ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 256 เสือขาวโอทิส
บทที่ 256 เสือขาวโอทิส
รออยู่เกือบสองชั่วโมงกว่าที่ลมและหิมะจะหยุดลง แต่การจะลงจากเขาตอนนี้ยังไม่ปลอดภัย ไป๋โม่ซูยังต้องปักหลักอยู่ในถ้ำนี้ชั่วคราว
“พี่จะไปหาฟืน คืนนี้ต้องอยู่ในถ้ำนี้ก่อน เธอเป็นเด็กดีรออยู่ที่นี่นะ ไม่นานพี่ก็จะกลับมาแล้ว”
หนวนหน่วนตอบรับอย่างเชื่อฟัง ตอนนี้ในมือถือหยกอุ่นขนาดเท่ากำปั้นเอาไว้ ความร้อนแผ่ออกมาทำให้ไม่หนาวเลย แต่เธอก็ยังคงเป็นห่วงพี่ชาย
“พี่คะ เอาอันนี้ไปด้วยสิ”
ข้างนอกหนาวมาก หนวนหน่วนยัดหยกอุ่นไว้ในมือของพี่ ชาย ใบหน้าเล็ก ๆ ดูจริงจังอย่างมาก
“ข้างนอกหนาว พี่ต้องเอาไปหนวนหน่วนถึงจะวางใจ”
อุณหภูมิของหยกอุ่นแผ่ออกมาจากฝ่ามือ ราวกับว่ามันร้อนไปถึงหัวใจของคน
ไป๋โม่ซูแตะจมูกเล็ก ๆ ของหนวนหน่วน จากนั้นก็ย่อตัวลงแล้วทุบให้หยกอุ่นแยกออกเป็นสองชิ้น
ตอนนี้เขาไม่สนว่าจะเสียดายหรือไม่แล้ว
เขาหยิบเอาหนึ่งในนั้นใส่มือของหนวนหน่วน “แบบนี้ก็ใช้ได้แล้ว”
มือเล็กขาวของเด็กหญิงถือหยกอุ่นที่ขาวละเอียดราวกับหิมะเอาไว้ ถึงแม้หยกทั้งชิ้นจะถูกทุบจนกลายเป็นสองชิ้น แต่เธอก็ไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย เทียบกับหินหยกแล้ว เธอเป็นห่วงพี่ชายของตัวเองมากกว่า
“พี่คะ พี่ต้องรีบกลับมานะ”
เด็กหญิงพิงตัวของพี่ชายเอ่ยเสียงอ่อนบอกให้เขารีบกลับ จากนั้นเธอก็เขย่งปลายเท้าจุ๊บที่คางของพี่ชาย
“ได้สิ”
ไป๋โม่ซูลูบหัวเล็ก ๆ ของเธอ แววตายังคงมีรอยยิ้มอยู่
เขาใส่หมวก พันผ้าพันคอคลุมใบหน้าของตัวเองให้แน่นแล้วเดินออกจากถ้ำไป
หนวนหน่วนเองก็ตามไปส่งอย่างร้อนรน
“รีบกลับนะคะ”
ในถ้ำอุ่นกว่าด้านนอกมาก โดยเฉพาะเมื่อถือหยกอุ่นเอาไว้ก็ไม่รู้สึกถึงความเหน็บหนาวเลย
เด็กหญิงมองแผ่นหลังของลูกพี่ลูกน้องคนโตที่ค่อย ๆ หายลับไปในผืนหิมะสีขาว จากนั้นก็สูดหายใจแล้วเดินกลับไปนั่งในถ้ำ
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู ไม่มีสัญญาณเลยแม้แต่น้อย ถึงอยากจะโทรหาพวกพี่ ๆ แต่ก็ทำไม่ได้เลย
ไม่รู้ว่าพวกลูกพี่ลูกน้องคนรองเป็นยังไงบ้างในตอนนี้ หวังว่าจะยังปลอดภัยกันอยู่
เด็กหญิงนั่งอยู่บนก้อนหินที่สะอาด สองมือกุมมือปิดปากแล้วพึมพำอยู่คนเดียว ถ้าตั้งใจฟังหน่อยก็จะได้ยินว่าเธอกำลังสวดอ้อนวอนพระเจ้าให้ปกป้องเหล่าพี่ ๆ ของตัวเองให้ปลอดภัย คุณน้าอีวาน คุณน้าไคน์ แล้วก็ยังมีริค ริคกี้ และแอนนี่ หนวนหน่วนขอให้ทุกคนปลอดภัยด้วยเถอะ
แกร๊บ…
เสียงหนึ่งดังขึ้นเบา ๆ หนวนหน่วนตกใจเสียจนดวงตากลมเบิกกว้าง เธอมองออกไปด้านนอกถ้ำ จากนั้นก็พบกับดวงตาเปล่งประกายคู่หนึ่ง ดูไม่ได้โกรธเกรี้ยว แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายอันทรงพลัง
ที่ทางเข้าถ้ำ เสือตัวใหญ่สีขาวตัวหนึ่งกำลังจ้องมองมายังเด็กน้อยตัวเล็กที่ดูเหมือนขนมโมจิสีขาวอยู่ในถ้ำ ร่างกายใหญ่โตขนาดนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเวลาเดินไปไหนมาไหนถึงเงียบกริบนัก
ถ้าไม่ใช่เพราะจู่ ๆ ไปเหยียบกิ่งไม้ที่ฝังอยู่ในหิมะดังกรอบ หนวนหน่วนก็คงไม่อาจเห็นมันได้เลย!
ดวงตาสองคู่สบกัน หนวนหน่วนไม่ขยับ เจ้าเสือขาวตัวใหญ่เองก็ยังยืนอยู่นิ่งไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
“โอทิส!”
เด็กหญิงเรียกเจ้าเสือขาวด้วยน้ำเสียงของเด็กน้อย
เสือขาวตัวใหญ่ทางปากถ้ำกระตุกใบหู ค่อย ๆ ถอยออกไปจากถ้ำ
“โอทิสเหรอ”
หนวนหน่วนจ้องมองเสือตัวใหญ่สีขาวราวกับหิมะอย่างตั้งใจ มันตัวใหญ่มากจริง ๆ!
เธอเข้าใจว่าไอริสตัวใหญ่แล้ว ส่วนพวกพี่น้องริค ริคกี้เองก็ตัวใหญ่แล้วเหมือนกัน เมื่อเด็กหญิงยืนอยู่ตรงหน้าพวกมันยังต้องเงยหน้ามอง แต่ว่าเจ้าเสือขาวตัวนี้กลับมีขนาดใหญ่กว่าพวกนั้นถึงสามเท่า!
ตอนนี้ไม่มีผู้ใหญ่คอยกันไว้ข้างกาย แต่หนวนหน่วนที่อยู่ต่อหน้าเจ้าเสือขาวกลับยิ่งกล้าหาญมากกว่าตอนประจันหน้ากับโอทิสอีก
เธอยืนขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอกด้วยขาเล็กสั้น ๆ
เสือขาวตัวใหญ่เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ตอนที่เด็กหญิงกำลังวิ่งออกมามันก็หมุนตัววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ฝีเท้ารวดเร็วเหมือนบินได้เลยจริง ๆ
ในพริบตาเดียว หนวนหน่วนก็ไม่เห็นเจ้าเสือขาวตัวใหญ่ตัวนั้นแล้ว
เหลือไว้เพียงรอยเท้าที่ยังไม่หายไป ใหญ่กว่าเท้าสองข้างของหนวนหน่วนซะอีก
“โอทิส โอทิส”
น้ำเสียงไร้เดียงสาของเด็กหญิงดังก้องอยู่ในผืนหิมะกว้างใหญ่ เสียงลมพัดก็หายไปแล้ว
แต่เจ้าเสือขาวตัวใหญ่กลับไม่คิดจะตอบรับเธอเลย
หนวนหน่วนก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง ทำไมถึงวิ่งเร็วจังเลยล่ะ
เธออยากเดินตามรอยเท้าไป แต่ว่าต้องรอญาติผู้พี่ก่อน พี่ชายสำคัญกว่านี่นา
ถึงแม้เด็กหญิงจะผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในถ้ำแต่โดยดี เธอกุมหยกอุ่นเอาไว้แล้วนั่งลงอย่างเชื่อฟัง
โครก…
หนวนหน่วนเอามือกุมท้องที่กำลังร้องโครก มองเป้ที่วางอยู่ข้าง ๆ แล้วเปิดออกคุ้ยหาว่าข้างในมีอะไรกินบ้าง
ขนมปังกรอบ ไส้กรอกแฮม แล้วก็ยังมีนมและแอปเปิล
หนวนหน่วนถือแอปเปิลลูกใหญ่ขึ้นแล้วค่อย ๆ กัด
เมื่อไหร่ลูกพี่ลูกน้องคนโตจะกลับมานะ
ช่วงเวลาที่รอคอยดูเหมือนจะยาวนานเป็นพิเศษ อีกทั้งยังน่าเบื่อด้วย เธอได้แต่มองออกไปนอกถ้ำอย่างร้อนรน แต่ก็ยังไม่เห็นร่างที่คุ้นตาปรากฏตัวท่ามกลางหิมะขาวโพลนเลย หัวเล็ก ๆ ของหนวนหน่วนนั้นผงกเป็นครั้งคราว เปลือกตาเองก็แทบจะพยุงเอาไว้ไม่ไหว
เธอหาวครั้งหนึ่ง วันนี้เดินเยอะมาก ทั้งยังเล่นสกีแล้วก็ต้องเผชิญกับความตื่นกลัว ทำให้เสียพลังงานไปไม่น้อย ตอนนี้ที่นั่งรอเบื่อ ๆ ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยมากเลย
ระหว่างที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น หนวนหน่วนรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างเข้ามา สภาพแวดล้อมเงียบสงบนั้นเห็นได้ชัดว่ามีเสียงหายใจอีกเสียงหนึ่งเพิ่มเข้ามา ทันใดนั้นก็ขับไล่ความง่วงงุนของหนวนหน่วนออกไป เธอได้สติขึ้นมาในที่สุด
แต่ว่าหนวนหน่วนฉลาด เธอไม่ได้ลืมตาขึ้นในทันทีแต่แสร้งทำเป็นหลับ เปลือกตาแอบเปิดออกเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เห็นเสือขาวตัวใหญ่เดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ
มันตัวใหญ่เกินไปแล้วจริง ๆ รู้สึกได้ว่าแทบจะปิดปากทางเข้าถ้ำทั้งหมด ทำให้ในถ้ำยิ่งมืดเข้าไปอีก
อีกทั้งตอนที่มันเดินเข้ามา ถ้ำที่เดิมทีถือว่ากว้างขวางก็ดูคับแคบลงในทันที
ฟุดฟิด…
ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้หนวนหน่วนรู้สึกได้ว่าเสือขาวตัวใหญ่กำลังยืดคอมาดมที่ร่างของตัวเอง
“จับได้แล้ว!”
เด็กหญิงลืมตาในทันใดแล้วโอบคอของโอทิสเอาไว้
เจ้าเสือขาวตัวใหญ่เหมือนกับว่าจะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ร่างของมันสะดุ้งในทันใด แม้แต่หนวนหน่วนที่กอดคอของมันอยู่ก็ลอยหวือขึ้น
“ว้าว!”
คอของโอทิสหนาเกินไปทำให้เธอโอบได้ไม่รอบ เมื่อลอยขึ้นไปในอากาศได้ครู่หนึ่ง หนวนหน่วนก็ตกลงมาที่พื้นทันที
เจ้าเสือขาวหมุนตัวกลับแล้ววิ่งออกไปข้างนอกอีกครั้ง
หนวนหน่วนลูบก้นตัวเองป้อย ๆ ด้วยความเจ็บ เธอพลันรู้สึกแสบจมูก ไม่นานดวงตาก็รื้นน้ำตา เธอเริ่มร้องไห้โฮออกมา
ใบหูของโอทิสที่วิ่งออกมาข้างนอกแล้วเริ่มสั่นเล็กน้อย อุ้งเท้าข้างหนึ่งของมันยกขึ้นอยู่ยังไม่ได้เหยียบลงไป มันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะใช้ดวงตาสีทองมองเข้าไปในถ้ำ
หนวนหน่วนยังคงร้องไห้อย่างน่าสงสาร เมื่อเห็นการกระทำของเจ้าเสือขาวก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น
โอทิส “…”
ทันใดนั้นมันก็สับสนแล้วหมุนไปมาอยู่ที่เดิม วงกลมหิมะถูกมันย่ำจนเละเทะไปหมด
“โอทิส”
หนวนหน่วนเช็ดน้ำตาอย่างน่าสงสาร พลางเรียกชื่อโอทิสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เจ้าเสือขาวส่ายหาง เดินเข้ามาในถ้ำทีละก้าว แต่มันก็ยังอยู่ตรงปากถ้ำไม่ยอมเข้าไป
หนวนหน่วน “…”
มันต้องการทำอะไรกันแน่!
“โอทิส”
เด็กหญิงลุกขึ้นมาพร้อมใบหน้าเล็ก ๆ สีแดงก่ำ ค่อย ๆ เดินออกไปตามโอทิส
โอทิสจ้องมองเธอโดยไม่ขยับ
จากนั้นเธอก็แตะต้นขาใหญ่ของเสือขาวตัวยักษ์ได้สำเร็จ!
หนวนหน่วนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที
“โอทิส แกอย่าหนีไปไหนนะ”
โอทิสขยับหางของมัน ใช้หัวดันเด็กหญิงกลับเข้าไปในถ้ำ จากนั้นก็หมุนตัวแล้วเดินหายไปท่ามกลางหิมะอย่างสบาย ๆ
หนวนหน่วน “…”
โกรธจนแก้มพองเป็นปลาปักเป้าแล้วนะ!