานเลี้ยงมากกว่า
คนที่ไม่แตกต่างจากกู้หมิงอวี๋นักก็คือกู้หมิงหลี่และกู้อัน หลังจากรู้ข่าวแล้วก็โดดเรียนออกจากโรงเรียนทันที แม้แต่ครูใหญ่ก็ยังหยุดไม่ได้ ใครห้ามก็จะอารมณ์เสียทันที
ที่แปลกคือกู้เป่ยที่กำลังพักผ่อน เมื่อได้รับข่าวแล้วก็ออกจากสถาบันวิจัยทันที ทั้งยังพาบอดีการ์ดที่คอยคุ้มกันตัวเองขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกไปด้วย
สถานที่ทดสอบหน้ากล้องของกู้หมิงอวี๋อยู่ที่โรงแรมเมืองหลิน หลังจากผู้จัดการของเขาจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วและเดินออกจากโรงแรม ไม่นานก็ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้นเหนือศีรษะ
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นเฮลิคอปเตอร์สีดำสุดเท่ลำใหญ่บินผ่านหัวตัวเองไปเป็นแถว ข้างใต้ยังมีคนไม่น้อยที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเอาไว้
เหล่าคนรอบตัวของตระกูลกู้ก็ยังคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่หลวงอะไรขึ้นแล้ว พวกเขาล้วนส่งคนออกไปสืบข่าวว่าเกิดอะไรขึ้น
การเคลื่อนไหวของตระกูลกู้ไม่ใช่เล็ก ๆ ไม่นานพวกเขาก็รู้ว่าเฮลิคอปเตอร์เหล่านี้ล้วนเป็นของตระกูลกู้ อีกทั้งยังส่งคนออกไปไม่น้อย ว่ากันว่า… เพียงเพราะหนวนหน่วน คุณหนูเล็กของตระกูลกู้ออกไปเที่ยวแล้วหายตัวไป
เหล่าครอบครัวร่ำรวยแวดวงคนชั้นสูง พอคิดว่าเหล่าพี่ชายของหนวนหน่วนระดมคนจำนวนมากเพื่อตามหาเธอก็รู้สึกอิจฉาแบบสุด ๆ
ทำไมพวกเธอถึงไม่มีพี่ชายที่เก่งกาจมารักและดูแลจนเหมือนขึ้นสวรรค์บ้างนะ
ตอนนี้เจ้าชายขี่ม้าขาวหรือเขยเต่าทองคำ*[1] ก็ไร้ความหมายหมดแล้ว คนพวกนั้นไม่ดีเท่ามีพี่ชายที่เก่งกาจ พี่ชายต่างหากที่จะเป็นคนสนับสนุนและคนที่น้องสาวพึ่งพาได้ตลอดไป!
พี่น้องตระกูลกู้ แม้แต่กู้อันเองก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปตามหาแล้ว! ในตอนนั้นเหล่าพวกตระกูลเศรษฐีต่างประหลาดใจไปตาม ๆ กัน
ต่อไปตระกูลกู้นี้ เกรงว่าคนที่ไม่ควรไปแหย่คงไม่ใช่กู้หนานกับนายท่านกู้ที่เย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็ง ไม่ใช่กู้เป่ยที่เป็นอัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไม่ใช่กู้หมิงอวี๋และกู้หมิงหลี่ที่หัวแข็ง และยิ่งไม่ใช่กู้อันที่เป็นเด็กซุกซน แต่เป็นลูกสาวตระกูลกู้อย่างกู้หนวนหน่วนที่ดูเชื่อฟังและอ่อนแอ แต่กลับมีพี่ชายปกป้องต่างหาก!
[1] เขยเต่าทองคำ หมายถึง สามีที่มีฐานะร่ำรวย