ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 250 หมาป่าลอบจู่โจม
บทที่ 250 หมาป่าลอบจู่โจม
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว รถออฟโรดขับทอดยาวไปตามถนนที่ปูด้วยผืนใบไม้ร่วง ส่วนหมาป่าหิมะสามตัวก็หายตัวเข้าไปในป่าจนลับสายตา
หนวนหน่วนจ้องมองไปยังทิศทางที่พวกมันหายตัวไป จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาเงียบ ๆ มองไปยังรูปที่ถ่ายเมื่อครู่พร้อมหัวเราะคิกคักออกมา
“สวยจังเลย”
ไป๋โม่ซูมองตาม เห็นด้วยกับน้องสาว “จริงด้วย”
หนวนหน่วนขมวดคิ้ว นึกขึ้นได้ว่าชาติหน้าพี่อาหนานอยากจะเป็นหมาป่า ทันใดนั้นก็ขยับก้นน้อย ๆ ไปนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่ม
“พี่อาหนาน พี่เก่งขนาดนี้ ต่อไปต้องได้เป็นราชาหมาป่าแน่ ๆ เลย”
ถ้าเกิดใหม่และเป็นเรื่องจริงได้คงดี หนวนหน่วนมองดูรูปของหมาป่าหิมะทั้งสามตัวแล้วคิดอย่างเศร้าใจ
มือขาวซีดจนเห็นเส้นเลือดวางลงบนหัวของเด็กหญิง ตามมาด้วยน้ำเสียงอบอุ่นของเหลียงฉือ
“ได้สิ ต่อไปพี่จะเป็นราชาหมาป่า”
หนวนหน่วนเอียงใบหน้า ไถศีรษะคลอเคลียกับฝ่ามือของชายหนุ่มอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงอู้อี้
“งั้น… พี่อาหนานจะเปลี่ยนเป็นหมาป่าจริง ๆ เหรอคะ”
พี่จะไม่หายไปจากโลกนี้แต่จะเป็นหมาป่าแทนจริง ๆ เหรอ
“จริงสิ”
เหลียงฉือเองก็ไม่รู้ว่าคำตอบนี้นั้นปลอบโยนเธอหรือกำลังปลอบตัวเองกันแน่ แต่จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้รู้สึกหวาดหวั่นหรือกลัวความตาย เวลาพูดเรื่องนี้เขากลับรู้สึกสงบเสียมากกว่า
หมาป่าหิมะสามตัวมีความสวยงามในแบบของตัวเอง ในสายตามนุษย์ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแยกสัตว์ว่าตัวไหนเป็นตัวไหนได้อย่างชัดเจน แต่นั่นใช้ได้กับสัตว์ทั่วไปเท่านั้น
ริคและริคกี้ทั้งสองตัวนั้นก็เป็นเหมือนอย่างที่ไคน์พูด มีนิสัยเหมือนราชาหมาป่ามาก ๆ พวกมันแค่ยืนเฉย ๆ อยู่ตรงนั้นก็สามารถสะกดสายตาผู้คนให้มองมาที่ตัวเองได้แล้ว
ตัวหนึ่งฉลาดและสงบ ส่วนอีกตัวหนึ่งเย็นชาและรักอิสระ
แอนนี่เมื่อเทียบกับพี่ชายทั้งสองแล้ว ร่างกายดูจะเล็กและอวบกว่าหน่อย แต่ก็โตมาอย่างงดงามมากเช่นกัน ขนหมาป่าสีขาวทั้งร่างกายอ่อนนุ่ม ดูแล้วในบรรดาหมาป่า มันก็น่าจะเป็นตัวเมียที่สง่างามตัวหนึ่งเหมือนกัน
ตรงไหล่เขามีบ้านอยู่หลังหนึ่งอย่างที่ไคน์บอกจริง ๆ แต่อาจจะเป็นเพราะไม่มีใครอยู่ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะอากาศที่นี่ค่อนข้างเย็น บ้านจึงดูโดดเดี่ยวเป็นพิเศษ
ขณะขนของที่ต้องใช้ลงจากรถ หนวนหน่วนเองก็ใช้ขาสั้นของตัวเองวิ่งไปวิ่งมาทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ทันใดนั้นบรรยากาศก็พลันดูคึกคักขึ้นมา
“เอาละ ที่เหลือเดี๋ยวพวกพี่ทำเอง หนวนหน่วนไปอยู่เป็นเพื่อนเหลียงฉือเถอะ”
อีวานบีบแก้มนุ่มของเด็กหญิง บอกให้เธอไปเล่นด้วยภาษาจีนแปร่ง ๆ
“ได้ค่ะ งั้นรบกวนพวกพี่ด้วยนะ”
หนวนหน่วนเอ่ยอย่างอ่อนโยน บอกทุกคนว่ารบกวนด้วย อีวานอดกอดเธอไม่ไหว เด็กน้อยในอ้อมแขน พอกอดแล้วทั้งนุ่มนิ่มทั้งหอมกรุ่น เขาอยากจะเอากลับไปเลี้ยงจริง ๆ
แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา กลัวจะเจอมีดผ่าตัดของไป๋โม่ซูเอา
มือหนึ่งของเด็กหญิงกอดเบาะนุ่ม อีกมือจับมือเหลียงฉือเดินดูรอบ ๆ บ้านอย่างช้า ๆ พอยืนอยู่บนที่สูงก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าอุทยานของครอบครัวไคน์กว้างใหญ่แค่ไหน
พวกเธอหาที่โล่งที่หนึ่งแล้ววางเบาะนั่งไว้บนก้อนหิน ทำแบบนี้เวลานั่งลงก้นจะได้ไม่เย็น
“พี่ไคน์รวยจังเลย!”
ป่าใหญ่กว่าฟาร์มของเธอมาก ไม่แปลกเลยที่จะมีสัตว์ป่าตั้งมากมายขนาดนี้
“ชอบอุทยานไหม”
เหลียงฉือยืนอยู่ข้างกายหนวนหน่วน นิ้วเรียวผอมของเขาลูบผมของเด็กน้อยที่มัดเป็นจุกเบา ๆ
“อื้อ ชอบค่ะ”
สัตว์มากมายได้ใช้ชีวิตที่นี่ จะไม่ชอบได้อย่างไรล่ะ
“งั้นฉันจะซื้อที่ดินให้เธอผืนหนึ่ง จะได้ให้คนมาสร้าง”
หนวนหน่วนกะพริบตา ปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิด “ไม่เอาหรอกค่ะ”
เหลียงฉือที่กำลังคิดว่าควรใช้วิธีแฮกดีไหม เมื่อได้ยินคำปฏิเสธของเธอก็สงสัย ไหนว่าชอบไม่ใช่หรือ
เขาลดสายตาลง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เป็นเพราะฉันไม่ใช่พี่แท้ ๆ ของเธอเหรอ”
หนวนหน่วนเงยหน้ามองเขาอย่างงุนงง “คะ?”
เหลียงฉือย่อตัวลง ซบศีรษะลงบนไหล่เล็ก ๆ ของหนวนหน่วน “ทำไมไม่อยากได้เงินของฉันล่ะ”
น้ำเสียงฟังดูคับข้องใจและเศร้าเล็กน้อย
หนวนหน่วนเบิกตากว้าง หรือว่าพี่อาหนานเสียใจที่หนวนหน่วนไม่อยากได้เงินของเขา
เธอวางมือลงบนศีรษะของเหลียงฉือแล้วลูบลงป้อย ๆ เหมือนกำลังลูบสุนัข
“พี่อาหนานอย่าเสียใจเลยนะคะ”
เธอง้อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เหมือนเสียงเวลาง้อพี่กู้อันที่ชอบงอนเสียอย่างนั้น
“เป็นเพราะหนวนหน่วนหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้แล้วค่ะ”
เหลียงฉือมองเด็กหญิงตัวน้อยที่สูงไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเขา “…”
ค่าใช้จ่ายของอุทยานส่วนบุคคลมีมากกว่าร้อยล้าน แค่ค่าครอบครองพื้นที่ก็มีมูลค่าหลายร้อยล้านแล้ว
เหลียงฉือเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันช่วยเธอได้นะ”
เขาเป็นราชาแฮกเกอร์ไร้มงกุฎ หากอยากจะหาเงินก็หาวิธีได้ ขอแค่มีฝีมือทางเทคโนโลยีแบบไม่มีใครเทียบและไม่โดนตามล่าก็พอ
แน่นอนว่าต้องแบ่งเป็นวิธีที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ถ้าอยากจะได้เงินก้อนโตแบบรวดเร็ว เขาก็สามารถหาช่องทางแฮกเอาเงินของธุรกิจตลาดมืดได้
ถ้าแบบถูกกฎหมายก็ต้องทำซอฟแวร์ มีค่าใช้จ่ายและใช้แรงมาก อีกทั้งยังทำเงินได้ช้า
เหลียงฉือคำนวณเวลาที่เหลืออยู่ของตัวเอง แน่นอนว่าถ้าใช้วิธีแฮกธุรกิจมืดจะง่ายกว่า
นี่คงไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้าย… หรอกมั้ง
เหลียงฉือกำลังคิดอย่างจริงจัง รู้สึกว่าความคิดตนไม่มีอะไรผิดปกติ
หนวนหน่วนเท้ามือใต้คางเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเนื้อของตัวเองแล้วส่ายหน้า “ตอนนี้หนวนหน่วนยังเด็ก หนูมีฟาร์ม รอให้ฟาร์มทำเงินได้หนูก็จะเก็บเงิน รอให้โตขึ้นก็จะมีเงินแล้ว”
เพียงแต่ตอนนี้ฟาร์มยังทำเงินไม่ได้ เธอยังต้องควักเงินตัวเองมาจ่าย จากเศรษฐีน้อยใกล้จะเปลี่ยนเป็นยาจกน้อยแล้ว แต่เธอเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้อยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น
หนวนหน่วนไม่บอกเรื่องนี้กับพี่อาหนานหรอก
เหลียงฉือทำท่าทางเศร้าใจเหมือนกับหนวนหน่วน เขาเอามือสองข้างเท้าคางเช่นกัน
“พี่อาหนาน”
“หืม”
“ตอนนี้พี่มีความสุขไหมคะ”
ดวงตาสีดำของเหลียงฉือมองไปยังท้องฟ้าห่างไกล ก่อนจะพยักหน้า “อืม มีความสุข”
หนวนหน่วนยิ้มออกมา “งั้นพี่มีความปรารถนาอะไรไหมคะ”
ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่มีแล้ว ความปรารถนาของฉันทั้งหมดเป็นจริงแล้ว”
ทั้งสองคนกำลังคุยกัน ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนมีเสียงหายใจดังขึ้นด้านหลัง
เหลียงฉือและหนวนหน่วนหันหน้าไปแทบจะพร้อมกัน พวกเขาพบกับดวงตาสีฟ้าสวยงามของหมาป่าหิมะคู่หนึ่ง
ดวงตาทั้งหกสบสายตากันราวกับถูกกดปุ่มหยุดเอาไว้ คนสองคนและหมาป่าหนึ่งตัวหยุดนิ่งไปสองสามวินาที
หนวนหน่วนจ้องมองหมาป่าหิมะสวยงามที่ยืนอยู่ห่างจากพวกเขาไปไม่ถึงหนึ่งเมตรอย่างละเอียด “แอนนี่เหรอ”
เหลียงฉือกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ที่เจ้าหมาป่าตัวนี้จะจับพวกเขาทั้งสองคนเป็นเหยื่อ เขากันเด็กหญิงไว้ด้านหลังตัวเองอย่างเงียบ ๆ
เจ้าตัวนี้มาอยู่ด้านหลังพวกเขาตอนไหน ทำไมพวกเขาไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
หมาป่าหิมะที่ถูกพบตัวนั้นหางแข็งทื่อ สายตาของมันมองไปอีกทางด้านหนึ่ง
เหลียงฉือมองไปตามสายตาของมัน จากนั้นก็พบว่าบนหินสูงมีหมาป่าหิมะอีกสองตัวก้มลงมองมายังพวกเขาอยู่
เหลียงฉือ “…”
ตอนนี้เขาควรเรียกขอความช่วยเหลือหรือเรียกไป๋โม่ซูดี
หวังว่าฝีมือผ่าตัดของไป๋โม่ซูจะเร็วกว่าหมาป่าเหล่านี้
เหลียงฉือจับมือหนวนหน่วนแล้วค่อย ๆ ถอยเท้า
หนวนหน่วนกะพริบตา มองเขาแล้วตามไปอย่างเชื่อฟัง
แอนนี่เอียงคอมองพวกเขา
หนวนหน่วนคิดว่าท่าทางเอียงหัวนั้นงดงามมาก แต่ตอนนี้เหลียงฉือไม่มีกะจิตกะใจจะมาชื่นชมความงามของหมาป่าหิมะ เขาแค่ต้องการพาหนวนหน่วนออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ตุ้บ
สองพี่น้องหมาป่าหิมะกระโดดลงมาจากก้อนหินอย่างแผ่วเบา ในปากยังคาบกระต่ายและไก่ป่าที่ตายแล้วไว้ เรียกได้ว่าโชกไปด้วยเลือด ขนสีขาวราวกับหิมะรอบปากของพวกมันถูกเลือดชโลมจนกลายเป็นสีแดง แววตาสีเงินเปล่งประกาย ดูแล้วน่ากลัวเล็กน้อย
เหลียงฉือและหนวนหน่วนต่างก็ไม่ได้ส่งเสียง ยังคงรักษาท่าทางสงบเช่นเดิม